เจียงเฉินรู้ว่ากวนอี้หยุนได้รับความเสียหายด้านจิตใจจากการที่พ่ายแพ้หนานเป่ยเฉาในการแข่งขันประจำปีแคว้นฉี ในฐานะอัจฉริยะการที่ได้รับความอัปยศ เหมือนดั่งเงาบดบังในใจเขา ดังนั้นการเดินทางไปยังนรกอเวจี จะเป็การเสี่ยงชีวิต เขาอาจสำเร็จหรือพบจุดจบ
เจียงเฉินเข้าใจเป็อย่างดี แม้กวนอี้หยุนเป็อัจฉริยะที่หาได้ยาก แต่เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดที่ได้รับพรจากเทพีแห่งโชคเฉกเช่นหนานเป่ยเฉา ช่องว่างระหว่างพวกเขามากมายนัก แม้ว่าช่องว่างระหว่างพวกเขาในตอนนี้อาจจะไม่ได้กว้างมากนัก แต่เร็วๆนี้มันจะค่อยๆกว้างขึ้นกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ
ในโลกนี้ มีผู้ที่มีโชคชะตาลิขิตให้มีชีวิตอยู่อย่างรุ่งโรจน์ แต่ก็มีผู้ที่โชคชะตาลิขิตให้อยู่โดยไม่อาจประสบความสำเร็จใดๆ ดั่งจอมราชันย์และขอทาน นี่คือโชคชะตา
เจียงเฉินไม่ได้ใช้ปีกโลหิต เขาเดินลงจากูเาด้วยเท้า นิกายเซวียนอี้มีทิวทัศน์ที่งดงาม และด้วยการเดิน เจียงเฉินสามารถที่จะเชยชมทิวทัศน์ที่งดงามได้ขณะที่ใช้เวลาว่างตามสบาย มันหาได้ยากที่เจียงเฉินจะมีผ่อนคลายสบายอารมณ์เช่นนี้
ที่ตีนเขามีเส้นทางที่เงียบสงบอยู่ มันเป็เส้นทางทีมีลมแรงและข้ามผ่านเทือกเขา มันเหมือนอสรพิษที่จำศีล
เจียงเฉินเดินไปตลอดทางอย่างสบายอารมณ์และไม่รีบร้อนขณะที่ััได้ถึงพลังหยวนอันอุดมสมบูรณ์ เขาอดไม่ได้ที่จะโคจรทักษะร่างแปลงั
หลังจากเดินไปได้เกือบชั่วโมง กลิ่นหอมจางๆของสมุนไพรได้ลอยมาแต่ไกลและทำให้เจียงเฉินแปลกใจนัก
ตาของเจียงเฉินเปล่งประกาย และเขามองไปยังทิศทางที่กลิ่นหอมนั่นเกิดขึ้น เขามองเห็นูเาขนาดกลางตั้งอยู่ไม่ไกล และกลิ่นหอมนั่นมาจากยอดเขา หากมองจากที่ที่เขายืนอยู่ เขามองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของยอดเขา มันดูมีชีวิตชีวามากเมื่อเทียบกับยอดเขาอื่นๆ บนยอดเขานั้นมีต้นสนโบราณอยู่มันหนาขนาดผู้ใหญ่สามคนโอบและได้หยั่งรากลึก มันมีอายุราวๆสองร้อยถึงสามร้อยปี
บนยอดเขาเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา และดึงดูดทุกคนที่ได้เห็นมัน เจียงเฉินอดไม่ได้ที่จะเดินไปยังยอดเขานั่น
เมื่อเขามาถึงยอดเขา กลิ่นหอมยิ่งแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ เจียงเฉินเดินลึกเข้าไปในูเา เมื่อเขาเดินขึ้นไปได้ครึ่งเขาแล้ว เขาเริ่มเห็นสมุนไพรหลากหลายที่ขึ้นอยู่รอบๆ เขาเห็นแม้แต่โสมโลหิตอายุสามร้อยปี สมุนไพรนี้ล้ำค่าสำหรับเมืองชื่อแต่ที่นี่มันขึ้นข้างทาง
"ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้เป็สถานที่ที่ปลูกสมุนไพรของนิกายเซวียนอี้ ไม่แปลกที่จะมีกลิ่นหอมของสมุนไพร นักพรตเซวียนอี้ได้ให้อนุญาตข้าสามารถที่จะเข้าวังเซวียนอี้ได้ตามที่ข้า้า ดังนั้นจึงไม่มีสถานที่ใดในนิกายเซวียนอี้ที่ข้าไม่สามารถไปได้"
เจียงเฉินคิดในใจแล้วเขาขึ้นไปยังยอดเขา ไม่สำคัญว่านี่จะเป็ชีวิตที่แล้วของเขาหรือชีวิตปัจจุบัน ทุกๆคนต่างมองเขาราวกับจอมราชันย์ผู้ทรงอำนาจเหนือผู้ใด แต่พวกเขาได้ลืมไปแล้วเช่นกันว่าตัวเขาเองก็เป็นักปรุงยาระดับนักบุญเช่นกัน หายากที่เจียงเฉินจะปรุงยาในชีวิตที่แล้วของเขา เขาปรุงยาเพื่อตัวของเขาเท่านั้น
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาได้บดบังความจริงที่ว่าเขาเป็นักปรุงยา เทคนิคปรุงยาของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั่วทั้งโลกต้นกำเนิดเซียน มีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่สามารถเทียบชั้นกับเขาได้
ในไม่ช้า เจียงเฉินก็ได้ไปถึงยอดเขาและสิ่งที่เขาเห็นช่างเป็ทัศนียภาพที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง มันเป็สีเขียวเปล่งประกายและเป็สถานที่ที่งดงามยิ่ง ดอกไม้หายากจำนวนมากและหญ้าสมุนไพรได้เติบโตในทุกหนทุกแห่ง เขาสามารถเห็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้าเขา มีสมุนไพรได้ปลูกโดยรอบระยะโดยรอบกว่าหนึ่งลี้ สมุนไพรทั่วไปและสมุนไพรหายากได้ถูกปลูกภายในบริเวณนี้
อาคารที่สร้างขึ้นอย่างประณีตตั้งอยู่กึ่งกลางยอดเขา ทัศนียภาพดูราวกับสรวง์
ขณะนั้นเองมีาุโคนหนึ่งที่นั่งลงที่ปลูกสมุนไพร าุโผู้นั้นรุ่นราวห้าสิบ เขาลงพุงและไม่มีเครา เขาหน้ามันและดูสดใส
"เป็เช่นนี้ได้อย่างไร? เหตุใดมันถึงไม่โต?"
ชายแก่ผู้นั้นถอนหายใจออกมา
"ท่านย่าทวดมันเถอะ ทุกๆวันข้าได้รดน้ำเ้า ข้าได้ถ่ายเทพลังหยวนให้แก่เ้า และข้ายังหาสถานที่ดีที่สุดให้แก่เ้า..อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่ไม่โตขึ้น เ้ายังเหี่ยวเฉาลงเรื่อยๆเมื่อผ่านพ้นวัน ใครสามารถบอกสาเหตุได้บ้างว่าทำไม?"
าุโคนนั้นรู้สึกอับจนหนทาง และรู้สึกโกรธมาก ตัวเขา้าที่จะให้ต้นสมุนไพรทั้งสองเติบโตขึ้น แต่ลำพังด้วยตัวเขาไม่อาจที่จะทำได้
"ฮึ่ม! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะมีสมุนไพรที่ข้ากั๋วฉานไม่สามารถปลูกได้!"
าุโผู้นั้นแค่นเสียงเ็า นามของเขาคือกั๋วฉานและเขาเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์และเขาเป็นักปรุงยาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในนิกายเซวียนอี้ ูเาทั้งลูกนี่เป็ของเขา ในนิกายเซวียนอี้ เขาเป็บุคคลสำคัญ นักปรุงยาหนุ่มจำนวนมากเป็ศิษย์ของเขาและกระทั่งนักพรตเซวียนอี้ยังต้องเกรงใจเขา
"การปลูกนางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์เข้าด้วยกัน หากว่ามันโตนี่สิแปลก ในความคิดของข้า พวกมันจะตายภายในหนึ่งเดือน"
ทันใดนั้นเสียงดังก้องออกมาจากด้านหลัง
"ใคร?"
กั๋วฉานยืนขึ้นทันทีและหันไปรอบๆ ตอนนั้นเองเขาเห็นชายหนุ่มในชุดสีขาวยืนอยู่ด้านหลังเขา ก่อนหน้านี้กั๋วฉานมุ่งความสนใจไปกับต้นสมุนไพรทั้งสองนั้นเป็เหตุที่ว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ทันสังเกตุว่ามีใครบางคนอยู่ด้านหลังเขา นอกจากนี้ ที่ยอดเขาแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่ศิษย์สามารถเข้ามาได้
กั๋วฉานมองสำรวจเจียงเฉินอย่างละเอียดและพบว่าเขาอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์เพียงเท่านั้น เขาขมวดคิ้วและถาม
"เ้าเป็ศิษย์นอกสินะ เ้าคิดว่าสถานที่แห่งนี้เป็ที่ใดฮึ?"
กั๋วฉานอารมณ์ไม่ดี เขาได้อารมณ์เสียเพราะต้นสมุนไพรทั้งสอง นางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์ทั้งสองเป็สมุนไพรชั้นเลิศและเขาได้ใช้ความพยายามมากมายที่จะได้ซึ่งเมล็ดของพวกมัน แต่ตอนนี้ เขาได้อยู่เส้นทางแห่งความล้มเหลว และต้นสมุนไพรของเขาจะตายในเร็วๆนี้นั่นเป็เหตุที่เขาอารมณ์เสีย
"ข้ามายังที่แห่งนี้เพราะตามกลิ่นหอมของสมุนไพร ศิษย์เจียงเฉินคารวะผู้าุโ"
เจียงเฉินกุมมือคารวะกั๋วฉาน
"เจียงเฉิน?เ้าคือเจียงเฉินเด็กใหม่ที่ได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันประจำปีแคว้นฉีน่ะรึ?"
ดวงตากั๋วฉานเปล่งประกาย แม้ว่าเขาไม่เคยเข้าร่วมการจัดการเื่ราวต่างๆของนิกาย เขายังได้ยินถึงข่าวใหญ่เกี่ยวกับเจียงเฉิน
"ใช่แล้ว เป็ศิษย์เอง"
เจียงเฉินผงกศีรษะ
หลังจากที่รู้ถึงสถานะแท้จริงของเจียงเฉิน ทัศนคติที่กั๋วฉานมีต่อเจียงเฉินดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากว่าเป็ศิษย์นอกคนอื่นได้เข้ามา เขาคงตบหน้าศิษย์คนนั้นโทษฐานบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่เจียงเฉินนั้นต่างออกไป อัจฉริยะมักได้รับการให้ความสำคัญทุกหนแห่งที่เขาไป
"เ้าสามารถรู้ด้วยหรือว่านี่คือนางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์ สายตาเ้าไม่เลว"
กั๋วฉานผงกหัวยอมรับ ในความจริงแล้วเหตุที่ว่าเขาไม่ได้ตบเจียงเฉินเมื่อเขาเห็นเจียงเฉิน แต่เป็เพราะเจียงเฉินรู้จักสมุนไพรทั้งสองชนิด นางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์ยังเป็เมล็ดอยู่และนักปรุงยาทั่วไปไม่สามารถที่จะรูู้จักพวกมันได้
"ข้ารู้จักพวกมันเพียงเล็กน้อย"
เจียงเฉินยิ้ม ตอนนั้นเองเขาได้เดินอย่างช้าๆไปยังแปลงปลูกสมุนไพร เมื่อเขามองไปยังนางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์ เขาได้ส่ายหัว
กั๋วฉานตกตะลึงด้วยที่เจียงเฉินเป็เด็กหนุ่มที่อยู่เพียงขอบเขตแก่นแท้มนุษย์แต่เขาไม่ได้แสดงสัญญาณของความตึงเครียดใดๆเมื่อเผชิญหน้ากับผู้าุโแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ จากท่าทีที่สงบของเขา เขาสามารถที่จะชนะใจผู้คนได้แล้ว
"เจียงเฉิน เมื่อครู่เหตุใดเ้าถึงบอกว่านางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์ไม่สามารถที่จะปลูกด้วยกันได้?ข้า้าจะรู้ ว่าเป็เพราะอะไร?พวกมันเป็สมุนไพรหยางบริสุทธิ์ทั้งคู่ เหตุใดถึงไม่สามารถปลูกด้วยกันได้?"
กั๋วฉานถามด้วยความสนใจอย่างมาก เขา้าจะรู้ว่าเจียงเฉินจะอธิบายอย่างไร
"ง่ายดายนัก นางฟ้าอัคคีมีเอกลักษณ์เป็หยางร้อนแรง จึงไม่สำคัญว่าจะอยู่ในขั้นใด ขั้นเมล็ดหรือโตแล้ว มันเป็สมุนไพรหยางบริสุทธิ์ ส่วนอีกด้านหนึ่ง บัวรุ่งโรจน์มีเอกลักษณ์อ่อนโยน เมื่อท่านได้ปลูกด้วยกัน ลักษณะหยางบริสุทธิ์ของนางฟ้าอัคคีข่มการเจริญเติบโตของบัวรัศมี"
เจียงเฉินอธิบาย
เมื่อได้ยินดังนี้ ดวงตาของกั๋วฉานส่องประกาย ตอนนี้เขารู้สึกชื่นชมต่อเจียงเฉินมากขึ้น สามารถที่จะวิเคราะห์ลักษณะของนางฟ้าอัคคีและบัวรัศมีได้ทะลุปรุโปร่ง นี่เป็การพิสูจน์ว่าเจียงเฉินมีความรู้ด้านสมุนไพรและยาระดับหนึ่ง
"หากแม้สิ่งที่เ้าพูดนั้นถูกต้อง นางฟ้าอัคคีกดข่มบัวรุ่งโรจน์แต่ว่านางฟ้าอัคคียังสามารถโตได้อยู่แล้วเหตุใดที่มันไม่สามารถที่จะโตขึ้นได้แต่กลับจะเหี่ยวตาย?"
กั๋วฉานถามอีกครั้ง เขา้าที่จะรู้ถึงสาเหตุจริงๆ หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ ด้วยสถานะของเขาและตำแหน่งของเขา มันไม่มีทางเลยที่เขาจะขอคำแนะนำจากศิษย์สายนอก
"สาเหตุนั้นง่ายยิ่งกว่า บัวรัศมีนั้นมีเอกลักษณ์ของราชันย์บัวรัศมีและบัวหิมะ และเมื่อบัวรัศมีโต ลักษณะของราชันย์บัวรัศมีจะกดข่มบัวหิมะโดยสมบูรณ์ และตอนนั้นเองมันจะกลายเป็สมุนไพรหยางบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามตอนที่มันยังเป็เมล็ดอยู่ ทั้งราชันย์บัวรัศมีและบัวหิมะยังคงมีเอกลักษณ์ของตัวตนทั้งสองอยู่และนั่นเป็เหตุที่บัวรัศมีไม่เพียงแค่ไม่ใช่สมุนไพรหยางบริสุทธิ์ มันยังมีเอกลักษณ์ทหนาวเย็นของบัวหิมะ นี่เป็เหตุที่ว่ามันได้กดข่มการเติบโตของนางฟ้าอัคคี เมื่อท่านได้ปลูกมันเข้าด้วยกัน ท่านจะเป็การทำลายทั้งคู่"
เจียงเฉินพูดตามปกติ แต่กั๋วฉานตื่นตระหนกเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินพูด ปากของเขาอ้าค้าง เขามองดูชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว เหมือนเขาได้เห็นผี แม้เขาไม่อยากที่จะยอมรับ แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาทรงภูมิมากกว่าเขาทั้งเื่สมุนไพรและเื่การปรุงยา
'เ้าหนุ่มผู้นี้เป็สัตว์ประหลาดประเภทใดกัน?เขารู้เื่เกี่ยวกับสมุนไพรมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร? ข้ารู้เพียงเมื่อบัวรุ่งโรจน์โตแล้วเอกลักษณ์ของมันเป็คุณสมบัติหยางบริสุทธิ์แต่ข้าไม่เคยรู้ถึงต้นกำเนิด..และเขายังรู้กระทั่งเื่เกี่ยวกับราชันย์บัวรุ่งโรจน์อีก'
ในใจกั๋วฉานแตกตื่นนัก แต่เขาเชื่อในสิ่งที่เจียงเฉินพูด หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง ตัวเขาซึ่งเป็นักปรุงยาที่มีชื่อเสียงของนิกายเซวียนอี้กำลังฟังการบรรยายจากชายหนุ่ม และมันเป็การบรรยายที่สำคัญมากด้วย
"เจียงเฉิน เ้าเรียนเื่เหล่านี้จากที่ใดกัน?"
กั๋วฉานถาม
"ท่านผู้าุโ ท่านไม่รู้จักตัวตนของอัจฉริยะในโลกหรือ?ข้าเป็อัจฉริยะ"
เจียงเฉินยักไหล่
"ประเสริฐ เ้าเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบอย่างแท้จริง เ้าทำให้ข้าประทับใจมาก บอกมาเถิด ข้าจะช่วยนางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์ได้อย่างไร?"
กั๋วฉานถามอย่างกระหาย
"แน่นอนว่า ต้องแยกปลูกพวกมันในสถานที่แตกต่างกันในพื้นที่ปลูกสมุนไพร นางฟ้าอัคคีและบัวรุ่งโรจน์เป็สมุนไพรชั้นสูงและมีพลังชีวิตกล้าแกร่ง และท่านไม่จำเป็ต้องช่วยพวกมันในการเจริญเติบโต พวกมันจะโตของพวกมันเอง"
เจียงเฉินพูดออกมา
"เจียงเฉิน ข้าขอถามคำถามอีกข้อนะ ข้าสามารถที่จะผสมหญ้าบาเล่ย์และผลศิลาหวงได้อย่างไรโดยที่ไม่ให้เกิดเตาะเิ"
กั๋วฉานได้เสี่ยงดูว่าเจียงเฉินจะคิดออกหรือไม่ เจียงเฉินรอบรู้ทุกอย่างจริงๆหรือ?
"ท่านผู้าุโกำลังพยายามปรุงโอสถิญญาหวงอยู่สินะ หญ้าบาเล่ย์และผลศิลาหวงนั้นมีลักษณะตรงกันข้ามกัน มันยากที่จะผสมมันเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม หากว่าใช้ผลึกทรายชั้นหนึ่งพวกมันสามารถที่จะหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ะเิ และมันยังช่วยเพิ่มคุณภาพโดยรวมของโอสถิญญาหวงอีกด้วย"
เมื่อเจียงเฉินพูดจบ เขาเห็นกั๋วฉานกำลังยืนอยู่ มองไปที่เจียงเฉินอย่างว่างเปล่า ตกตะลึงโดยสมบูรณ์
