ท่านจอมมารไม่เคยขาดแคลนทรัพย์สินเงินทอง ดังนั้นจึงไม่เข้าใจความยากจนของหยางเจี๋ยนัก าาไม่มีทางจินตนาการถึงความทุกข์ยากของขอทาน เช่นเดียวกับขอทานก็ไม่มีทางจินตนาการถึงการเสพสำราญบนกองเงินกองทองมหาศาลของาา
แต่การที่ตามเนื้อเื่หยางเจี๋ยจะไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนใหม่ จำต้องฝืนใส่ชุดเดิมที่ยังมีคราบดำเปรอะเปื้อนไปไหนมาไหนอยู่สักพัก เพราะเป็ชุดนักเรียนชุดเดียวที่ทางโรงเรียนให้มา ท่านจอมมารก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่าครอบครัวหยางเจี๋ยขัดสนเื่เงินจริง ๆ
หลังมาถึงโรงเรียน ไฮยาซินท์แวะสหกรณ์ขายเครื่องแบบ อาศัยข้อมูลจากระบบ 666 ซื้อชุดนักเรียนและชุดกีฬาไซซ์หยางเจี๋ย 2 - 3 ชุด ฝากฝังพนักงานให้รอมอบแด่หยางเจี๋ย อ้างว่าเป็สิทธิประโยชน์ของนักเรียนทุน
[ว้าว พ่อหนุ่มแบดบอยทว่าเนื้อแท้อบอุ่นอ่อนโยน แอบมาซื้อชุดนักเรียนให้เขาลับหลังโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ช่างเป็ความสัมพันธ์ที่ยุบยิบนุ้บนุ้บกุ๊กกิ๊กหัวใจ ท่านจอมมารยามวัยรุ่น (TAT) ฮึก… ช่างงดงามราวดอกไม้แรกแย้ม]
หุบปาก
จอมมารลงเรี่ยวแรงจะไม่หวังผลผลิตได้อย่างไร เขาให้พนักงานบอกเหตุผลไปเช่นนั้นจริง แต่เหตุผลสุดแปลกประหลาดนี้หยางเจี๋ยที่เป็ถึงตัวเอกของโลก ต้องเผชิญหน้ากับผู้คนใจคดจนหวาดระแวงย่อมไม่มีทางเชื่อเหตุผลดังกล่าวโดยง่าย อีกฝ่ายจะต้องหาทางสืบที่มาของชุดนักเรียนนี้ แล้วถึงตอนนั้นไฮยาซินท์ก็จะแสร้งทำหลุดปล่อยหลักฐานว่าตัวเองคือเื้ันายทุนซื้อชุดนักเรียน
นะ… นายซื้อชุดนักเรียนให้ฉันงั้นเหรอ ทำไมล่ะ… (o///O) !
ยัยบ้าเอ๊ย! นี่ยังดูไม่ออกอีกเหรอ นั่นก็เป็เพราะฉันชอบเธอไงล่ะ (-*-)
แผนนี้ของท่านจอมมารช่างไร้ที่ติ การมีน้องชายเป็นักเขียนในโลกโอเมก้าเวิร์สนับไม่สูญเปล่า
“อิงอิง”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น พร้อมกับแผ่นอกแกร่งของใครสักคนมายืนซ้อนหลังไฮยาซินท์ เขาหันไป สิ่งแรกที่ปะทะกับสายตาคือปลายจมูกของคนผู้หนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงได้สบกับั์ตาสีฟ้าใสกระจ่างของคนเรียก
“ซื้อชุดให้ใคร” หยางหลิ่งซือหลุบตามองถุงกระดาษที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์
ไฮยาซินท์เมินไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขาเพียงแค่หันกลับไปกำชับพนักงานเป็ครั้งสุดท้ายแล้วหมุนตัวเดินออกมานอกร้าน
“เด็กทุน?” หยางหลิ่งซือสาวเท้าเดินตามไล่หลังมา “นายไม่ชอบหมอนั่นไม่ใช่หรือไง
“อย่างที่นายเคยบอกมันเป็การแกล้งไร้สาระแบบเด็ก ๆ นี่” ไฮยาซินท์หยุดฝีเท้า ยอมหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตัดรำคาญ “พวกเราทำกับเด็กทุนนั่นเกินไปจริง ๆ ฉันก็เลยอยากชดเชยให้”
หยางหลิ่งซือคล้ายจะไม่พอใจในคำตอบนั้นนักจึงขมวดคิ้วมุ่น ทว่าโชคดีที่ครั้งนี้ไม่ได้เดินตามไฮยาซินท์มา
ท่านจอมมารเดินออกมาจากสหกรณ์ได้ไกลพอสมควรแล้วก็นึกลังเลว่าจะกลับไปดูผลงานตนเองดีหรือไม่ ในนิยายไม่ได้มีการระบุวันที่แน่นอนเพียงแค่บรรยายว่ามีครั้งหนึ่งที่ชุดนักเรียนของหยางเจี๋ยเปรอะเปื้อนจากการกลั่นแกล้ง ในวันถัดมาตัวเอกฝ่ายรับจึงไปดูชุดที่สหกรณ์แล้วก็ได้พบราคาที่ตนไม่อาจเอื้อม
หากเป็ไปตามเนื้อหา เมื่อวานโดนกลั่นแกล้ง วันนี้ก็ต้องมาดูชุดนักเรียน
ขณะกำลังลังเล ระบบ 666 เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วน
[ดูเหมือนว่าแผนการชนะใจคนงามด้วยชุดนักเรียนจะล่มเสียแล้ว]
หืม?
[หยางหลิ่งซือ… ตอนนี้ไอ้หมอนั่นเอาความดีความชอบเื่ชุดนักเรียนของท่านจอมมารไปแล้ว]
หา!?!
ท่านจอมมารตาเหลือก คราวนี้ไม่ลังเลอีกต่อไปแต่เลือกสาวเท้าไว ๆ เดินกลับไปยังทิศทางสหกรณ์ ร้านค้าแห่งนี้เป็แบบกระจกใสรอบด้าน ดังนั้นไฮยาซินท์จึงสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านแต่ไกล
ภาพบาดตาไม่พอ ระบบ 666 ยังช่วยเล่าเื่ั้แ่ต้นราวกับกลัวจอมมารของตนไม่ได้รับอรรถรสอย่างเต็มที่
ตอนที่หยางเจี๋ยมาถึงสหกรณ์เพื่อดูราคาชุดนักเรียนก็ต้องเป็อันตกตะลึง จู่ ๆ พนักงานของร้านหยิบถุงกระดาษหนึ่งยื่นมาให้ ด้านในมีชุดนักเรียนและชุดกีฬาจำนวนหนึ่ง พนักงานเอ่ยพูดอย่างนอบน้อมว่านี่เป็สิทธิ์ที่โรงเรียนมอบให้แก่นักเรียนทุน
นี่เป็ครั้งแรกในโรงเรียนที่หยางเจี๋ยถูกปฏิบัติด้วยความสุภาพ และยังสุภาพจนเกินความจำเป็ ดวงตาสีอำพันกลมโตกวาดมองไปทั่วร้านแล้วจึงสะดุดตากับชายหนุ่มผมบลอนด์ทองที่กำลังยืนมองเขาด้วยสายตาราบเรียบอยู่นอกร้าน
หยางหลิ่งซือทำท่าจะเดินจากไป หยางเจี๋ยจึงรีบกระหืดกระหอบไปขวางหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยถามว่าเหตุใดจึงซื้อชุดนักเรียนให้ตน
ในทีแรกหยางหลิ่งซือจะเอ่ยปฏิเสธ แต่ก็เปลี่ยนใจ เลือกตอบด้วยเหตุผลอย่างการสงเคราะห์คนยากไร้ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าจากไป ทิ้งหยางเจี๋ยให้นิ่งอึ้งกับความปรารถนาดีนั้น
ไอ้บัดซบ!!!
ไอ้ชาติหมาสารเลว โลกที่แล้วก็เป็สามีชั่วช้าทำร้ายข้าจนแท้งแถมยังนอกใจ โลกนี้ยังเป็เพื่อนจอมทรยศหักหลัง เอาผลงานชาวบ้านไปอย่างหน้าด้าน ๆ รอข้ากลับธานาทอสมันจะต้องไม่ตายดี!
[ท่านจอมมารใจเย็น ๆ ก่อน อย่าเอาเื่งานไปปนกับเื่ส่วนตัวเลย มันเป็เพียงบทบาทในแฟนฟิกชั่นเท่านั้น อีกอย่างนี่ก็เป็บทตามเดิมที่ควรเป็ คนซื้อชุดนักเรียนควรเป็หยางหลิ่งซือแต่ท่านจอมมารดันไปขโมยบทบาทเขานะ! (>O<) ]
หุบปาก!
[แล้วสถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้เซฟิรอสก็ตายแล้วจริง ๆ โฮสต์คงไม่สามารถทำให้คนตายแล้วกลับมาตายได้อีกครั้งหรอกนะ]
“...”
[ดะ… ดังนั้นตั้งใจทำภารกิจแล้วย้อนเวลากลับไป โฮสต์จะได้สามารถย้อนกลับไป ทำให้เซฟิรอสตายได้ด้วยน้ำมือท่านไง!]
ทว่าคำปลอบใจประโยคสุดท้ายไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว เพราะท่านจอมมารมีท่าทีเซื่องซึมลงไปถนัดตา
ข้อเท็จจริงที่ว่าตอนนี้ลูกน้องคนสนิทได้กลายสภาพเป็ปุ๋ยให้แก่ผืนดินเรียบร้อยทำให้ท่านจอมมารได้สติ การโกรธเคืองต่อตัวละครที่นอกจากหน้าแล้วก็ไม่มีสิ่งใดคล้ายคลึงกับคนรู้จักไม่มีประโยชน์อะไร ไฮยาซินท์ควรตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำภารกิจต่อ จากนั้นก็ย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ไม่ใช่แค่ของตน แต่ยังหมายถึงลูกน้อง ประชาชนชาวธานาทอสให้กลับสู่ความปกติสุข
ไม่มีการเข่นฆ่า ไม่มีา ไม่มีกลิ่นคาวเื
วันนี้ระหว่างคาบเรียน ไฮยาซินท์เห็นเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปพูดส่อเสียดบางอย่างกับหยางเจี๋ย ในฐานะบทบาทพระเอกชายโฉด ปากไม่ตรงกับใจเขาจึงตัดสินใจถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้า เอ่ยปากไล่เ้าของโต๊ะออกไป
“หยางเจี๋ยมานั่งนี่”
ใบหน้าหล่อเหลาราบเรียบไร้อารมณ์ ทั้งที่ดวงตาสีแดงก่ำกำลังจับจ้องไปที่หยางเจี๋ยผู้เดียว ทว่าเหล่าคนในห้องต่างขนลุกซู่ราวกับตัวเองกำลังถูกสายตาาาของโลกเฝ้ากดดันอยู่
หยางเจี๋ยมีท่าทีอึดอัดคล้ายอยากจะปฏิเสธ แต่เพราะถูกเพื่อนร่วมห้องมองกดดันตนเองจึงต้องยอมย้ายข้าวของลุกขึ้นไปยังโต๊ะตัวดังกล่าว
ไฮยาซินท์มองตัวเอกที่ว่าง่ายจึงค่อยอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย จัดการหยิบกระดาษจิ๋วใบหนึ่งขึ้นมาแล้วจัดการแปะที่หลังของหยางเจี๋ยรุนแรงเสียงดังปั๊ก!
[ผมบอกท่านจอมมารแล้วไงว่าห้ามทำร้ายตัวเอก!]
“โอ๊ย! นี่นาย” หยางเจี๋ยหันขวับมาถลึงตาใส่เขา
“เลิกโวยวายสักที หันไปตั้งใจเรียน”
ทำร้ายร่างกายเสียที่ไหน ข้ากำลังกระทำเป็ชายโรแมนติกที่ปากไม่ตรงกับใจ
หยางเจี๋ยฟึดฟัดหันหน้ากลับไปมองกระดาน จึงทำให้เห็นแผ่นหลังที่เวลานี้มีกระดาษจิ๋วขนาดเล็กกว่าฝ่ามือติดอยู่ที่แผ่นหลัง
‘ของเสวี่ยอิง’
[เด็กน้อยมาก… อะแฮ่ม! ช่างปราดเปรื่องอย่างไม่มีใครเกิน! นี่คือสิ่งที่ท่านจอมมารได้จากการนั่งดูซีรีส์รักโรแมนติกครึ่งค่อนคืนสินะ]
โพสต์อิตแผ่นนั้นติดตัวกับหยางเจี๋ยไปตลอดทั้งคาบเช้าจนถึงเที่ยง กว่าที่จะรู้ตัวก็เป็ยามบ่ายที่ต้องเปลี่ยนชุดเรียนพละ ตอนที่คนตัวเล็กเห็นกระดาษแผ่นนั้นปลิวตกลงมาจากเสื้อตัวเองก็เป็อันหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย แม้จะน่าเสียดายที่ไม่ได้หัวเราะออกมาตามสิ่งที่ภารกิจรองให้ทำ แต่ท่านจอมมารไม่ได้คาดหวังว่าการกระทำง่าย ๆ เช่นนี้จะทำให้ภารกิจสำเร็จ
ทว่าท่านจอมมารคงไม่คาดคิด ว่าการกระทำดังกล่าวนอกจากจะไม่ได้ทำให้ภารกิจสำเร็จ ยังทำให้มีเื่ใหญ่เกิดขึ้น
คาบบ่ายชั้นเรียนของไฮยาซินท์ออกมาเรียนที่โรงยิม ระหว่างกำลังนั่งเท้าคางกวาดสายตามองหาหยางเจี๋ย เพื่อจะได้เรียกอีกฝ่ายมากลั่นแกล้ง ตอนนั้นพลันมีเสียงดังโครมครามจากห้องเก็บอุปกรณ์ภายในโรงยิม
ทุกคนพากันเดินไปมุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เมื่อกลุ่มจตุรมารปรากฏตัว ฝูงชนจึงพากันแหวกทางตรงกลาง
ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ อันซูฮวากำลังนั่งล้มพับไปกับพื้น มีเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนกำลังประคองร่างอันปวกเปียกของเธอไว้ บริเวณหัวเข่าขาวผ่องปรากฏรอยถลอกเืซิบ ั์ตาถูกม่านน้ำตาจาง ๆ ปกคลุมขณะเงยหน้ามองคนที่ยืนเผชิญหน้ากับตนเอง
คู่กรณีคือตัวเอกฝ่ายรับของโลก หยางเจี๋ยกึ่งนั่งกึ่งยืนพิงกับชั้นวางของ จ้องมองอันซูฮวาด้วยสายตาสั่นระริก ท่าทางอ่อนแรงไม่ได้ต่างไปจากกัน
“ซูฮวาเป็อะไรมากหรือเปล่า าเ็ตรงไหนมั้ย” เพื่อนสาวคนหนึ่ง เอ่ยถามอันซูฮวา
“มะ… ไม่เป็ไร มันเป็แค่อุบัติเหตุ” อันซูฮวาเอ่ยด้วยท่าทางขลาดกลัว แล้วเมื่อสายตาของเธอเหลือบไปเห็นชายหนุ่มผมสีเงินที่กำลังยืนมองเหตุการณ์ด้วยสายตาราบเรียบ ใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็ตื่นตระหนก “อิงอิง! นายอย่ากล่าวโทษอะไรหยางเจี๋ยเลยนะ มันเป็เื่เข้าใจผิด พวกเราแค่มีปากเสียง จากนั้นหยางเจี๋ยคงโมโหมากก็เลยเผลอผลักฉันล้มนิดหน่อยน่ะ”
“...” ยังไม่ได้ถามสักคำ
“อุบัติเหตุอะไรกัน! ฉันได้ยินเด็กทุนนั่นถามซูฮวาว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับเสวี่ยอิง แล้วพอซูฮวาบอกว่าเป็เพียงเพื่อนกัน หมอนี่กลับด่าซูฮวาว่าตอแหล คาดคั้นเื่ที่เธอได้เรียกชื่อเล่นอิงอิง พอซูฮวาอึกอักที่จะตอบก็กระชากซูฮวาแรง ๆ ใช้กำลังกับเธอ จนทำเธอาเ็แบบนี้”
[โอ้วว้าว]
โอ้วว้าว
หนึ่งโฮสต์ หนึ่งระบบต่างพร้อมใจกันอุทานโดยไม่ได้นัดหมาย
ความรู้สึกของการเป็ผู้ชมฉากละครดราม่ามันเป็เฉกเช่นนี้เอง ท่านจอมมารกระจ่างแล้วว่าเหตุใดในแฟนฟิกชั่นเื่ก่อน ทุกครั้งที่เกิดเื่จะต้องเป็งานเลี้ยง หากไปแอบทะเลาะกันที่บ้าน ใครเล่าจะมาเป็ผู้ชม
พอไม่ได้เป็ตัวละครในฉาก มันก็รื่นเริงเช่นนี้
“ทำไมซูฮวาผมยุ่งขนาดนี้ล่ะ เด็กทุนนั่นไม่ได้จิกหัวเธอด้วยใช่มั้ย”
“มะ… มันไม่ใช่เื่ใหญ่ขนาดนั้นหรอก” อันซูฮวาเอ่ยเสียงเบาหวิว ก้มหน้าลงเล็กน้อย เส้นผมบางส่วนตกลงตามแรงโน้มถ่วงปกคลุมใบหน้าของเธอจนเกิดเป็เงามืด ไหล่บอบบางสั่นเทิ้ม เป็ภาพที่ชวนน่าสงสารจับใจ
“พวกเธอนั่นแหละโกหก!” ไฮยาซินท์หันหน้าไปทางขวา หยางเจี๋ยกำลังรีบร้อนแก้ตัว “อันซูฮวาต่างหากที่จู่ ๆ มาถามฉันว่าเป็อะไรกับเสวี่ยอิง แล้วจู่ ๆ เธอก็กรี๊ดออกมา แล้วก็ทำร้ายตัวเอง”
“ซูฮวาเนี่ยนะจะทำร้ายตัวเอง?” คราวนี้ไฮยาซินท์หันหน้าไปทางซ้าย จ้องมองตัวประกอบสาวกำลังทำสีหน้าเย้ยหยัน “เขาจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน มีแต่นายนั่นแหละที่คงอิจฉาซูฮวาที่มีทุกอย่าง แค่เสวี่ยอิงให้ความสนใจนิดหน่อยก็ชูคอ ทำผยองคิดว่าตัวเองเป็คนพิเศษ อย่าสำคัญตัวให้มาก เธอมันก็เป็เพียงแค่คนนอกเท่านั้น”
[ว้าว ละครน้ำเน่าเองก็มีเสน่ห์แบบละครน้ำเน่า] ระบบ 666 วิจารณ์
หลังจากได้ยินเื่เล่าจากปากของเพื่อนสนิทอันซูฮวา ปฏิกิริยาของเหล่าฝูงชนรอบ ๆ ก็เกิดเป็เสียงฮือฮากระซิบกระซาบ ถ้อยคำตำหนิด่าทอรวมถึงเหยียดหยามหยางเจี๋ยดังระงม
โรงเรียนเอกชนซีฮัน เป็โรงเรียนที่มีระดับชั้นั้แ่ปฐมศึกษาจนถึงมัธยมปลาย โรงเรียนที่ใช้ระบบอุปถัมภ์ เข้าเรียนมาเพื่อหาเส้นสาย ส่วนใหญ่แล้วจึงเริ่มเรียนกันั้แ่มัธยมต้น นักเรียนแต่ละคนจะได้อยู่ห้องเรียนเดิม เพื่อนร่วมชั้นเดิมไปตลอดจบ 6 ปี จึงทำให้เหล่านักเรียนแต่ละห้องสนิทสนมกันเป็อย่างดี การสับเปลี่ยนห้องหรือมีคนแปลกหน้ามาเพิ่มมักเกิดขึ้นได้น้อยมาก
และหยางเจี๋ยก็คือคนแปลกหน้าคนใหม่คนนั้นที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามา แถมยังเป็การเพิ่มมากะทันหันตอนมัธยมปลายปี 2 เทอม 2
ต่อให้มองเห็นเพียงแค่ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าโดยไม่ได้นั่งฟังเื่เล่าใด ทุกคนก็พร้อมใจที่จะเชื่อ ‘พวกเดียวกัน’ อยู่แล้ว
“พวกเธอจะกลั่นแกล้งฉันไปถึงไหน แค่นี้ยังไม่พอใจหรือไง ทำไมต้องมาพูดแบบนี้กับฉัน!” ไฮยาซินท์หันขวับกลับไปมองหยางเจี๋ย สีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความเ็ป ความอัดอั้นตันใจ และความรู้สึกไม่ยุติธรรม “เอาสิ ฉันพูดอะไรไปพวกเธอก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว!”
“เสวี่ยอิง เด็กทุนนี่มาทำร้ายซูฮวาเพราะคิดว่านายให้ความสำคัญ ถ้าไม่เห็นแก่พวกเรา อย่างน้อยก็เห็นแก่ซูฮวาที่เป็เพื่อนนายมาั้แ่เด็กเถอะ เธอาเ็ขนาดนี้ยังจะปล่อยเด็กทุนนี่ไปเฉย ๆ เหรอ” ตัวประกอบเพื่อนสนิทซูฮวาจู่ ๆ ก็เบนสนทนาพุ่งตรงมาทางเขา
เพียงเท่านั้นทุกความสนใจของคนรอบ ๆ ก็เปลี่ยนมาทางไฮยาซินท์ทันที สีหน้าตั้งใจฟังราวกับเหล่าสาวกที่กำลังรอคำประกาศิตจากพระเ้า
แล้วหน้าตาจ้าวเสวี่ยอิงนี่มันเหมือนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หรือ!?! เหตุใดต้องมาโยนให้ข้าเป็คนจัดการ
[ก็โฮสต์เป็ตัวเอกของโลกนี่อย่างไรล่ะ]
ขณะที่นึกจะถอดเสื้อคลุมขนสัตว์ออกมาโยนกลางอากาศเพื่อให้คนพวกนี้วงแตกอีกครั้ง ตอนนั้นทางหางตาก็เห็นชายร่างสูงคนหนึ่งเดินตรงไปทางหยางเจี๋ย ทรุดตัวลงข้าง ๆ ทำท่าจะประคองคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น
“หลิ่งซือ!” ตัวประกอบหญิงคนเดิมถลึงตามองพระรองของเื่อย่างไม่อยากจะเชื่อ
“อย่างไรเื่ก็จบแล้ว สมควรแยกย้ายได้แล้วนี่” หยางหลิ่งซือเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนปรายตามาทางไฮยาซินท์ “อีกอย่างซูฮวาคงมีคนอยากช่วยแล้ว”
ไอ้เวรนี่มันจะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย สรุปแล้วตกลงอยากเป็ศัตรูหัวใจกับข้ามากสิ!?!
[อันที่จริงตามบทละครเดิม หยางหลิ่งซือมีความรู้สึกดี ๆ ต่อหยางเจี๋ยก่อนด้วยซ้ำ ถ้านับตามหลักการจริง ๆ จ้าวเสวี่ยอิงที่มาทีหลังนับว่าเป็ฝ่ายตั้งตัวเป็ศัตรูความรักกับหยางหลิ่งซือมากกว่า] ระบบ 666 กระแอมไอ
หุบปาก
ท่านจอมมารคิ้วกระตุก เ้าระบบ 666 จากที่เข้าข้างตนเป็มั่นเป็เหมาะ คอยหาเื่มาสรรเสริญ ตอนนี้มันกลับเปลี่ยนไปเข้าข้างคนอื่นเนี่ยนะ!
[…] ระบบ 666 สับสน พอโลกก่อนอวยเฉย ๆ ท่านจอมมารก็สั่งให้หุบปาก พอมาโลกนี้พูดตามข้อเท็จจริงก็ยังถูกสั่งให้หุบปากอีก
“เสวี่ยอิง นายต้องมอบความยุติธรรมให้กับพวกเรานะ ขืนปล่อยเด็กทุนที่ไม่ได้รับการสั่งสอนนี่ไป วันหลังเกิดมันคลุ้มคลั่งทำร้ายพวกเราอีกจะทำอย่างไร”
“จะปล่อยเด็กทุนนี่ไปไม่ได้นะ”
“เสวี่ยอิง”
“อิงอิงจะเอาอย่างไรดี”
“อิงอิง”
แม้แต่เพื่อนในกลุ่มจตุรมารที่เหลืออย่างฟางเสี่ยวิ และจางหนิงเหอก็เข้ามารุมกดดันเขา
ไฮยาซินท์ยกมือขึ้นกุมขมับ อันที่จริงเหตุการณ์นี้เคยมีเล่าในเนื้อหาแฟนฟิกชั่นซึ่งจะเป็เื่ที่เกิดขึ้นในอีกหลายเดือนข้างหน้า หากเวลาตรงตามต้นฉบับ ไฮยาซินท์คงไม่ลังเลที่จะเข้าข้างหยางเจี๋ยเนื่องจากตอนนั้นพวกเขาน่าจะเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว
[นั่นเป็เพราะท่าทีของท่านจอมมารที่จู่ ๆ ก็แสดงความสนใจต่อหยางเจี๋ยอย่างรวดเร็ว ความริษยาของอันซูฮวาก่อตัวอย่างรวดเร็วตามเช่นกัน]
บัดซบ…
ไฮยาซินท์รู้ว่าเื่ของอันซูฮวาย่อมเป็เื่ปั้นแต่ง ทว่าสถานการณ์ตอนนี้หากเขาเข้าข้างหยางเจี๋ยจะเกิดอะไรขึ้น แปลกประหลาดในสายตาผู้อื่น รวมถึงจะทำให้อันซูฮวายิ่งสติแตก ดำเนินตามแผนลักพาตัวหยางเจี๋ยพรุ่งนี้เลยหรือเปล่า…
ท่านจอมมารปวดหัวตุบตับ ความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัว
“อิงอิง”
“เสวี่ยอิง”
“ช่วยซูฮวาด้วยนะ”
จ้าวเสวี่ยอิงค่อย ๆ ลดมือที่กุมขมับลง ั์ตาสีแดงทับทิมปรากฏประกายระยิบระยับงดงามจับใจยามต้องกับแสงไฟของห้อง สีหน้าของอีกฝ่ายจากเคร่งเครียดเปลี่ยนเป็นุ่มนวล เห็นได้ชัดว่าเ้าตัวคงคิดได้แล้ว
ผู้คนรอบ ๆ กลืนน้ำลาย อดไม่ได้ที่จะใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กับการตัดสินใจของชายผู้ที่อยู่เหนือสุดบนห่วงโซ่อาหาร
แล้วในตอนนั้นจ้าวเสวี่ยอิงก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจ้องมองเพดานห้องเก็บของ
“...”
แม้จะงุนงง แต่ทุกคนก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังจุดที่สายตาของจ้าวเสวี่ยอิงหยุดค้างไว้
ระหว่างหยางเจี๋ยกับอันซูฮวา เอาเป็ว่าพวกเ้าไม่ต้องเลือกว่าจะช่วยใคร
มาเลือกช่วยข้าดีกว่า
คร่อก…
ตึง!
ทุกคนหันหน้ากลับมาทางต้นเสียง แล้วก็แทบใจนสิ้นสติเมื่อภาพที่เห็นคือจ้าวเสวี่ยอิงซึ่งยืนอยู่เมื่อครู่เป็ลมล้มพับไปที่พื้นเรียบร้อย
“อิงอิง!”
“เสวี่ยอิง!”
และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ถูกคลี่คลายในบัดดล ทุกคนลืมเลือนเื่การทะเลาะเบาะแว้ง หันไปช่วยชีวิตจ้าวเสวี่ยอิง ทายาทเพียงคนเดียวของสกุลจ้าว สกุลที่ยิ่งใหญ่ชนิดเปลี่ยนแปลงประเทศต้าลู่ได้เพียงพลิกฝ่ามือ
#จุดจบของวายร้ายคือต้องกลายเป็นายเอกนิยายแฟนฟิก