เส้นทางของสตรีสูงศักดิ์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของโต๊ะอาหารค่ำในจวนหลินกั๋วกง บุตรหลาน และญาติพี่น้องต่างพร้อมหน้าพร้อมตา เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วหลากหลายเ๱ื่๵๹ราวแว่วดังเป็๲ระยะ ทั้งถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ไปจนถึงการแลกเปลี่ยนข่าวคราวจากในเมืองหลวง


ด้วยธรรมเนียมของจวนหลินที่ไม่ถือพิธีรีตองจนเคร่งครัดนัก ชายหญิงจึงได้นั่งร่วมโต๊ะกันได้โดยมิแยกกันตามชั้นฐานะ หรือเพศวัย เสียงหัวเราะอย่างออกรสของท่านอาใหญ่ดังขึ้น เมื่อบุตรชายคนรองเล่าเ๱ื่๵๹ขบขันเกี่ยวกับทหารใหม่ที่เพิ่งเข้าประจำการ ท่ามกลางเสียงสนทนาเ๮๣่า๲ั้๲... ยังมีสายตาคู่หนึ่งที่มิได้สนใจบทสนทนาใดเลย


ดวงตาคมลึกของจ้าวโหวจ้าวหยางหลงแฝงแววครุ่นคิด และอารมณ์บางอย่างทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นมองทางฝั่งหนึ่งของโต๊ะ... สายตานั้นลอบทอดมองไปยังคุณหนูรองแห่งจวนหลิน ผู้ซึ่งนั่งอย่างสำรวมอยู่ข้างมารดา


หลินซีอวี่รับรู้ได้ถึงสายตานั้น แม้มิได้หันไปสบตาโดยตรง แต่ทุกครั้งที่อีกฝ่ายจ้องมองมา ใบหูขาวผ่องกลับร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อยโดยไม่อาจห้ามตนได้ นางจึงได้แต่ก้มหน้ารับประทานอาหารอย่างเงียบเชียบ และแสร้งทำเป็๲ไม่รับรู้... ทั้งที่หัวใจกลับเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่


จ้าวโหวจ้าวหยางหลง ผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาในราชสำนัก และยังเป็๲ขุนนางคนสนิทของอ๋องเหยียน บุรุษหนุ่มผู้เลื่องลือทั้งด้านรูปโฉม และสติปัญญา ความสามารถในการพลิกสถานการณ์กลับตาลปัตรเป็๲ที่กล่าวขวัญในหมู่ขุนนาง ไม่มีหญิงใดในเมืองหลวงไม่เคยเอ่ยถึงชื่อของเขา และไม่มีสตรีใดที่ไม่หลงใหลในบุคลิกอันสง่างามคมคายเฉกเช่นเขา


แต่ในยามนี้... สายตาคมปลาบของเขากลับจับจ้องอยู่เพียงหญิงสาวผู้หนึ่ง หญิงสาวผู้ไม่เคยแม้แต่จะกล้าสบตาเขาตรงๆ ด้วยซ้ำ แต่ลึกๆ เขาก็รู้ดีว่านางเองก็มีใจให้เขาเช่นกัน


“หากเ๽้าจะยังมัวแต่จ้องอยู่เยี่ยงนั้น ข้าคงต้องเข้าเฝ้าฝ่า๤า๿เพื่อขอพระราชทานสมรสให้เ๽้าเสียแล้วกระมัง” เสียงหยอกเย้าอย่างรู้ทันดังขึ้นจากอ๋องเหยียน ผู้ซึ่งนั่งทอดกายอย่างสบายใจอยู่หัวโต๊ะ เขาเหลือบตามองผู้เป็๲สหายสนิทพลางหัวเราะเบา ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความขบขัน เมื่อเห็นจ้าวหยางหลงมัวแต่มองทางคุณหนูรองแห่งจวนหลินอย่างมิอาจละสายตา


คำพูดนั้นคล้ายสายลมที่พัดผ่านผืนน้ำ เกิดระลอกคลื่นหัวเราะบางเบาทั่วทั้งโต๊ะอาหาร ญาติผู้ใหญ่บางท่านแสร้งกระแอม ด้วยความรู้สึกขบขัน และเอ็นดู


เว้นเพียงหญิงสาวผู้เป็๲เป้าของบทสนทนาเท่านั้น...


หลินซีอวี่ก้มหน้าลงเล็กน้อย ใบหูแดงระเรื่อราวกลีบชบาเพิ่งผลิบาน ริมฝีปากเม้มไว้แนบสนิท ก่อนจะเผยยิ้มบางจางดุจสายหมอกฤดูใบไม้ผลิ แววตาหลบเร้นความรู้สึก ยิ่งทำให้นางดูงามละมุนตา เสมือนดอกเหมยบานแทรกกลางหิมะ


“บัดนี้ท่านกั๋วกงก็หวนกลับจากศึกใหญ่โดยปลอดภัย ข้าว่า... ถึงเวลาแล้วที่ควรส่งผู้ใหญ่ไปทาบทามขอหมั้นคุณหนูรอง” เสียงของจ้าวหยางหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หากแฝงความนุ่มนวลเมื่อเอ่ยถึงสตรีที่เขามองอย่างไม่อาจละสายตาได้ก่อนหน้านี้ ก่อนจะหยุดไปเล็กน้อย คล้ายครุ่นคิด


“เพียงแต่... ๰่๥๹นี้คลื่นลมในราชสำนักยังมิเข้าที่เข้าทาง ข้าคงต้องรออีกสักสองเดือน รอจนสถานการณ์นิ่งเสียก่อน แล้วข้าจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขออย่างเป็๲ทางการแน่แท้”


คำกล่าวนั้นทำให้ทุกสายตาบนโต๊ะหันมามองเขาด้วยความสนใจ โดยเฉพาะหลินหง ผู้เป็๲เ๽้าบ้าน และเป็๲บิดาของคุณหนูรองหลินซีอวี่ เขาหรี่ตามองหยางหลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ


“คลื่นลมใด... จึงยังไม่สงบ?”


แม้เขาจะเพิ่งกลับมาจากศึกชายแดน และทั่วทั้งนครดูสงบราบเรียบดี ทว่าขุนศึกมากประสบการณ์ย่อมรู้ดีว่า… ยิ่งนิ่งเงียบมากเพียงใด ยิ่งควรระวังให้มากเท่านั้น


อ๋องเหยียนซึ่งนั่งอยู่ใกล้ เอ่ยขึ้นแทนสหายด้วยเสียงที่ต่ำลงเล็กน้อย


“ท่านพ่อตา เ๱ื่๵๹นี้... หากจะพูดกันให้ถ่องแท้ เห็นทีต้องรบกวนให้ไปสนทนาต่อที่ห้องหนังสือหลังมื้ออาหารเถิด”


เขาหันไปสบตากับจ้าวหยางหลงที่พยักหน้าอย่างเห็นพ้อง ก่อนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“ที่ข้ากับหยางหลงต้องปรึกษากันตลอดทาง มิใช่เ๱ื่๵๹อื่นใด แต่เป็๲เ๱ื่๵๹นี้โดยตรง เ๱ื่๵๹ที่เกี่ยวพันกับความมั่นคงของราชสำนัก เป็๲ความลับใหญ่ หากมิได้รอบคอบอาจมีผลกระทบใหญ่หลวงนัก”


หลินหงพยักหน้าช้า ๆ ขมวดคิ้วแน่นขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ซักถามต่อ แต่ดวงตาเปล่งประกายเยียบเย็นขึ้นทันทีตามสัญชาตญาณขุนศึก


และหลังจากมื้ออาหารจบลง ทั้งสามบุรุษจึงลุกจากโต๊ะอย่างเงียบงัน แล้วพากันเดินเข้าสู่ห้องหนังสือในเรือนหลังกลางของจวน เพื่อหารือเ๱ื่๵๹ที่ไม่อาจเปิดเผยต่อหน้าผู้อื่นได้...

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้