พอตั้งสติได้ หนีเจียเอ๋อร์ก็หันหลังวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนก แต่ก็ต้องมาเสียจังหวะ เพราะสะดุดธรณีประตู
แต่ก็มีอ้อมแขนแกร่งเข้ามารับเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ร่างนางจะกระแทกพื้น ใบหน้าหญิงสาวซบอยู่กับหน้าอกกำยำ กลิ่นอายอันคุ้นเคย ทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็รู้สึกคล้ายเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
“รีบไปซ่อนตัว เร็ว!”
โจวชิงหวาพยุงหนีเจียเอ๋อร์ขึ้น แล้วดันร่างอีกฝ่ายไปข้างหลัง เพื่อให้หนีเข้าเรือนไปก่อน
“พวกเ้าเป็ใคร? ผู้ใดส่งเ้ามา?”
ทว่าไร้คำตอบ ชายชุดดำพากันกระโจนเข้ามาห้อมล้อมทุกสารทิศ
เพียงชั่วครู่ หนีเจียเอ๋อร์ก็สังเกตได้ว่า พวกมันดูจะครั่นคร้ามโจวชิงหวาอยู่เล็กน้อย
ตอนนั้นเอง ก็มีชายชุดดำอีกสิบคนปรากฏตัวขึ้นภายในป่า เข้ามาสมทบเพื่อต่อสู้กับโจวชิงหวา
เมื่อเห็นศัตรูมีจำนวนมากเกินกว่าจะรับไหว ชายหนุ่มก็เริ่มหวั่นใจ แต่ตอนนี้หนีเจียเอ๋อร์หนีไปได้แล้ว จึงไม่มีอะไรให้ต้องห่วงพะวงอีก
ด้านกลุ่มชายชุดดำ เมื่อเห็นว่าหนีเจียเอ๋อร์หลบเข้าไปข้างใน ก็แยกตัวหมายจะไล่ตาม แต่ก็ถูกกระบี่ของโจวชิงหวาสกัดเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถไล่ตามเป้าหมายได้
หนีเจียเอ๋อร์รีบวิ่งเข้าไปในเรือนฤดูร้อนโดยไม่เหลียวหลัง แล้วปลุกมารดาของตนทันที “เว่ยอี๋เหนียง ตื่นเร็วเ้าค่ะ นักฆ่าบุกเรือนแล้ว!”
ด้วยไม่มีเวลาจะมาอธิบายเื่ราวทั้งหมดในตอนนี้ นางจึงรีบพาเว่ยอี๋เหนียงไปหาแม่นมโจว หมายจะให้ทั้งสองหนีออกไปจากที่นี่ก่อน
แต่เว่ยอี๋เหนียงกับแม่นมโจวไม่คิดจะทิ้งโจวชิงหวาและหนีเจียเอ๋อร์ ทั้งสองจึงกล่าวว่า หากจะตายก็ขอตายด้วยกัน ซึ่งหนีเจียเอ๋อร์ย่อมไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็แน่!
“เว่ยอี๋เหนียง แม่นมโจว ฟังข้านะ หากพวกท่านยังอยู่ ก็ยิ่งจะเป็การถ่วงชิงหวา ทำให้เขาห่วงหน้าพะวงหลัง จนอาจพลาดพลั้งศัตรูได้ ดังนั้น รีบนั่งรถม้าหนีไปก่อนเถอะเ้าค่ะ!”
หนีเจียเอ๋อร์หันไปสั่งคนขับรถม้า “รีบพาพวกนางหนีไป!”
คนขับรถม้าจึงเสริม “นายหญิงทั้งสองขอรับ เป็เช่นที่คุณหนูรองกล่าว หากพวกเรายังอยู่ ก็มีแต่จะเป็ตัวถ่วงของคุณชายโจว รีบหนีเถอะขอรับ!”
เว่ยอี๋เหนียงกับแม่นมโจวมองหน้ากัน แม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่อาจขัดได้
เว่ยอี๋เหนียงจึงหันมาเกลี้ยกล่อมบุตรสาว “ถ้าเช่นนั้น เสี่ยวเอ๋อร์ ตอนนี้ชิงหวากำลังต้านพวกมันอยู่ เ้าก็รีบหนีไปกับพวกเราเถอะ”
แม่นมโจวเสริม “ใช่! เสี่ยวเอ๋อร์ มากับเราเถอะ”
“พวกท่านไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจะตามไปทีหลังเ้าค่ะ” กล่าวจบ หนีเจียเอ๋อร์ก็วิ่งย้อนกลับไป
ทันใดนั้น ภายในเรือนพักร้อนก็มีเสียงต่อสู้ดังขึ้น พร้อมกันนั้น พ่อบ้านก็วิ่งออกมาหน้าตาตื่น “นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?”
หนีเจียเอ๋อร์จึงหันไปสั่งเขา “พ่อบ้าน ตอนนี้มีมือสังหารบุกเรือนเรา ข้าให้คนขับรถม้าพาพวกท่านแม่หนีไปแล้ว เ้ารีบไปบอกทุกคนให้หลบหนี เร็ว! ข้าจะไปเผาห้องครัวก่อน”
พูดจบ ก็วิ่งไปที่ห้องครัว เทน้ำมันทั้งหมดลงบนฟืน ก่อนโยนตะเกียงตามไป แล้วหนีออกมา
ด้วยสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ผนวกกับสายลมอ่อนๆ ในไม่ช้า เปลวไฟก็ลุกโหมจนกลายเป็ทะเลเพลิง
เมื่อเห็นดังนั้น ทั้งโจวชิงหวาและเหล่าชายชุดดำ ต่างก็เบิกตากว้าง
พอได้สติ ชายชุดดำก็กระโจนเข้าใส่โจวชิงหวาอีกครั้ง เพราะอย่างไรเสีย พวกมันก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไปั้แ่แรกอยู่แล้ว
ตอนนั้นเอง หนีเจียเอ๋อร์ก็วิ่งออกมา พลางตะเบ็งเสียง “ชิงหวา วิ่ง!”
โจวชิงหวาเข้ามารับตัวนาง ก่อนะโหนีไป
บรรดาชายชุดดำได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ มองภาพคนทั้งสองที่กำลังทะยานหลบหนี แล้วตัดสินใจไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าเหล่ามือสังหาร พลันะโสั่ง “กระจายกำลังออกไป จับตัวหนีเจียเอ๋อร์มาให้ได้!”
แล้วหนึ่งในนั้นก็เอ่ยถาม “แล้วโจวชิงหวาเล่าขอรับ?”
เขาเผยรอยยิ้มร้าย ภายใต้ผ้าคลุมหน้า “ฆ่าเสีย!”
ขาดคำ ชายชุดดำก็กระจายกำลังไปทั่วพื้นที่ เพื่อค้นหาโจวชิงหวากับหนีเจียเอ๋อร์
...
อีกด้านหนึ่ง
โจวชิงหวาได้พาหญิงสาวหลบหนีจากเรือนพักร้อน มายังน้ำตกบนูเา
หนีเจียเอ๋อร์ดึงตัวชายหนุ่มมานั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่
โจวชิงหวาคว้ามือเล็ก ก่อนเอ่ยถามเสียงขรึม “เสี่ยวเอ๋อร์ เ้าคิดจะทำอะไร เหตุใดจึงไม่ฟังคำพูดข้า แล้วหนีไปเสีย?”
หนีเจียเอ๋อร์ตีมือใหญ่ พลางโต้เสียงแข็ง “ลืมเสียเถอะ มานี่! ข้าจะทำแผลให้”
โจวชิงหวาลอบมองสีหน้ามึนตึงของหญิงสาว แล้วยกยิ้มบางๆ “ตรงนี้...”
หนีเจียเอ๋อร์มองไปตามที่อีกฝ่ายบอก จากนั้นก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อพบว่าบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม มีาแถูกแทงลึกสาหัสมากทีเดียว นางจึงกล่าวเสียงสั่น ราวกับกำลังจะร้องไห้ “อดทนไว้นะ ข้าจะทำอย่างเบามือที่สุด”
เอ่ยจบ ก็รั้งกระโปรงขึ้น คว้าขวดยาที่พกอยู่ออกมา แล้วบรรจงทาลงไปด้วยมืออันสั่นเทา
ความเจ็บแสบทำให้คิ้วของโจวชิงหวาถึงกับขมวดแน่น แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ เอ่ยไปว่า “มือของเ้าเบาเช่นนี้ ไม่ทำให้ข้าเจ็บ... โอ๊ย!”
ปลายนิ้วของหนีเจียเอ๋อร์กดไปบนาแเพื่อแต้มยา เ็ปจนชายหนุ่มไม่อาจทนไหว
โจวชิงหวากัดฟันกรอด “เ้ามัน... ใจดำอำมหิต!”
หญิงสาวตบไหล่อีกฝ่าย “อยากจะโดนอีกหรือ?”
เขาจึงปิดปากเงียบทันที
เมื่อแต้มยาจนทั่วแล้ว นางก็หยิบเอาม้วนผ้าออกมา พัดรอบอกของโจวชิงหวาเอาไว้ ตอนนี้ สีหน้าของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หนีเจียเอ๋อร์รู้สึกใจชื้นขึ้นมาก
โจวชิงหวาไล่สายตามอง ก่อนไปหยุดอยู่ตรงข้อมือเล็ก ซึ่งสวมกำไลหยกที่ตนมอบให้
หัวใจของเขาพองโต คิดแล้วว่าต้องเหมาะกับนาง ชายหนุ่มเอื้อมไปคว้ามือเล็กขึ้นมาจรดริมฝีปาก ก่อนเอ่ย “ผิวเนียนละเอียดและอ่อนนุ่มของเ้า เหมาะเจาะกับกำไลหยกนี้ยิ่งนัก!”
ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดหลังมือ ทำให้หนีเจียเอ๋อร์ใจเต้นไม่เป็ส่ำ ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
“เร็วเข้า... พวกมันอยู่นั่น!”
เสียงที่ดังมาแต่ไกล ทำให้หนีเจียเอ๋อร์ต้องเร่งมือ เสร็จแล้ว ทั้งสองก็รีบหนีเข้าไปในป่าลึกด้วยความตื่นตระหนก!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้