อารมณ์และสีหน้าของหลิงเฉินสงบลงอย่างรวดเร็วเขามักจะสามารถปรับสภาพจิตใจได้อย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกันเขาจ้องมองไปที่ ‘จันทร์ต้องสาป’ ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถาม “ ‘ความโกรธเกรี้ยวของ์’ มันหมายความว่าอะไร?”
‘ความโกรธเกรี้ยวของ์’ คือ การลงทัณฑ์ของ์สำหรับ ‘ความริษยาของ์’มันคือความอิจฉาของ์ จากความหมายของพวกมันนั้นเห็นได้ชัดเจนว่า ‘ความโกรธเกรี้ยวของ์’ น่ากลัวยิ่งกว่า ‘ความริษยาของ์’ “วิถีแห่งชูร่า ไม่มีทางหวนกลับเมื่อถูกกำหนดให้เดินในวิถีทางนี้ คุณจะได้รับความทุกข์ทรมานจากความโกรธเกรี้ยวของ์”ถัดจาก ‘ความริษยาของ์’มันเป็แค่ประโยคหนึ่งซึ่งสร้างความสับสนให้กับความคิดของผู้คนจนทำให้พวกเขาไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของมันทว่าหลิงเฉินค่อนข้างมั่นใจว่า ‘ความโกรธเกรี้ยวของ์’ นี้ต้องเป็ผลด้านลบที่น่ากลัวยิ่งกว่า ‘ความริษยาของ์’ ทว่าผลด้านลบเหล่านี้คืออะไรเขาก็ไม่อาจเข้าใจหรืออธิบายได้
“เื่นี้ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”ชีเยว่กล่าวพร้อมกับส่ายหัวเบาๆเพียงแค่การกระทำอันเรียบง่ายนี้ก็นำมาซึ่งระลอกคลื่นขนาดมหึมาข้างหน้าอกของเธอซึ่งทำให้สายตาของหลิงเฉินลิงโลดอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมกับจ้องมองหน้าอกที่สั่นไหวของเธออย่างบ้าคลั่งโดยไม่อาจควบคุมจากนั้นเขาค่อยๆ กัดฟัน และละสายตาออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังไม่กล้ามองเธออีก
“เ้าไม่รู้ได้ยังไง! เ้าเป็จิติญญาไอเทมของมันนะ!”สำหรับคำตอบนี้เห็นได้ชัดว่าหลิงเฉินไม่เชื่อ
“แต่ข้าไม่รู้จริงๆนะ อันที่จริงข้าไม่ถือเป็จิติญญาไอเทมของ ‘จันทร์ต้องสาป’ข้าเป็แค่เพียงจิติญญาดวงหนึ่งซึ่งถูกผนึกอยู่ในนี้ และมีเื่ราวต่างๆมากมายเกี่ยวกับ ‘จันทร์ต้องสาป’ที่ข้าไม่รู้”ชีเยว่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลซึ่งทำให้หลิงเฉินสั่นเทาไปทั้งร่าง
‘จันทร์ต้องสาป’ ไม่สามารถถอดได้เราต้องใช้เวลาทุกวันกับนางนับั้แ่นี้ไปงั้นเหรอเมื่อครุ่นคิดเื่นี้ชั้นของเหงื่อเย็นเยียบก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของหลิงเฉินการที่สามารถใช้เวลาทุกวันอยู่กับหญิงสาวเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็ความฝันของผู้ชายธรรมดาทั้งหลายทว่าหลิงเฉินเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงพลังอันน่ากลัวของความเย้ายวนใจโดยธรรมชาติของหญิงสาวเขากังวลว่าตัวเขาจะไม่สามารถควบคุมหญิงสาวคนนี้และวันใดวันหนึ่งเขาจะถูกหญิงสาวคนนี้ควบคุมแทน
“ไม่ใช่จิติญญาไอเทมงั้นเหรอ?เ้าเป็จิติญญาดวงหนึ่งซึ่งถูกผนึกอยู่ในนี้? นั่นหมายความว่าอะไร?”หลิงเฉินขมวดคิ้วถาม
“เื่นี้มันเป็ความลับของข้าข้าไม่สามารถบอกท่านได้”
“...”
ชีเยว่พลันยิ้มอ่อนริมฝีปากแดงอันประณีตเผยอออกน้ำเสียงละมุนที่มาพร้อมกับกลิ่นอายอันหอมหวนดังขึ้นข้างหูของหลิงเฉิน “นายน้อยท่านรู้สึกหรือไม่ว่าผลด้านลบของ ‘จันทร์ต้องสาป’เป็สิ่งที่น่ารำคาญอย่างยิ่ง ‘จันทร์ต้องสาป’ พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สุด โดย ‘จันทร์ต้องสาป’ ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์จะเหนือกว่าจินตนาการของท่านมหาศาลการดำรงอยู่ของมันนั้นทำให้แม้แต่์ยังเกรงกลัว และผู้ที่สามารถกำราบมันได้จะต้องเผชิญกับความอิจฉาของ์ฉะนั้นแล้วหากไม่คำนึงว่าใครเป็ผู้สวมใส่ ‘จันทร์ต้องสาป’ กฎของโลกใบนี้จะจำกัดอัตราการเติบโตของเขาอย่างรุนแรง ทว่าพลังของ ‘จันทร์ต้องสาป’จะถูกหักล้างด้วยผลด้านลบอันน้อยนิดเช่นนั้นได้อย่างไรนายน้อย ท่านรู้ไหมตราบใดที่ท่านสามารถหาลูกแก้วเทพเฉพาะตัวหรือลูกแก้วเซียนแค่เพียงหนึ่งลูกท่านก็จะเข้าใจได้ในทันทีว่าผลด้านลบของมันนั้นไม่มีความหมายใดๆ เลย
“ลูกแก้วเทพเฉพาะตัวและลูกแก้วเซียนเ้ากับ‘จันทร์ต้องสาป’ อยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้วใช่ไหม?ไม่ต้องไปพูดว่าพวกมันถูกทำลายไปแล้วโดยเผ่าเทพหรือไม่ ถึงแม้พวกมันจะยังดำรงอยู่ไอเทมระดับนั้นถ้าไม่ถูกโดยสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังก็ต้องอยู่ในสถานที่ที่อันตรายมากๆจนกระทั่งสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่อาจไขว่คว้ายิ่งไปกว่านั้นข้าไม่รู้ว่าพวกมันอยู่ไหน แม้ข้าจะรู้ แต่ข้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะได้มันมา”หลิงเฉินกล่าวอย่างเคร่งเครียด ผลของลูกแก้วระดับนางฟ้าก็ทำให้ประหลาดใจมากแล้วฉะนั้นลูกแก้วระดับเทพลึกลับและผู้พิฆาตนักบุญจะทรงพลังขนาดไหนนั้นมันจิตนาการได้อย่างง่ายดายถ้าเขาได้มันสักลูก มันก็มากพอให้เขาเหิมเกริมในหมู่ผู้เล่นอย่างแน่นอนทว่าลูกแก้วระดับนี้โดยไม่คำนึงว่าพวกมันจะมีอยู่จริงหรือไม่ในตอนนี้หากพวกมันมีอยู่จริงการได้พวกมันมาจะง่ายๆ ได้อย่างไรไม่ต้องพูดถึงระดับเทพลึกลับและผู้พิฆาตนักบุญเพียงแค่ไอเทมระดับปลายฟ้าก็ยังคงเป็ไปไม่ได้ที่ผู้เล่นจะได้แม้กระทั่งใน่ท้ายของเกม
เื่ที่หลิงเฉินพูดมีเหตุผลมากแต่ชีเยว่ยังคงยิ้มน้อยๆ เหมือนก่อนหน้านี้ และพูดออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อย “นายน้อยข้าจะช่วยท่านตามหาพวกมันอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามเผ่าเทพจันทรา้าทำลายพวกมันอย่างแท้จริง ทว่าตราบใดที่ ‘จันทร์ต้องสาป’ ยังไม่ถูกทำลายลูกแก้วเทพเฉพาะตัวและลูกแก้วเซียนของมันก็จะไม่ถูกทำลายเช่นเดียวกันในขณะเดียวกันลูกแก้วเทพทั้ง 12 และลูกแก้วเซียนทั้ง 3จะสามารถปลดปล่อยพลังของพวกมันได้เมื่อถูกติดตั้งบน ‘จันทร์ต้องสาป’ เท่านั้น สำหรับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็มนุษย์ เทพเ้า หรือปีศาจถ้าพวกเขาได้ลูกแก้วเหล่านี้สักลูกหนึ่งไม่ใช่แค่พวกเขาจะไม่สามารถใช้พลังของมัน มันจะนำโชคร้ายมาสู่พวกเขาอีกด้วยพวกเขาจะต้องคิดว่าทุกวินาทีที่มัน มันเป็หนึ่งวินาทีที่ยาวนานมาก
ชีเยว่เม้มริมฝีปากของเธอและแย้มยิ้มจากนั้นจึงค่อยๆ กล่าวอีกประโยค “นายน้อยข้าเข้าใจความกังวลและสิ่งรบกวนในใจของท่านแต่ความกังวลทั้งหมดของท่านจะหายไปจนหมดสิ้นเพราะในพื้นที่ใต้ดินแห่งนี้มีลูกแก้วเทพเฉพาะตัวดำรงอยู่!”
หลิงเฉินงงงวยไปชั่วขณะจากนั้นจึงถามอย่างเร่งรีบ “ที่ไหน?!”
มีลูกแก้วเทพเฉพาะตัวอยู่ที่นี่?มันคือลูกแก้วเทพ ลูกแก้วพลังงานระดับเทพลึกลับ!!คุณค่าของลูกแก้วพลังงานระดับเทพลึกลับนั้นสามารถเทียบได้แม้กระทั่งชิ้นส่วนของอุปกรณ์สวมใส่ระดับเทพลึกลับ! หากเขาได้ไอเทมระดับนี้จริงๆ ในตอนนี้นั่นคือไอเทมระดับเทพลึกลับ! ถ้าเช่นนั้นถึงแม้ว่ามันจะมีผลด้านลบของ‘ความริษยาแห่ง์’เขาก็ยอมรับมันได้อย่างเต็มที่
ความกระตือรือร้นที่หลิงเฉินแสดงออกมาทำให้หญิงสาวยิ้มแย้มอย่างน่าหลงใหลยิ่งกว่าเดิม“ใช่แล้ว มันคือเ้าตัวใหญ่นั่นซึ่งกำลังพิทักษ์สถานที่แห่งนี้ก่อนชั้นนี้อย่างไรก็ตามเ้าตัวใหญ่นั่นหลับใหลเป็เวลานานหลายปีมันจึงสูญเสียความรู้สึกตัวไปแล้วและทำให้นายน้อยเดินผ่านมาจนถึงที่นี่ได้อย่างง่ายดาย”
เ้าตัวใหญ่ซึ่งพิทักษ์สถานที่แห่งนี้ก่อนชั้นนี้เทาเที่ย!?
“ธรรมชาติของเ้าตัวใหญ่นั่นคือความตะกละตะกลามและอารมณ์ร้อนจึงทำให้การพิทักษ์สถานที่แห่งนี้เป็เวลานานหลายปีสำหรับมันเป็เื่ที่ยากอย่างยิ่งใครจะรู้ว่ามันอดทนมาเป็เวลานาน และไม่จากไปไหนจนกระทั่งถึงตอนนี้ ‘ลูกแก้วราศีเมถุน’ ของ ‘จันทร์ต้องสาป’อยู่บนตัวของมัน ตอนนี้ท่าน ‘จันทร์ต้องสาป’ ดังนั้นแล้วมันจะไม่ทำร้ายท่าน ยิ่งไปกว่านั้นมันจะมอบลูกแก้วราศีเมถุนให้กับท่านด้วยตัวของมันเองอย่างไม่มีเงื่อนไขหากมันอารมณ์ดี มันอาจจะมอบของขวัญอย่างอื่นให้ท่านด้วย นายน้อยท่านอยากจะไปหาเ้าตัวใหญ่นั่นตอนนี้เลยไหม?”
“ไปกันเลย!”
หลิงเฉินไม่ลังเลเขาเดินไปยังทางเดินที่ย้อนไปสู่พื้นที่ชั้นหกในทันทีเขา้าหักล้างผลด้านลบที่นำมาโดย ‘จันทร์ต้องสาป’ อย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขา้ารู้ว่าความสามารถที่ลูกแก้วระดับเทพลึกลับในตำนานนั้นจะทรงพลังขนาดไหน
ชีเยว่ยิ้มน้อยๆให้เขาและตามหลังหลิงเฉินไปโดยรักษาระยะห่างจากเขาสองถึงสามก้าว แม้หลิงเฉินจะเดินนำหน้าแต่เขายังคงได้กลิ่นหอมจางๆ ซึ่งมาจากเรือนร่างของชีเยว่เขายอมรับว่าบรรยากาศแบบนี้ทำให้เขารู้สึกเบิกบานใจหญิงสาวผู้นี้ที่อยู่ข้างหลังเขา เมื่อใดที่หลงเสน่ห์ของนางผู้ชายแทบทุกคนจะไม่สามารถหลบหนีได้ ขณะเดินภาพของเขาที่บีบจับหน้าอกของนางอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาอย่างต่อเนื่องเขาลอบส่ายหัวหลายครั้งหลายครา ทว่ายิ่งเขา้าระงับภาพเหล่านี้มันก็ยิ่งทำไม่ได้นอกเหนือจากนั้นความรู้สึกเนียนนุ่มอันน่าเหลือเชื่อยังถาโถมเข้ามาในหัวของเขาจนไม่อาจลืมเลือนเพื่อสนุกไปกับความรู้สึกที่สุดยอดนี้แม้กระทั่งภาพที่หันไปจับหน้าอกของเธอก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาหลายครา
จิติญญาซึ่งแข็งแกร่งอย่างเขาและสามารถคงความสงบเยือกเย็นไว้ได้แม้จะเผชิญกับร่างที่เปลือยเปล่าของสุ่ยรั่วหลายหนแต่นี่เป็ครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ต่อหน้าหญิงสาวผู้นี้
นางแม่มดนางแม่มด นางแม่มด!!
“นายน้อยท่านกำลังคิดอยู่ใช่ไหมว่าจะััหน้าอกของข้าดีหรือเปล่า” ด้านหลังของเขาน้ำเสียงอันอ่อนโยนของชีเยว่ดังขึ้น
เท้าของหลิงเฉินโซเซไปมาหลังจากนั้นฝีเท้าของเขาก็เร็วขึ้น เขาเดินไปข้างหน้าและไม่แม้แต่จะหันหัวกลับไปสำหรับด้านหลังของเขานั้น เสียงหัวเราะที่มีเสน่ห์และน่าเย้ายวนใจดังขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งนี้หลิงเฉินไม่ตั้งใจซ่อนกลิ่นอายของเขาทันทีที่เขาเดินออกมาจากทางเดินความรู้สึกของอันตรายรุนแรงไร้ที่สิ้นสุดมาจากด้านหน้าและทำให้เขาต้องหยุดฝีเท้าในทันทีร่างกายขนาดมหึมาของเทาเที่ยปรากฏต่อสายตาของเขาอีกหนวินาทีที่เขาเดินเข้ามาที่นี่ เทาเที่ยได้ตื่นขึ้นมาจากการหลับลึกและมาพร้อมกับเสียงคำรามในลำคออย่างไม่หยุดยั้งจนแผ่นดินแทบแตกออกเป็เสี่ยงๆ...
โห่~
เสียงคำรามทำให้แก้วหูและร่างกายทุกส่วนของหลิงเฉินรู้สึกไม่สบายเป็อย่างมากเทาเที่ยลุกขึ้นยืน เมื่อมันยืนขึ้น ร่างของมันก็สูงมากกว่า 50 เมตรเมื่ออยู่เบื้องหน้าร่างกายขนาดมหึมาของมันหลิงเฉินก็รู้สึกไร้ค่าราวกับหมดตัวหนึ่งและเป็ตอนนี้เองที่เขาค้นพบว่าแท้จริงแล้วตาของมันไม่ได้อยู่ที่หัว แต่มันอยู่ภายใต้รักแร้โดยภายใต้รักแร้แต่ละข้างดวงตาสีเขียว-ดำซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าร่างของหลิงเฉินลืมขึ้นสายตาอันน่าหวาดผวาจับจ้องมาที่ร่างของเขาหรือจะให้ถูกต้องมากกว่านี้ก็คือมันจับจ้องมาที่ ‘จันทร์ต้องสาป’ ซึ่งอยู่บนข้อมือของเขา
“เ้า...เป็...ใคร!”
กลิ่นอายของอันตรายพลันอ่อนลงไปอย่างมากเทาเที่ยที่ตื่นแล้วไม่ได้ทำการโจมตีแต่มันกลับเผชิญหน้ากับหลิงเฉินและปลดปล่อยเสียงดังสนั่นคล้ายกับมนุษย์
เสียงของเทาเที่ยเหมือนมาจากอวกาศการสั่นะเืของมันทำให้เืทั้งหมดในร่างของหลิงเฉินเดือดพล่านความกดดันจากอสูรระดับเทพลึกลับไม่สามารถดูถูกได้แม้กระทั่งหลิงเฉินยังรู้สึกเหมือนกำลังหายใจไม่ออกขณะเผชิญหน้ากับอสูรขนาดมหึมาตัวนี้เขาเชื่อว่าหากเทาเที่ยตัวนี้มุ่งเป้าโจมตีมาที่เขาอย่างรุนแรงพร้อมกับกลิ่นอายของมันเขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยซ้ำ และไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้กับมัน อสูรระดับเทพลึกลับนั้นเป็สิ่งมีชีวิตที่ผู้เล่นไม่อาจเอาชนะได้อย่างสิ้นเชิงนี่ไม่ใช่เื่เหลวไหลแต่มันคือสิ่งที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว
หลิงเฉินหายใจเข้าลึกๆในจังหวะที่เขากำลังจะตอบ ชีเยว่ซึ่งอยู่ด้านหลังของเขาก็เดินมาอยู่ข้างๆ เขาก่อนที่นางจะอ้าปากพูด “ไงเ้าั์ ไม่ได้เจอเ้านานหลายปีข้าไม่คิดเลยว่าเ้าจะยังคงพิทักษ์ที่นี่อยู่ เ้ารู้ไหมว่าจริงๆแล้วเ้าเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย”
“ข้าอาจจะตะกละตะกลามโเี้และถูกเรียกว่าอสูรชั่วร้ายที่สุดจากคนทั้งโลก แต่ข้าไม่เคยเนรคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าไม่เคยกลับคำพูดที่ข้าเคยกล่าวไว้เวลา 10,000 ปีสำหรับข้ามันเป็แค่่เวลาสั้นๆ เพียงแค่ข้าไม่คิดว่าเวลา 10,000ปีได้ผ่านไปแล้ว อีกทั้งคนที่ได้รับการผูกมัดกับ ‘จันทร์ต้องสาป’ก็ได้ปรากฏขึ้นมาแล้วสาวน้อยดูเหมือนว่าโชตชะตาของเ้าจะดีกว่าที่ข้าคาดไว้นิดหน่อยนะ แน่นอนว่าสิ่งต่างๆในอนาคตจะเป็อย่างไรทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังต้องขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นตั้งใจของตัวเ้าเองสัญญาของข้าคือการปกป้องคุ้มครอง ‘จันทร์ต้องสาป’ ก่อนที่มันจะหาเ้าของใหม่พบทว่านั่นไม่ได้รวมถึงการปกป้องและช่วยเหลือเ้า”
เทาเที่ยยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนตอนที่เสียงของมันดังออกมา หลิงเฉินก็ไม่เห็นปากอันใหญ่โตของมันขยับแม้แต่น้อยเขาไม่รู้ว่าเสียงนี้มาจากที่ไหน
“อีกคนที่ ‘จันทร์ต้องสาป’ ได้ผูกมัด...” มัน 10,000 ปีมาแล้วใช่ไหมที่ ‘จันทร์ต้องสาป’ ได้ผูกมัดกับคนผู้หนึ่ง? ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นเหมือนกับเราไหมที่สามารถกำราบ‘จันทร์ต้องสาป’หรือว่าคนผู้นั้นจะกลายเป็หุ่นเชิดของมัน