“เสี่ยวไฮว่ ครั้งนี้เธอบุ่มบ่ามเกินไป” เมื่อมู่หรงกูเห็นว่าหนานกงเชี่ยนจากไปก็พูดขึ้นเบาๆ พลางส่ายศีรษะ
“ที่ตบไปเมื่อกี้ คงไม่ทำให้พ่อตาปวดใจหรอกใช่ไหม ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ แล้วเดินเข้าห้องไป “เวยเวยพี่หลง ที่ฉันตบไปเมื่อกี้สุดยอดเลยไหมล่ะ”
“พี่ไฮว่ เมื่อกี้พี่บุ่มบ่ามไปแล้วยายผู้หญิงตระกูลหนานกงไม่ปล่อยพี่ไปง่ายๆ แน่” มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นด้วยความกังวล
“อยากทำอะไรก็ทำ อยากตบก็ตบ มีเวลาคิดนานที่ไหนกันล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “วางใจเถอะถ้าพวกเขาอยากแก้แค้น มาก็มาสิ”
“ฮ่าๆ น้องเขยสุดยอดเลย” มู่หรงหลงพูดยิ้มๆแต่คำว่าน้องเขย ทำเอามู่หรงเวยเวยหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่หลง ยาลูกกลอนที่ผมให้พี่ไป ร่างกายยังไม่ได้ดูดเอาฤทธิ์ยาไปใช้ทั้งหมดรอให้พี่ดูดเอาจนหมดก็น่าจะถึงขั้นเขตแดนเซียนเทียนแล้วล่ะพี่ไปศึกษาคัมภีร์โบราณไทเก๊กเล่มนี้หน่อยเถอะจะศึกษาได้ถึงขนาดไหนก็อยู่ที่ตัวพี่เองแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดพลางส่งตำราที่ตนเองเขียนเองกับมือให้กับมู่หรงหลง
“ทั้งสามท่านครับ เื่เมื่อกี้ขอบคุณมากเลยนะครับผมคิดวิธีรักษาอาการป่วยแฝงบนตัวพวกคุณออกแล้วล่ะแต่ว่ามีสมุนไพรบางอย่างที่พวกคุณต้องไปเอามาเอง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เดี๋ยวผมจะเขียนชื่อสมุนไพรให้พวกคุณ แล้วพวกคุณให้เสี่ยวเฟยส่งมาให้ผมไปยังที่ที่หนึ่งแล้วเดี๋ยวผมจะให้คนเอาไปให้อาจารย์” แล้วกัวไฮว่ก็บอกที่อยู่ของบ้านพักตนให้กับคนทั้งสาม
“พ่อหนุ่มวางใจเถอะ จะส่งสมุนไพรไปภายในเจ็ดวันอย่างแน่นอน” ทั้งสามคนพูดขึ้นด้วยความดีใจ “พ่อหนุ่มไม่ต้องกังวลเื่หนานกงเชี่ยนนะในแดนยุทธแห่งนี้ ถ้าคิดจะข่มขู่ใครก็ต้องถามพวกเราก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่”
“ทั้งสามคนเป็คนในยุทธภพ ยุ่งเื่บุญคุณความแค้นให้น้อยหน่อยจะดีกว่าจะดีชั่วย่อมได้รับผลคือ ถ้ายุ่งมากไปจะไม่เป็การดีกับพวกท่านในอนาคตถ้าตระกูลหนานกงอยากจะมา ก็ให้พวกเขามาเถอะผมจะทำให้พวกเขาได้รู้ว่าอะไรคือความเ็ป อะไรคือความเสียใจ”
“พี่เขย เดี๋ยวพวกเราจะกลับโรงเรียนกันแล้ว ร่างกายพี่เพิ่งจะฟื้นฟูร่างกายของพี่เป็ยังไงพี่ย่อมรู้ดีกว่าผมเขตแดนเซียนเทียนนี่ก็นับว่าเป็นักยุทธแล้วนะ อย่าเอาพลังยุทธไปทำร้ายใครล่ะไม่งั้นมันจะวกกลับสู่ตน เดี๋ยวจะสำเร็จอีกทียากแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เข้าใจแล้วเมื่อกี้ฉันปรึกษากับพ่อแล้วว่าจะแอบส่งบอดี้การ์ดไปดูแลนายกับเวยเวยอย่าปฏิเสธล่ะ สู้กันซึ่งๆ หน้ารับมือได้ง่ายกว่าแทงข้างหลัง” มู่หรงหลงพูดยิ้มๆ
“พี่ไฮว่ ขอบคุณนะ” เช้าวันต่อมามู่หรงเวยเวยกับกัวไฮว่กำลังจะกลับไปยังโรงเรียน มู่หรงเวยเวยก็พูดขึ้นยิ้มๆกับกัวไฮว่ระหว่างทาง ทว่าพวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่าเมื่อวานก็เกิดเื่ใหญ่ขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งมหาวิทยาลัยอู่เฉิง
“สวัสดีทุกคน ฉันชื่อฉางเสี่ยวอวี้ พวกเธอเรียกฉันว่าอวี้เอ๋อร์ก็ได้เป็นักเรียนใหม่ห้องหนึ่ง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ” หลินซวงรอนักเรียนที่มาใหม่ที่ห้องของตนั้แ่เช้าฉางเสี่ยวอวี้ แต่เมื่อเห็นฉางเสี่ยวอวี้แวบแรก หลินซวงก็ถึงกับนิ่งอึ้งไป สวยใช่แล้ว สวยมาก ออร่า ใช่แล้ว มีออร่า รูปร่าง ใช่แล้ว รูปร่างนางฟ้า ชีวิตในอดีตใช่แล้ว ผู้สืบทอดของตระกูลใหญ่ในอเมริกา จากคำพูดของหลี่สวินอวี้ก็คือสิ่งที่์จะให้คนหนึ่งได้ก็ให้เด็กผู้หญิงคนนี้ไปหมดแล้ว
“คนสวย เธอมีแฟนแล้วหรือยัง ถ้าไม่มี ฉันช่วยเป็ให้่หนึ่งก่อนได้นะจะกินดื่มเที่ยวพนัน พี่ทำไม่เป็เลย” เด็กหนุ่มในห้องหนึ่งพูดขึ้นกับเสี่ยวอวี้ด้วยเสียงดัง
“พี่ไฮว่ไม่อยู่ สาวสวยแบบนี้ก็ควรต้องเป็ของเฉียนตัวตัวสิเมื่อกี้เธอบอกแล้วว่าฝากเนื้อฝากตัวที่บอกว่าฝากเนื้อฝากตัวนี่ไม่ใช่ว่าให้ฉันดูแลเธอหรอกเหรอ” เฉียนตัวตัวกระพริบตา มองไปยังฉางเสี่ยวอวี้อย่างเ้าเล่ห์
“สวยจังเลย หน้าตาระดับเดียวกับมู่หรงเวยเวยเลยส่วนรูปร่างนี่แน่นอนว่าชนะขาด รูปร่างพอๆ กับครูหลินเลย” นักเรียนชายแถวหลังเบิกตากว้างพลางพูดพึมพำกัน
สิ่งที่ทำให้หลินซวงประหลาดใจไม่ใช่ท่าทีของนักเรียนชายแต่เป็ท่าทีของนักเรียนหญิงนักเรียนหญิงทุกคนในห้องไม่ได้พูดวิจารณ์นักเรียนหญิงที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ทุกคนล้วนแต่ต้อนรับเธอ
“เสี่ยวอวี้ ไปหาที่นั่งก่อนเถอะ เดี๋ยวจะเข้าเรียนแล้ว” หลินซวงพูดยิ้มๆ กับฉางเสี่ยวอวี้
อวี้เอ๋อร์มองไปรอบห้องแล้วเดินไปทางเฉียนตัวตัวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแล้วนั่งลงด้านหน้าของเฉียนตัวตัวซึ่งเป็ที่นั่งของกัวไฮว่
“คนสวย ตรงนี้มีคนนั่งแล้ว แค่ลาเรียนยังไม่ได้กลับมาน่ะเธอนั่งตรงนี้ไม่ได้” เฉียนตัวตัวพูดแล้วยิ้มให้กับอวี้เอ๋อร์
“งั้นฉันนั่งด้านใน” พูดเสร็จอวี้เอ๋อร์ก็เขยิบเข้าไปนั่งข้างใน
“ข้างในเป็ที่นั่งซ้อฉัน ลาเรียนด้วยกันน่ะ เธอก็นั่งไม่ได้” เฉียนตัวตัวพูดขึ้นเบาๆ
“งั้นข้างๆ นายมีคนนั่งรึเปล่า ฉันจะนั่งข้างนาย” อวี้เอ๋อร์มองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้แล้วพูดยิ้มๆแม้จะมีพลังเซียนเหลือแค่เล็กน้อยแต่เธอก็ััได้ว่าร่างกายของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้เคยถูกรักษาด้วยยาลูกกลอนแม้ยาลูกกลอนนี้จะไม่มีอะไร แต่ก็ไม่ใช่สิ่งของของแดนนี้แน่คนผู้นี้ย่อมเกี่ยวพันกับเทพแห่งจิต
“ไม่มีใครนั่ง ไม่มีใครนั่ง เธอนั่งข้างในได้เลย” เฉียนตัวตัวพูดยิ้มๆ
“ถ้าข้างในไม่มีคน งั้นนายไปนั่งข้างในได้ไหม ฉันชอบนั่งด้านนอกน่ะ” อวี้เอ๋อร์มองเฉียนตัวตัวแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“ได้ ได้ ได้ ฉันนั่งข้างใน เธอนั่งข้างนอก” เฉียนตัวตัวพูดขึ้นยิ้มๆโดยไม่เห็นเซวียนต้าจู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา
“ขอบคุณนะ” พูดเสร็จอวี้เอ๋อร์ก็นั่งที่ที่นั่งของเฉียนตัวตัว
“พี่ตัวตัว พี่ออกมาก่อนหน่อยได้ไหม ผมอยากจะกลับไปนั่งที่ของผม” เฉียนตัวตัวยังไม่ทันจะได้นั่งลงบนเก้าอี้ก็มีเสียงหยาบดุดันก็ดังขึ้นข้างหูของตน ใช่แล้วที่ที่เขานั่งตรงนี้เป็ที่ของเซวียนต้าจู้
“ต้าจู้ นายไปหาที่อื่นนั่งไป ให้ฉันนั่งตรงนี้” เฉียนตัวตัวพูดขึ้นด้วยความหน้าหนา
“ไม่ได้” ต้าจู้พูดเสียงดัง
“ข้าวเดือนนึง นายอยากกินอะไรฉันให้นายหมดเลย” เฉียนตัวตัวพูดขึ้นเบาๆ
“ไม่ต้อง ผมไม่ขาดเงินแล้วก็ไม่ขาดของกินด้วยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันพี่ไฮว่จะได้ที่หนึ่งการแข่งขันวิชาการผมก็จะมีเงินหลายสิบล้านแล้ว ไม่ขาดเงินหรอก” เซวียนต้าจู้พูดยิ้มๆ
“เดี๋ยวฉันช่วยนายจีบยายเสิ่นปี้โหรวมอหกนั่น” เฉียนตัวตัวพูดเสียงดัง
“ไม่ต้องหรอก ผมจีบติดแล้ว” พูดเสร็จเซวียนต้าจู่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาหน้าจอโทรศัพท์เป็รูปเซวียนต้าจู่โอบกับเสิ่นปี้โหรว
“ให้ตายสิ นายมีแฟนแล้วนายจะยังนั่งตรงนี้อีกทำไม” เฉียนตัวตัวเบิกตาโพล่งพลางพูดขึ้น
“ผมแค่อยากนั่งใกล้ๆ กับพี่ไฮว่” เซวียนต้าจู่พูดเสียงดัง “พี่ตัวตัว ถ้าพี่ยังไม่ไปอีก ผมจะโทรหารุ่นพี่หูแล้วนะถึงตอนนั้นพี่ได้สวยแน่”
เฉียนตัวตัวถลึงตามองเซวียนต้าจู้แวบหนึ่งแล้วเดินออกมาจากด้านในอย่างช่วยไม่ได้ เซวียนต้าจู่นั่งลงบนเก้าอี้เตี้ยจากนั้นก็มองอวี้เอ๋อร์แวบหนึ่งอวี้เอ๋อร์เองก็เบิกตามองชายร่างใหญ่ที่ดูไม่เหมือนนักเรียนผู้อยู่ตรงหน้าคนนี้