หลงอวี้ที่เผชิญหน้ากับหวังเทียนจั๋วนั้น รู้สึกกดดันยิ่งกว่าตอนเผชิญหน้ากับประมุขตระกูลใหญ่ทั้งสามที่มีวรยุทธ์ขั้นเก้าเสียอีก!
แรงกดดันแบบนี้คล้ายคลึงกับลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับที่หนึ่ง ‘ปู้สิง’ ที่หลงอวี้เคยเจอก่อนหน้านี้
“ขอบเขตระดับิญญาแท้”
เฟิงฉางเกอพูดออกมาพร้อมกับที่สีหน้าแย่ลงอย่างมาก
การที่ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ปรากฏตัวที่เมืองอวี้กวน มันเทียบเท่ากับการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเลยก็ว่าได้ เพราะต่อให้รวมคนทั้งหมดในเมืองอวี้กวนเข้าด้วยกัน ก็ไม่มีทางเป็คู่ต่อสู้ของยอดฝีมือระดับิญญาแท้ได้!
หวังเทียนจั๋วที่เป็คุณชายอัจฉริยะมากพร์ของตระกูลหวังในเขตพระราชฐาน ได้กินโอสถต่างๆ มาั้แ่ยังเด็ก ขอแค่พร์ไม่ได้แย่เกินไป การจะยกระดับวรยุทธ์สู่ขั้นเก้าก็เป็เื่ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
เพียงแต่การจะสร้างิญญาแท้ได้นั้น ต้องเป็ผู้ที่มีพร์ในระดับหนึ่งเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถทะลวงคอขวดไปได้
เ้าหวังเทียนจั๋วผู้นี้ น่าจะอายุประมาณยี่สิบ สี่ยี่สิบห้าปีเท่านั้น การก้าวขึ้นสู่ขอบเขติญญาแท้ได้ นับว่ามีพร์ไม่เลวเลยทีเดียว!
“รองขุนพลเฟิงนับว่าพอจะมีความรู้อยู่บ้าง”
หวังเทียนจั๋วแสยะยิ้มมุมปาก มองไปทางหลงอวี้อย่างหยิ่งผยอง พูดจาดูถูก
“เด็กบ้านนอกอย่างเ้าเกรงว่าคงไม่รู้จักิญญาแท้เลยด้วยซ้ำ คงจะไม่เคยเห็นล่ะสิ วันนี้ ข้าจะแสดงความเมตตา เปิดหูเปิดตาเ้า ให้รู้แล้วกันว่าิญญาแท้คืออะไร!”
หลังสิ้นเสียง หวังเทียนจั๋วก็ยกมือขึ้น ทั่วร่างมีบรรยากาศดุดันเกรี้ยวกราดอัดแน่นขึ้นมา
ตอนนี้หลงอวี้ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับพยัคฆ์อำมหิตตัวหนึ่งมากกว่าเดิม!
ลมปราณภายในตัวของหวังเทียนจั๋วก่อตัวเป็ร่างเงาของพยัคฆ์อำมหิตตนหนึ่งด้านหลังเขา ขณะเดียวกัน เสียงพยัคฆ์คำรามดังกึกก้องจนะเืหูของผู้คนทั้งหมด ผู้คนไม่น้อยยกมืออุดหูอย่างไม่รู้ตัว
พลังนี่มันแข็งแกร่งมากเกินไป หวังเทียนจั๋วรวบรวมพลังขึ้นมาสร้างเป็ิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ตนหนึ่ง เมื่อิญญาแท้ปรากฏ พริบตานั้นก็กดดันหลงอวี้จนต้องถอยหลังไปทันที!
“ตระกูลขุนนางตระกูลหวัง มีเคล็ดราชันพยัคฆ์เป็วิชาฝึกพลังที่สืบทอดกันในตระกูล ิญญาแท้ที่ลูกหลานตระกูลหวังสร้างได้ ส่วนมากก็จะเป็ิญญาแท้แห่งราชันพยัคฆ์!”
เฟิงฉางเกอเองก็ถอยหลังไปหลายก้าว ปรากฏสีหน้าเคร่งเครียด
ดูเหมือนเขาจะพอรู้เื่เกี่ยวกับขุมอำนาจต่างๆ ในเขตพระราชฐานอยู่ประมาณหนึ่ง อีกทั้งหวังเทียนจั๋วเองก็เรียกขานเขาว่า “รองหัวหน้าเฟิง” ด้วย เห็นได้ชัดว่าเฟิงฉางเกอในอดีตจะต้องมีประสบการณ์พิเศษที่แตกต่างจากคนทั่วไปอยู่แน่
หลงอวี้ได้สังเกตที่ด้านหลังของหวังเทียนจั๋วอย่างละเอียด เงาของพยัคฆ์อำมหิตตนนั้น มีขนาดใหญ่โตกว่าพยัคฆ์จริงๆ เสียอีก ตรงหน้าผากของมันมีคำว่า ‘หวัง’ เขียนไว้ตัวใหญ่ มันเป็ตัวอักษรเดียวกับคำว่าหวังของสกุลหวัง
เงาพยัคฆ์อำมหิตตนนั้นขนาดยาวกว่าสามจ้าง สูงประมาณหนึ่งจ้างกว่า มันลอยอยู่ด้านหลังของหวังเทียนจั๋วอย่างน่าเกรงขาม ทันทีที่มันปรากฏตัว ก็สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วทั้งบริเวณ
นี่น่ะหรือ ิญญาแท้!
ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ จะสามารถสร้างิญญาแท้ขึ้นมาได้ นี่ต่างหากยอดฝีมือที่แท้จริงในฟ้าดินนี้ เมื่อสร้างิญญาแท้ได้ คนที่ยังอยู่ในวรยุทธ์ขั้นเก้านั้นไม่มีพลังมากพอจะต่อกรกับศัตรูได้อย่างแน่นอน!
“หากเ้าคิดจะสู้ ข้าหลงอวี้ก็ไม่คิดจะถอยอยู่แล้ว!”
หลงอวี้กลับไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับิญญาแท้ เขาไม่เพียงแต่จะไม่ถอยหนี แต่กลับเกิดความรู้สึกเืร้อนพลุ่งพล่านขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจด้วย
ตรงหน้าเขา คือคนที่อยู่ในขอบเขตระดับิญญาแท้ เป็ยอดฝีมือที่แท้จริง!
ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นผู้าุโอวี้ปล่อยิญญาแท้ฝ่ามือสยบฟ้าจากที่ไกลๆ เท่านั้น แต่ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ได้เผชิญหน้ากับิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ตรงๆ ทำให้เขาได้ัักับพลังของระดับิญญาแท้มากขึ้นกว่าเดิม!
“กฎเกณฑ์แห่งการกดทับ มหาพลังฟ้าดิน!”
หลงอวี้ไม่ถอยกลับไม่พอเข้ายังบุกเข้าไป พอเขากัดฟันมหาพลังสยบฟ้าพลันถูกปล่อยออกมา!
หลังจากได้พักฟื้นเป็เวลาสั้นๆ เมื่อครู่นี้แล้ว ตันเถียนของเขาก็กลับมาเต้น ลมปราณภายในตัวเขาฟื้นฟูสามส่วน ตอนนี้เขาเลือกที่จะปล่อยมหาพลังฟ้าดินออกมาเพื่อต่อกรกับิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ของหวังเทียนจั๋ว!
“ทุกสิ่งที่ต่ำกว่าระดับิญญาแท้ลงไปล้วนไม่ต่างอะไรกับมดปลวก!”
พอหวังเทียนจั๋วััได้ถึงมหาพลังฟ้าดินที่หลงอวี้ปล่อยออกมา ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะ เงาราชันพยัคฆ์ที่อยู่ด้านหลังพลันแผดเสียงคำรามดังสนั่น พริบตาเดียวก็ทำลายมหาพลังฟ้าดินของหลงอวี้จนสลายทันที!
“แค่หมัดเดียวของข้าก็สามารถโค่นล้มเ้าได้แล้ว ง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งให้ตาย!”
หวังเทียนจั๋วหัวเราะลั่นอย่างดูแคลน ร่ายรำหมัดออกไป พุ่งใส่หลงอวี้!
เมื่อเขาชกหมัดออกไป เงาราชันพยัคฆ์ที่อยู่ด้านหลังพลันแผดเสียงคำรามตาม ราวกับมอบพลังที่แข็งแกร่งให้หมัดนี้
“ม่านเหล็กพิชิตมาร!”
หลงอวี้กัดฟันโคจรลมปราณอย่างบ้าคลั่ง บนผิวกายมีประกายแสงสีทองอ่อนๆ สว่างขึ้น!
“ป้องกัน จะมีประโยชน์อะไร?”
เงาร่างอันสูงใหญ่ของหวังเทียนจั๋วเคลื่อนตัวมาอยู่ตรงหน้าของหลงอวี้ในพริบตา จากนั้นก็มีเสียงพยัคฆ์คำรามดังขึ้น หนึ่งหมัดหวดเข้าใส่หลงอวี้ทันที!
ตูม!!!
เกิดเสียงดังสนั่น หลงอวี้ถูกหมัดนั่นชกเข้าที่หัวไหล่จนตัวกระเด็นลอยไปข้างหลัง ก่อนจะร่วงลงพื้นอย่างแรง!
‘ไม่ใช่เพราะมหาพลังฟ้าดินไม่สามารถต่อต้านแรงกดดันของิญญาแท้ได้ แต่เป็เพราะพลังพื้นฐานห่างชั้นกันมากเกินไป!’
หลงอวี้คิดเช่นนั้น พลางกัดฟันลุกขึ้นอย่างยากลำบาก
เขาััได้ว่ามหาพลังฟ้าดินแห่งการกดทับของเขาสามารถลดทอนแรงกดดันของิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ของหวังเทียนจั๋วได้ไม่น้อย แต่เพราะพลังพื้นฐานของทั้งสองห่างชั้นมากเกินไป ทำให้มหาพลังฟ้าดินของเขาถูกอีกฝ่ายทำลายได้อย่างง่ายดาย
“กับเศษสวะอย่างนี้ พวกเ้ายังกล้าเรียกมันว่าอัจฉริยะอีกหรือ ฮ่าฮ่า ช่างน่าขันเหลือเกิน!”
หวังเทียนจั๋วก้าวเท้ามาด้านหน้าของหลงอวี้ ยืนตระหง่านอย่างหยิ่งผยอง เหลือบมองดูหลงอวี้ครู่หนึ่ง ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความดูแคลน
“ตอนนี้ พวกเ้าทั้งหมดน่าจะรู้แล้วนะว่า ใครกันแน่ที่เป็อัจฉริยะ ใครกันแน่ที่เป็เศษสวะ”
เพียงหมัดเดียวก็ชกหลงอวี้กระเด็นจนาเ็ ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนทั้งหมดตื่นตะลึงจนนิ่งอยู่กับที่
พอได้ยินคำพูดเย้ยหยันดูแคลนของหวังเทียนจั๋วแล้ว คนของตระกูลเฟิงใหม่ทั้งหมดต่างก็กำหมัดแน่นมองอย่างโกรธแค้น
เพียงแต่พวกเขารู้ดีว่า ถ้าหลงอวี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวังเทียนจั๋ว อย่างพวกเขาก็ยิ่งไม่มีทางอยู่ในสายตาของหวังเทียนจั๋วแน่นอน
เหล่าคนที่ทรยศตระกูลเฟิงต่างก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นความวิบัติของผู้อื่น
“เ้าหลงอวี้นี่ อันที่จริงมันก็เป็แค่สวะคนหนึ่งที่ทำได้แค่วางท่าอวดเบ่งต่อหน้าพวกเราก็เท่านั้น!”
“นั่นสิ พอเจอคุณชายหวังผู้เป็อัจฉริยะมากพร์จากเขตพระราชฐานแล้ว แค่หมัดเดียวมันก็ถูกชกจนปลิว ดูท่าเขตพระราชฐานต่างหากที่เป็โลกแห่งวรยุทธ์ที่แท้จริง เมืองอวี้กวนแห่งนี้เล็กเกินไปแล้ว!”
“ข้าตัดสินใจแล้ว ตระกูลเฟิงไม่้าข้าแล้วจะทำไม? ข้าจะไปที่เขตพระราชฐาน ข้าจะสร้างชื่อเสียงให้เป็ที่เลื่องลือ แล้ววันหน้าค่อยกลับมาดูแคลนตระกูลเฟิง!”
พวกมันต่างก็พูดจาดูถูกถากถางหลงอวี้กันอย่างสนุกปาก แต่นั้นไม่ส่งผลต่อหลงอวี้เลยแม้แต่น้อย
หลงอวี้มองดูหวังเทียนจั๋วที่เดินเข้ามาใกล้ เขาพยายามลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก จากนั้นก็รวบรวมปราณแห่งปรภพทันทีโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า หนึ่งหมัดถูกชกออกไปทางหวังเทียนจั๋วทันที
หมัดัปรภพ ‘เมามัวล้มสู่ปรภพ’ หนึ่งหมัดจำลองเส้นทางแห่งปรภพะเืจิตใจ!
ปราณแห่งปรภพแปรเปลี่ยนเป็เส้นทางปรภพในพริบตา มันครอบหวังเทียนจั๋วไว้ภายใน ทำให้หวังเทียนจั๋วที่กำลังเหิมเกริมได้ใจพลันใจนหน้าแข็งค้างทันที
วินาทีนั้น หลงอวี้ได้มุ่งไปตามเส้นทางแห่งปรภพ บนเส้นทางปรภพสายนี้เขาคือผู้ปกครอง!
ด้านหลังของหวังเทียนจั๋วจะมีิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ลอยอยู่แล้วอย่างไร?
ภายใต้เส้นทางปรภพนี้ จิตใจผู้คนจะถูกปราณแห่งปรภพรุกรานจนหมดสติ!
“หมัดัปรภพ ะเืปรภพ!”
หลงอวี้ชกไปหนึ่งหมัด สัญลักษณ์ัปรภพถูกกระตุ้นทันที บนถุงมือิญญาล่องลอยมีประกายแสงสีดำลึกลับส่องสว่าง!
โฮก!!!
เงาของิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ได้แผดเสียงคำรามอย่างดุร้ายทันที แรงกดดันอันเกรี้ยวกราดถาโถมเข้าปกคลุมหลงอวี้ทันที!
“เ้ามันก็แค่เดรัจฉานที่สร้างขึ้นจากลมปราณเท่านั้น บังอาจกล้าขวางทางข้าอย่างนั้นหรือ!”
หลงอวี้ะโอย่างเกรี้ยวกราด มหาพลังสยบฟ้าถูกปล่อยออกมาทันที ฉวยโอกาสที่หวังเทียนจั๋วหมดสติ ทำลายแรงกดดันอันเกรี้ยวกราดของิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ในพริบตา!
ตัวเขาที่สวมชุดดำอยู่ได้เคลื่อนไปประชิดตัวหวังเทียนจั๋ว หมัดที่รวบรวมปราณแห่งปรภพไว้เตรียมจะชกกลางอกของหวังเทียนจั๋วอยู่แล้ว!
แต่ในตอนนั้นเอง ในที่สุดหวังเทียนจั๋วก็กลับมาได้สติ
เมื่อเขาลืมตาขึ้น เห็นหลงอวี้ที่ฝ่าแรงกดดันของิญญาแท้เข้ามาพร้อมกับชกหมัดเข้าใส่ด้วย พลันเกิดความรู้สึกตะลึงขึ้นมา
กระบวนท่าเมื่อกี้นี้มันคือวิทยายุทธ์อะไรกัน?
ถึงกับทำให้เขาหวังเทียนจั๋วผู้นี้หมดสติได้ในพริบตา!
เ้าหลงอวี้นี่มีแค่วรยุทธ์ขั้นแปดเท่านั้น แต่กลับสามารถปล่อยมหาพลังฟ้าดินแห่งการกดทับออกมาทำลายแรงกดดันของิญญาแท้ได้ ช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ!
“ไอ้หนูนี่มันทำให้ข้าโมโหแล้ว!”
จิตสังหารปรากฏในดวงตาของหวังเทียนจั๋ว จากนั้นิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ที่ด้านหลังเขาก็ได้แผดเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด หวังเทียนจั๋วชกหมัดที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้ออกมา
พละกำลังมากกว่าพันแรงม้าพยศอัดแน่นที่หมัด เขาชกใส่หลงอวี้ทันที
กร๊อบ!
กระดูกหมัดของหลงอวี้แตกเละ ตัวเขาพลันกระเด็นอีกครั้งก่อนจะตกลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง!
แต่กระนั้น ปราณแห่งปรภพที่อยู่บนหมัดเขาก็ได้แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของหวังเทียนจั๋วอย่างรวดเร็ว ทำให้เขามีเส้นเืเขียวและเส้นเืม่วงปูดโปนขึ้นบนใบหน้า ราวกับติดพิษเข้าก็ไม่ปาน
“พลังประหลาดนี่มันอะไรกัน?”
หวังเทียนจั๋วตื่นตระหนก โคจรลมปราณอย่างรีบร้อนทันที คิดจะสะกดปราณแห่งปรภพไว้
ในฐานะที่เป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ เขาย่อมมีลมปราณแข็งแกร่งไม่ธรรมดาอยู่แล้ว สามารถกักปราณแห่งปรภพในร่างกายไปกองที่จุดหนึ่งของชีพจรได้อย่างง่ายดาย
แต่กระนั้น ต่อให้เป็ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งอย่างหวังเทียนจั๋วก็ยังไม่สามารถสลายปราณแห่งปรภพได้ในทันที!
และทันทีที่เขาเผลอคลายการป้องกัน ปราณแห่งปรภพก็เริ่มอาละวาดในตัวเขา เริ่มกัดกร่อนชีพจรของเขาทันที!
“บ้าเอ๊ย!”
เมื่อเป็เช่นนี้ หวังเทียนจั๋วก็ใช้พลังน้อยลงจากเดิมถึงสามส่วนไปชั่วขณะ พลังสามส่วนที่ว่านี้ เขาต้องใช้มันเพื่อสะกดปราณแห่งปรภพไว้เท่านั้น
เื่นี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเป็อย่างมาก คิดไม่ถึงว่าการต่อกรกับผู้ที่มีวรยุทธ์ขั้นแปดคนเดียว ถ้าประมาทเพียงนิดเดียวก็ถูกลอบโจมตีได้!
หากไม่ใช่เพราะเขามีระดับพลังสูงกว่ามากล่ะก็ เกรงว่าเขาคงถูกหลงอวี้ฆ่าตายในหมัดเดียวแล้ว
“แต่ตอนนี้ เ้าไม่มีโอกาสอะไรอีกแล้ว”
ดวงตาของหวังเทียนจั๋วมีจิตสังหารขึ้นมา จ้องเขม็งไปทางหลงอวี้
บัดนี้ เฟิงฉางเกอหน้าถอดสีไปแล้ว รีบก้าวเท้าออกไปยืนขวางหน้าหลงอวี้ทันที
“คุณชายหวัง เ้าได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้เป็ที่ประจักษ์แล้ว หลงอวี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเ้า!”
เฟิงฉางเกอกล่าวเสียงเ็า
“หากเ้าคิดจะฆ่าเขา อย่างนั้นก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน! ส่วนเื่บุตรสาวข้า เฟิงเหยา ข้ามีคำตอบให้แค่คำเดียว หากเ้า้าตบแต่งกับนาง ก็ไปหานางเอง ข้าที่เป็บิดาไม่อาจยุ่งกับการตัดสินใจของนางได้!”
“รองขุนพลเฟิง ที่ท่านพูดแบบนี้ คิดว่าข้าไม่กล้าลงมือกับท่านเพราะเห็นแก่บุตรสาวของท่านอย่างนั้นหรือ”
หวังเทียนจั๋วกระแทกเสียงอย่างเ็า จ้องเขม็งไปทางเฟิงฉางเกอ
“เช่นนั้นเ้าก็ลองดูได้เลย”
เฟิงฉางเกอไร้ความหวาดกลัว แววตาเ็า เผชิญหน้ากับหวังเทียนจั๋วตรงๆ!
“หากยังไม่หลีกไปอีก ข้าจะลองจริงๆ แล้วนะ!”
หวังเทียนจั๋วเหลือบมองหลงอวี้แวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวเสียงเ็า
“หยุดนะ!”
เสียงพูดอันไพเราะก้องกังวานแต่ฟังดูร้อนรนดังขึ้นอย่างกะทันหัน ผู้คนที่ได้ยินต่างพากันตะลึงงัน
เฟิงเหยา!
หลงอวี้มองไปที่หน้าทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลเฟิง มองเห็นเฟิงเหยาในชุดสีเขียวอ่อนวิ่งกลับมา พอนางเห็นว่าหวังเทียนจั๋วกำลังจะลงมือเฟิงฉางเกอก็รีบะโบอกให้หยุดทันที!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้