หวงต้าเตรียมที่จะดูอะไรสนุกๆจากเจียงเฉิน หากว่าเขาไม่สามารถทำลายอาคมป้องกันได้ จากนั้นมันจะลงมือด้วยตนเอง แต่ผิดคาด เจียงเฉินสามารถทำลายมันลงได้อย่างง่ายดาย นี่ทำให้หวงต้าถึงกับประหลาดใจว่าเขาทำได้อย่างไร
"เ้านี่มันสัตว์ประหลาดจริงๆ"
หวงต้าพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก
"ท่านพี่เจียงเฉิน ดูนั่นสิ! มีทางเดินอยู่ด้วยเ้าค่ะ!"
เยี่ยนเฉินหยวี่ชี้ไปยังบริเวณที่เมื่อครู่มีอาคมป้องกันอยู่ แต่ประตูเก่าๆได้หายไปแล้ว ปรากฏทางเดินที่มืดมิดขึ้น
"ไปเถอะ พวกเราไปดูกัน!"
หวงต้าพุ่งออกไปข้างหน้า มันเข้าไปยังทางเดินคนแรก
เจียงเฉินและเยี่ยนเฉินหยวี่เดินตามมันไป ทางเดินนี้ไม่ได้กว้างมากแต่ก็เพียงพอให้คนสองคนเดินผ่านไปได้พร้อมกัน
"ทางเดินนี้ดูเหมือนว่ามันจะลงไปข้างล่างนะ ดูเหมือนว่าสมบัติลับนั่นจะซ่อนอยู่ใต้พื้นดิน ไม่คิดว่าจนถึงตอนนี้มันยังไม่ถูกค้นพบ มันซ่อนได้แเีเสียจริง"
เจียงเฉิน พูด
"ว๊ะก่ะก่ะ... ข้าได้กลิ่นของสมบัติรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ "
ดวงตาทั้งสองข้างของหวงต้าส่องประกาย มันรีบกระโจนลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว
ทางเดินนี้ไม่ได้ยาวมากนัก หลังจากพวกเขาเดินทางไปเพียงแค่สิบเมตรเท่านั้น พวกเขาก็ถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางนี้ มันไม่ได้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากมายอะไร เนื้อที่ของมันเพียงแค่ประมาณบ้านสามหลังเท่านั้น มันถูกรายล้อมไปด้วยกำแพงหินที่เย็นะเื บนตัวกำแพงหินมีหินดวงจันทร์ขนาดเท่ากำปั้นเปล่งแสงสลัวๆท่ามกลางความมืด
หินดวงจันทร์เป็ของหายาก แต่มันไม่ได้มีมูลค่ามากนักเป็ได้เพียงแค่ของตกแต่งเท่านั้น ดังนั้นเจียงเฉินและหวงต้าจึงไม่ได้สนใจมันเท่าไรนัก
"อ้ะ.. ท่านพี่เจียงเฉินนั่น!มีโครงกระดูกอยู่ด้วยเ้าค่ะ! "
เยี่ยนเฉินหยวี่ะโออกมา เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงเฉินและหวงต้าหันไปมองตามนาง ก็พบโครงกระดูกนั่งอยู่บนพื้นกลางห้องลับ กระดูกนั้นผุกร่อนไปหมดแล้ว มีรูเล็กๆทั่วทั้งร่างกาย มันดูเหมือนแค่โดนกระแสลมก็สามารถทำให้มันกลายเป็ขี้เถ้าได้ ชายคนนี้ได้ตายมานานมากแล้ว
"นี่คงเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์"
เจียงเฉินพูดขึ้น
ภายในห้องลับแห่งนี้ว่างเปล่า ไม่มีสมบัติแม้แต่ชิ้นเดียว ด้านข้างโครงกระดูกมีเพียงกระเป๋าเก็บของสีเหลืองอ่อนตั้งอยู่ หวงต้าเข้าไปตรวจดูกระเป๋าเก็บของแต่ไม่พบสิ่งใดน่าสนใจ แต่จมูกของมันกำลังดมกลิ่นเผื่อมันจะหาอะไรบางอย่างพบ
เจียงเฉินไม่สนใจอะไรมาก เขาทำท่าคว้ากระเป๋าเก็บของจากไกลๆ จากนั้นดูเหมือนว่ากระเป๋าเก็บนั้นจะถูกเรียกไปหาเขา มันพุ่งไปหาและหยุดอยู่บนมือของเขา
เขาส่งพลังหยวนลงไปในกระเป๋า ทันใดที่เขาก็เห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋า
เขาพลิกฝ่ามือของเขาขึ้นมา ปรากฏเม็ดยาขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือบนฝ่ามือของเขา เม็ดยานี้ดูคล้ายกับเม็ดยามนุษย์หยวน แต่พลังงานของมันมากเกินกว่าที่เม็ดยามนุษย์หยวนจะเทียบได้
"ท่านพี่เจียงเฉิน นั่นมันเม็ดยาอะไรหรือเ้าคะ? ดูเหมือนเม็ดยามนุษย์หยวนมากเลย แต่มันไม่ใช่เม็ดยามนุษย์หยวนอย่างแน่นอนเ้าค่ะ"
เยี่ยนเฉินหยวี่ถาม
"นี่เป็เม็ดยาปฐีหยวน แถมยังเป็เม็ดยาปฐีที่มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน แถมในกระเป๋านี่ยังมีถึงสิบเม็ด! ฮ่าฮ่า....นี่มันโชคดีจริงๆ "
เจียงเฉินประหลาดใจมาก มูลค่าของเม็ดยาปฐีหยวนไม่สามารถเอามาเทียบกับเม็ดยามนุษย์หยวนได้ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน โดยทั่วไปแล้วเม็ดยาปฐีหยวนหนึ่งเม็ดมีค่าเท่ากับเม็ดยามนุษย์หยวนถึงหนึ่งหมื่นเม็ด ความแตกต่างของเม็ดยาหยวนนั้นมากมายมหาศาลนัก
โดยทั่วไปแล้ว ขอบเขตฉีไห่ ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ และขอบเขตแก่นแท้์ ทั้งหมดนั้นใช้เม็ดยามนุษย์หยวน มีเพียงผู้ที่ไปถึงขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลาย พลังงานจากเม็ดยามนุษย์หยวนไม่เพียงพอต่อความ้าของพวกเขา พวกเขาจำเป็ต้องใช้อะไรบางอย่างที่ให้พลังงานมากกว่า เช่น เม็ดยาปฐีหยวน
มีเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ และผู้เชี่ยวชาญจิติญญายุทธเท่านั้นที่มีเม็ดยาหายากอย่างเม็ดยาปฐีหยวน แต่นี่มีเม็ดยาปฐีหยวนถึงสิบเม็ด เท่ากับเม็ดยามนุษย์หยวนถึงหนึ่งแสนเม็ด หากมีใคร้าใช้เม็ดยามนุษย์หยวนหนึ่งแสนเม็ดเพื่อแลกกับเม็ดยาปฐีหยวนสิบเม็ด คงไม่มีใคร้าแลก
เจียงเฉินได้บ่มเพาะพลังด้วยทักษะร่างแปลงั ซึ่งจำเป็ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากมายมหาศาล ไม่ว่าพลังงานของเม็ดยาหนึ่งเม็ดจะมีมากมายขนาดไหน มันก็ไม่เพียงพอต่อเขา ในตอนนี้เขามีเม็ดยาปฐีหยวนถึงสิบเม็ด รวมกับเม็ดยามนุษย์หยวนอีกสามหมื่นเม็ดที่หวงต้ามันไปโกงมาจากคนอื่น และเขายังมีเก็บอีกประมาณหนึ่งหมื่นเม็ด รวมแล้วเจียงเฉินมีประมาณหนึ่งแสนสีหมื่นเม็ด ปริมาณจำนวนมากขนาดนี้เพียงพอให้เขาทะลวงพลังจนถึงแก่นแท้์ขั้นปลายได้
หรือจะพูดอีกอย่าง ในเวลาอันสั้นนี้เจียงเฉินจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเม็ดยาอีกต่อไป นี้มันช่วยเขาได้มาก
เจียงเฉินเก็บเม็ดยาปฐีหยวนทั้งสิบเม็ดเข้าไปในแหวนมิติ จากนั้นเขาก็หยิบขวานออกมาจากกระเป๋าสีเหลืองอ่อน ขวานมีความยาวถึงสามเมตรมันเรืองแสงสีทองอ่อน ขวานนี้คมมาก และมันยังหนักถึงหนึ่งพันจิน เจียงเฉินสามารถวาดขวานได้ดั่งใจ เมื่อขวานถูกวาดออก มันทำให้เกิดเสียงดังเสียดแทงขึ้นกลางอากาศ ทำให้อากาศเกิดการสั่นะเื
"ช่างเป็ขวานที่ทรงพลังยิ่งนัก"
เยี่ยนเฉินหยวี่รู้สึกประหลาดใจ
"นี่เป็ยุทธภัณฑ์ระดับสูง! พลังของยุทธภัณฑ์ระดับสูงนั้นมากเหนือจินตนาการ ถ้าหากข้าใช้ขวานเล่มนี้ ข้าสามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ได้อย่างแน่นอน"
ดวงตาของเจียงเฉินเป็ประกาย ทั่วร่างของเขาเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น
"มีอักขระบางอย่างสลักอยู่บนขวานด้วยเ้าค่ะ"
เยี่ยนเฉินหยวี่ชี้ไปที่ตัวอักขระที่สลักอยู่ เจียงเฉินหันด้ามจับไปอีกด้านเห็นตัวอักษร 'ขวานอัสนี' สลักอยู่
กล้าที่จะมีนามเช่นนี้ ก็สามารถบ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของขวานเล่มนี้ เจียงเฉินพึงพอใจเป็อย่างมาก ด้วยขวานอัสนีเล่มนี้ ในตอนนี้เขาก็มีเครื่องมือที่ทรงพลังชิ้นหนึ่งอยู่ในมือของเขาแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทิ้งสมบัติไว้ให้เขามากมาย นอกจากขวานอัสนีและเม็ดยาปฐีหยวน ยังมีตำราทักษะลับอีกสองเล่มอยู่ข้างในกระเป๋าเก็บของ หนึ่งในนั้นคือทักษะคลื่นวายุโหมกระหน่ำ เป็ทักษะยุทธขั้นปฐี แต่เจียงเฉินไม่แม้แต่จะมองโยนมันเข้าแหวนเก็บของ หลังจากที่เขาได้บ่มเพาะพลังด้วยทักษะร่างแปลงั ในตอนนี้จึงไม่มีทักษะบ่มเพาะใดๆในโลกนี้จำเป็กับเขาอีกต่อไป
เจียงเฉินหยิบตำราทักษะยุทธอีกเล่มออกมา เมื่อเขากำลังจะโยนเก็บเข้าแหวนเก็บของ เขาก็ได้เห็นชื่อที่เขียนอยู่บนหนังสือ ดวงตาของเขาก็ส่องประกายออกมา
"ทักษะอัสนีบาต"
ถ้าเป็ทักษะยุทธทั่วไปเจียงเฉินไม่แม้แต่ชายตามองมัน ทักษะยุทธระดับปฐีทั่วไปไหนจะเทียบได้กับหกดัชนีสุริยัน ซึ่งมาจากทักษะพลังเก้าสุริยัน แต่อย่างไรก็ตามทักษะอัสนีบาตนั้นแตกต่างออกไป ทักษะนี้สามารถใช้ควบคู่กับขวานอัสนีได้
ขวานอัสนีเป็ยุทธภัณฑ์ระดับสูง เมื่อใช้กับทักษะที่เหมาะสมพลังของมันจะเพิ่มมากขึ้นเป็เท่าตัว
"ข้าสามารถใช้ทักษะนี้เพิ่มพลังให้ขวานอัสนีได้"
เจียงเฉินเก็บทักษะอัสนีบาตไว้ ตลอดการเดินทางมายังเมืองเซียงหยางได้รับสิ่งที่คุ้มค่ามากมาย ไม่เพียงแต่ได้เข้าร่วมนิกายเซวียนอี้ อีกทั้งยังได้พบสมบัติมากมาย
"ว๊ะก่ะก่ะ...."
ในขณะนั้นเอง หวงต้าหัวเราะออกมาเสียงดัง จนเจียงเฉินและเยี่ยนเฉินหยวี่ต้องหันไปมองที่มันเมื่อเห็นเ้าหมานี่มันขุดเอาเศษเหล็กจากมุมของห้องลับ กีบเท้าของมันวางอยู่บนเศษเหล็ก น้ำลายของมันไหลย้อยออกมา
"เ้าหมาน้อยคงไม่ได้เป็บ้าไปหรอกนะเ้าคะ เศษเหล็กขึ้นสนิมนี่มันมีอะไรน่าตื่นเต้นกัน"
เยี่ยนเฉินหยวี่มึนงง
"เ้าหมานี่ไม่ได้บ้าหรอก ดูเหมือนว่าเศษเหล็กนั่นคงเป็สมบัติที่มันกำลังตามหาอยู่น่ะ"
เจียงเฉินหรี่ตาของเขาลง เขามองไปยังเศษเหล็กบนกีบเท้าหวงต้า เศษเหล็กนี้มีความยาวประมาณสองเมตร ความกว้างประมาณฝ่ามือ เหล็กขึ้นสนิมไปหมดแล้ว สิ่งนี้ต่อให้โยนลงบนถนนที่มีคนพลุกพล่านก็ยังไม่มีใครเหลียวแล
ที่สำคัญกว่านั้น จากการมองของเจียงเฉินผู้ซึ่งเคยเป็ยอดนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ในใต้กล้า ยังไม่สามารถบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับเศษเหล็กทั่วไป อย่างไรก็ตามเขาก็บอกได้ว่าเศษเหล็กนี้เป็ส่วนหนึ่งของดาบที่แตกหัก เจียงเฉินััถึงความผันผวนของพลังหรือจิตของดาบจากมันไม่ได้แม้แต่น้อย มันไม่มีอะไรพิเศษนอกจากชิ้นส่วนของดาบที่แตกหักไป
ด้วยการประเมินของเจียงเฉิน หากว่ามันเป็ชิ้นส่วนของสุดยอดอาวุธขั้นนักบุญอยู่ต่อหน้าเขา เขาสามารถรับรู้ได้ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถรับรู้อย่างอื่นได้นอกจากเศษเหล็ก มันสามารถอธิบายได้สองอย่าง อย่างแรกเศษเหล็กนี่เป็เพียงชิ้นส่วนดาบทั่วไป หรืออีกอย่างคือเศษเหล็กนี้มาจากอะไรบางอย่างที่เหนือยิ่งกว่าขั้นนักบุญ เป็อะไรบางอย่างที่แม้แต่เจียงเฉินยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร
เจียงเฉินเชื่อในความสามารถของเ้าหวงต้า เ้าหมานี่มันคงไม่ตกหลุมรักเศษเหล็กเป็แน่
"หวงต้า สิ่งนั้นมันคืออะไร?"
เจียงเฉินถาม
"เ้าตาบอดรึไง! เศษเหล็กนี้คือชิ้นส่วนของดาบที่แตกหัก! เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งนี้เป็ของข้า! ข้าขอเตือนอย่าพยายามที่จะขโมยไปจากนายท่านหมาผู้นี้! "
หวงต้ากอดดาบที่แตกหักไว้แน่น มันกลัวว่าเจียงเฉินจะแย่งไปจากมัน
เมื่อหวงต้ามีปฏิกิริยาเช่นนี้ ทำให้เจียงเฉินรู้สึกว่าดาบที่แตกหักนี่ต้องมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาแน่
"เฮ้ หวงต้า เ้าให้ข้าดูหน่อยสิ ข้าให้สัญญาข้าจะไม่แย่งมันไปจากเ้า"
เจียงเฉินยิ้มให้หวงต้าอย่างเป็มิตร
"ไปให้พ้น!อย่าพยายามใช้ลูกไม้กับบิดา!สิ่งนี้ข้าหามันพบด้วยตัวข้าเอง!"
หวงต้าอ้าปากกว้างแล้วกลืนดาบที่แตกหักเข้าไป
"เวร!"
เจียงเฉินกรอกตาขาว ดูเหมือนว่าการจะเอาสมบัติออกจากปากของหวงต้า นั้นยากเสียยิ่งกว่าปีนป่าย์เสียอีก ดูเหมือนเขาจำต้องยอมแพ้ก่อนในตอนนี้แล้วคิดหาทางเอามาในอนาคต
"เวรน้องสาวเ้าสิ! มาถึงตอนนี้เ้าได้ผลประโยชน์มากมาย เ้าควรที่จะร้องให้และขอบคุณบิดาซะเดี๋ยวนี้"
หวงต้าถลึงตามองเจียงเฉินครั้งหนึ่ง ไม่พอใจกับท่าทีของเจียงเฉิน
หลังจากนั้นสองคนหนึ่งหมาก็ได้ออกมาจากห้องลับ และเดินไปยังหอการค้า
"หวงต้า ชิ้นส่วนดาบหักนั่นเป็สมบัติประเภทไหนรึ? "
ตลอดทางดูเหมือนเจียงเฉินจะยังไม่ยอมแพ้ บางสิ่งที่เขาััไม่ได้ แน่นอนว่ามันทำให้เขาสนใจมันอย่างหาที่สุด
"ข้าไม่รู้ แต่มันเป็สมบัติอย่างแน่นอน"
หวงต้าแกว่งหางอย่างอารมณ์ดี
"เ้าให้ข้าดูหน่อยสิ ข้ารับประกันว่าข้าจะคืนมันให้แก่เ้าแน่นอน"
"ไม่มีทาง!"
"บ้าเอ้ย!"
"แฮร่...!"
เมื่อพวกเขากลับมาถึงที่พัก เจียงเฉินก็ไม่สามารถทำตามความปรารถนาของเขาที่จะแย่งดาบหักมาจากหวงต้าได้ ท้ายที่สุดเขาจึงทำได้เพียงยอมแพ้ เ้าหมานี่มันไม่เพียงแค่ฉลาด แต่มันยังมีความคิดที่ชั่วร้าย การที่จะชิงผลประโยชน์จากมัน เป็เื่ยากมาก
"ท่านพี่เจียงเฉิน พวกเราจะไปยังนิกายเซวียนอี้เมื่อไรเ้าคะ?"
เยี่ยนเฉินหยวี่ถามขึ้น
"ในตอนนี้ข้าจำต้องดูดซับผลหยวนพันปีเสียก่อน หลังจากที่ข้าทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางแล้ว พวกเราถึงเริ่มเดินทางไปยังนิกายเซวียนอี้ หากทุกอย่างเป็ไปอย่างราบรื่นพวกเราคงออกจากที่นี่ประมาณเที่ยงวันพรุ่งนี้"
เจียงเฉินพูด เขาเข้าใจกฏของโลกใบนี้ดี ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถ ความแข็งแกร่งเท่านั้นคือสมบัติที่แท้จริง และเป็สิ่งเดียวที่ผู้คนนับถือ เมื่อเจียงเฉินถึงแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง รากฐานของเจียงเฉินจะเข้มแข็งยิ่งขึ้น
หลังจากกลับเข้าไปในห้อง เขาก็เริ่มปิดด่านฝึกตนเพื่อดูดซับผลหยวนพันปี เยี่ยนเฉินหยวี่และหวงต้ายืนคุ้มกันอยู่อีกตำหนัก เพื่อปกป้องเจียงเฉิน
เจียงเฉินนั่งขัดสมาธิ จากนั้นก็นำผลหยวนพันปีออกมาจากแหวนมิติ ผลหยวนพันปีมีขนาดเท่ากำปั้น มันเปล่งแสงสีเหลือง และมีพลังงานที่เข้มข้นไหลล้นออกมา
