ขนาดตัวของหงส์เพลิงที่ผมเห็นในชาติที่แล้วนั้น อย่างน้อยก็มีขนาดใหญ่ประมาณตำหนักบรรทมทั้งตำหนัก ต่างกับเ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยแสนน่ารักที่อยู่ข้างหมอนของผมตอนนี้...
ภาพที่เห็นอยู่ในตอนนี้เป็เช่นไรงั้นหรือ?
ขนาดของเ้าก้อนกลมตอนนี้ใหญ่ประมาณเท่ากับหมาน้อยทั่วไป จะงอยปากสั้น กรงเล็บเล็ก เส้นขนสีแดงนุ่มนิ่มที่ปกคลุมตามร่างกายดูยุ่งเหยิงเป็อย่างมาก มีลวดลายหลากสีอ่อนๆ ซ่อนอยู่ในนั้น ช่างดูสวยงามยิ่งนัก ภายในดวงตาเล็กๆ ที่มีสีแดงราวกับทับทิมนั้นสะท้อนเงาของผมทั้งหมด ช่างดูไร้เดียงสาเหลือเกิน
เมื่อเขาเห็นว่าผมตื่นแล้วก็หยุดจะงอยปากที่กำลังจิกใบหน้าของผมอยู่แล้วส่งเสียงร้องจิ๊บๆ สองสามครั้ง จากนั้นก็กระพือปีกที่สั้นทั้งสองข้างของตัวเอง ขยับไปมาซ้ายขวาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
...นี่มันจะน่ารักมากเกินไปแล้ว!
ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่เกือบจะไหลลงมาจากขอบตาเมื่อสักครู่นี้ แล้วมองไปที่อาจิ่วอีกครั้ง ภายในใจรู้สึกชาและตื่นเต้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ ผมอุ้มอาจิ่วขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนทันที โดยอุ้มมันแนบอยู่ตรงระหว่างแขนและหน้าอกแน่น ลูบขนนุ่มนิ่มที่ทำให้เกิดความรู้สึกดีเวลาัันั่นครั้งแล้วครั้งเล่า
หงส์เพลิงเป็สัตว์เทพที่สามารถใช้ไฟเป็หลัก เพราะฉะนั้นอุณหภูมิในร่างกายของเขาจะสูงกว่าสัตว์ทั่วไปเล็กน้อย ยามที่อุ้มไว้ในอ้อมแขนแบบนี้จึงรู้สึกอบอุ่นมากเป็พิเศษ มันอบอุ่นจนส่งผ่านเข้าไปถึงภายในใจ เวลานี้ผมเข้าใจแล้วว่าอะไรที่เรียกว่าความพึงพอใจ เพราะก่อนหน้านี้ที่เห็นมันนิพพานทว่ากลับไม่สามารถทำอะไรได้ ความรู้สึกไร้ซึ่งหนทางที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจนั้นมันช่างเ็ปมากจริงๆ
ในโลกปัจจุบันนี้ หงส์เพลิงไม่เพียงมีชีวิตอยู่ด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังเติบโตขึ้นมาได้อย่างน่ารักน่าชัง แถมยังว่านอนสอนง่ายเช่นนี้ นี่จะต้องเป็ของขวัญที่พระเ้ามอบให้กับผมอย่างแน่นอน
แต่บางครั้งสิ่งที่มองจากภายนอกยิ่งดูน่ารักหรือดูสวยงามมากเท่าไร สิ่งที่อยู่ด้านในก็อาจจะยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งคล้ายกับยุคปัจจุบันที่ผู้คนมักจะพูดหยอกล้อกันว่า สาวสวยที่สวมกระโปรงอยู่นั้น เมื่อเปิดกระโปรงขึ้นมาแล้วไม่แน่ว่าระหว่างขาทั้งสองข้างอาจจะเจอแท่งอะไรบางอย่างอยู่แท่งหนึ่งก็เป็ได้
“นายท่าน ท่านลูบเล่นจนพอใจแล้วหรือยัง? ” เ้าก้อนขนที่อยู่ในอ้อมแขนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กน้อยเ็า น้ำเสียงนั้นฟังดูไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร เมื่อตั้งใจฟังอย่างละเอียดแล้วจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกรังเกียจที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั่น “ปล่อยข้าได้แล้วขอรับ”
เอ๋? ผมชะงัก หยุดลูบเขาทันที เมื่อสักครู่นี้เ้านี่ยังจิกหน้าผมอย่างมีความสุขอยู่เลยไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเสียแล้วเล่า?
เขาพยายามเงยหัวขึ้น ดวงตาสีแดงจ้องมาที่ผม ปากที่เล็กแหลมอ้าออก แต่สิ่งที่เขาพูดออกมากลับทำให้ผมกระอักเืติดอยู่ในลำคอ “นายท่าน ข้าแค่เพียงเห็นว่าท่านเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน จึงอยากจะปลุกให้ท่านตื่นก็เท่านั้น โปรดอย่าคิดไปเองได้หรือไม่? อีกอย่างข้าก็ไม่ใช่บุรุษหรือสตรีเ่าั้ที่ท่านหามา ดังนั้นโปรดอย่าแสดงความรู้สึกทางเพศต่อสัตว์เทพตัวหนึ่งอย่างไร้เหตุผลจะได้หรือไม่? ”
นี่ๆๆ ใช่อาจิ่วจริงหรือ? เขาใช่หงส์เพลิงที่แสนเ็าและเย่อหยิ่งอย่างที่ผมเขียนไว้ในนิยายจริงๆ หรือ?
เมื่อเขาเห็นว่าผมใจลอย จึงขยับปีกที่ทั้งเล็กและสั้นออกจากแขนของผมอย่างไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายก็ะโขึ้นไปบนเตียงของผมโดยไม่บอกไม่กล่าว เมื่อยืนได้อย่างมั่นคงแล้วก็เอ่ยขึ้น “นายท่าน เ้าก้อนหินสีดำของท่านมีพวกของรกรุงรังพวกนี้อยู่ั้แ่เมื่อไร? ” หลังจากที่พูดจบก็ใช้กรงเล็บจิกลงบนผ้าห่มอย่างรังเกียจอยู่หลายครั้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ยังคงเป็ก้อนหินสีดำน่าเกลียดที่เวลาเหยียบแล้วรู้สึกสบาย แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่มั่นคงเลยแม้แต่น้อย”
ผม...
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ พูดเื่สำคัญเลยดีกว่า” อาจิ่วพึมพำอยู่คนเดียวเป็เวลานาน หลังจากที่บ่นจนพอใจแล้วจึงถอนหายใจคล้ายกับว่ามีเื่แบบนั้นอยู่จริงๆ เขาขยับปีกข้างขวาครั้งหนึ่ง ผมมองเห็นท่าทางของเขาได้ไม่ชัดนักว่ามันกำลังทำอะไร ทว่าหลังจากนั้นกลับมีผลไม้สีแดงเข้มปรากฏขึ้นมาบนเตียง
เมื่อนำผลไม้นี่ออกมา ทันใดนั้นก็สามารถรับรู้ได้ถึงพลังอันเข้มข้นที่กระจายออกมาแทบจะทั่วทั้งตำหนักบรรทมในชั่วพริบตา พอสูดลมหายใจเข้าครั้งหนึ่ง พลังนั้นก็ทะลุเข้าไปภายในร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
ที่ผิวด้านนอกของผลไม้มีเปลือกสีแดงมีลักษณะแข็งห่อหุ้มอยู่โดยรอบ อาศัยจากความคุ้นเคยแล้วคาดว่าน่าจะเป็ไฟที่เกิดจากพลังอันแท้จริงของหงส์เพลิง ฉะนั้นพลังที่ออกมาเมื่อสักครู่นี้น่าจะเป็เพียงแค่พลังที่ทะลุผ่านออกมาจากช่องเล็กๆ ของเปลือกสีแดงนั่น เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็รับรู้ได้ว่าหากปล่อยให้มันกระจายออกมาทั้งหมดจะมีความน่ากลัวมากขนาดไหน...
ผมพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกตกตะลึง หัวใจเหมือนถูกบีบอย่างแรง เนื่องจากผมจำเ้าของสิ่งนี้ได้แล้ว
มันคือผลคืนิญญา ผลของมันมีลักษณะกลมเป็อย่างยิ่ง หลังจากสุกแล้วจะเป็สีแดงเข้ม ภายในมีเปลวไฟที่ลุกไหม้อย่างช้าๆ เติบโตได้แค่ในดินแดนแห่งดวงอาทิตย์ทั้งเก้าซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก หลายร้อยปีจึงจะพบสักครั้ง สรรพคุณของมันสามารถชุบชีวิตคนตาย และเปลี่ยนกระดูกขาวให้กลายเป็ร่างกายได้
“นายท่าน นี่เป็ของที่ดีมากเลยทีเดียว ข้าต้องเปลืองแรงอย่างมากถึงจะปราบเ้างูน่าเกลียดที่คอยปกป้องของสิ่งนี้เอาไว้ได้ หลังจากที่ข้าเก็บของสิ่งนี้แล้วก็รีบหนีออกมา ดูก็รู้ว่าเ้างูบินได้ตัวนั้น ทั้งๆ ที่ชอบอาศัยอยู่ในความมืดแท้ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อผลไม้แค่หนึ่งลูก มันจะต้องดึงดันถึงขนาดนี้? ถึงกับยอมถูกแสงแดดส่องจนหนังหลุดลอกออกมาหมดทั้งร่าง...”
สิ่งที่อาจิ่วพูดออกมานั้นไม่ได้เข้าหูของผมเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมานิดหน่อยอย่างบอกไม่ถูก เพราะว่าของสิ่งนี้ไม่ควรจะอยู่ที่นี่ มันเป็สิ่งที่ปรมาจารย์ลึกลับของซ่งฉียวนหามาอย่างยากลำบากเพื่อนำมารักษามือและเท้าที่ขาดของเขา มันไม่ควรจะถูกอาจิ่วพบแล้วตกมาอยู่ในมือผมแบบนี้...
มันเกิดอะไรขึ้นกับโครงเื่ของโลกใบนี้? มันใช่นิยายเื่ “มหันตภัยแห่งแดนเซียนปีศาจ” ที่ผมเขียนขึ้นมาจริงๆ หรือ? หากว่าผลคืนิญญาตกมาอยู่ในมือของผม เช่นนั้นท่านปรมาจารย์ของซ่งฉียวนจะไปหาสิ่งที่สามารถรักษาาแของเขาให้ดีขึ้นได้จากที่ไหน? โครงเื่มันไม่ถูกต้อง สถานที่ก็ไม่ถูกต้อง ตัวละครก็ผิด ทุกอย่างมั่วไปหมดแล้ว!
“นายท่าน ท่านใจลอยมัวคิดอะไรอยู่หรือ? ” น้ำเสียงอันสดใสไพเราะของอาจิ่วสูงขึ้นสองถึงสามระดับ ดึงให้ผมออกมาจากความคิดที่ยุ่งเหยิงในทันที
ผมเริ่มตั้งสติได้แล้ว ทว่ากลับพบว่าที่ด้านหลังของเสื้อคลุมด้านในที่สวมอยู่นั้นไม่รู้ว่ามันเปียกไปั้แ่เมื่อไร เหงื่อเย็นไหลลงตามแผ่นหลังของผม ผมมองไปที่อาจิ่วตัวน้อยอีกครั้ง กอดความหวังสุดท้ายซึ่งมีอยู่น้อยนิดเอ่ยถามขึ้น “ตอนที่เ้าพบ… ตรงนั้นมีอยู่แค่หนึ่งผลใช่หรือไม่? ”
อาจิ่วส่ายหัว “มีอยู่สองผลน่ะ”
“แล้วอีกผลหนึ่งเล่า?! ”
เป็ไปอย่างที่คิดไว้! ยังเหลืออยู่อีกหนึ่งผลจริงๆ ! เช่นนั้นโครงเื่ก็ไม่ได้มั่ว อีกผลหนึ่งจะต้องถูกปรมาจารย์ของซ่งฉียวนเก็บไปแล้วอย่างแน่นอน! ไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นภายในใจของผมอีกครั้ง คาดว่าตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของผมคงจะต้องกำลังเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นดีใจออกมาอย่างแน่นอน
ทว่าหลายครั้งเื่ที่น่ายินดีและเื่ที่น่าเศร้าก็มักจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน แล้วเข้าโจมตีผู้คนอย่างคาดไม่ถึงได้เสมอ...
“อีกผลน่ะหรือ อืม...” อาจิ่วทำปากเบ้ “ถูกเ้างูน่าเกลียดนั่นกินเข้าไปั้แ่ตอนนั้นแล้ว”
...!!!
ถูกกินเข้าไปแล้ว
กินไปแล้ว
…ไม่เหลือแล้ว!?