บทที่ 29
...
กอหญ้าเดินเข้ามาที่ห้องรับรองแขกเงียบ ๆ เธอเห็นราชันย์ที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เวลาที่ราชันย์ไม่มีพิษมีภัย เขาช่างดูเป็ผู้ชายที่ทั้งหล่อ และอบอุ่นมากจริง ๆ อากาศในห้องค่อนข้างร้อนคาดว่าราชันย์คงจะเปิดแอร์ที่เกือบจะสามสิบองศาได้ แต่เขากลับห่มผ้าที่หนาเตอะ
เธอเดินมายืนข้างเตียงถึงได้เห็นใบหน้าของเขาชัด ๆ ใบหน้าหล่อ ๆ ของเขาบัดนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย ใบหน้าก็ซีดเผือดราวกับคนไร้ชีวิต เมื่อเธอเห็นสภาพของเขานั้นยิ่งทำให้เธอใเข้าไปใหญ่
กอหญ้าเดินออกจากห้องไปหยิบกะละมังมาเทน้ำใส่ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำจนชุ่ม และยกกะละมังกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เธอนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะเช็ดใบหน้าของเขาอย่างเบามือ ด้วยความเย็นของผ้าขนหนู เป็ตัวกระตุ้นปลุกให้ราชันย์ตื่นขึ้นมาด้วยสายตาที่งัวเงีย
“กอหญ้าเข้ามาทำไม เดี๋ยวก็ติดหวัดหรอก”
“ทำไมคุณมีสภาพนี้ได้คะคุณราชันย์”
“คือ…”
“ช่างเถอะค่ะ แต่ตอนนี้คุณเหงื่อท่วมตัวเลย”
“ขอบใจนะกอหญ้า ผมมาเป็ภาระให้คุณซะแล้ว”
“...”
เธอไม่ตอบอะไรออกมา ได้แต่เช็ดเหงื่อที่ชุ่มให้กับราชันย์ด้วยใบหน้าที่ดูวิตกเล็กน้อย เธอเช็ดลงมาเรื่อย ๆ จนถึงแผงอก กอหญ้าหยุดชะงักเล็กน้อย ช้อนสายตาไปหาราชันย์นิดหน่อย
“คือ กอหญ้าขออนุญาตปลดกระดุมสองสามเม็ดนะคะ”
“เธอจะปลด จะถอด จะทำอะไรกับฉันก็ได้”
“คุณราชันย์!.
เธอน่าจะเขินมากอยู่เหมือนกัน แก้มขาว ๆ ของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อราวกับลูกมะเขือเทศที่กำลังสุกได้ที่ ราชันย์กลั้นขำในลำคอแต่ว่าอาการของเขากลับแสดงออกมาว่าเขากลั้นขำเพราะหัวเราะจนตัวโยน แต่ก็ไม่ทำให้กอหญ้ารู้สึกดีขึ้นมาเลย
เธอหน้าแดง ฟาดราชันย์ด้วยสายตาที่คิดว่าดุที่สุด แต่สำหรับราชันย์แล้วแทบจะเป็สายตาของลูกแมวน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น
“ผมหมายถึงจะปลด จะถอด จะเช็ดตรงไหนก็ตามสบาย เธอคิดไปถึงไหนเนี่ย”
“ไม่ถึงไหนทั้งนั้นแหละค่ะ คุณราชันย์ขำมากก็เอาไปเช็ดเองเลย”
กอหญ้ายืนผ้าขนหนูผืนน้อยที่ถูกนำไปชุบน้ำและบิดจนหมาด มายื่นให้เขา ราชันย์หุบยิ้มแทบไม่ทัน ก่อนจะทำหน้าหงอยกะพริบตาปริบ ๆ ส่งให้กอหญ้า เธอที่เห็นการกระทำของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่ามาเฟียลำดับต้น ๆ ของประเทศ ก็ได้แต่ถอนหายใจและเอื้อมมือค่อย ๆ ปลดกระดุมออกช้า ๆ
“ห้ามคิดอะไรมิดีมิร้ายกับกอหญ้านะคะ”
“ผมป่วยขนาดนี้ แรงก็ไม่มี คุณดูสิ เนี่ย! ยกแขนยังแทบไม่ขึ้นเลย”
เขายกแขนขึ้นสูงก่อนจะปล่อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกเป็ตัวยืนยันกับกอหญ้าว่าเขา ไม่มีแรงจะทำอะไรเธอแน่นอน กอหญ้าที่เห็นการกระทำเหมือนเด็กของเขา เผลอหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“เวลาเธอหัวเราะ น่ารักมากนะกอหญ้า”
ทันทีที่ราชันย์พูดขึ้นมา เธอถึงได้สติและหุบยิ้มลงทันที เธอไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่เช็ดตัวให้เขาจนเรียบร้อย พร้อมกับลุกขึ้นหยิบกะละมังแล้วเดินออกไปทันที ทิ้งให้ราชันย์ชะเง้อคอรอเธออยู่แบบนั้น
“ทานยาค่ะ”
เธอเดินกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วยาที่ถูกบรรจุอยู่ 3-4 เม็ด และแก้วน้ำ ราชันย์ไม่รอให้เธอต้องพูดซ้ำ เขาดันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งรอยาอย่าสงบเสงี่ยม กอหญ้ายื่นแก้วยาให้เขา ราชันย์รับแก้วยาไปก่อนจะหยิบเข้าปากรวดเดียว และตามด้วยน้ำที่เธอยื่นให้
เมื่อราชันย์กินยาเรียบร้อย กอหญ้าหยิบแก้วยาแก้วน้ำไปวางที่หัวเตียง เดินมาหยิบผ้าห่มคลุมให้เขา เร่งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ต่ำลงอีกเล็กน้อย ด้านราชันย์เองก็ไม่ได้ขัดอะไรเมื่อเธอห่มผ้าให้ เขาก็เอนตัวลงนอนอย่างว่าง่าย
และไม่รู้ว่าด้วยฤทธิ์ไข้หรือฤทธิ์ยา ที่ทำให้ราชันย์รู้สึกได้ว่าหนังตาเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบลืมไม่ขึ้น
“กอหญ้า”
“คะ?”
“ผมขอโทษนะ ขอโทษกับสิ่งที่เคยกระทำทุกอย่าง”
“...”
“ขอโทษที่เคยทำร้าย”
“...”
“ขอโทษที่ไม่เชื่อคำพูดของเธอ”
“...”
“ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ในเวลาที่เธอ้าใครสักคน”
“...”
“ขอโทษที่เป็ผู้ชายที่แย่ เป็พ่อที่แย่”
“...”
“เรามาเริ่มสร้างครอบครัวที่เป็ครอบครัวจริง ๆ กันเถอะนะ”
“คือกอหญ้า”
“ผมขอพูดให้จบก่อนนะ”
“กอหญ้าอาจจะคิดว่าผมพูดเพราะเื่ลูก แต่อยากให้รู้ไว้ ถึงแม้จะไม่เชื่อ”
“...”
“แต่เฮียรักเธอเข้าให้แล้วจริง ๆ นะกอหญ้า”
“คุณราชันย์อาจจะกำลังสับสน คุณนอนพักผ่อนเถอะค่ะ”
“เฮียรักเธอจริง ๆ รู้ตัวั้แ่เธอหายไป”
“แต่คุณราชันย์มีคุณมาหยาอยู่แล้วนะคะ”
“มาหยา?”
“...”
“คือเื่นั้น เฮียสามารถอธิบายได้ มาหยากับเฮียไม่ได้เกี่ยวข้องกันในฐานะอะไรที่มากไปกว่า...เอ่อ...แบบนั้นแหละ”
“...”
“แต่กับเธอ ไม่ใช่”
“หายโกรธเถอะนะ นะนะ”
เขาฝืนตัวเองลุกขึ้นมาด้วยดวงตาที่ปรือจนแทบลืมไม่ขึ้น ทำหน้าออดอ้อนกอหญ้าราวกับลูกแมวตัวน้อย ๆ เธอชั่งใจกับคำตอบของเขา ถึงในใจจะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าควรจะเชื่อคำพูดเขาไหม
แต่ใจลึก ๆ ของเธอก็รู้สึกดีใจอยู่หน่อย ๆ ที่ได้ยิน33คำว่ารักจากปากเขา ที่ได้ชื่อว่าไม่เคยบอกว่ารักใครเลย เธอมองหน้าเขาอย่างชั่งใจ หัวใจซีกซ้ายได้แต่พูดว่าทำตามหัวใจตัวเองเถอะ เพราะเธอรู้ตัวเองอยู่แล้ว ว่ารักเขามากเท่าไหร่ หัวใจซีกขวาก็ได้แต่ต่อต้านว่าอย่าหลงเชื่อคำพูดของเขาง่าย ๆ คนแบบราชันย์จะรักใครจริง
เธอนั่งนิ่ง ๆ ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ราชันย์เองก็ไม่เร่งเร้าที่จะได้คำตอบ เขานั่งจ้องหน้าเธอด้วยสายตาหวานหยดย้อย ราวกับลูกหมาที่นั่งรอเ้าของให้ขนม กอหญ้ามองหน้าเขาอีกครั้งพร้อมระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย ถึงที่ผ่านมาจะหนักหนาสาหัสไปบ้าง เสียใจไปบ้าง แต่ถ้าเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้มันดี เธอก็อยากจะลองมันสักตั้ง
“หญ้าก็รักคุณนะคะ”
ราชันย์เองก็ใกับคำตอบของเธอ ดวงตาที่ปรือแทบหลับเมื่อสักครู่ เบิกโพลงราวกับเห็นสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น เขายิ้มออกมาจนปากกว้างแบบคนไม่ห่วงหล่อ โผลเข้ากอดกอหญ้าทันที
“คุณราชันย์เบา ๆ ค่ะหญ้าหายใจไม่ออก”
“เรียกเฮียสิ เฮีย”
“เฮีย...แบบนี้หรอคะ”
“ชื่นใจที่สุดเลยโว๊ย!!”
“แต่ว่า…”
“หืม แต่อะไรหรอ”
“คุณราชันย์ เอ๊ย!เฮีย ... จะมาบังคับ ข่มขู่กอหญ้าไม่ได้แล้วนะคะ”
“แน่นอน!เฮียสัญญา หญ้าอยากได้อะไรเฮียจะหามาให้ทุกอย่าง”
“ทุกอย่างจริงหรอคะ”
“จริงสิ ต่อให้เป็ดาว เป็เดือน เฮียก็จะหามาให้”
“เฮียจะหามาให้ได้จริงหรอ”
“แน่นอน!! เฮียจะไปสั่งทำแบบจำลองมาให้เลย”
กอหญ้าหัวเราะร่าแบบที่ไม่เคยเป็มาก่อน เธอแทบจำไม่ได้แล้ว ว่าก่อนหน้านี้เธอเจออะไรมาบ้างเด็กผู้หญิงที่ติดซีรี่ย์เกาหลีในวันนั้น โตขึ้นมาจนเป็แม่คนในวันนี้ ถึงแม้ชีวิตจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เธอก็รู้สึกว่ายังโชคดีอยู่บ้างที่สุดท้ายคนที่เธอกลัว คนที่เธอแอบรัก คนที่เธอไม่คิดว่าจะได้มา จะมานอนหล่อ ๆ อยู่ต่อหน้าเธอเช่นนี้
เธอไม่รู้ว่าควรโกรธพ่อของเธอที่เป็หนี้ราชันย์ และทิ้งให้เธอต้องเป็คนแก้ปัญหา หรือควรขอบคุณที่ทำให้เธอลงเอยแบบนี้ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็มาจากผู้เป็พ่อ ส่วนนี้ไม่ผิดแน่
“เมียจ๋า”
“เรียกแบบนี้ กอหญ้าไม่ชินเลยค่ะ”
“เดี๋ยวก็ชินแน่นอน”
“ว่าไงคะ”
“เมื่อบ่ายเฮียเดินมา เฮียได้ยินเสียงลูก ๆ เราพูดว่า…”
“หืม..เฮียอย่ามาเว่อร์ ลูกเราพูดยังไม่ได้สักหน่อย”
“เฮียได้ยินจริง ๆ"
“หรอคะ...แล้วได้ยินว่าอะไรคะ”
“ลูกบอกว่า ปะป๊า ปะป๊า...อาร์เดนอยากได้น้อง”
ทันทีที่ราชันย์พูดจบ เขาก็โดนฝ่ามือของเธอฟาดแรง ๆ ไปหนึ่งที ซึ่งไม่เพียงแค่ราชันย์ไม่โกรธเท่านั้น เขากลับหัวเราะร่าราวกับคนอารมณ์ดีมาก ๆ กอหญ้าเห็นราชันย์ที่อารมณ์เธอก็พลอยยิ้มตามไปด้วย กอหญ้าดันแผงอกราชันย์ให้นอนลง เธอลุกขึ้นมาคร่อมสะโพกของราชันย์ไว้อย่างเย้ายวน
ซึ่งราชันย์เองก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นกอหญ้าในมุมนี้ เธอลูบไล้ปลดกระดุมเสื้อของเขาทีละเม็ด ด้วยท่าทางที่เย้ายวน จนหมดรางดุมเผยให้เห็นแผงอกแกร่งที่ถึงแม้เขาจะป่วยและซูบลงไปบ้าง แต่ลอนหน้าท้องยังคงชัดเจนอยู่ มือเธอเลื่อนลงมาเรื่อย ๆ จนถึงเข็มขัดที่ปิดกั้นเ้าโลกที่ตอนนี้ตื่นตัวดันกางเกงราวกับจะปริแตก
เธอจัดการปลดเข็มขัดและถอดกางเกงของเขาออกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ แต่ช่างน่าดูและเร้าอารมณ์ของเขาเป็อย่างมาก เพียงไม่นานร่างกายของราชันย์ก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อนปะทะลมของเครื่องปรับอากาศ เมื่อยทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว กอหญ้าก็ไม่รีรอ เธอลงไปนั่งข้าง ๆ และดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายให้ราชันย์ทันที
“นอนพักผ่อนนะคะ เสื้อผ้ามันชื้นหญ้าจะเอาไปซักให้นะคะ”
“กอหญ้า เธอจะมาทำกับเฮียแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำอะไรคะ”
กอหญ้าเอียงคอถามเขาแบบอินโนเซ้นท์ราวกับคนที่ไม่รู้เลยว่าราชันย์พูดเื่อะไร เธอเก็บเสื้อผ้าของเขาที่เธอปลดออกมา ถือไว้ ทิ้งให้ราชันย์ที่ทำหน้าเหยเก เสียดาย แต่ทำอะไรไม่ได้นอนคิ้วผูกโบอยู่บนที่นอน
“อ่าว เฮียไม่บอกหญ้าก็ไม่รู้นะคะ”
“กอหญ้า เธอมันร้าย”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะเฮีย”
“เธอช่างทำกับเฮียได้ ดูสิเ้าลูกชายเฮียมันกระตุกใหญ่แล้ว”
“แต่หญ้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ แค่...จะถอดเสื้อผ้าไปซัก”
ราชันย์ทำหน้าหงอยกะพริบตาปริบ ๆ ให้กอหญ้า เขาลุกขึ้นมาเอื้อมมือไปจับมือเธอช้า ๆ เขย่าเบา ๆ ราวกับเด็กที่กำลังอ้อนขอซื้อขนม กอหญ้าเองก็สติหลุดเพราะลูกไม้ราชันย์ชั่วครู่ เขาในมุมนี้เป็มุมที่แทบไม่เคยเห็นมาก่อนเลยก็ว่าได้
“เมียจ๋า เฮียทนไม่ไหวหรอกนะ”
“แต่เฮียไม่สบายอยู่นะคะ”
“ไม่มีปัญหา เื่นี้เฮียสู้ตาย นะนะ”
กอหญ้าไม่ได้ตอบอะไรเขา ได้แต่ยืนนิ่ง ๆ ก่อนจะเดินตามแรงชักจูงของราชันย์ไป รู้ตัวอีกทีเธอก็เปล่าเปลือยอยู่ใต้อาณัติของเขาแล้ว
“กอหญ้า”
“คะ”
“แต่งงานกันนะ”
“ค่ะ หญ้าจะแต่งงานกับเฮียราชันย์ หญ้าจะมีแค่เฮียคนเดียว”
“ต่อจากนี้ไป เฮียจะรักและซื่อสัตย์ มีแค่เธอคนเดียว”
เมื่อเขาพูดจบริมฝีปากของเขาก็บรรจงจุมพิตกับริมฝีปากบาง ๆ ของเธออย่างแ่เบาราวกับกำลังกลัวว่าเธอจะแตกสลายหายไปอย่างไรอย่างนั้น เมื่อเขาจุมพิตอย่างแ่เบาแล้วมือที่นึกว่าหนวดปลาหมึกของเขาก็เริ่มทำงานทันที กอหญ้าเองที่ถูกเขาปลุกเร้าก็มีอารมณ์ร่วมไปด้วยกัน ภารกิจผลิตน้องให้อาร์เดนและอลิซจึงเริ่มต้นขึ้น
- จบบริบูรณ์ -
