“ไอ้หนู แกออกมาเลยนะ ฉันจะจัดการแกให้ก่อนค่อยไปดูเป่ยเฟิงถ้าเป่ยเฟิงเป็อะไรขึ้นมาแกก็ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วล่ะ” หนิวเหมิ่งพูดพลางลากกัวไฮว่ด้วยความรุนแรง กัวไฮว่ลุกขึ้นแล้วบินออกไป
“ที่แท้ก็เป็พวกฝึกวิชา แบบนี้สิถึงจะสนุกคนอื่นจะได้ไม่หาว่าหนิวเหมิ่งรังแกคน” หนิวเหมิ่งพูดพลางตั้งท่ามวยแปดสุดยอด
“เ้าอ้วน เร็วเข้าสิ เดี๋ยวพี่โม่ตื่นแล้วฉันอัดนายไม่ได้นะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ปากดีนักนะ เอาหมัดไปกินซะเถอะ” หนิวเหมิ่งพูดพลางมุ่งโจมตีไปทางกัวไฮว่พวกผู้เชี่ยวชาญแค่ลงมือก็รู้แล้วว่ามีของหรือเปล่าหนิวเหมิ่งมีความสามารถที่ไม่เลวไม่แปลกที่ตอนนั้นหลี่เย่าบอกกับกัวไฮว่ว่าอีกนิดเดียวเขาก็จะแพ้ตอนประลองอาวุธแล้ว
ทว่าคู่ต่อสู้ของหนิวเหมิ่งคือกัวไฮว่ แม้ร่างกายจะต่างกันมากทว่าเมื่อพูดถึงฝีมือแล้วหนิ่วเหมิ่งจะไปเทียบกับเ้าปีศาจที่มีชีวิตมาไม่รู้ตั้งกี่ปีอย่างเทพแห่งจิตได้อย่างไร
“ไม่แย่เลยๆ ท่อนล่างนิ่ง พลังมีพอ แต่ว่าเทคนิคยังไม่ดีพอ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ เขาโจมตีหนิวเหมิ่งไปสิบกว่าท่า ทว่ากัวไฮว่ไม่เปลืองแรงเลย
“เด็กนี่แปลกมากเลย เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าต่อยโดนตัวเขาแต่เขาก็ไม่เป็อะไรเลยสักนิด สุดยอดไปเลย แม่มันเถอะคราวนี้เจอศัตรูตัวฉกาจแล้วไง” หนิวเหมิ่งลอบคิดในใจแต่ก็ไม่ได้จะเอามือลง แล้วก็ต่อยไปทางกัวไฮว่ทีละท่าๆ
“เหนื่อยแล้วละสิ ให้ฉันสอนมวยแปดสุดยอดให้แกหน่อยไหม เฮ้อลูกศิษย์ของเซียวอวิ๋นเทียน ถือว่าช่วยเขาสอนลูกศิษย์แล้วกัน” กัวไฮว่พูดพลางต่อยไปทางหนิวเหมิ่งในท่าทางเดียวกัน
“แย่แล้ว” เพียงแค่ท่าเดียวดูเหมือนจะไม่ได้รุนแรงอะไร ทว่าเมื่อโดนเข้าตัวหนิวเหมิ่ง หนิวเหมิ่งก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลระลอกหนึ่งจึงะโร้องออกมาเสียงดัง
“เ้าตัวใหญ่ เข้าใจแล้วหรือยัง” กัวไฮว่ถามอย่างยิ้มแย้ม
“มาอีก” หนิวเหมิ่งพูดต่อราวกับมีแผนอะไรครั้งนี้เขาไม่กล้าต่อกรกับกัวไฮว่แล้ว จึงทำได้เพียงตั้งท่าป้องกัน
“แก่นของมวยแปดสุดยอด พังราวูเาล้ม พังราวสึนามิ พังราวพยัคฆาดูไว้ให้ดีนะ” ในขณะที่พูด เท้าของกัวไฮว่ก็ขยับช้าๆหนิวเหมิ่งมองกัวไฮว่ตาไม่กระพริบ จากนั้นพลังงานมหาศาลระลอกหนึ่งก็พาหนิวเหมิ่งลอยออกไป
“แค่กๆๆ แกเป็ใครกันแน่ มวยแปดสุดยอดของแกนี่สุดยอดกว่าของอาจารย์ฉันอีกฉันนับถือแล้ว” หนิวเหมิ่งถอนหายลวกๆที่กัวไฮว่โจมตีไปเมื่อสักครู่ทำให้ลึกๆ เขารู้สึกได้ถึงอันตรยาถึงตายถ้าหากไม่ใช่เพราะตอนสุดท้ายกัวไฮว่โจมตีเข้าที่อื่นเขาไม่ตายก็คงต้องาเ็อย่างหนัก คนที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้หนิวเหมิ่งหาเื่ด้วยไม่ได้ จำต้องยอมแพ้
“ฮ่าๆ พี่หนิว ผิดไปแล้ว แต่ก็จะมาโทษผมไม่ได้นะ คุณลงมือเองก่อนต่างหาก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆเขามีความประทับใจที่ไม่เลวนักต่อเ้าอ้วนผู้ซื่อตรงที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้
“เธอรู้จักฉันเหรอ งั้นเป่ยเฟิงก็ไม่เป็อะไรสิ” หนิวเหมิ่งถามขึ้นเบาๆ
“พี่ใหญ่ผมคือหลี่เย่าเมื่อก่อนเขาเคยพูดถึงพี่น่ะว่าถ้ามาหาพี่เหนิวที่เมืองหลวงพี่หนิวจะหาผู้หญิงสวยๆ มาให้ นี่ผู้หญิงก็ไม่ได้ อีกนิดก็จะโดนพี่หนิวอัดซะแล้วเดี๋ยวต้องชดเชยให้ผมหน่อยไหม” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เธอคือน้องชายของหลี่เย่า สี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิงเหรอ เธอคือเจี่ยหยวนไม่ใช่สิ เจี่ยหยวนเขาอ้วน ฉันรู้ว่าหวังเซิงก็เป็ไปไม่ได้ฉันเคยเห็นหมอนั่นเมื่อหลายวันก่อน กัวไฮว่เหรอ ก็เป็ไปไม่ได้อีกหลี่เย่าเคยบอกแล้วว่าน้องสี่ของเขาเป็เด็กน้อยนอกจากกินดื่มพนันเที่ยวผู้หญิงก็ทำอย่างอื่นอะไรไม่เป็เลย หรือว่าจะรับน้องชายคนใหม่แล้ว” หนิวเหมิ่งพูดพึมพำเบาๆ
“พี่หนิว หลี่เย่าพูดอย่างนั้นจริงๆ เหรองั้นรอให้ผมกลับไปต้องคุยกับพี่เย่าดีๆ หน่อยแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “พี่หนิว รู้จักกันหน่อยสิ ผมคือกัวไฮว่”
“เธอคือกัวไฮว่เหรอ ไอ้หนู พี่เคยเรียนประถมมาแล้วนะ เธออย่ามาหลอกฉันกันสิ” หนิวเหมิ่งพูดอย่างยากจะเชื่อหมอนี่ไม่เหมือนกับเ้าสี่เมืองอู่เฉิงที่หลี่เย่าเคยพูดไว้โดยสิ้นเชิง ทั้งออร่าทั้งรูปลักษณ์ ทั้งความสามารถ แม่มันเถอะจะเป็ไอ้เด็กตัวอสรพิษกินดื่มพนันเที่ยวผู้หญิงได้อย่างไรกัน
“น้องไฮว่ๆ ฉันบรรลุแล้ว ฉันบรรลุแล้วจริงๆ เธอบอกมาเลยว่าเธออยากได้อะไรถ้าอยากได้ห้องทำงานฉันเดี๋ยวฉันจะย้ายของฉันออกไปให้หมดเลย ให้ว่างเลยชั้นบนสุดฉันยกให้เธอหมดเลย” ในขณะที่หนิวเหมิ่งกับกัวไฮว่คุยกันอยู่นั่นเองโม่เป่ยเฟิงก็ตื่นมาจากนั่งสมาธิ เซียนเทียนระยะแรก เพราะโม่เป่ยเฟิงกินยาที่กัวไฮว่ให้ทำให้บรรลุเขตแดนโฮ่วเทียนกลายเป็ยอดฝีมือเซียนเทียน
โฮ่วเทียนกับเซียนเทียนต่างกันมากหากไม่มีอุบัติเหตุอะไรยอดฝีมือโฮ่วเทียนสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบปียอดฝีมือเซียนเทียนอยู่ได้เกินสองร้อยปี เต็มที่ห้าสิบปี
“เป่ยเฟิง พี่ไม่เป็ไรใช่ไหม ผมใแทบแย่เด็กนี่บอกว่าเขาเป็น้องสี่ของหลี่เย่า จริงหรือเปล่า” หนิวเหมิ่งถามเบาๆ
“เป็น้องสี่ของหลี่เย่าจริงๆ เหมิ่งจื่อ เราไปฝึกฝนกันเถอะดูหน่อยว่าฉันชนะแกได้หรือเปล่า” เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆเมื่อก่อนเขาเคยต่อสู้กับหนิวเหมิ่งอยู่บ้าง สู้หนิวเหมิ่งทุกครั้งก็แพ้ทุกครั้งแต่ก็มีใจสู้ ทว่าหากเป็คนอื่นๆ ในวงการละก็ไม่ใช่แบบนี้แน่ เป่ยเฟิงแกมันบ้าหรือเปล่า สู้คนอื่นไม่ได้ยังจะไปเข้าใกล้เขาอีก
“เฮอะๆ พี่เป่ยเฟิง พูดตามจริงนะเมื่อกี้ผมโดนอัดมา อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ถ้าพี่อยากฝึกเป็เพื่อนผม งั้นเราก็มาลองกันหน่อย” ในขณะที่พูดหนิวเหมิ่งก็ลุกขึ้นมารอให้โม่เป่ยเฟิงโจมตี
“เหมิ่งจื่อ ในเมื่อแกอยากให้ฉันทำ ฉันก็จะโจมตีละนะ” ในขณะที่พูดโม่เป่ยเฟิงก็ทำท่าฝ่ามือแปดทิศ ในขณะนั้นเองหนิวเหมิ่งก็เบิกตาโพล่ง ให้ตายสิ ทำไมเหล่าโม่ถึงได้เก่งขนาดนี้เนี่ยคราวนี้ได้จบเห่แน่
“ปึง!” โม่เป่ยเฟิงไม่ได้มีความสามารถขนาดกัวไฮว่ทว่าก็ทำออกมาได้ดี กำหมัดนึงเขาใช้แรงไปแปดส่วนทำเอาหนิวเหมิ่งบินลอยออกไปก้นกระแทกพื้น
“แค่กๆ เหล่าโม่ แกเป็เขตแดนเซียนเทียนั้แ่เมื่อไหร่เนี่ย แม่มันสิฉันไปแล้ว วันนี้ซวยจริงๆ” หนิวเหมิ่งพูดด้วยสีหน้าแดงเถือกเตรียมจะออกไป
“เหมิ่งจื่อ ฉันรับประกันเลยนะว่าถ้าครั้งนี้แกไปสามวันหลังจากนี้แกจะเสียใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ไว้ถึงตอนนั้นแกก็อย่าหาว่าฉันไม่บอกแกแล้วกัน” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ
“เฮอะๆ วันนี้ไปไม่ได้ งานประมูลของแกในครั้งนี้ได้ของดีๆอะไรมาอีกแล้วเหรอ เมื่อไม่นานมานี้ฉันเห็นใบโฆษณาของพวกแกแล้วล่ะหรือว่าพวกแกเอายาลูกกลอนแบบในงานประมูลเมืองอู่เฉิงมาได้จริงๆ” หนิวเหมิ่งหรี่ตาพูด
“ฮ่าๆ เหมิ่งจื่อ สมแล้วกับเ้าอ้วนแห่งเมืองหลวง ฮ่าๆ” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ “เข้ามาเถอะวันนี้พี่ยังมีของดีอีก”
“กลิ่นหอมของเหล้า เป่ยเฟิง ฉันไม่้าอย่างอื่นหรอกนะ เหล้าฉันนึกออกแล้ว ในใบโฆษณาของพวกเธอเขียนเอาไว้ว่ามีเหล้ารสเลิศสามสิบจินฉันไม่เอาเยอะหรอก สักสิบจิน ไว้ฉันจ่ายราคาที่พวกเธอประมูลออกไป” หนิวเหมิ่งพูดเสียงดังเขาเพิ่งจะเข้าไปในห้องก็ได้กลิ่นหอมของเหล้าที่โม่เป่ยเฟิงทิ้งเอาไว้
“เหล้านี่ให้แกกินได้คำนึงห้างประมูลหัวซย่าบอกว่าสามสิบจินก็ต้องสามสิบจิน ถ้าให้แกไปก่อนประมูลความน่าเชื่อถือของห้างประมูลเราได้ป่นปี้แน่ ถ้าอยากกินจริงๆ ก็ไปประมูลเอาแต่ถ้าอยากกินสบายๆ แต่มีแค่ไม่กี่ร้อยล้านก็อย่าไปเลยจะดีกว่า” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ
“ไม่เ้าเล่ห์ขี้โกง ไม่เป็พ่อค้าจริงๆแค่เหล้านี่แกกล้าบอกว่าหลายร้อยล้านเลยเหรอ ฉันให้ได้มากที่สุดก็สิบล้านเป่ยเฟิงแกหลอกฉันแบบนี้ไม่สนุกเอาซะเลย”
“แล้วแต่แกจะว่ายังไงเถอะ แต่ว่ายังมีอีกวิธีนึงเหล้านี่น้องไฮว่เป็คนให้มา น้องเขาน่าจะยังมีอีก แกไปซื้อจากเขาเป็การส่วนตัวสิ” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ “แต่ว่าจะคิดเงินยังไงพวกเธอสองคนก็คุยกันเอาเองเถอะนะ” โม่เฟ่ยเฟิงรู้ว่ากัวไฮว่เตรียมจะถือโอกาสงานประมูลในครั้งนี้เพื่อสานสัมพันธ์ในเมืองหลวงส่วนเพื่อนเขาคนนี้ก็ไม่เลวในแทบทุกด้าน ผูกสัมพันธ์ให้พวกเธอหน่อยดีกว่า