สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง ความหวังของเหล่าผู้เชี่ยวชาญตระกูลมู่หรงกลับคืนมา โดยเฉพาะคนที่ยอมแพ้และถอดใจ ในอีกด้านหนึ่ง บรรดาคนของตระกูลเจียงดูตื่นเต้นและกังวลปะปนกัน
นายน้อยของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเมื่อเขาได้ทะลวงผ่านระดับฉีไห่ อย่างไรก็ตามมู่หรงเจิ้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ทั่วไป เป็บุคคลที่ใกล้ที่จะเข้าสู่ระดับแก่นมนุษย์ และฐานะหนึ่งในสองพยัคฆ์เมืองเทียนเซียง มันไม่ง่ายที่จะปะทะกับเขา จะพูดได้ว่าเหตุผลที่ตระกูลมู่หรงได้อยู่เหนือผู้อื่นหลายๆปีเพราะเขา มู่หรงเจิ้น
แต่นายน้อยเจียงเฉินได้สร้างปาฎิหารย์ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่เคยทำอะไรที่เขาไม่มั่นใจ หลังจากที่ได้เปลี่ยนแปลงไป เขาเป็ผู้ที่อาจหาญที่จะท้าทายมู่หรงเจิ้น เขาจักต้องมีความมั่นใจในการเอาชนะมู่หรงเจิ้นเป็แน่
ปัง!!
มู่หรงเจิ้นปลดปล่อยพลังหยวนมหาศาลออกมา พลังของผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของระดับฉีไห่ช่างน่าสะพรึงยิ่งนัก
มู่หรงเจิ้นได้เพ่งสายตาไปยังเจียงเฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาพยายามที่จะค้นหาความสามารถที่แท้จริงของเจียงเฉิน แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่ได้พบสิ่งใด
บนหน้าของเจียงเฉินยังดูสงบ ผ่อนคลาย แววตาของเขาไม่ได้เปิดเผยสิ่งใด เขาเปรียบดั่งูเาที่มั่นคง ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันสูงใหญ่เพียงใด ความมั่นใจของเขาเหมือนของขวัญจากพระเ้าที่ทำให้เขาไม่สั่นคลอนใดๆในทุกสิ่งที่เขาทำ
"เ้าหนุ่ม ขอให้ข้าเห็นหน่อย ว่าอะไรที่ทำให้เ้ามีความมั่นใจขนาดนี้"
มู่หรงเจิ้นเริ่มบุกโดยการสะบัดแขนเสื้อ พลังลมกรดที่สร้างจากพลังหยวนเปรียบกับคลื่นพลังได้พุ่งเข้าใส่เจียงเฉิน
"ไม่เลว"
เจียงเฉินตาเป็ประกาย เขา้าคนแบบนี้มาเป็คู่ต่อสู้อยู่ ตราประทับัในทะเลปราณได้สั่นะเื ทันใดนั้นพลังหยวนอันแข็งแกร่งได้ถูกปลดปล่อยออกมา ด้วยระดับพลังหยวนที่เจียงเฉินได้ปลดปล่อยออกมานั้นรุนแรงกว่าของมู่หรงเจิ้นไม่รู้กี่เท่า
ครืนนน ครืนนน........
เกิดสายลมอันแข็งแกร่งขึ้น ผู้ที่อยู่ใกล้พวกเขาต่างถูกพัดออกไป ทุกคนต่างประหลาดใจ พลังหยวนที่เจียงเฉินปลดปล่อยออกมารุนแรงกว่าของมู่หรงเจิ้นเสียอีก
ปังงงง
คลื่นพลังทั้งสองสายได้เข้าปะทะกัน ได้เกิดแรงะเิอากาศขึ้นทันทีที่ปะทะ แรงะเิส่งผลต่อพื้นดิน ทำให้แผ่นกระเบื้องลอยขึ้นมา
"เด็กหนุ่มนี่มันอะไรกัน"
มู่หรงเจิ้นประหลาดใจอย่างมาก เขาได้พุ่งเข้าหาเจียงเฉินอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด หากเจียงเฉินได้ลงมือใส่เขามากกว่านี้มันยิ่งอันตรายมากขึ้น เขาััถึงภัยอันตรายได้ โชคชะตาความเป็ความตายของคนตระกูลมู่หรงขึ้นอยู่กับการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าว่าเขาแพ้ทุกอย่างก็จะมลายหายไป
ปัง!
พลังหมัดของมู่หรงเจิ้นทำให้อากาศสั่นะเื หมัดของเขาเปล่งแสง ทำให้เกิดเสียง 'ปัง' ขึ้น หมัดนี้ไม่รู้ว่ามีพลังอยู่มากถึงเพียงใด มันมาถึงตรงหน้าเจียงเฉินในชั่วพริบตา
ตาของเจียงเฉินลุกวาว เขาชื่นชอบการต่อสู้ประเภทนี้มาก มันสามารถวัดระดับความแข็งแกร่งของเขาได้เป็อย่างดี
อย่างไรก็ตามครั้งหนึ่งเจียงเฉินเคยเป็ถึงนักบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า มันช่างแตกต่างกับตอนนี้เหลือเกิน เขาทำการบ่มเพาะทีละเล็กทีละน้อย ทุกคนที่อยู่จุดสูงสุดผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วน เหยียบย่ำกระดูกกว่าพัน เืชโลมตลอดการเดินทางของพวกเขา
ปัง!!
หมัดที่เปล่งแสงที่คลุมด้วยพลังหยวนทั้งสองเข้าปะทะกัน ในการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าแต่ละครั้ง ทำให้เกิดเสียงดั่งค้อนกระทบ ดั่งอากาศรอบตัวพวกเขาเกิดการะเิขึ้น
ตึก! ตึก!
เจียงเฉินก้าวถอยหลังสองก้าวและปรับสมดุลร่างกาย เขาจ้องไปที่มู่หรงเจิ้นและเห็นว่ามู่หรงเจิ้นถอยเพียงก้าวเดียว แต่ท่าทางของมู่หรงเจิ้นตะลึงหนักกว่าเก่า
"เ้าบ้านี่เป็สัตว์ประหลาดรึไง? หมัดนี่มีพลังถึงสองหมื่นห้าพันจิน มันเป็พลังทั้งหมดของข้าเชียวนะ"
มู่หรงเจิ้นมีความรู้สึกหลากหลาย เขาไม่เคยพบผู้ที่มีกำลังมากมหาศาลเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าพลังหมัดของเขาเมื่อครู่เหนือกว่าพลังหมัดของเจียงเฉินก็ตาม แต่เขารู้สึกไม่พอใจที่ไม่สามารถสร้างาแให้เจียงเฉินได้เลย
ในทางด้านตรงข้าม เจียงเฉินยืนยิ้มอยู่ ดูจากสีหน้าของเขาบ่งบอกได้ว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ใช่ เขาได้ถอยหลังถึงสองก้าว แต่เจียงเฉินได้รู้ว่ามู่หรงเจิ้นรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเขา
มู่หรงเจิ้นมีความได้เปรียบเื่พลังหยวน แต่เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของร่างกายเขาไม่สามารถเทียบเจียงเฉินผู่ซึ่งบ่มเพาะด้วยทักษะร่างแปลงัได้
ในความเป็จริงร่างกายครึ่งร่างของมู่หรงเจิ้นได้ชาไปชั่วขณะ
"ดี"
เจียงเจิ้นไห่ะโออกมา การแสดงพลังของเจียงเฉินทำให้เขาประหลาดใจนัก
"วิชากรงเล็บเหยี่ยวทมิฬ"
มู่หรงเจิ้นะโออกมา เขาได้ใช้ทักษะที่ทรงพลังมากที่สุดของเขาออกมา เพื่อที่จะเอาชนะเจียงเฉิน
วิชากรงเล็บเหยี่ยวทมิฬเป็ทักษะยุทธระดับมนุษย์ขั้นกลาง เป็ที่รู้กันว่าทักษะนี้มีความรุนแรงและพลังอันมหาศาล และเป็ทักษะยุทธที่เลื่องชื่อที่สุดของมู่หรงเจิ้น
ฟ้าวว
มู่หรงเจิ้นะโขึ้นสูงกว่าหนึ่งจ้าง ปากของเขาเลียนเสียงเหมือนเหยี่ยวถลาลม ท่าร่างของเขาเหมือนเหยี่ยวเตรียมที่จะจู่โจม และเมื่อรวมกับพลังหยวนของเขาได้พุ่งเข้าหาเจียงเฉิน ในตาของเจียงเฉินเห็นว่าเหยี่ยวทมิฬได้ถลาลงมาจู่โจมเขา
"ท่านผู้นำตระกูลใช้วิชากรงเล็บเหยี่ยวทมิฬแล้ว ครั้งนี้เจียงเฉินไม่สามารถรับมันได้แน่"
"ทักษะยุทธระดับมนุษย์ขั้นกลาง ทรงพลังยิ่งนัก เจียงเฉินเป็เพียงแค่ระดับฉีไห่ขั้นต้น เขาไม่มีหวังที่จะต้านทานการโจมตีนั่นแล้วล่ะ พวกเรารอดแล้ว"
ทุกๆคนในตระกูลมู่หรงมีสีหน้าเปี่ยมสุข ทักษะของมู่หรงเจิ้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถรับมือด้วยได้ง่าย
"เฉินเอ๋อร์ระวังตัวด้วย นี่คือทักษะอันเลื่องชื่อของมู่หรงเจิ้น เ้าอย่าได้ดูถูกมัน"
เจียงเจิ้นไห่รีบเตือนเจียงเฉิน
เจียงเฉินหาได้สนใจคำเตือนของเจียงเจิ้นไห่ไม่ สีหน้าเขายังดูสงบเยือกเย็น ตราประทับัและพลังหยวนในตันเถียนเขาเดือดพล่าน และพลังรวมอยู่ที่นิ้วมือผ่านทางร่างกายเขา
วิ้ง.......
แสงสีทองครอบคลุมนิ้วของเขารวมกับพลังหยวนที่อันกล้าแกร่ง ทำให้แถบนั้นสั่นะเืและเกิดเสียงแหลมดังขึ้น ทันใดนั้นเจียงเฉินได้ชี้นิ้วใส่
แว้บ!
อากาศได้ถูกตัดผ่านทุกคนเห็นแสงสีทองขนาดั์ที่ส่องสว่างยามค่ำคืน พุ่งเข้าใส่มู่หรงเจิ้นอย่างหยุดไม่ได้
"อะไรน่ะ!!"
มู่หรงเจิ้นะโออกมาด้วยความใ จากประสบการณ์ของเขาสามารถบอกได้ถึงความน่ากลัวของดัชนีทองคำนี้ ทักษะยุทธจะต้องมีระดับสูงกว่าระดับมนุษย์ พลังของดัชนีได้ล็อคพลังปราณของเขาไว้และปิดผนึกบริเวณโดยรอบและพุ่งมาราวสายฟ้าฟาดไม่มีทางที่เขาจะหลบได้ เขาทำได้เพียงลงมือจู่โจมโต้ตอบ
"เข้ามาเลย!!"
มู่หรงเจิ้นขบฟันแน่น ความดุดันปรากฎบนดวงตาเขา เขาได้ใช้พลังหยวนทั้งหมดใส่เข้าไปกับวิชากรงเล็บเหยี่ยวทมิฬ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญระดับฉีไห่ขั้นปลายอย่างเขาจะแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนที่อยู่แค่ระดับฉีไห่ขั้นต้น
ตูมมมมมม.....
ลำแสงสีทองได้เข้าปะทะกับกรงเล็บเหยี่ยวทมิฬทำให้บริเวณแถบนั้นราบเป็หน้ากลอง อากาศได้ถูกฉีกออก ลำแสงดัชนีสุริยะของเจียงเฉินได้ทำลายกรงเล็บเหยี่ยวทมิฬที่มู่หรงเจิ้นปลดปล่อยออกมาก็แหลกเป็เสี่ยงๆ มันไม่สามารถที่จะต้านได้แม้เสี้ยววินาที
ตูมม
มู่หรงเจิ้นได้ร่วงกระแทกพื้นดินที่อยู่ห่างไปนับสิบจ้าง พื้นผิวหินได้แตกกระจายจากการกระแทกครั้งนี้
อั่ก อ่อก.....
มู่หรงเจิ้นได้กระอักเืออกมา หน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษ แม้ว่าหนึ่งดัชนีสุริยันยังไม่สามารถสังหารมู่หรงเจิ้นได้ แต่ก็ทำให้พละกำลังเขาตกลงกว่าเก้าส่วน
ทุกคนใแม้แต่เจียงเจิ้นไห่เองก็ใอ้าปากค้าง เขาและนักสู้คนอื่นๆจากตระกูลเจียงไม่อย่ากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น แววตาพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อเจียงเฉิน
ใครจะไปคิดล่ะว่ามู่หรงเจิ้นจะมาพ่ายแพ้เช่นนี้
"ทักษะยุทธที่เฉินเอ๋อร์สำแดงออกมาเมื่อครู่อยู่สูงกว่าระดับมนุษย์ ซึ่งเมืองเล็กๆอย่างเมืองเทียนเซียงไม่อาจมีทักษะยุทธเช่นนี้เป็แน่ ข้าแปลกใจนักว่าเฉินเอ๋อร์ได้รับทักษะยุทธชั้นสูงพวกนี้มาจากไหน ช่างโชคดีจริงๆ"
เจียงเจิ้นไห่บ่นพึมพำกับตัวเขาเอง เจียงเฉินได้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป ทำให้เขาปรับตัวไม่ทัน
ทุกๆคนในตระกูลมู่หรงต่างสูญเสียความหวัง หน้าซีดขาว แม้แต่มู่หรงเจิ้นยังถูกเจียงเฉินเล่นงาน ตระกูลมู่หรงสูญเสียเสาหลักของตระกูล พวกเขาไม่สามารถเทียบตระกูลเจียงได้อีกในเมืองเทียนเซียง
"เป็ไปไม่ได้ นี่มันเป็ไปไม่ได้!!"
มู่หรงเจิ้นพยายามพยุงตัวขึ้นมานั่ง มือนึงกุมอกของเขา เขาส่ายหัว เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเขาจะถูกเด็กเมื่อวานซืนเล่นงาน โดยที่ระดับต่ำกว่าตัวเขาอีกด้วย
"ผู้ชนะเป็าา ผู้แพ้เป็ฏ มู่หรงเจิ้นเ้ามีอะไรจะพูดอีกไหม?"
เจียงเฉินเดินตรงเข้ามาหามู่หรงเจิ้น เขานำมือข้างนึงของเขาไพร่หลังและมองดูมู่หรงเจิ้นที่อยู่บนพื้นด้วยความไม่แยแส ดั่งเขาเป็าาผู้ถือครองความเป็ความตายของผู้อื่น
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า .....สนุก สนุกจริงๆ ....ค่อกๆ"
มู่หรงเจิ้นหัวเราะออกมาอย่างสะใจ เขาเป็ฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เขาไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับของเขาเจียงเจิ้นไห่ แต่เขาได้พ่ายแพ้ให้กับไอ้ตัวโง่ไร้ประโยชน์ซึ่งเขาไม่เคยที่จะชายตามอง นี่ช่างเป็เื่น่าขันเสียจริง
หากว่าเป็ฝ่ายพ่ายแพ้ย่อมไม่มีสิทธิที่จะพูด แม้ว่ามู่หรงเจิ้นจะไม่เต็มใจ แต่วันนี้เขาก็ยอมรับว่าเขาพ่ายแพ้จากใจจริง
"ข้าแพ้แล้ว แต่ข้าอยากให้เ้าเมตตาไว้ชีวิตลูกหลานข้าด้วย"
มู่หรงเจิ้นยังคงอ้อนวอน
เจียงเฉินผงกหัวอย่างลับๆ มู่หรงเจิ้นยังคิดถึงความเป็ความตายของครอบครัวเขาแม้ว่าความตายจะอยู่ตรงหน้าเขาแล้วตาม เจียงเฉินจึงตัดสินใจที่จะมอบความตายอย่างรวดเร็วและไม่เ็ปให้
ตูม!!
เจียงเฉินได้จู่โจมโดยไร้ความปรานี ซัดฝ่ามือใส่มู่หรงเจิ้น ทันใดนั้นทัศนวิสัยของมู่หรงเจิ้นเริ่มพร่ามัว และได้ร่วงตกลงสู่พื้นดิน ในที่สุดหนึ่งในสองพยัคฆ์แห่งเมืองเทียนเซียงก็จากไป
เจียงเฉินได้สังหารมู่หรงเจิ้น เพราะเขาไม่คิดจะให้โอกาสใดๆแก่ศัตรู ไม่ว่าเขาจะยอมปล่อยครอบครัวของมู่หรงเจิ้นหรือไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับมู่หรงเจิ้นอีก
"ท่านผู้นำ!!"
"ท่านพ่อออออออออออออออ"
สมาชิกทั้งหมดจากตระกูลมู่หรงร่ำไห้ ในฐานะที่พวกเขาเป็ลูกหลานของมู่หรงชาน พวกเขามองเจียงเฉินด้วยความเคียดแค้น ในสายตาของพวกเขา เจียงเฉินมันเป็ฆาตกร ฆ่าคนโดยที่ไม่กระพริบตาเวลาที่เขาลงมือ
เจียงเฉินยังดูสงบนิ่ง ภาพที่เห็นนี่มันไม่ได้ส่งผลใดๆต่อเขา ความโหดร้ายเป็คำที่ดีที่สุดที่อธิบายถึงโลกของการฝึกตน ผู้อ่อนแอย่อมเป็เหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง ในโลกของเจียงเฉิน ศัตรูก็ยังเป็ศัตรูวันยังค่ำ เขาต้องกำจัดให้สิ้น หากแสดงความเห็นอกเห็นใจแก่ศัตรู จะได้รับประสบการณ์อันเ็ปตามมาแน่นอน
"เฮ้อ..."
เจียงเจิ้นไห่ถอนหายใจออกมา เขารู้สึกใจหายเล็กน้อย การต่อสู้กับมู่หรงเจิ้นตลอดสามปีที่ผ่านมาได้มาถึงจุดจบแล้ว
"เฉินเอ๋อร์เอ๋ย ในเมื่อตระกูลมู่หรงโดนทำลายแล้ว จะทำเช่นไรกับผู้คนเหล่านี้?"
เจียงเจิ้นไห่ถามขึ้น
"ผู้แซ่มู่หรงให้ทำลายการบ่มเพาะของพวกมันซะ และตัดแขนไปข้างนึงจากนั้นไสหัวไปจากเมืองเทียนเซียงซะ ไม่อนุญาตให้กลับมาเหยียบย่างที่นี่อีก"
เจียงเฉินพูดอย่างเ็า เขาได้ตัดสินชะตากรรมของผู้คนเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว
