หลายวันมานี้เมืองอวิ๋นหลิวคึกคักมากขึ้น เื่ที่ผู้คนต่างเสวนากันมีเพียงเื่เดียว นั่นก็คืองานแข่งขันหวู่เต้าที่จัดขึ้นในรอบสามปี
หลังจากท่านทูตมาถึง จวนเ้าเมืองก็เริ่มเตรียมงานแข่งขัน สนามประลอง เ้าหน้าที่ และศิษย์ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันทันที
โดยปกติสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองอวิ๋นหลิวล้วนส่งศิษย์เข้ามาประลองสามคน ส่วนตระกูลอื่นๆ ในเมืองอวิ๋นหลิวต้องใช้กฎแพ้คัดออก ไม่ว่าจะสมัครมากี่คน สุดท้ายที่สุดจะเหลือได้เพียงแค่แปดคนเท่านั้น
หลังจากนั้นผู้เข้ารอบทั้งยี่สิบคนจะค่อยๆ ประลองกันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศในงานแข่งขันหวู่เต้าของเมืองอวิ๋นหลิว
หลายวันนี้เยียนหลิงซานยุ่งมาก มีตระกูลต่างๆ มอบของขวัญให้เขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาล้วนไม่ปฏิเสธ ของขวัญล้ำค่าแค่ไหนเขาก็กล้ารับ
สถานการณ์เช่นนี้ในจักรวรรดิเทียนอวี่ถือเป็เื่ธรรมดามาก ผู้คนมากมายถึงอยากได้ตำแหน่งทูต เพราะอยากฉวยโอกาสเก็บทรัพย์สินเงินทองเหมือนเยียนหลิงซาน
ส่วนเื่การจัดการแข่งขัน เยว่มู่จือล้วนจัดการทั้งหมด ถึงแม้จะไม่พอใจเท่าไหร่ แต่เขาก็ทำได้เพียงอดทนไปเท่านั้น เดี๋ยวหลังจบการแข่งขัน เยียนหลิงซานก็กลับไปในที่ที่จากมาแล้ว
ในจวนเ้าเมืองที่เยียนหลิงซานกำลังพูดคุยกับผู้นำตระกูลหวัง ถังจงเวยก็นำของขวัญชิ้นหนึ่งเข้ามาพอดี
อีกฝ่ายเป็ถึงท่านทูตที่ถูกส่งมาจากจักรวรรดิ มารยาทพื้นฐานจำเป็ต้องมี
“ฮ่าๆๆ นี่ผู้นำตระกูลถังผู้โด่งดังมามอบของขวัญให้ข้าด้วยตัวเองเชียวหรือ ผู้แซ่เยียนผู้นี้เกรงใจยิ่งนัก!”
เมื่อเยียนหลิงซานที่เมื่อครู่นั่งบนเก้าอี้ด้วยท่าทีหยิ่งผยองเห็นถังจงเวย ใบหน้าเขากลับผุดรอยยิ้มขึ้นมาเหมือนได้พบสหายเก่าอย่างไรอย่างนั้น
“ท่านทูตเยียนเกรงใจเกินไปแล้ว ตระกูลถังมาช้า หวังว่าท่านจะไม่ใส่ใจ”
ถังจงเวยไม่รู้ว่าเยียนหลิงซานจะมาไม้ไหน เขาไม่เคยรู้จักคนคนนี้มาก่อน ท่าทางกระตือรือร้นของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ฮ่าๆๆ ข้าได้ยินชื่อเสียงตระกูลถังตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองอวิ๋นหลิวมานานแล้ว ยิ่งผู้นำตระกูลถังเป็ถึงยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองอวิ๋นหลิวด้วย วันนี้ได้เห็นกับตา ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ!”
เยียนหลิงซานรีบพาถังจงเวยมานั่งข้างกาย แล้วปล่อยให้หวังเลี่ยรออยู่ด้านข้าง
ถังจงเวยทำได้เพียงตอบรับด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร คนเขายิ้มต้อนรับ เราต้องยิ้มตอบ
จากนั้นเยียนหลิงซานก็พูดคุยกับถังจงเวยอยู่หนึ่งชั่วยาม หวังเลี่ยที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดำคล้ำ เขาถูกเมินราวกับเป็มนุษย์ล่องหน
สุดท้ายเป็เพราะเยว่มู่จือมีเื่จะถามเยียนหลิงซาน ถังจงเวยถึงปลีกตัวออกมาได้
ถึงสีหน้าของถังจงเวยในตอนที่ออกจากจวนเ้าเมือง จะสงบนิ่ง ทว่าในใจกลับรู้สึกกังวล
“ถังจงเวย คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะสมคบคิดกับท่านทูต ต่อหน้าสง่าผ่าเผย แต่ลับหลังมอบของขวัญไปมากเท่าไหร่แล้ว”
หวังเลี่ยถลึงตาใส่ถังจงเวย จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อจากไปทันที
“เกรงว่างานแข่งขันหวู่เต้าครั้งนี้จะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!”
ผิดปกติเกินไป…ต้องมีอะไรแน่ ยิ่ง่นี้เป็่ที่ตระกูลถังพบเจอแต่ปัญหา และการกระทำของเยียนหลิงซานก็ผิดปกติเกินไป นั่นยิ่งทำให้ถังจงเวยรู้สึกไม่สบายใจ
ตระกูลถังส่งศิษย์ไปสามคนแบ่งเป็ถังเหล่ย ถังอวิ๋น และถังซิ่น
ถังอวิ๋นและถังซิ่นล้วนเป็คนที่โดดเด่นในบรรดาคนรุ่นเยาว์ ทั้งคู่เป็ระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่เก้า
เดิมทีถังจงเวยตัดสินใจจะให้ถังเฟยเข้าร่วมการแข่งด้วย เพราะถึงนางจะเพิ่งปลุกิญญายุทธ์ได้ แต่พลังยุทธ์นั้นก้าวหน้ารวดเร็วมาก ทว่าการแข่งครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน มันเสี่ยงเกินไปถังจงเวยจึงไม่ให้ถังเฟยเข้าร่วมด้วย
ส่วนถังเหล่ย่นี้ก็ไม่ค่อยโผล่หน้าออกมา เขาอยู่แต่ในห้องฝึกฝนเคล็ดวิชาัคชสารทั้งวัน
ถังเหล่ยหวังว่าจะสามารถทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ได้ก่อนการแข่งขัน แต่กำแพงระหว่างระดับผู้ฝึกยุทธ์กับผู้ชำนาญยุทธ์นั้นสูงเกินไป เขาไม่อาจทะลวงผ่านได้เสียที
อีกด้านหนึ่งตระกูลตงฟางก็เตรียมศิษย์ที่จะร่วมการแข่งขันเอาไว้แล้ว นั่นคือตงฟางอวิ๋นชิง ตงฟางอวิ๋นหู่ และตงฟางอวิ๋นซาน
ตงฟางอวิ๋นหู่และตงฟางอวิ๋นซานเป็ศิษย์ที่โดดเด่นของตระกูลตงฟาง ก่อนการแข่งขันบุรุษชุดดำยังสอนเคล็ดลับให้พวกเขาด้วย
เพื่อรับประกันว่าในการแข่งขันครั้งนี้ตระกูลตงฟางจะไม่พลาดพลั้ง
“ท่านปู่ ข้าจะสังหารถังเหล่ยในการแข่งขันเพื่อแก้แค้นให้ท่าน!”
ตงฟางอวิ๋นชิงกล่าวด้วยความมั่นใจ
“ชิงเอ๋อร์ ความปลอดภัยของเ้าสำคัญที่สุด การกำจัดตระกูลถังอยู่ที่เวลาเท่านั้น ยังไงเ้าเดรัจฉานนั่นก็หนีไม่พ้น ตอนที่สู้กับเขา เ้าควรระวังตัวให้ดี”
ตงฟางป้าเทียนตบบ่าตงฟางอวิ๋นชิงพลางกล่าว
“วางใจเถอะท่านปู่ ถังเหล่ยไม่รู้ถึงความเก่งกาจของข้า ต่อให้เขาทะลวงถึงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าก็เท่านั้น”
ตงฟางอวิ๋นชิงติดตามอาจารย์ของเขาไปฝึกฝนมาหลายปี ถึงแม้ิญญายุทธ์จะไม่เหมาะกับการฝึกวิชาพิษ แต่ด้วยพร์ที่โดดเด่นของเขา ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนที่สูงกว่าเขาสองสามขั้นก็ประมือกับอีกฝ่ายได้อย่างสูสี
งานแข่งขันถูกเตรียมการอย่างเร่งรีบ เพราะทุกสิ่งล้วนต้องเตรียมให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่สี่เดือนห้า
และตามประเพณีดั้งเดิม คืนก่อนงานวันเเข่งหนึ่งคืน เมืองอวิ๋นหลิวจะจุดดอกไม้ไฟฉลอง
ดอกไม้ไฟที่ตระการตาพลันะเิขึ้นบนฟากฟ้า แสงสีต่างสะท้อนกระทบั์ตาของผู้คน
ใบหน้าที่ถูกแสงเ่าั้กระทบฉายแววทั้งยินดีและกังวล…
ถังเหล่ยเดินออกจากห้อง ในการแข่งขันหวู่เต้าหนนี้เขาไม่ได้สนใจอันดับหนึ่ง แต่เพื่อตระกูลถังเขาต้องชิงมันมาให้ได้
บนจุดสูงที่สุดของเมืองอวิ๋นหลิวมีร่างสองเงายืนคู่กัน ดอกไม้ไฟงดงามเพียงใด ก็ไม่อาจส่องผ่านใบหน้าของพวกเขาไปได้
“ตระกูลถังเล็กๆ แห่งหนึ่งจะมีสมบัติล้ำค่าจริงหรือ?”
เงาที่กล่าวกำลังจ้องมองไปที่จวนตระกูลถังจากบนยอดกำแพงอีกฝั่งของเมืองอวิ๋นหลิว เสียงเล็กแหลมนั้นแฝงด้วยความสงสัย
“ข่าวของข้าไม่ผิดแน่ ข้าเคยเฝ้าสังเกตตระกูลถังเมื่อสามปีก่อน ทั้งยังจับผู้ทรงยุทธ์ขั้นสองคนหนึ่งของพวกมันไปด้วย แต่เ้านั่นปากแข็งนัก จึงถูกข้าสร้างเป็หุ่นเชิดิญญายุทธ์ไปแล้ว เ้าลองทายดู ิญญายุทธ์ของผู้ทรงยุทธ์ขั้นที่สองคนนั้นคือระดับอะไร?
อีกเงากล่าวด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
“ไม่ต้องลีลา รีบพูด!”
“ระดับปฐี!”
คำพูดสองคำค่อยๆ ลอยหายไปในความมืด แต่มันกลับกลายเป็คลื่นพันชั้นซัดเข้าไปที่กลางใจเยียนหลิงซาน
เขาบ่มเพาะมาถึงระดับยอดยุทธ์ ิญญายุทธ์ในร่างเป็เพียงระดับิญญาขั้นสูงเท่านั้น แต่แค่ระดับยอดยุทธ์ตัวเล็กๆ คนหนึ่งถึงกับมีิญญายุทธ์ระดับปฐีเลยหรือ!?
“ิญญายุทธ์ของถังจงเวยก็เป็ระดับปฐีด้วย เช่นนี้เ้ายังคิดว่าตระกูลถังไม่มีสมบัติอีกหรือ?”
ตระกูลในเมืองเล็กแห่งหนึ่งมีิญญายุทธ์ระดับปฐีถึงสองคน นี่ต้องไม่ใช่เื่บังเอิญแน่
“ในเมื่อรู้ว่ามีสมบัติ พวกเราสองคนลงมือทันทีก็พอแล้วไม่ใช่หรือ? ฟ้าไม่ทันสว่างตระกูลถังก็ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวแล้ว”
เยียนหลิงซานใจสั่นริก เขาอยากจะกวาดล้างตระกูลถังเต็มที
“ไม่ได้ ตระกูลถังอาจจะมีความลับอื่นอีก ทำตามแผนการของข้า เ้าเองก็ไม่อยากถูกจักรวรรดิประกาศจับไม่ใช่หรือ?”
ถึงแม้เยียนหลิงซานจะเป็ทูตของจักรวรรดิ แต่ถ้าเขาสังหารตระกูลถังด้วยสถานะทูต ต้องถูกจักรวรรดิประกาศจับ จากนั้นจุดจบก็คือหนีไปตลอดชีวิต
“เฮยฉานฉู่ ทางที่ดีเ้าอย่ามาหลอกข้าเสียจะดีกว่า อย่าคิดว่าข้าคุณชายสามแห่งตระกูลเยียนจะสู้เ้าไม่ไหว หากพวกเราสามพี่น้องอยากให้เ้าตาย เ้าก็ไม่มีทางรอดไปถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าหรอก!”
เยียนหลิงซานกล่าววาจาโเี้ ก่อนบินเหาะลงไปด้านล่างและหายไปพร้อมกับความมืด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้