เวลาดั่งสายน้ำที่รินไหล ไหลไปอย่างเงียบเชียบโดยไม่ทันรู้ตัว ชั่วพริบตาเดียวครึ่งปีผ่านไป
สายลมเย็นจันทราเด่นบนนภา ร่ำสุราเลิศรส...โอบกอดสาวงามใต้แสงจันทร์
เย่ชิงหานในตอนนี้กำลังเสพสุขกับรสชาติชีวิตของบุรุษระดับสูง บรรยากาศในยามค่ำคืนสาวงามยิ้มแย้มอยู่ข้างกาย สภาพเช่นนี้พูดได้ว่าเป็สิ่งที่บุรุษทุกคนเฝ้าถวิลหาแม้แต่ยามหลับฝัน
เนื่องจากการมีอยู่ของเย่ชิงหานเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจจึงถูกสะกดข่มอย่างสมบูรณ์ พวกมันทำได้แค่เพียงมุดหัวอยู่ในค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวของตนเอง เกาะแห่งความมืดมิดกลายเป็เกาะที่เงียบสงบสวยงามขึ้นมา
ในวันนั้นหลังจากที่เย่ชิงหานออกมาจากค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวของเผ่าคนเถื่อน พวกเขาได้ตรงไปที่ค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวของเผ่าปีศาจต่ออีก หลังจากทำการสังหารยอดฝีมือนักรบเผ่าปีศาจที่ทำการต่อต้านขัดขืนไปสิบกว่าคน เผ่าปีศาจถึงได้นำเอาของล้ำค่าหายากทั้งหมดที่มีและแหวนสัญลักษณ์ที่เหลืออีกจำนวนมากมอบออกมาอย่างว่าง่าย
หลังจากนักรบเขตปกครองเทพาได้รับการแจกจ่ายคะแนนและของมีค่าอีกครั้ง จึงต่างไม่ได้มีความอยากที่จะไปรบราฆ่ากันกับเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจอีกต่อไป แต่กลับเริ่มแยกย้ายกันไปเสาะหาสมบัติของล้ำค่าหายากต่างๆ บนเกาะแห่งความมืดมิดแทน
ส่วนพวกเย่ชิงหานพักอยู่ในค่ายใหญ่เขตปกครองเทพาทุกวัน กลางวันพูดคุยเล่นกับเฟิงจื่อและฮวาเฉ่า และฝึกยุทธ์ในบางครั้ง ตกกลางคืนเดินเล่นกับเยว่ชิงเฉิง หยอกเย้า และให้กำลังใจซึ่งกันและกันเหมือนเช่นตอนนี้
เย่ชิงหานนั้นเป็ชายแท้ทั้งแท่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเตียงหลังใหญ่สีชมพูภายในโรงเตี๊ยมอั้นเยว่ ณ เมืองหมันเป็เครื่องพิสูจน์ในข้อนี้ได้เป็อย่างดี
ชีวิตที่แล้วของเขาเป็เด็กกำพร้าที่หน้าตาธรรมดาและเป็ลูกจ้างยากจนคนหนึ่ง ไม่มีเงินไม่มีรถไม่มีบ้านเป็ของตัวเอง ทำได้แค่เพียงเช่าห้องเล็กๆ ซอมซ่อแห่งหนึ่งอยู่อาศัย คำว่าสาวงามสำหรับเขาแล้วเป็เพียงสิ่งที่อยู่สูงเกินจะเอื้อมถึง ทำได้แค่เพียงจ้องมองได้จากที่ไกลๆ เพียงเท่านั้น ทุกครั้งเมื่อเกิดความอยากก็จะแบ่งเงินออกมาส่วนหนึ่งจากเงินค่าจ้างจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับ จากนั้นแอบไปใช้บริการห้องแดงแห่งความสุขที่อยู่ตามข้างถนนถึงได้สามารถหาความสุขเล็กน้อยใส่ตัวได้เป็ครั้งคราว
ชีวิตชาตินี้เกิดมาเป็นายน้อยตระกูลเย่ ตระกูลเย่ตระกูลใหญ่มีอำนาจบารมีมาก สาวงามจึงพบได้มากมาย ทว่าในตอนนั้นเขาเป็นายน้อยลำดับเจ็ดผู้ตกอับ แต่หลังจากแสดงแสนยานุภาพออกมาที่หอผู้คุมกฎ กลับไม่มีเวลาและเงื่อนไขลงตัวที่จะไปคิดถึงเื่เหล่านี้ พอดีตอนที่ไปเหมืองหมันนั้นได้เปิดโลกกว้างและได้เห็นพบสิ่งต่างๆ มากมาย เมื่อมีโอกาสเขาย่อมต้องหาความสุขใส่ตัวสักครั้ง แน่นอนว่าในที่สุดเขาก็ได้ทำมัน เผด็จศึกกับเถ้าแก่เนี้ยของโรงเตี๊ยมอั้นเยว่บนเตียงหลังใหญ่สีชมพูนั้น
คิดเอาไว้ว่าหลังจากที่กลับมาถึงตระกูลเย่ อาศัยอสูรศักดิ์สิทธิ์และวิชาต่อสู้ร่างอสูรที่เป็หนึ่งไม่เป็สองรองใครของตนเองที่มี คงจะสามารถมีชีวิตที่เฟื่องฟูสุขขีภายในตระกูลเย่ได้ สาวงามทั้งหลายคงต้องวิ่งเข้ามาหา แต่สิ่งที่ได้เห็นกลับเป็เืสีแดงสดที่ฉาบทาบนผนังกำแพง ในตอนนั้นเขาะเิความโกรธแค้นออกมา...แม้เขาไม่ใช่หลงผี่ฟูที่เดือดดาลขึ้นมาเืต้องไหลนองเป็สายน้ำ แต่เมื่อเขาะเิความโกรธแค้นออกมาก็ทำให้ตระกูลเย่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นของคาวเืเช่นเดียวกัน
ต่อมา เดินทางออกมาจากตระกูลเย่ผ่านเมืองเซียวหุนได้รับความรักจากเยว่ชิงเฉิงและตระกูลเยว่ และเข้ามาบนเกาะแห่งความมืดมิดนี้ เขารู้ว่าเยว่ชิงเฉิงเป็สาวงามระดับพระกาฬ เป็สาวงามที่บุรุษในใต้หล้าล้วนปรารถนาแม้ยามหลับฝัน และเขาก็ยังรู้อีกว่าขอแค่เพียงเขา้า เขาสามารถที่จะเด็ดดอกท้อที่งดงามดอกนี้ได้ทุกเวลา เพียงแต่...นึกถึงเด็กสาวชุดขาวผมขาวที่นอนอยูู่เาด้านหลังตระกูลขึ้นมา ไฟราคะที่ลุกโชนขึ้นมาของเขาพลันต้องมอดดับลงไปทุกครั้ง เพราะภายในก้นเบื้องลึกจิตใจของเขาคิดว่า ผู้ชายสามารถทำตัวเ้าชู้ได้เป็สิ่งที่ทำได้และควรทำ แต่ว่าจะต้องมีหลักการ ถ้าปราศจากหลักการก็ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานทั่วไป
ตอนนี้พลังฝีมือของเขารุดหน้าขึ้นมาเป็อย่างมาก วิชาต่อสู้ร่างอสูรพัฒนาขึ้นมาอีกขั้น การสู้รบที่ยอดเขาขาดไม่มีใครสามารถต้านทานเขาไว้ได้แม้สักคนเดียว เพียงคนเดียวสามารถกวาดล้างเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนได้ทั้งหมด ช่วยชีวิตนักรบเขตปกครองเทพาไว้ สะกดข่มเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน และเก็บรวบรวมคะแนนได้มามากเกินพอ
คะแนนมีอยู่ในมืออย่างพอเพียงเื่ยาิญญาเทวะก็หมดกังวล น้องสาวมีความหวังให้ช่วยเหลือกลับมาได้ แถมพลังฝีมือที่พัฒนาอย่างก้าวะโ
เมื่อกายใจเริ่มผ่อนคลายลง การเป็อยู่หลับนอนดีขึ้นก็เริ่มคิดถึงความรู้สึกรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมา อารมณ์รักสนุกภายในจิตใจเริ่มปรากฏออกมาให้เห็น แน่นอนว่าการกล่าวเช่นนี้ดูจะไม่ถูกต้องเหมาะสมเท่าที่ควร เพราะจะว่าไปแล้วเยว่ชิงเฉิงมีใจให้กับเขามาตลอด ทำทุกอย่างเพื่อเขาโดยไม่เคยปริปากร้องขอสิ่งตอบแทนใดๆ และเขาเองก็ไม่ใช่คนตายด้านไร้ความรู้สึก ดังนั้น...เมื่อเสร็จสิ้นเื่ราวทุกอย่าง หลังจากเหตุการณ์ที่ยอดเขาขาด เยว่ชิงเฉิงโผเข้ามาในอ้อมกอดของเขาอย่างไม่สนใจต่อสิ่งใดๆ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็พัฒนาขึ้นมาเป็อย่างมาก เมื่อกลับมาถึงค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวก็เริ่มแสดงความรักต่อกันอย่างดูดดื่มขึ้นมา...
ความรักที่ไม่คิดที่จะแต่งล้วนเป็การหลอกฟันแล้วทิ้ง!
ประโยคนี้ฮิตมากในชีวิตโลกที่แล้วของเขา แต่เย่ชิงหานมั่นใจว่าตนเองแต่งเยว่ชิงเฉิงแน่นอน เขาจึงคิดว่าตนเองไม่ได้แค่คิดจะหลอกฟัน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงคิดที่จะ...ฟัน และกำลังจะเริ่มลงมือ!
พระจันทร์ลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะ สายลมบางเบาพัดผ่านมาแต่ไกล ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนโขดหินใหญ่ที่สูงชะโงก สองแขนโอบกอดดอกท้อแสนงดงามที่บุรุษทั่วหล้าล้วนปรารถนาดึงให้มาอยู่ในอ้อมอก มองดูใบหน้างดงามที่คล้ายอยากจะพูดอะไรแต่ก็เขินอายของนาง ััได้ถึงผิวที่อ่อนนุ่มและนวลเนียน เย่ชิงหานราวกับว่าตกอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน
“หาน เ้าจะดีต่อข้าไปตลอดชีวิตไหม?” เยว่ชิงเฉิงมองดูชายคนรักที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเขินอาย จากนั้นถามคำถามที่เหล่าหญิงสาวในใต้หล้าชอบถามมากที่สุดออกมา
“แน่นอนว่าข้าต้องดีต่อเ้าไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว!” เย่ชิงหานยิ้มออกมา มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดาของนาง ในเวลาเดียวกันมืออีกข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาอย่างเงียบๆ จากบริเวณท้องของนาง เริ่มทะลุผ่านชุดที่บางเบาแล้วคว้าจับเข้ากับจุดที่อ่อนนุ่มแห่งหนึ่ง...แล้วจึงตอบคำถามที่บุรุษในใต้หล้าล้วนควรที่จะตอบออกไปมากที่สุดในเวลานี้
“อืม...ถ้าเช่นนั้นเ้าต้องรับปากข้าว่าต่อไปไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไรก็จะไม่ทอดทิ้งชิงเฉิง!” เยว่ชิงเฉิงได้ยินคำตอบของเยว่ชิงหานดวงตาคู่สดใสแวววาวพลันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงเริ่มพูดขึ้นต่อ
“ข้ารับปากเ้า!” เย่ชิงหานพยักหน้าตอบรับพร้อมกับแอบคิดอยู่ภายในใจ บุรุษทั้งหมดภายในใต้หล้านี้หากไม่ใช่ว่าสมองมีปัญหาใครที่ไหนจะทิ้งเ้า? จากนั้นหยุดนิ่งไปสักพักจึงเอ่ยถามในสิ่งที่อยากจะถามมาโดยตลอด “ชิงเฉิง บอกข้าได้ไหมว่าความสงบแห่งิญญามีประโยชน์อันใดต่อตระกูลเยว่ของเ้า?”
ตอนที่อยู่เกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบเขาร่ายรำกลอนกระบี่พั่วเจิ้นจือจนทำให้เข้าสู่สภาวะที่แปลกมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง พลังฟ้าดินเกิดการรวมตัวกันขึ้น เป็เหตุให้ผู้าุโสูงสุดและหัวหน้าตระกูลเยว่ให้ความสำคัญถึงกับสั่งให้เยว่ชิงเฉิงเลือกเขาเป็ผู้พิทักษ์โดยตรงแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาเขาได้รู้จากเย่ชิงหนิวเกี่ยวกับสภาวะที่แปลกมหัศจรรย์นี้เรียกว่าความสงบแห่งิญญา ดังนั้นเขาจึงอยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเื่นี้และเหตุผลที่ตระกูลเยว่เลือกเขา
“อืม...!” เยว่ชิงเฉิงยิ้มพรายออกมา นิ่งครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยขึ้น “สภาวะความสงบแห่งิญญาเป็วิธีการฝึกฝนพลังิญญาที่สูงส่งที่สุด หากสามารถคงอยู่ในสภาวะเช่นนี้ได้เป็ระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงจะเทียบได้กับการฝึกฝนพลังิญญาของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิหนึ่งปี เ้าก็รู้ดีว่าเคล็ดวิชาโจมตีทางิญญาของตระกูลเยว่จำเป็จะต้องมีพลังิญญาที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเ้าจึงมีความสำคัญต่อตระกูลเยว่!”
“หืม? สภาวะความสงบแห่งิญญาสุดยอดขนาดนั้นเลย? เพียงแต่...ต่อให้มันมีประโยชน์มากมายเพียงใดก็เป็ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับระดับพลังิญญาของข้ามิใช่รึ? ข้าจะไปช่วยเ้าหรือตระกูลเยว่ของเ้าในการฝึกฝนพลังิญญาได้อย่างไร?” หลังจากที่รู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ฟัง เย่ชิงหานจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัย
“เื่นี้...” มองดูสีหน้าอาการที่สงสัยของเย่ชิงหาน ทันใดนั้นเยว่ชิงเฉิงรู้สึกเขินอายและหน้าแดงขึ้นมาทันที แม้กระทั่งลำคอที่ขาวเนียนราวสีของหิมะก็พลอยเปลี่ยนเป็สีชมพูขึ้นมาด้วย นางก้มหน้านิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดังนัก “ตระ...ตระกูลเยว่ของพวกเรามีเคล็ดวิชาลับที่ใช้ในการฝึกฝนคู่กันระหว่างชายหญิง มีเพียงหัวหน้าตระกูลและธิดาศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้นที่สามารถทำการฝึกฝนได้... วิธีการก็คือ หลังจากที่...ที่พวกเรารวมเป็หนึ่งเดียวกันแล้ว ข้าสามารถใช้เคล็ดวิชานี้กระตุ้นสภาวะความสงบแห่งิญญาของเ้าให้เกิดขึ้นมาได้ จากนั้นพวกเราทั้งสองทำการฝึกฝนพลังิญญาร่วมกัน...”
“ฮะ! ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว?” เย่ชิงหานฟังอยู่เนิ่นนานถึงได้เข้าใจ ดูแล้วสภาวะความสงบแห่งิญญาสำคัญมากต่อตระกูลเยว่ ในขณะเดียวกันเขาก็หันมองไปยังเยว่ชิงเฉิงที่ยังเขินอายอยู่พร้อมกับยิ้มแหะๆ ยื่นมือทั้งสองข้างออกไปโอบเอวขาวเนียนสวยได้รูปของนางไว้ จากนั้นก้มหน้าลงเม้มกัดไปที่ติ่งหูของนางก่อนจะพูดออกมาอย่างมีสัปดน “ตอนนี้...พวกเรามาทดลองดูกันเลยดีไหม?”
“ไม่เอา...” เยว่ชิงเฉิงมองกลอกตาขาวไปครั้งหนึ่งหน้าแดงยิ่งขึ้นกว่าเก่า คิดอยากที่จะใช้มือปัดป้องมือปลาหมึกทั้งสองข้างที่อยู่ไม่เป็สุขของเย่ชิงหาน แต่กลับพบว่าทั่วทั้งร่างนั้นอ่อนปวกเปียกไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะขัดขืน ยิ่งดิ้นยิ่งคล้ายกลับว่ายิ่งยั่วยุท้าทายเย่ชิงหาน
ััได้ถึงความเร่าร้อนจากร่างกายของเยว่ชิงเฉิงที่ดิ้นไปมา เย่ชิงหานกลืนน้ำลายลงไปหลายคราพร้อมกับหัวสมองที่เริ่มจะถูกไฟตัณหาเข้ายึดครอง มือเท้าเริ่มซุกซนยิ่งกว่าเดิมลูบไล้ไปทั่วทั้งร่างของนางทั้งบนและล่างอยู่ไม่หยุด จากนั้นปากของเขาประกบทาบบดลงไปยังริมฝีปากแดงระเรื่อของนางอย่างหนักหน่วง...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้