“หลานสาวน่าจะช่วยงานในร้านบ่อยๆ พรุ่งนี้คุณไปหาน้าหลี่ที่บ้านหน่อย นัดเธอไปเดินเล่นในเมือง พอน้าหลี่เจอตัวจริงเขา เื่นี้ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว”
คนที่จะเลือกลูกสะใภ้ก็คือคุณน้าหลี่ หลิวฟางโน้มน้าวจนปากเปื่อย ยังทำอะไรหลิวเฟินและลูกสาวที่สมองทึบในเื่นี้ไม่ได้ เซี่ยเสี่ยวหลานเป็เพียงหญิงสาววัยรุ่น พอมีคนรักก็ไม่อาจทำใจปล่อยมือได้ เหลียงปิ่งอันหน่ายจะเกลี้ยกล่อมแล้ว ให้คนตระกูลฝานไปดูด้วยตนเองเสียเลย
หากคนตระกูลฝานถูกใจเข้า จะแต่งหรือไม่ก็มิใช่คราวในการตัดสินใจของเซี่ยเสี่ยวหลาน
ตอนนี้เธอคือวัยรุ่นที่ยังไม่มีเหตุผล ภาคภาคหน้าจะต้องขอบคุณเขาผู้เป็น้าเขยคนนี้แน่
หลิวฟางบ่นพึมพำกับเหลียงปิ่งอันอยู่นานสองนาน ถึงบ้านฝานแล้วจะพูดอย่างไร หลิวฟางครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สถานะข้าราชการของเหลียงปิ่งอันเย่อหยิ่งได้ต่อเมื่ออยู่หน้าคนชนบทเท่านั้น ในเขตเหอตง ตระกูลเหลียงและตระกูลฝานยังห่างกันหนึ่งขั้น เหอตงคือสำนักงานใหญ่ของตระกูลฝาน หลายปีมานี้ได้ควบคุมดูแลเขตเหอตงแ่าราวกับล้อมด้วยถังเหล็ก แม้แต่ท่านเ้าหน้าที่เขตซึ่งมาจากต่างถิ่นก็ต้องเคารพทักทายผู้ใหญ่ของตระกูลฝาน มิเช่นนั้นจะเริ่มทำงานในเขตเหอตงได้ไม่ราบรื่น
่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาตำแหน่งของเหลียงปิ่งอันเลื่อนขั้นขึ้นอย่างไม่น่าพอใจนัก เขามักรู้สึกว่าตอนแต่งงานตนเองไม่ได้พิจารณาถี่ถ้วน
ถ้าได้ดองกับตระกูลฝาน เหลียงปิ่งอันก็จะไม่หัวเดียวกระเทียมลีบไร้ความช่วยเหลือในด้านอาชีพการงาน
หลิวฟางและคุณน้าหลี่ไปมาหาสู่กันเสมอ น้าหลี่โปรดปรานเหลียงฮวนเป็พิเศษ ถ้ามิใช่เพราะเหลียงฮวนอายุน้อยเกินไป เหลียงปิ่งอันคงส่งเหลียงฮวนแต่งงานเข้าบ้านฝานไปแล้ว อย่างแรกคือเหลียงฮวนยังเด็กเกินไป อย่างที่สองหากสอบติดมหาวิทยาลัยยังมีอนาคตกว้างไกล เหลียงปิ่งอันคิดจะเพิ่มผลประโยชน์ให้ได้สูงสุดอยู่เสมอ ลูกสาวของเขาน่ะหรือ ตอนจะออกเรือนต้องเลือกที่ดีกว่านี้แน่... อารมณ์ร้อนเหลือเกิน ครอบครัวต้องอบรมให้ดีอีกหลายปี
หลิวฟางขุ่นเคืองเนื่องจากของฝากที่ตนเองได้รับเหมือนกับคนนอก พอจะไปบ้านฝาน หลิวฟางลองคิดๆ ดู นำขนมเต้าเซียงชุนสองกล่องกับเป็ดย่างเฉวียนจวี้เต๋อติดไปด้วยดีกว่า บ้านฝานไม่ได้ขาดแคลนของกิน ทว่าไปเยี่ยมเยียนถึงบ้าน ย่อมไม่ดีที่จะไปมือเปล่า สำหรับตอนนี้ ขนมบรรจุในกล่องเหล็กก็ดูมีระดับมาก หลิวฟางมอบได้อย่างสบายใจ
ทำไมจะให้ไม่ได้?
ขนมกับเป็ดย่างนี้j เธอมิได้ใช้นมผงสองกระป๋องแลกมาหรือไร!
แน่นอนว่าถ้าวันนี้เธอถือนมแพะผงสองประป๋องไปเยือนบ้านฝานจะมีหน้ามีตากว่านี้ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้เสนอจะให้ หลิวฟางก็ไม่อาจขออย่างหน้าไม่อาย ครอบครัวน้าหลี่มีบ้านดั้งเดิมหนึ่งแห่งอยู่ที่เขตเหอตง ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง ไม่ใช่แค่น้าหลี่ที่อาศัยที่นั่น ยังมีคนอื่นอีกจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ด้วย ทว่าลูกชายน้าหลี่กลับไม่ได้อยู่ในบ้านเดิม ในตัวเขตจัดสรรบ้านให้ จึงอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว
ตระกูลฝานลงหลักปักฐานในเขตเหอตงเป็เวลาหลายปี อายุของบ้านดั้งเดิมก็ยาวนานทีเดียว แม้บอกว่าอยู่บริเวณชานเมือง อันที่จริงถนนหน้าบ้านเรียบไม่ใช่น้อย
ทุกครั้งที่หลิวฟางมาถึงบ้านฝาน ก็จะไม่พอใจที่บ้านของตนเองเล็ก
บ้านฝานตั้งอยู่เดี่ยวๆ ทั้งที่ตั้งบนชานเมือง กลับใหญ่โตกว่าบ้านเรือนของเกษตรกร และบ้านของตระกูลฝานไม่เหมือนบ้านในชนบท แม้ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่ไม่ดี จึงไม่ได้สร้างบ้านเรือนใหญ่แบบไร้ขีดจำกัด แต่บ้านชั้นเดียวทั่วไปกับบ้านชั้นเดียวตระกูลฝานนั้นต่างกันมากเหลือเกิน! เมื่อเข้าประตูใหญ่ก็ดูออกทันที ตัวบ้านถูกดูแลรักษาอย่างพิถีพิถัน ต้นไม้ใหญ่สูงเหนือศีรษะอายุหลายปี ยามฤดูร้อนช่างเย็นสบาย ในสวนมีสระน้ำที่เลี้ยงปลาทอง เมื่อเห็นปลานี่หลิวฟางถึงได้รู้ ที่แท้มีคนเลี้ยงปลาโดยไม่ใช่สำหรับรับประทานด้วย
เหล่าปลาสีส้มสีเหลืองแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำที่ปูหินไข่ห่าน [1] เวลาแสงอาทิตย์เจิดจ้า สระน้ำนี่จะสะท้อนแสงเป็ประกาย เป็ทัศนียภาพอันมั่งคั่งร่ำรวยยิ่งนัก!
หลานสาวเซี่ยเสี่ยวหลานจะแต่งงานเข้าตระกูลเช่นนี้
พี่รองและหลานสาวดันไม่รับความหวังดี ทำเอาหลิวฟางหงุดหงิด
เซี่ยเสี่ยวหลานหน้าตาสะสวยแบบนั้น ไม่คว้าโอกาสแต่งงานเข้าครอบครัวมีอันจะกิน แต่จะแต่งงานกับคนธรรมดาหรือ? เนื้อหนังมังสาอ่อนนุ่มบอบบางของสตรีไม่คงทนยั่งยืน ไม่มีใครรู้ดีกว่าหลิวฟางว่าการแต่งงานสำคัญมากขนาดไหนสำหรับคนคนหนึ่ง ถ้าเธอมิได้สมรสกับเหลียงปิ่งอัน ตอนนี้คงทำไร่ทำนาอยู่ในชนบท
บ้านฝานไม่ได้มีเพียงสวนประณีตสวยงาม ด้านในบ้านเก่าซึ่งสร้างจากอิฐเทายังมีสรรพสิ่งครบครันอีกด้วย
หลิวฟางถือของขวัญเข้ามา น้าหลี่ดีใจมาก เชิญเธออยู่พูดคุยกันในห้องโถง โถงกลางมีฝ้าเพดานแบบใหม่ บนพื้นปูด้วยกระเบื้อง อีกทั้งตั้งโซฟากับโต๊ะชากลมไว้ มีโต๊ะสูงพิงกำแพง ้าตั้งโทรทัศน์สีขนาด 17 นิ้ว บนโทรทัศน์คลุมด้วยผ้าคลุมลูกไม้สีขาว ปัจจุบันทุกคนล้วนปฏิบัติต่อโทรทัศน์แสนล้ำค่าเช่นนี้ บ้านฝานก็ไม่ต่างกัน
ไม่คลุมผ้าลูกไม้ได้อย่างไร หากเครื่องใช้ไฟฟ้าเปื้อนฝุ่นเข้าจะพังไว
ตระกูลฝานคืองูเ้าถิ่นประจำเขตเหอตง ทว่าคนตระกูลฝานยังไม่มีใครประกอบธุรกิจอิสระเลย เงินทองของตระกูลพวกเขาก็ไม่ใช่ว่าใช้จ่ายตามใจชอบ แต่เทียบกับคนทั่วไปแล้วกลับมีอภิสิทธิ์ อย่างอื่นยังไม่รู้ หากเซี่ยเสี่ยวหลานสมรสเข้าตระกูลฝาน จบการศึกษาแค่มัธยมต้นกับทะเบียนบ้านชนบทแล้วอย่างไร สามารถจัดหาอาชีพมีเกียรติและสบายให้ได้ทันที!
ในยุคนี้ ต่อให้มอบเงินทองมากมายขนาดไหน จะคุ้มค่าจับต้องได้เท่าการจัดหางานให้หรือ?
น้าหลี่อายุหกสิบต้นๆ แต่ดูแลสุขภาพได้ไม่เลว เห็นภายนอกดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงมาก เส้นผมถูกย้อมสีเป็ระยะ ผิวบนใบหน้าขาวผ่อง ตัวเธอค่อนข้างอ้วนท้วน ่เวลานี้ ไม่อยากผอมก็ยังยาก ผู้คนที่อวบอ้วนได้นอกจากปัจจัยด้านร่างกายแล้ว ต้องเป็เพราะชีวิตสุขสบายไร้กังวล ข้อมือของน้าหลี่สวมกำไลหยกเขียว หลิวฟางปากหวานมักป้อยอบ่อยครั้ง เมื่อน้าหลี่เห็นเธอมาจึงยินดีมาก
“เธอมาก็มาเถอะ เอาของมาเสียด้วย อีกสักพักจะให้เธอกลับไปนะ”
“ญาติเอาขนมสองกล่องมาให้จากปักกิ่ง นี่ก็ไม่ใช่เพราะอยากให้คุณน้าลองชิมหรือ? ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร คุณน้าอย่าให้ฉันถือของติดมือกลับไปเด็ดขาดเลยนะคะ เหล่าเหลียงของฉันจะตำหนิฉันแน่นอน หาว่าฉันทำอะไรไม่เหมาะสม”
หลิวฟางหน้าตาดี วาจาก็คมคาย ทว่าน้าหลี่มีข้อเสียที่คนตระกูลฝานทั้งหมดมีเหมือนกัน โปรดปรานคนรูปลักษณ์เจริญตา
หน้าตาชวนมอง แถมมาเยี่ยมเยียนประจบประแจงได้บ่อยๆ น้าหลี่จะไม่โปรดหรือ?
เธอชอบหลิวฟาง ชอบถึงขนาดอยากขอลูกสาวของหลิวฟางเข้าบ้านเป็ลูกสะใภ้ เด็กฮวนฮวนคนนั้นหน้าตาสะสวยเช่นเดียวกัน แต่อายุยังน้อยเกินไป น้าหลี่เคยเกริ่นกับลูกชาย ลูกชายเธอไม่เห็นด้วย
เพิ่งอายุ 16 ปี ถือว่ายังเด็กอยู่
น้าหลี่ไม่ถือสาที่จะรออีกสองปี จบมัธยมปลายก็เป็หญิงสาวเต็มตัวแล้ว
ถึงเวลาเธอจะเป็ครอบครัวเดียวกับหลิวฟาง หลิวฟางจะเรียก ‘คุณน้า’ ไม่ได้แล้ว เปลี่ยนคำเรียกก็เพียงพอ
แต่หลิวฟางเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ เหลียงฮวนเป็เพียงเด็กน้อยไม่ประสา พอแต่งงานเข้าตระกูลฝานจะช่วยงานไม่ได้แม้แต่น้อย ทำให้ตระกูลฝานต้องขายหน้า ทว่าเธอมีหลานสาวโตกว่าเหลียงฮวนสองปีคนหนึ่ง เ้าตัวหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราเหลือเกิน นอกจากมีภูมิลำเนาชนบท ก็หาข้อเสียไม่พบเลยสักอย่าง
บรรยายเสียน้าหลี่ตื่นเต้น
ตระกูลฝานเรียกได้ว่าเดินไปสู่จุดสูงสุดในเขตเหอตงแล้ว จึงไม่คาดหวังการแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ฝ่ายหญิงเป็คนชนบทก็ไม่เสียหายอะไร
น้าหลี่ชอบลูกสะใภ้ที่เชื่อฟังและสวย ไม่คิดมากต่อชาติตระกูลของฝ่ายหญิง พอได้ยินว่าอายุมากกว่าเหลียงฮวนสองปี น้าหลี่พึงพอใจยิ่งนัก เช่นนั้นปีนี้น่าจะอายุครบ 19 ปี ปีหน้าก็ถึงเกณฑ์อายุสมรสแล้ว คนอื่นอาจแต่งงานอย่างไม่มากเื่ แต่เป็ไปไม่ได้ที่บุตรชายของน้าหลี่จะไม่จดทะเบียนสมรส ผู้คนจะนินทาขนาดไหน? รับเ้าตัวเข้ามาก่อนก็เหมาะเจาะพอดี น้าหลี่จะสั่งสอนด้วยตัวเองเสียหน่อย
หลิวฟางมาอีกครั้งในวันนี้ คงเพื่อคุยเื่นี้
และหลิวฟางเยินยอเซี่ยเสี่ยวหลานราวกับมาจากสรวง์ จนทิ้งท้ายประโยคไว้
“แต่เด็กชนบทประสบการณ์ไม่มาก สิ่งที่คุณน้าเสนอฉันก็บอกชัดเจนไม่ได้ พอลองเกริ่นเล็กน้อย เธอและพี่สาวฉันต่างไม่กล้ารับการแต่งงานดีๆ ครั้งนี้”
น้าหลี่หมุนกำไลหยกบนข้อมือของเธอ
“เมื่อูเาไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาูเา [2] เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน ฉันจะไปดูด้วยตัวเอง เธออย่าทำเด็กสาวเขาใกลัวเชียว”
เชิงอรรถ
[1]鹅卵石 หินไข่ห่าน คือ หินกรวดทรงกลมรีสำหรับตกแต่งสวนหรือปูในสระน้ำ
[2]山不来就我,我就去就山 ูเาไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาูเา หมายถึง เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบสนองความ้าของตน ก็เสนอสนองความ้าให้อีกฝ่ายแทน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้