ในที่สุดพวกเธอก็ฝ่าวงล้อมของนักข่าวออกมาไดู้เี่อันถอนหายใจก่อนจะถามลู่เป๋าเหยียน
“ปกตินายต้องรับมือกับสื่อแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”
“บางครั้งการพบสื่อก็เป็เื่จำเป็”ลู่เป๋าเหยียนตอบ “เธอเองก็ควรรีบทำตัวให้ชิน”
ูเี่อันห่อไหล่เล็กน้อยก่อนจะพูดอึกอัก
“ฉะ ฉันกลัวกล้อง”
“เธอกลัวกล้อง?” ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย“ถ้าฉันมองไม่ผิด ในห้องนอนเธอมีกล้องโปรกับเลนส์แบบมืออาชีพอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอพี่ชายเธอก็เคยบอกฉันว่า เธอเคยได้รางวัลจากการถ่ายภาพ”
“ที่จริงแล้วคนที่เป็แพทย์นิติเวชมักจะถ่ายรูปได้ดีกว่าคนทั่วไปเพราะพวกเราจะต้องถ่ายสถานที่เกิดเหตุ ภาพศพ หลักฐานต่างๆยิ่งถ้าใครชอบถ่ายรูปอยู่แล้วล่ะก็ การที่จะมีอุปกรณ์ถ่ายภาพแบบมืออาชีพถือเป็เื่ปกติ แต่...ทั้งหมดนั่นพวกเราคือคนถ่าย ไม่ใช่คนถูกถ่ายนี่นา”
เธอคือคนถือกล้องมาโดยตลอดไม่ใช่จุดรวมสายตาของใคร แสงแฟลชของพวกสื่อที่สาดรัวเข้ามาในวันนี้ ไหนจะยังคำถามไล่บี้พวกเธอราวกับะุไม่ใช่เื่ปกติที่คนทั่วไปจะต้องพบเจอ
จะให้เธอคุ้นชินกับมันเหมือนลู่เป๋าเหยียนเธอคงต้อง...ใช้เวลาอีกหลายชาติกว่าจะทำสำเร็จ
เธอดูหวาดหวั่นราวกับกระต่ายน้อยที่เพิ่งเคยเข้าเมืองเป็ครั้งแรกลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจอย่างอ่อนใจ
“ถ้ากลัวก็ตามฉันไว้อย่าเดินไปไหนมาไหนเอง”
ูเี่อันตาเป็ประกายทันทีที่ได้ยิน
จริงด้วยสินะ!ตามลู่เป๋าเหยียนเอาไว้ก็จบแล้ว เพราะเขาช่วยเธอรับมือพวกนักข่าวได้สบายๆ!
เธอยิ้มหวานก่อนจะคล้องแขนเขาอย่างว่าง่าย
ลู่เป๋าเหยียนจึงเดินพาเธอไปดูบรรยากาศรอบงาน
การตกแต่งสถานที่ในวันนี้เป็ความรับผิดชอบของูเี่อันเธอเป็คนแก้ไขรายละเอียดหลายอย่างจากแผนเดิมดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับการตกแต่งสถานที่ทั้งหมดเป็ที่สุดหลังเดินวนไปทั่วงานจนครบ เธอก็อดถามลู่เป๋าเหยียนไม่ได้ว่า
“เป็ไงคะคุณลู่พอใจกับผลงานของภรรยาคุณไหมคะ”
เมื่อเทียบกับงานเลี้ยงครบรอบในครั้งผ่านๆมา การตกแต่งสถานที่ครั้งนี้ดูจะสดใสกว่าทุกทีแม้จะดูเป็ทางการแต่ก็ไม่เคร่งขรึมจนเกินไป แถมรายละเอียดต่างๆ ยังสมบูรณ์แบบไร้ที่ติโดยเฉพาะการจัดดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม ที่แค่ดูก็รู้ว่าคนเตรียมงานใส่ใจมากขนาดไหน
สมแล้วที่เป็ผลงานของูเี่อันลู่เป๋าเหยียนยิ้มอย่างพอใจ
“ไม่นึกเลยว่าเธอจะมีพร์ด้านนี้อีกหน่อยงานพวกนี้ของเครือลู่ฉันจะมอบให้เธอทำ”
ูเี่อันพูดไม่ออก
“...ฉันไม่ใช่พนักงานของนายสักหน่อย”
“ขอแค่เธออยากมาทำงานที่บริษัทจะเอาตำแหน่งไหนเลือกเลย”
แววตาของเขาปนความขบขันที่หากใครได้สบกับั์ตาคู่นั้นก็อาจจะหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียงแหบทุ่มต่ำของเขา ทำให้คนฟังยากที่จะปฏิเสธ และยอมทำตามในที่สุด
แตู่เี่อันกลับแค่กะพริบตาปริบๆ
“ฉันมีตำแหน่งในบริษัทนายแล้วนี่ตำแหน่งภรรยาท่านผอ.ไง”
ฮึๆอยู่กับเขามานานจนเริ่มมีภูมิคุ้มกันขึ้นบ้างแล้วสินะ
ลู่เป๋าเหยียนนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะหุบยิ้ม เขามองเวลา อีกสิบนาทีก็จะถึงเวลาเริ่มงาน
พนักงานรวมถึงผู้บริหารของบริษัทสาขามาถึงกันแล้วทุกคนใส่สูทแต่งชุดราตรีกันมาอย่างเต็มที่บริกรหนุ่มสาวรูปร่างดีเดินถือถาดเครื่องดื่มไปมาบรรยากาศทั่วทั้งโรงแรมเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานซูอี้เฉิงก็มาถึง
นอกจากลู่เป๋าเหยียนเขาคือชายหนุ่มในฝันของหญิงสาวนับพันทั่วทั้งเมือง A การปรากฏตัวของเขาทำเอาสาวโสดทั้งหลายพากันฮือฮาอย่างตื่นเต้นพลางลอบมองเขาอย่างเขินอาย
นอกจากใบหน้าที่หล่อเหลาและรูปร่างที่ดูดีดั่ง์ประทานมาให้แล้ว ซูอี้เฉิงยังเป็คนสุขุมนุ่มลึกทุกอิริยาบถของเขาดูมีเสน่ห์เป็เอกลักษณ์ในแบบผู้ใหญ่
และวันนี้เขาในชุดสูทสีเทาสไตล์ยุโรป ช่างดูหล่อเหลาโดดเด่นกว่าใคร
ูเี่อันลอบถอนหายใจเบา“มิน่าเสี่ยวซีถึงได้หลงพี่ชายฉันมาตลอดหลายปี นี่ถ้าฉันไม่ใช่น้องสาวของเขาฉันคงต้องชอบพี่แน่ๆ...”
พูดจบเธอก็ถูกลู่เป๋าเหยียนรวบเอวเอาไว้แน่นจนตัวเซเธอหันไปมองเขาอย่างกล่าวโทษ ถึงได้รู้ว่าในตอนนี้เธอกับเขาอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน
ลมหายใจอุ่นร้อนของเขารดลงบนใบหน้าของเธอ
“น่าเสียดายที่พวกเธอเป็ได้แค่พี่น้อง”
ูเี่อันรู้สึกจั๊กจี้นิดๆบริเวณที่ลมหายใจเขารดลงมา เธอยกมือจับใบหน้าตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มดิ้น
“ปล่อยฉัน คนเยอะขนาดนี้เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิดหมด”
ลู่เป๋าเหยียนถามอย่างสนใจ“พวกเขาจะเข้าใจผิดเื่อะไร คงคิดแค่ว่าพวกเรารักกันดีเสียมากกว่า”
ูเี่อันทำหน้าไม่ถูก“ลู่เป๋าเหยียน นายหึงแล้วใช่ไหมเนี่ย งั้นฉันจะบอกความจริงกับนายว่าั้แ่เด็กฉันชอบพี่มาโดยตลอด ชอบมาก่อนเสี่ยวซีเสียอีก!”
เธอยอมรับว่าเธอจงใจพูดแบบนั้น
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตาอย่างไม่น่าไว้ใจแต่เขากลับไม่ตกหลุมพรางที่เธอขุดไว้
“ชอบแบบไหน?”
หางตาของูเี่อันเหลือบไปเห็นซูอี้เฉิงที่กำลังเดินตรงเข้ามาใบหน้าเธอเริ่มร้อนขึ้นนิดๆ จึงเริ่มดิ้นขืนตัวอีกครั้ง
“นายปล่อยฉันก่อนสิ”
ลู่เป๋าเหยียนยิ่งรัดเธอให้แน่นขึ้นอีก
“เธอบอกฉันมาก่อนไม่งั้น...” เขามองริมฝีปากอิ่มสีแดงสด ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
ูเี่อันรู้จักสายตาแบบนี้ของเขาดีเธอถึงกับตัวสั่น จนต้องพูดความจริงออกไป
“ก็...ชอบแบบพี่ชายกับน้องสาวน่ะสิจะให้ชอบแบบไหนได้เล่า”
ลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากยิ้มอย่างพอใจก่อนจะปล่อยูเี่อันให้เป็อิสระ พอดีกับจังหวะที่ซูอี้เฉิงเดินเข้ามา
ั้แ่ซูอี้เฉิงเดินเข้ามาก็เห็นสองคนนี้กำลังเถียงกันอยู่แต่เขาไม่อยากถามให้มากความ จึงมองูเี่อันั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ยคำชม
“น้องสาวของพี่วันนี้สวยจัง”ก่อนจะหันหน้าไปหาลู่เป๋าเหยียน “ฉันเริ่มเสียใจที่ปล่อยให้เจี่ยนอันแต่งงานกับนายแล้วเนี่ย”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม“ไม่ทันแล้วล่ะ ตอนนี้คนทั้งโลกรู้กันหมดแล้วว่าเธอคือภรรยาของฉัน”
ซูอี้เฉิงถึงกับถอนหายใจ“เจี่ยนอัน พี่คิดไม่รอบคอบเองรู้อย่างนี้พี่น่าจะให้ผู้ชายที่อยู่ข้างน้องคนนี้ตามจีบน้องจีบจนกว่าน้องจะยอมตกลงแต่งงานกับเขาดีกว่า”
ูเี่อันหน้าแดงก่ำมาั้แ่เมื่อกี้แล้วเธอจึงไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
ซูอี้เฉิงยิ้มก่อนจะลูบศีรษะเธอเบาๆ
“แต่ก็นะไม่แน่เขาอาจจะจีบน้องไม่ติดก็ได้ขนาดคนที่คุณสมบัติไม่ได้ด้อยไปกว่าลู่เป๋าเหยียนอย่างคุณชายตระกูลโจว ที่ถือกุหลาบมาสารภาพรักกับน้องทุกวันใต้ตึกน้องยังไม่สนใจเลยจริงไหม”
“...”นี่พี่ตั้งใจใช่ไหมเนี่ย
ลู่เป๋าเหยียนกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นก่อนจะกระซิบถาม
“โจวเนี่ยนปอเคยตามจีบเธอ?”
ูเี่อันกระแอมก่อนตอบ
“ฉะ ฉันลืมไปแล้ว”
เธอรีบเปลี่ยนเื่ทันที
“แล้วคู่ควงของพี่ล่ะคะ”
“ถ้าเธอถึงแล้วคงจะมาหาพี่เอง”
ซูอี้เฉิงรู้ดีว่าูเี่อัน้าลองเชิงเขาแต่เขาไม่บอกเธอหรอก ก็เหมือนกับครั้งนั้นที่พวกเขาเจอกันที่ร้านอาหารต่อให้น้องสาวของเขาจะพยายามหลอกถามแค่ไหน เขาก็ไม่หลุดอยู่แล้ว
ูเี่อันถามอย่างร้อนใจ“ตกลงเธอคือใครคะ เลขาของพี่ จางเหมยงั้นเหรอ”
ซูอี้เฉิงยิ้มอย่างยากที่จะเดาความหมาย
“เดี๋ยวเธอถึงแล้วน้องก็รู้เอง”
“...”ูเี่อันรู้ดีว่าพี่จงใจแกล้งเธอ เธอจึง “เชอะ” ใส่เขาไปหนึ่งทีก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ไม่บอกก็แล้วแต่เพราะลั่วเสี่ยวซีก็ใกล้จะถึงแล้วล่ะค่ะ”
เธอเพิ่งพูดจบเสียงฮือฮาจากพวกผู้ชายหน้าประตูก็ดังขึ้น เมื่อมองตามออกไปภาพของหญิงสาวในชุดราตรีสีแดงก็สะดุดตาทันที
ลั่วเสี่ยวซีจริงๆ ด้วย
เธออยู่ในชุดราตรีสั้นสีแดงที่อวดเรือนร่างสมบูรณ์แบบเรียวขายาวและผิวเนียนละเอียดราวกับหยกชั้นดีของเธอดึงดูดทุกสายตาคนมองผมลอนยาวสลวยที่ถูกจัดแต่งเอาไว้อย่างดี ทำให้เธอความเซ็กซี่ของเธอนั้นพุ่งทะยานถึงขีดสุด
แต่เดิมเธอก็เป็คนสูงโปร่งอยู่แล้วมาวันนี้เธอสวมรองเท้าส้นสูงกว่าแปดเิเที่มีดีไซน์โดดเด่นสะดุดตาพร้อมก้าวเดินด้วยท่าทางอันมั่นใจยิ่งกว่านางแบบมืออาชีพถ้าจะให้อธิบายด้วยคำพูดของพวกผู้ชายแล้วละก็ลั่วเสี่ยวซีในวันนี้ก็คือนางแมวยั่วสวาทดีๆ นี่เอง
ที่จริงซูอี้เฉิงไม่ชอบผู้หญิงที่ทำอะไรตามอำเภอใจแบบนี้แต่เธอไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
เธอโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ราวกับปีศาจแสนสวยเมื่อเห็นเธอมาคนเดียวชายโสดทุกคนในงานต่างพากันตื่นเต้น ทว่าเธอกลับเดินตรงมาหาซูอี้เฉิงโดยไม่สนคนอื่น
เธอมองไปรอบๆ กายของซูอี้เฉิงก่อนจะยิ้มถามเขา
“นายไม่ได้พาจางเหมยมาเหรอต้องแบบนี้สิ วันนี้นอกจากฉันแล้วยังจะมีใครเหมาะสมกับนายอีกล่ะจริงไหม”
ูเี่อันดึงมือลู่เป๋าเหยียนเบาๆลู่เป๋าเหยียนรู้ดีว่าเธอ้าอะไร จึงบอกว่าจะต้องไปทักทายแขกในงาน ก่อนจะพาูเี่อันเดินแยกออกไป
“เธอกับลั่วเสี่ยวซีรู้จักกันได้ยังไง”ลู่เป๋าเหยียนถาม
“ตอนม.ปลายอยู่ๆ เธอก็มาหาฉันบอกว่าอยากเป็เพื่อนกับฉัน” คิดไปถึงตอนนั้นูเี่อันก็อดยิ้มไม่ได้“ตอนแรกฉันก็ไม่สนใจเธอหรอก แต่ไปๆ มาๆ กลับรู้สึกว่าเธอคนนี้ไม่เหมือนใครสุดท้ายพวกเราก็กลายมาเป็เพื่อนกัน ตอนหลังฉันถึงรู้ว่าตัวเองโดนหลอกซะแล้วที่แท้เธออยากจะใช้ฉันเป็สะพานเพื่อเข้าหาพี่ แต่น่าแปลกที่ฉันโกรธเธอไม่ลงแถมยังคอยช่วยเธอมาโดยตลอด”
พอมาคิดดูดีๆตอนนั้นที่เธอตัดสินใจคบเพื่อนคนนี้ อาจเป็เพราะเธออิจฉาในความกล้าหาญของลั่วเสี่ยวซีก็เป็ได้
่นั้นเธอเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองชอบลู่เป๋าเหยียนแต่ก็ทำได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้เป็ความลับ ต่างจากลั่วเสี่ยวซีที่เมื่อเธอชอบใครสักคนก็กล้าเข้าไปจีบตรงๆ โดยไม่สนว่าอายุจะห่างกันเป็หกปีไม่สนสายตาคนอื่น ไม่สนว่าตัวเองจะมีมารักมาหลงกี่คนเธอทุ่มเทให้กับคนที่เธอชอบเท่านั้น ไปๆ มาๆลั่วเสี่ยวซีก็ตามจีบพี่ชายเธอมานานขนาดนี้แล้ว
“ทำไมอยู่ๆ นายถึงถามล่ะ”ูเี่อันย้อนถามเขาอย่างสงสัย
“ลั่วเสี่ยวซีเกิดมาเพื่อเป็นางแบบ”ลู่เป๋าเหยียนตอบ “ถ้าวางแผนดีๆ ไม่นานเธอคงกลายเป็คนดังได้ไม่ยาก”
“ที่จริงฉันว่าเธอเหมือนพวกคาสโนวาในคราบผู้หญิงดีๆนี่แหละ” ูเี่อันพูด “แต่ฉันดูออกว่าคราวนี้เธอตั้งใจอยากจะเป็นางแบบจริงๆลู่เป๋าเหยียน ถ้าเป็ไปได้ ฉันอยากให้นายช่วยเธอได้หรือเปล่า”
“ไม่ต้องให้ฉันช่วย”ลู่เป๋าเหยียนหยิบแชมเปญจากถาดเครื่องดื่มที่บริกรเดินเข้ามาเสิร์ฟก่อนจะส่งใหู้เี่อันแก้วหนึ่ง
“แค่ให้โอกาสเธอได้เดินบนแคทวอคเธอก็จะฉายแววขึ้นมาเอง”
ั้แ่ม.ปลายจนถึงมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็งานเลี้ยงครั้งไหน ลั่วเสี่ยวซีก็มักจะเป็จุดเด่นอยู่เสมอพวกผู้ชายต่างพากันสารภาพรักกับเธอ แต่ลั่วเสี่ยวซีไม่เคยปล่อยให้ยืดเยื้อเธอมักจะบอกกับผู้ชายเ่าั้ไปตรงๆ ว่า เธอมีคนที่ชอบอยู่แล้วพวกเรามาเป็เพื่อนกันไหม?
ด้วยเหตุนี้สิบกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อนผู้ชายของลั่วเสี่ยวซีจึงมีจำนวนมากกว่าเพื่อนผู้หญิงลิบลับ
ูเี่อันพยักหน้า“ถ้าเธอดังขึ้นมาก็ดีสิ พี่ฉันจะได้หึง จนยอมรับลั่วเสี่ยวซีสักที”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปากพลางคิด
ต่อให้ลั่วเสี่ยวซีไม่ดังเขานี่แหละที่จะช่วยดันเธอให้ดังจนได้ ไม่ว่อย่างไรเขาจะต้องทำให้ซูอี้เฉิงได้ััถึงความรู้สึก ‘บางอย่าง’ สักวันให้ได้
