หลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกับเทวโลกเป็ขอบเขตประเภทหนึ่ง มีผู้ฝึกยุทธ์มากมายฝึกฝนมาตลอดชีวิตแต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้จะเป็ผู้ฝึกยุทธ์ในระดับขอบเขตลี้ลับ เพื่อให้บรรลุการผสานกับเทวโลกแล้ว ยังต้องอาศัยความเข้าใจและโอกาสอีกด้วย
เทวโลก เมื่อหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกับมนุษย์ มนุษย์ก็จะสามารถยืมพลังของเทวโลกได้ ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับ์และโลกมนุษย์ ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็การเคลื่อนไหวที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เมื่อหลินเฟิงฟาดฟันดาบออกไป พลันเกิดแสงจ้าในชั้นอากาศ เหล่าคนที่พุ่งเข้าหาหลินเฟิงล้วนถูกแสงดังกล่าวปกคลุม ในที่สุดคลื่นดาบที่แหลมคมก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ
“ตูม!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายความเงียบ เสียงเมื่อครู่ดังเข้าสู่โสตประสาทของผู้คนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนที่พุ่งเข้าหาหลินเฟิงต่างเคลื่อนไหวช้าลงเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขาทั้งหมดสิ้นลมหายใจไป
เพียงดาบเดียวได้สังหารผู้คนไปทั้งหมด ไร้ซึ่งผู้เหลือรอด!
ภาพดังกล่าวทำให้ฝูงชนใจเต้นระรัว ยอดฝีมือของตระกูลจื่อนับสิบคนถูกหลินเฟิงสังหารลงในดาบเดียว คนอย่างเขาถึงจะเรียกได้ว่าเป็นักดาบที่แท้จริง เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินเฟิงแล้ว ขนาดคนอย่างหลินฮ่าวเจี๋ยก็ยังไม่สมควรจับดาบ
ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!!!
ดาบห่าฝนทองคำเมื่ออยู่ต่อหน้าดาบเล่มนี้ก็มันก็ราวกับเล่นปาหี่ ดาบของหลินเฟิงนั้นถึงจะคู่ควรเรียกว่าดาบที่แท้จริง มันทั้งแหลมคมและสังหารคนได้ในชั่วพริบตา
จื่ออิ่งและจื่อโฉงต่างยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น สายตาก็มองชายหนุ่มชุดขาวที่กำลังกวัดแกว่งดาบอย่างคล่องแคล่ว ด้วยหัวใจที่หนาวเหน็บราวกับถูกแช่แข็งอย่างไรอย่างนั้น
เขาช่างร้ายกาจนัก หากจื่อโฉงตัดสินใจต่อสู้กับหลินเฟิงแล้ว เขาต้องถูกหลินเฟิงสังหารลง โดยไม่มีแม้แต่โอกาสหลบคมดาบของหลินเฟิงได้อย่างแน่นอน
จื่อโฉงและจื่อเซี๋ยต่างมองบิดาของตนเป็ตาเดียว ในยามนี้คงมีเพียงจื่ออิ่งเท่านั้นที่สามารถสังหารหลินเฟิงได้
ไม่เพียงแต่พวกเขาทั้งสองเท่านั้น แต่ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปทางจื่ออิ่งเช่นกัน เขาเป็ถึงผู้นำของตระกูล แล้วจะทนเห็นการกระทำของหลินเฟิงที่คล้ายกำลังดูถูกคนตระกูลจื่อได้อย่างไร
“ทักษะของเ้าไม่เลว”
จื่ออิ่งกล่าวขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเ็าขณะจ้องหลินเฟิงเขม็ง เขาบรรลุขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 9 หากบรรลุอีกขั้นเขาก็จะอยู่ระดับขอบเขตลี้ลับที่ทรงพลัง
จื่ออิ่งสามารถััได้อย่างชัดเจน แม้เมื่อครู่นี้ดาบของหลินเฟิงที่ฟาดฟันไปจะไม่ธรรมดา แต่เขาคิดว่าทักษะดาบของหลินเฟิงเป็เพียงแค่ลูกไม้ตื้นๆ สำหรับหลอกผู้คนเท่านั้น
“ทักษะ?”
ปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของหลินเฟิง จริงๆ แล้วหลินเฟิงไม่ได้ใช้ทักษะหรือลูกไม้ใดๆ เขาแค่ฟันออกไปสุ่มสี่สุ่มห้า เคลื่อนไหวไปตามคำสั่งหัวใจ ดาบของเขาหลอมรวมกับมนุษย์ มนุษย์หลอมรวมกับเทวโลก
ดาบนี้คือขอบเขตแห่งดาบ
“เ้าไม่เข้าใจ!”
หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส จื่ออิ่งไม่เข้าใจขอบเขตมากพอ ไม่รู้ว่าว่าการผสานกับเทวโลกเป็เช่นไร เื่ของขอบเขตมีเพียงคนที่เข้าถึงเท่านั้น จึงจะเข้าใจขอบเขตได้อย่างชัดเจน
เหมือนกับหลินเฟิง ถึงเขาจะไม่ได้ใช้จิติญญาแห่งนักรบ เพียงหลับตาก็สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ชัดเจน แต่จื่ออิ่งกลับไม่สามารถทำได้ เขาเพียงใช้สัญชาตญาณของตนในการคาดคะเนเท่านั้น ซึ่งมันอาจไม่ถูกต้องเสมอไป แม้เขาจะรู้ว่าใครที่สามารถหลอมรวมกับเทวโลกได้ แต่จื่ออิ่งก็ไม่เข้าใจและไม่รู้สึกถึงพลังปราณใดๆ ซึ่งแน่นอนว่าเขาย่อมไม่อาจเข้าถึงขอบเขตนี้ได้
“เ้าไม่เข้าใจ!”
เพียงสามคำนี้ที่ออกจากปากของหลินเฟิง กลับทำให้จื่ออิ่งรู้สึกอึดอัดอย่างมาก
เป็เพียงรุ่นเยาว์แต่กลับกล้าดูิ่เขาเช่นนี้ ดูเหมือนเขากำลังบอกว่าผู้นำของตระกูลจื่อช่างโง่เขลาเหลือประมาณ
“ข้าไม่เข้าใจอย่างนั้นเหรอ?” จื่ออิ่งถามกลับอย่างเ็า “เป็เพียงรุ่นเยาว์แท้ๆ กลับกล้าหยามคนอื่นเช่นนี้ วันนี้เ้าก่อความวุ่นวายในตระกูลจื่อ สังหารคนของตระกูลจื่อไปมากมาย ข้าจะไม่ให้เ้าได้ตายดีแน่”
“ข้าจะทำลายการบ่มเพาะของเ้า และทำให้เ้าประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย”
จื่ออิ่งกล่าวเสียงเยือกเย็น เมื่อผู้คนได้ยินคำพูดของเขาก็ต่างรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาทันใด
หลินเฟิงจ้องมองจื่ออิ่งอย่างไม่ละสายตา ผ่านไปสักพักบนใบหน้าของหลินเฟิงพลันปรากฎรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมา
“เ้ายิ้มอะไร?” จื่ออิ่งถามด้วยน้ำเสียงเ็ายิ่งขึ้น
“เ้าหวาดกลัวข้า!” วาจาไม่แยแสนี้ออกมาจากปากของหลินเฟิง ทำให้จื่ออิ่งต้องแปลกใจ จากนั้นก็หัวเราะและกล่าวว่า “อย่างข้าน่ะหรือต้องหวาดกลัวเ้า? จื่ออิ่งผู้นี้เป็ถึงผู้นำของตระกูลจื่อ การบ่มเพาะอยู่ระดับขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 9 แล้วข้าจะไปหวาดกลัวคนอย่างเ้าไปทำไม?”
“เ้าหวาดกลัวข้า!” น้ำเสียงของหลินเฟิงยังคงนิ่งสงบ “ข้าบุกมาตระกูลจื่อ ทำลายพิธีแต่งงานบุตรชายของเ้า สังหารสามีในอนาคตของลูกสาวเ้า สังหารคนในตระกูลจื่อมากมาย ข้ากับตระกูลจื่อไม่อาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น หากเ้าหวาดกลัวข้าก็ลงมือเถอะ เ้าไม่แน่ใจว่าเ้าจะเอาชนะข้าได้หรือไม่ ดังนั้นการข่มขู่ด้วยคำพูด มันก็แค่ได้พูดเท่านั้น เ้าอยากรู้ไม่ใช่หรือว่าการบ่มเพาะของข้าเป็เช่นไร ในขณะเดียวกันเ้าก็กำลังพยายามถ่วงเวลา”
เมื่อจื่ออิ่งได้ยินคำพูดของหลินเฟิงเช่นนั้น เขาก็ต้องประหลาดใจขึ้นมา ใช่แล้ว… เขาหวาดกลัวหลินเฟิง แม้กระทั่งวิถีดาบเมื่อครู่เขาก็ไม่สามารถมองขาด
การไม่รู้เื่อะไรเป็สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวมากที่สุด จื่ออิ่งไม่สามารถรู้ได้ว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งแค่ไหน มิฉะนั้นเขาคงไม่เสียเวลาพูดจาไร้สาระแล้วลงมือทันทีเมื่อเห็นสมาชิกตระกูลจื่อถูกสังหารหมู่เช่นนั้น
เห็นได้ชัดว่าในสถานการณ์นี้หลินเฟิงกำลังได้เปรียบ
“ไม่ว่าเ้ากำลังรอใครก็ตาม แต่วันนี้ข้าจะต้องสังหารเ้าให้ได้”
หลินเฟิงกระชับดาบในมือพลางเดินไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ ขณะที่เขาก้าวเท้าออกไปช้าๆ ประกายดาบของเขาก็ส่องแสงวูบวาบสอดคล้องกับจังหวะการเดินของเขา ทันใดนั้นเขาก็หายตัวไปแล้วปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าจื่ออิ่ง ภาพดังกล่าวทำให้ฝูงชนต่างรู้สึกว่าพวกเขากำลังฝันอยู่
“ตูม!”
เกิดเงาสีม่วงหม่นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า จื่ออิ่งตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีม่วง ข้างหลังเขาได้มีจิติญญาปรากฏขึ้น เป็จิติญญาสีม่วงที่ทั้งแปลกตาและดูลึกลับ
เมื่อเผชิญหน้ากับหลินเฟิง จื่ออิ่งก็รีบปลดปล่อยจิติญญาออกมาทันที นี่พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาหวาดกลัวหลินเฟิงจริงๆ เนื่องจากเขาไม่อยากตาย จื่ออิ่งยิ่งไม่กล้าประมาทกับสถานการณ์เบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย เขารีบปลดปล่อยจิติญญานักรบออกมาฉับพลัน
“ฉึก!!!”
ดาบของหลินเฟิงตกลงมาจากท้องฟ้า
“หมัดจื่อฉวน!”
จื่ออิ่งคำรามอย่างเกรี้ยวกราด จิติญญาที่อยู่ด้านหลังก็ลอยขึ้นไปในอากาศและเปลี่ยนเป็ภาพลวงตา
หลังจากคำรามชื่อทักษะออกไปแล้ว ลมปราณสีม่วงที่ห่อหุ้มร่างจื่ออิ่ง ค่อยๆ ไหลมารวมกันบนมือของเขา เมื่อลมปราณดังกล่าวยิ่งหนาแน่นขึ้น กำปั้นของเขาจึงกลายเป็สีม่วงดูสะดุดตาและน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
ในที่สุด เมื่อพลังในกำปั้นของเขาหนาแน่นจนได้ที่ จื่ออิ่งจึงส่งหมัดปราณอันทรงพลังพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้ามในชั่วพริบตา
“ตูม!!! ตูม!!!”
หลินเฟิงกวัดแกว่งดาบเพื่อป้องกันกำปั้นสีม่วงเ่าั้ ทุกครั้งที่เกิดการปะทะแขนของเขาจะรู้สึกเ็ปจากพลังมหาศาลของหมัดปราณที่ถูกส่งมา
หมัดจื่อฉวนคือทักษะระดับลี้ลับขั้นสูง นอกจากนี้จื่ออิ่งเองก็มีจิติญญาแห่งนักรบสีม่วง ทำให้พลังของจิติญญาช่วยส่งเสริมพลังทักษะ จนทำให้ความรุนแรงของทักษะนี้เทียบเท่าทักษะระดับพิภพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทักษะนี้ถูกใช้โดยจื่ออิ่งที่อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 9 มันก็ยิ่งทรงพลังจนสามารถทลายูเาทั้งลูกลงได้ในชั่วพริบตา
หลินเฟิงเริ่มแกว่งดาบปัดป้องการโจมตีเบื้องหน้าช้าลงเรื่อยๆ ราวกับเขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป แม้แขนของเขาจะหนักอึ้ง แต่ดวงตาของหลินเฟิงยังคงสงบนิ่ง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หากดาบแหลมคมแล้ว ย่อมไม่มีสิ่งใดทำลายลงได้
ถ้าจิตใจของนักดาบเต็มไปด้วยความหวังและความเพียรพยายามเต็มเปี่ยมแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ประดังเข้ามาไม่รู้จบ ก็สามารถทำลายลงได้ในดาบเดียว ตราบใดที่ยังไม่หมดหวังนักดาบที่แท้จริงย่อมไม่ท้อถอย
“ฉึก!”
ดาบของหลินเฟิงในตอนนี้ช่างแหลมคมอย่างมาก มันสามารถตัดได้ทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า
ดาบของเขายังคงป้องกันหมัดจื่อฉวนที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดยั้ง
“หนี!”
จื่ออิ่งถึงกับหน้าถอดสี เมื่อเห็นดาบของหลินเฟิงยังคงฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง จนสิ่งของในบริเวณนั้นถูกตัดออกเป็สองท่อน เขาหวาดกลัวจนต้องถอยหนีไม่คิดชีวิต
จากนั้นไม่นาน ใบหน้าของจื่ออิ่งก็กลายเป็ซีดขาว เพราะจู่ๆ ดาบของหลินเฟิงก็เปลี่ยนทิศทางและพุ่งเข้าหาจื่อโฉงแทน
แม้แต่จื่ออิ่งก็ไม่อาจต้านดาบของหลินเฟิงได้ แล้วจื่อโฉงจะหยุดดาบนี้ได้อย่างไร
“แกไม่กล้าหรอก?!” จื่ออิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวและหวาดกลัว
“ตาย!”
หลินเฟิงกล่าวอย่างเ็า ไม่กล้าหรือ? คนอย่างหลินเฟิงมีหรือจะกลัว!
หากจื่อหลิงไม่ได้ช่วยเขาจากข้างถนนหลินเฟิงล่ะก็ เขาคงไม่มีโอกาสเจอต้วนซินเยี่ยอีกแล้ว หากสังหารจื่อโฉงลงได้ถือว่าเป็การแก้แค้นให้กับความอัปยศที่ต้วนซินเยี่ยได้รับ หากวันนี้จื่อโฉงไม่ตายล่ะก็ ความอัปยศของต้วนซินเยี่ยก็จะไม่ถูกล้างออกไป
หากเป็เช่นนี้จริงๆ หลินเฟิงจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต
เมื่อเห็นดาบที่ไม่สามารถหยุดได้กำลังพุ่งเข้าหาตัวเอง ใบหน้าของจื่อโฉงบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด ในแววตาเผยความสิ้นหวัง จื่อโฉงกำลังจะตายอย่างนั้นหรือ? นี่เป็วันแต่งงานของเขา ขณะที่กำลังก้าวเข้าสู่เขตต้องห้ามกลับถูกใครบางคนสังหาร?
“ฉึก!!!”
ทันใดนั้นห้วงความคิดของจื่อโฉงพลันดับไป ดวงตาที่ฉาบไปด้วยความสิ้นหวังยังคงเบิกกว้างอย่างน่าหวาดกลัว เจาไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็เช่นนี้
เมื่อเห็นร่างของจื่อโฉงค่อยๆ ล้มลงช้าๆ ผู้คนต่างใจหายขณะที่หัวใจของพวกเขากำลังสั่นเทา
นายน้อยแห่งตระกูลจื่อ ตายแล้ว?
หลินเฟิงไม่เสียเวลาพูดไร้สาระใดๆ หากบอกว่าฆ่าก็คือฆ่า เพียงจับดาบและฟาดฟันทุกอย่างที่ขวางหน้า คนของตระกูลจื่อทั้งหมดจะต้องตาย
เขาโกรธจัดจนหน้าแดง!