"อ้าวตาเผื่อน ไปไหนมาล่ะน่ะ ปกติบ่าย ๆ ค่ำ ๆ แบบนี้ไม่ใคร่เห็นออกนอกบ้าน" ป้าผันทักทายเพื่อนบ้านชายวัยหกสิบกว่าที่กำลังเดินผ่านลานของหมู่บ้านไป
"ไปบ้านครูกานต์มา ไปคุยเื่สวนของครูเขาน่ะ"
"ทำไมวะ แกไปยุ่งอะไรกับสวนของครูเขา"
"ไม่ใช่อะไรหรอก ครูแกจ้างให้บ้านฉันดูแลสวน ก็เลยเข้าคุยกับครูเื่จ้างคนเพิ่มมาช่วยถางหญ้าและยกร่องพลิกหน้าดิน ที่ห้าไร่ ลำพังบ้านฉันทำกันไม่ไหว"
"อ้อ แล้วครูกานต์จะปลูกอะไรล่ะ"
"พวกผักสวนครัวน่ะ ข้ากลับก่อนล่ะยายผัน ที่บ้านคงตั้งสำรับรอแล้ว ว่าง ๆ ค่อยคุยกันใหม่" ว่าแล้วลุงเผื่อนก็ปลีกตัวแยกออกไป
"ตอนนี้บ้านครูกานต์ร่ำรวยกันน่าดูเลย พวกเอ็งว่าไหม"
"ก็ใช่น่ะสิ เมื่อสองอาทิตย์ครูกานต์ติดต่อซื้อที่ดินทั้งห้าไร่ของทิดมั่น ตอนวันทำสัญญาซื้อขาย ครูแกก็ควักเงินหนึ่งแสนบาทมาจ่ายสด ๆ ตรงนั้นเลย ทำเอาทิดมั่นหน้าบานไปหลายวัน" ป้าตาเห็นคล้อยตามป้าผัน พลางเล่าเื่ที่ได้ยินมาให้ฟังด้วย "ั้แ่อนงค์มันเริ่มขายไก่ทอดรู้สึกฐานะที่บ้านดีวันดีคืน สงสัยจะกำไรดีน่าดู"
"ลำพังแค่ไก่ทอดที่ไหน" ป้าสุขเสริมขึ้นมา "เห็นว่าทำน้ำพริกแกงสำเร็จขายด้วย ขายดิบขายดีเชียวเอ็ง ลองดูคออนงค์มันตอนนี้สิ ใส่สร้อยทองเส้นเบ้อเริ่ม ข้ามองทีไรแสบหูแสบตาไปหมด ไอ้เด็กสามคนที่ช่วยงานมัน ก็พลอยสุขสบายไปด้วย หน้าผ่องนวลกันทุกคน ไม่เหมือน่ก่อน วิ่งหน้าแห้งหน้าดำหางานทำไปทั่ว ดูปราณีแม่ของทองกับนวล ั้แ่ลูก ๆ ไปทำงานกับอนงค์ ก็ดูเหมือนมีเรี่ยวมีแรง มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะ ไม่สามวันดีสี่วันไข้เหมือน่ก่อน คงอยู่ดีกินดี บางวันข้าก็เห็นมีเนื้อหมูตากแดดอยู่เต็มลานบ้านเชียวเอ็ง”
"นี่ข้าก็ไปเปรย ๆ กับแม่นังเพ็ญไว้แล้ว ถ้าอนงค์มันรับคนเพิ่มจะขอนังเพ็ญช่วยพูดให้รับนังอรหลานข้าไปทำงานด้วยหน่อย นั่งหน้าแห้งอยู่บ้านทั้งวัน งานการ่นี้หายากเต็มทน” ป้าสุขเล่าพลางถอนหายใจไปพลางเมื่อนึกถึงหลานสาวที่บ้าน
"อนงค์มันอยากรับคนเพิ่มเหรอ งานอะไรเยอะแยะขนาดนั้นวะ"
"คงไม่เร็ว ๆ นี้หรอกมั้ง แต่เห็นแม่นังเพ็ญมันบอกว่าอนาคตอาจทำน้ำพริกแกงอื่นเพิ่มอีกหลายอย่าง ตอนนั้นลำพังนังเพ็ญคงทำไม่ไหว ที่ครูกานต์คิดจะปลูกผักสวนครัวก็คงเพราะน้ำพริกนี่แหละ”
"ถ้าเอ็งรู้ข่าวว่าอนงค์รับคนเมื่อไหร่บอกข้าด้วยนะ เผื่อรับหลายคน ข้อจะให้หลานข้าไปสมัครทำงานด้วย” ป้าผันกำชับอย่างสนใจขึ้นมา
-----
“ครูกานต์ครับ ครูกานต์อยู่บ้านไหม" เมื่อกานต์โผล่หน้าออกมาจากแปลงผักที่กำลังช่วยกันถอนหญ้าอยู่กับลูก ก็เห็นภารโรงประจำโรงเรียนะโเรียกอยู่หน้าบ้าน
"อยู่ครับ พี่แม้นมีอะไรงานอะไรด่วนเหรอ" แม้จะปิดเทอมกลางภาค ไม่จำเป็ที่จะต้องเข้าไปโรงเรียนใน่นี้ แต่ด้วยความที่เป็ครูประจำโรงเรียนในหมู่บ้าน มักจะมีงานบริการสังคมรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาอยู่เสมอ ถ้ามีอะไรเร่งด่วนหรือมีคนตามตัว ภารโรงที่อยู่เฝ้าโรงเรียนก็จะปั่นจักรยานมาเรียกเป็ประจำ
"เปล่าครับ แต่มีคนโทรศัพท์มาหา บอกว่าชื่อประชา ให้ครูโทรกลับด้วยตอนนี้เลย"
"ขอบคุณครับพี่ เดี๋ยวผมเข้าไป" กานต์ขานรับพร้อมกับแปลกใจนิด ๆ ที่ประชาโทรหา่นี้ แต่เมื่อเห็นประกายตาเจิดจ้าของลูกที่มองมา เขาก็เริ่มเข้าใจอยู่ราง ๆ คงเป็เื่หุ้นที่ซื้อไว้
"นิดถอนหญ้ารอไปก่อนนะ เดี๋ยวพ่อกลับมา" ว่าแล้วก็เร่งเดินไปคว้าจักรยานจากใต้ถุนเตรียมปั่นไปที่โรงเรียน
"เอาตามที่นิดให้เขียนไว้คราวก่อนเลยนะพ่อ" อนงค์กานต์ไม่วายะโไล่หลังไป
