ตอนที่ 3
ผ่านไปเกือบชั่วโมงไอ้หมอก็เดินออกมาจากห้องนอนของเซนต์ด้วยรอยยิ้มที่ดูกวนส้นตีน
“เขาปลอดภัยแล้ว ตอนนี้กำลังให้เืกับน้ำเกลือ ว่าแต่คนนี้ใครวะ ?”
รุกกี้มองสบตาเพื่อนอย่างถามไถ่ เพราะคอนโดแห่งนี้ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาได้ แม้แต่เขาที่เป็เพื่อนสนิทยังได้เข้ามาเพียงไม่กี่ครั้ง ดังนั้นคนที่ถูกยิงต้องมีความสำคัญกับเซนต์แน่ๆ
“ไม่รู้”
เซนต์ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก หยิบไอเพ็ดขึ้นมาดูงานที่ตัวเองทำค้างไว้ก่อนหน้านั้น
“อ้าว ! เหรอวะ แต่กูว่าไม่น่าใช่มั้งถ้าถึงขั้นที่มึงพากลับคอนโดมาแบบนี้ ?”
คำตอบที่ได้รับกลับไม่ใช่สิ่งที่คิด รุกกี้ถึงกับอึ้งอ้าปากเหวอก่อนจะหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับพิรุธ ที่สำคัญเพื่อนของเขาให้อีกฝ่ายนอนรักษาตัวในห้องซึ่งไม่ใช่นิสัยของเซนต์สักนิด และยังให้ลูกน้องโทรตามเขามาในยามวิกาล ดูยังไงก็ย้อนแย้งไปหมด
“เขาถูกไล่ยิงมา กูก็แค่ช่วยไว้ไม่มีอะไร”
“คนอย่างวินเซนต์มาเฟียยุโรปเนี่ยนะจะช่วยเหลือใคร พูดไปใครจะเชื่อกู ฮ่าๆๆๆ ตลกว่ะ”
“ก็เขาะโขึ้นรถกูมา”
“มึงก็เลยใจดีช่วยเขาไว้ แต่กูว่าที่มึงช่วยเพราะสเป็ครึเปล่า หน้าตาแบบที่มึงชอบเลยใช่ปะ ?”
รุกกี้ถามเพื่อนอย่างรู้ทัน เพราะความที่เป็เพื่อนกันมานานแค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเพื่อนของเขากำลังสนใจเด็กคนนี้ หน้าตาดูหล่อไม่น้อยแต่แอบดื้อนิดๆ เขาอยากเห็นตอนตื่นเสียแล้วสิ
“เออๆ เมื่อกี้กูเปลี่ยนกางเกงให้น้องเขา… ก็กางเกงมันเปียกจะให้นอนแบบนั้นได้ไง กูไม่ได้แอบดูแม้แต่นิดเดียวมึงวางใจได้ ของเพื่อนกูไม่ยุ่ง”
รุกกี้พูดแล้วเว้นจังหวะไปนิดหนึ่งก่อนจะรีบพูดต่อเมื่อสายตาดุดันตวัดมองมา
“แล้วทำไมมึงยังไม่กลับ ?”
เซนต์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายให้กับนิสัยพูดไปเรื่อยของเพื่อน ถ้ามันไม่ได้เป็เพื่อนสนิท เขาคงเอาะุกรอกปากไปนานแล้ว
“น่าจะต้องให้เือีกถุง กูว่าก่อนเขาจะมาเจอมึงคงถูกยิงมาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสี่สิบนาทีเสียเืค่อนข้างเยอะ และคิดว่าน่าจะตากฝนในเวลาที่พอๆ กัน”
“อืม”
“ถ้าได้กาแฟสักแก้วเป็ค่าตอบแทนในการถูกลากมากลางดึกก็คงจะดีมาก”
“อยากได้แบบไหนไปทำเอาในครัว”
“ไอ้คนใจดำ ชิ ทำเองก็ได้ว่ะ”
เซนต์ไม่ได้สนใจเสียงบ่นของเพื่อน แต่เขาเดินเข้าห้องมากอดอกยืนมองเด็กหนุ่มที่ยังคงหลับไม่ได้สติอย่างพิจารณา ตอนนี้ใบหน้าหล่อเริ่มมีสีเืขึ้นบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปทำอะไรมา ถึงได้โดนตามล่าเอาชีวิต จากสภาพการแต่งตัว หน้าตา ผิวพรรณดูดีไม่น่าจะเป็คนที่ใช้สารเสพติด เพราะถ้ามีสารเสพติดปนเปื้อนในเืรุกกี้คงบอกเขาแล้ว
“ไม่เห็นต้องห่วงขนาดนั้นเลย”
รุกกี้ไม่เห็นเพื่อนนั่งอยู่ตรงห้องนั่งเล่นจึงเดินตามขึ้นมาบนห้องนอน ปรากฏว่าเพื่อนเขาอยู่ที่นี่จริงๆ พอเห็นแบบนี้เขาก็อดเอ่ยปากแซวไม่ได้ นานๆจะได้เห็นมาเฟียไร้หัวใจให้ความสำคัญกับใครสักคน
“ก็มึงเป็ห่วงเขาใช่ไหมละถึงได้มายืนเฝ้าเขาแบบนี้ หรือว่ากูพูดแทงใจดำ ?”
เซนต์ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความคิดไร้สาระนั่น ก่อนจะเดินเข้าห้องแต่งตัวเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ปล่อยให้เพื่อนสนิทอย่างรุกกี้พูดเพ้อเจ้อไปคนเดียว
“เดินหนีแสดงว่าเป็ความจริงสินะ”
พอเซนต์อาบน้ำสวมชุดนอนเสร็จเรียบร้อยก็ไม่เจอรุกกี้อยู่ในห้อง เขาจึงเดินออกไปดูที่ชั้นล่างปรากฏว่าอีกฝ่ายนั่งจิบไวน์ดูหนังอย่างสบายใจราวกับว่ากำลังอยู่ที่คอนโดตัวเอง หาได้มีความเกรงใจเ้าของห้องสักนิด
“มาๆ มึงดื่มปะ ?”
เซนต์ยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ อีกฝ่ายก็รินไวน์ให้เขาแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะถามทำไม ในเมื่อไม่ได้้าคำตอบ
เราสองคนพูดคุยเกี่ยวกับเื่งานที่ลงทุนร่วมกันเป็เสียส่วนใหญ่ นั่งดื่มกันสักพักก็ได้เวลาที่รุกกี้จะต้องทำหน้าที่คุณหมออีกครั้ง เขาจึงเดินขึ้นไปยังห้องของเพื่อนสนิทเพื่อตรวจดูอาการของเด็กหนุ่ม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงกลับมานั่งดื่มกับเพื่อนอีกครั้ง กว่าที่รุกกี้จะกลับก็เกือบเช้าของวันใหม่
“มึงขับรถไหว ?”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เพราะมันยังไม่ได้นอนมาทั้งคืนและดูเหมือนจะเริ่มกรึ่ม ๆ อีกด้วย ความจริงเขาไม่ได้ห่วงอะไรเพื่อนมากมายนัก แต่หากเขาต้องเสียหุ้นส่วนสำคัญไปโรงพยาบาลที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานคงวุ่นวาย
“ลูกน้องมึงมี”
“อืม ถ้าพวกมันรับสายมึง”
“เออๆ กูไปละเดี๋ยวต้องเข้าคลินิก ส่วนเด็กมึงกูจะเข้ามาดูให้ตอนเที่ยง”
รุกกี้ไม่ได้กังวลเื่กลับคอนโดตัวเองเพราะหากไม่มีใครไปส่งเขาก็แค่นั่งแกร๊ปกลับ ส่วนรถและอุปกรณ์ก็ทิ้งมันไว้ที่นี่ค่อยกลับมาเอา
“ไม่ต้องมาเดี๋ยวกูจัดการเอง ขอบใจมาก”
เซนต์บอกอย่างไม่ใส่ใจนัก เื่พื้นฐานพวกนี้ถึงเขาไม่ได้เป็หมอแต่ค่อนข้างคุ้นเคย เพราะชีวิตเขาก้าวผ่านความตายมานับครั้งไม่ถ้วน
“ไม่ปฏิเสธด้วยเว้ย ยอมรับแล้วอะดิว่าเด็กมึง” รุกกี้ยิ้มกริ่ม มองสบตาเพื่อนอย่างมีเลศนัย
“กลับไปได้แล้ว ส่วนไอ้คลินิกนั่นถ้ายุ่งยากนักก็ปิดๆ มันไปซะ เสียเวลา”
“ได้ไงวะ ลูกรักกูเลยนะนั่น กูแค่อยากให้ประชาชนคนธรรมดาที่เขาไม่ค่อยมีเงินได้รับการรักษาดี ๆ”
“เหอะ มึงเนี่ยนะทำตัวเป็คนดี ?”
“ไอ้สัส ให้กูเป็คนดีบ้างไม่ได้รึไง ?”
“อยากเล่นบทคนดีต่อก็ตามใจ แต่ถ้าไม่้าเมื่อไหร่เดี๋ยวกูสั่งลูกน้องปาะเิให้”
“กวนตีนวะ ไม่เถียงกับมึงแล้ว อยู่กับเด็กมึงไปเถอะ”
รุกกี้ว่าเพื่อนอย่างเซ็งๆ ลุกขึ้นสะบัดก้นรีบพาตัวเองออกจากห้องทันที
“ที่นี่ที่ไหน โรงพยาบาลเหรอ ?”
กวินกระพริบตาถี่ๆ ก่อนที่สายตาคมจะกวาดมองไปรอบๆ ครางออกมาเสียงเบา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
แสงสว่างที่สาดส่องมาจากด้านนอกทำให้กวินได้มองเห็นห้องที่อยู่ตนเองอยู่นอนอยู่ชัดๆ ดูจากการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์แล้วไม่น่าใช่โรงพยาบาลแต่เป็ห้องภายในคอนโดมากกว่า ทั้งห้องถูกแต่งด้วยโทนสีเทาดำรวมไปถึงผ้าห่มที่คลุมกาย ดูลึกลับและน่ากลัว
“ซี๊ดดดด เจ็บจัง”
ตอนนี้ที่แขนยังมีเข็มน้ำเกลือปักอยู่ พอลองขยับตัวลุกขึ้นนั่งกลับต้องนิ่วหน้าและนอนลงตามเดิม
…………………………………………………
