หลี่ชิงหยุนลืมตาขึ้นมาช้าๆ ดวงตาสีหยกมีแสงสีทองส่องประกายจางๆ เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเบามากหลังจากเข้าสู่ระดับลมปราณโลก
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นแค่ระดับเดียว แต่ด้วยเส้นลมปราณที่ขยายเป็สองเท่ารวมกับฉีต้นกำเนิดที่เขามี เขาสามารถต่อสู้กับศัตรูมีระดับพลังมากกว่าเขาได้ถึงสามขั้น พลังิญญาของเขาเข้าใกล้ระดับ 7 แล้ว เขาต้องทำให้พลังฉีและพลังิญญาเสถียรมากกว่านี้ เขาถึงจะสามารถปรุงยาเพื่อรักษาทักษะต้องห้ามที่หลี่หยุนเฟิงประสบอยู่ได้
"ระดับลมปราณโลก...แข็งแกร่งมาก!" หลี่ชิงหยุนอดไม่ได้ที่จะพึมพำ หากเป็เขาในตอนนี้เขาสามารถสังหารหงจวินได้ด้วยการดีดนิ้ว เขาไม่จำเป็ต้องใช้เจตนาดาบเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ส่งร่างของเขาและสองสาวที่กำลังหลับอยู่บนเตียงออกจากเจดีย์ปฐมกาล
ขณะนี้ทั้งสามคนกลับสู่เตียงในห้องนอนของหลี่ชิงหยุนแล้ว หลี่ชิงหยุนกำลังมองไปรอบๆ เขาเห็นว่าปิงเสวี่ยเอ๋อร์และกู่ซินเหลียนกำลังหลับสนิท
เขาหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างของนาหลันเสี่ยวฉีและเสิ่นชิงไว้ จากนั้นเขาก็นอนหลับไปทันที
.
.
.
ขณะที่หลี่ชิงหยุนกำลังเพลิดเพลินกับความงามรอบตัว แต่อีกสถานที่หนึ่งกลับเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่
ภายในตระกูลหงมีการรวมพลผู้าุโทุกคนในตระกูลให้มารวมตัวกันในห้องประชุม หลังจากผู้าุโคนที่สามทราบถึงเหตุการณ์การสังหารหมู่ในที่พำนัก มันก็อาเจียนเป็เืและหมดสติไปทันที
มันเพิ่งออกจากคการปิดตัวฝึกฝนได้ไม่นานก่อนจะมารู้ว่าครอบครัวและสายเืของมันเสียชีวิตเกือบทั้งหมด! บุตรชายคนเดียวก็ถูกฆ่าตายรวมทั้งการทำลายจิติญญาทั้งหมด บุตรชายของมันไม่สามารถแม้แต่จะกลับชาติมาเกิดได้ด้วยซ้ำ
โดยปกติแล้วหากผู้ฝึกฝนถูกฆ่าตาย พวกเขาจะยังเหลือเศษเสี้ยวิญญาในร่างกายอยู่บ้าง หากมีทักษะพิเศษในการปลุกิญญา ก็อาจจะมีหนทางที่จะฟื้นคืนชีวิตให้กับผู้ที่ตายได้
แต่ด้วยความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวของกระบี่กลืนิญญา แม้แต่เศษเสี้ยวิญญาเพียงเล็กน้อยก็ถูกกำจัดหายไปจนหมด หงจวินไม่มีโอกาสสำหรับการคืนชีพอีกต่อไป
ผู้าุโคนที่สามมีบุตรชายคนเดียวเท่านั้น มันไม่คาดคิดว่าฝันร้ายเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับตนเอง หลังจากได้สติแล้วมันจึงตัดสินใจเรียกรวมตัวผู้าุโทั้งหมดทันที
นี่ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับมันเท่านั้น แต่มันเกี่ยวกับตระกูลหงทั้งหมด ปรมาจารย์ด้านค่ายกลได้วางค่ายกลระดับสูงไว้รอบๆอาณาเขตของตระกูล แต่ยังมีบางคนที่สามารถลอบเข้ามาในที่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่มีแม้แต่สัญญาณเตือนการบุกรุกด้วยซ้ำ
นี่เป็ความอัปยศอดสูครั้งใหญ่ั้แ่ก่อตั้งตระกูลหง!
ณ ห้องประชุม มีเก้าอี้ห้าตัวที่อยู่สูงกว่าผู้าุโทั้งหมด ที่นั่งแห่งนี้ถูกโดยหงชาเทียน หงเจิ้น หงเจิ้งหยวนและผู้าุโสูงสุดตามลำดับ ส่วนเก้าอี้ตัวสุดท้ายถูกทิ้งให้ว่างเปล่า
โต๊ะรวมด้านล่างประกอบไปด้วยผู้าุโทั้ง 15 คนของตระกูลหง ผู้าุโทั้งหมดที่อยู่ที่นี่มีความแข็งแกร่งที่ระดับลมปราณฟ้าทั้งหมด
บรรยากาศในห้องนี้เงียบขรึม หลังจากทุกคนมากันครบแล้วผู้าุโสูงสุดได้หยิบข้อมูลการชันสูตรการเสียชีวิตขึ้นมาประกาศให้ทุกคนที่นี่ทราบ
"สมาชิกในอาคารของผู้าุโคนที่สามถูกสังหารไปมากกว่า 20 คน เศษเสี้ยวจิติญญาของพวกเขาก็ถูกจำกัด หลังจากตรวจสอบร่องรอยของการต่อสู้ก็ได้พบว่าชายผู้นั้นไม่ได้ใช้แม้แต่พลังฉีในการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเราไม่สามารถหาที่มาของพลังฉีและต้นกำเนิดของชายคนนั้นได้ แต่หลังจากตรวจสอบให้ลึกยิ่งขึ้นกลับพบว่าชายผู้นั้นใช้เต๋าแห่งดาบในการสังหารทุกคน!"
"นายน้อยหงเจิ้นได้เจอกับชายผู้นั้นแล้ว นายน้อยกล่าวว่าชายผู้นั้นสามารถใช้เต๋าแห่งดาบขั้นที่สองได้"
"ส่วนรูปพรรณสัณฐานเขาสวมหน้ากากหยกสีเขียวอ่อนและสวมชุดคลุมสีดำ เขาใช้อาวุธเป็กระบี่โบราณ อีกทั้งเขายังเป็คนเดียวกับผู้ที่สังหารหงจีโม่ในตระกูลเสิ่นอีกด้วย"
เมื่อสิ้นสุดคำพูดนั้นผู้าุโที่อยู่ด้านล่างก็อ้าปากค้าง
พวกมันทั้งหมดเข้าใจดีว่าสิ่งที่ผู้าุโสูงสุดพูดหมายถึงอะไร นั่นหมายความว่าชายผู้นั้นเป็บุคคลที่อันตรายเป็อย่างยิ่ง!
หัวหน้าตระกูลขุนนางทั้งหมดเชี่ยวชาญในการเข้าสู่สภาวะเต๋าทุกคน เพียงแต่ยังไม่มีใครสามารถไปถึงขั้นที่สองของเส้นทางแห่งเต๋าได้เลยแม้แต่คนเดียว
นี่ยังรวมถึงทั้งสี่ราชวงศ์ ยังไม่มีใครที่สามารถเข้าสู่เส้นทางแห่งเต๋าในขั้นที่สองได้
ผู้าุโคนที่สามและทุกคนมีสีหน้าหนักใจหลังจากได้ฟังข้อมูลชิ้นนี้ แม้แต่หงชาเทียนก็ยังใจสั่น
นั่นหมายความว่าชายผู้นี้มีความแค้นกับตระกูลหง และเขาเป็ชายที่มีพร์เกินกว่าใครในอาณาจักรนี้ หากปล่อยให้ชายผู้นี้เติบโตเกรงว่าอนาคตของตระกูลหงจำต้องถูกกำหนดให้ล่มสลายอย่างแน่นอน
"ผู้าุโที่สาม เร็วๆนี้ท่านมีความขุ่นเคืองกับใครบ้างหรือไม่?" ผู้าุโสูงสุดถาม
ชายหน้ากากหยกผู้นั้นกำหนดเป้าหมายแค่ลานของผู้าุโที่สามเท่านั้น ดังนั้นพวกมันจึงสรุปได้ว่าชายหน้ากากและผู้าุโที่สามต้องมีความแค้นต่อกันมาก่อนหน้านี้
ผู้าุโสามขมวดคิ้ว มันพยายามนึกเื่ในอดีต "อย่างที่พวกท่านทราบ พวกเราได้รับหน้าที่ในการสังหารผู้คนแถบนอกชานเมืองมาหลายปี แต่ข้าไม่ได้เหลือใครไว้แม้แต่คนเดียว แม้ว่างานสกปรกที่ข้าทำนั้นมีมากมาย แต่ข้าไม่รู้จักชายผู้นี้มาก่อนอย่างแน่นอน"
"อาจจะเป็ปลาที่หลุดรอดจากอวนได้หรือไม่?" ผู้าุโคนหนึ่งพูดขึ้นมา
"ข้าสังหารแค่ครอบครัวระดับรองเท่านั้น พวกเขาไม่มีแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับลมปราณฟ้าด้วยซ้ำ เป็ไปไม่ได้ที่ข้าจะไม่รู้จักคนเช่นนี้" ผู้าุโที่สามตอบกลับ
ทุกคนขมวดคิ้วและพยายามคิดหาเหตุผลและตัวตนของชายหน้ากากหยก
"เป็ไปได้ไหมว่าจะเกี่ยวข้องกับเด็กหนุ่มตระกูลหลี่?" ทันใดนั้นหงเจิ้งหยวนก็พูดขึ้นมา
ทุกคนในห้องหันไปสบตากับหงเจิ้งหยวนอย่างสงสัย พวกมันบางส่วนไม่ได้อยู่ที่งานประจำปีของราชวงศ์ ดังนั้นพวกมันจึงไม่รู้เกี่ยวกับการต่อสู้ก่อนหน้านี้
ไม่นานหงเจิ้งหยวนก็อธิบาย "ก่อนหน้านี้ข้าและเขามีความขุ่นเคืองกันเล็กน้อย และข้าได้ส่งภารกิจลอบสังหารชายที่ชื่อหลี่ชิงหยุนให้กับองค์กรนักฆ่า แต่กลับพบว่าชายหนุ่มมีปรมาจารย์ระดับลมปราณลึกซึ้งคอยปกป้องอยู่อย่างลับๆ นักฆ่าที่ส่งไปทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จและหลบหนีไป จากนั้นในการประลองของราชวงศ์ หงจวินได้พยายามฆ่าหลี่ชิงหยุนบนเวที แต่เขาทำไม่สำเร็จ จากนั้นท่านพ่อก็ไปหยุดการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนไว้"
หงชาเทียนที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าว "ในความเป็จริง ข้า้าที่จะสังหารชายหนุ่มตระกูลหลี่ในขณะนั้น แต่ใน่เวลาสำคัญมีใครบางคนมาหยุดการโจมตีของข้าไว้ และข้ามั่นใจว่าชายผู้นั้นแข็งแกร่งกว่าข้าอย่างแน่นอน!"
ผู้าุโทุกคนก็ประหลาดใจกับสิ่งที่หงชาเทียนพูด หงชาเทียนพยายามฆ่าเด็กชายอายุ 15 ปีด้วยมือของเขาเอง สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ?
นั่นหมายความว่าเด็กคนนี้อันตรายพอๆกับชายหน้ากากหยก!
พวกมันมีศัตรูที่เป็อันตรายถึงสองคนในเวลาเดียวกัน
"ปะ-เป็ไปได้ไหมว่าผู้เชี่ยวชาญที่ปกป้องหลี่ชิงหยุนจะเกี่ยวข้องกับชายหน้ากากหยก?" หงเจิ้งหยวนหันไปหาหงชาเทียนอย่างสงสัย
"ไม่! เป็ไปไม่ได้! ข้ามั่นใจว่าชายหน้ากากหยกผู้นี้ยังไม่เข้าสู่ระดับลมปราณฟ้า" จู่ๆหงเจิ้นก็แสดงความคิดเห็นขึ้นมา
"หากปรมาจารย์ลมปราณลึกซึ้งที่เ้าพูดถึงเป็ชายหน้ากากหยกจริงๆ เขาจะไม่สังหารแค่ผู้คนจากลานของลุงสามเท่านั้น ด้วยความสามารถของเขา เขาสามารถสังหารผู้าุโทั้งหมดของตระกูลเราได้ด้วยซ้ำ" หงเจิ้นหยิบชาขึ้นมาจิบช้าๆพร้อมกับให้เหตุผล
"เจิ้นเอ๋อร์พูดถูก" แม้แต่หงชาเทียนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับการคาดเดาของหงเจิ้น
"เจิ้นเอ๋อร์ เ้ามีความเห็นอย่างไร? ในตอนที่เ้าพบเขามีอะไรพิเศษในตัวชายหน้ากากหยกผู้นั้นหรือไม่?" หงชาเทียนหันไปถาม
หงเจิ้นวางถ้วยชาลง สีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยปรากฏขึ้น "หากให้ข้าคาดเดา ชายผู้นั้นไม่ได้เป็คนของอาณาจักรเซวียน"
เมื่อสิ้นสุดคำพูดของหงเจิ้น ทุกคนต่างก็งงงวย
หงเจิ้นพูดต่อ "ชายหน้ากากหยกผู้นั้นมีจิตสังหารและรัศมีสังหารที่รุนแรงเกินไป แม้แต่จิตสังหารของผู้บัญชาการทั้งห้าของราชวงศ์มารวมกัน ก็ยังไม่ถึงเศษเสี้ยวของชายผู้นั้นด้วยซ้ำ"
ผู้าุโด้านล่างมีสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อยกับคำพูดของหงเจิ้น 'ผู้บัญชาการทั้งห้าของโม่หยุนเทียนถือว่าเป็แม่ทัพที่ผ่านการต่อสู้และการทำามามากกว่าทั้งชีวิต พวกเขาสังหารผู้คนไปหลายหมื่นคนในาแต่ละครั้ง แต่นายน้อยกลับบอกว่าออร่าสังหารของชายหน้ากากหยกมากกว่าผู้บัญชาการทั้งห้าคนมารวมกัน แล้วชายผู้นี้อายุเท่าไหร่กันแน่?'
จากข้อมูลคนๆนี้อาจจะเป็บุคคลที่อันตรายต่อตระกูลหงอย่างแท้จริง!
"เขาต้องเป็คนที่คลุกคลีกับการต่อสู้ผ่านการสังหารและข้ามซากศพผู้คนมาทั้งชีวิต จึงสามารถมีออร่าจิตสังหารเช่นนี้ได้ อีกทั้งด้วยเต๋าแห่งดาบขั้นที่สอง เขาต้องเป็บุคคลสำคัญที่มาจากตระกูลหรือนิกายใหญ่จากอาณาจักรที่สูงกว่าอย่างแน่นอน" หงเจิ้งหยวนพูดสิ่งที่คาดเดาอย่างต่อเนื่อง
"เส้นทางสู่อาณาจักรบนถูกปิดไปกว่าสิบปีแล้ว และตอนนั้นเป็เวลาเดียวกับตอนที่ตระกูลของเราได้สังหารหมู่ตระกูลรองที่ตระกูลเจิ้งและตระกูลหนานกงเป็ผู้ดูแลเท่านั้น เราไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับใครเลย"
"บางทีเขาอาจจะได้รับาเ็จนระดับพลังของเขาลดลง หรืออีกอย่างเขาต้องเป็ิญญาของผู้เชี่ยวชาญจากอาณาจักรที่สูงกว่าที่กลับชาติมาเกิด"
"ไม่มีทางที่ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าระดับลมปราณลึกซึ้งจะลงมายังอาณาจักรล่างได้อย่างแน่นอน ผู้เฝ้าประตูจากอาณาจักรบนจะปล่อยให้คนเช่นนี้ลงมาได้อย่างไร?"
"หากผู้เฝ้าประตูปล่อยให้คนแบบนั้นลงมาสู่อาณาจักรล่างจริงๆ สมดุลทั้งหมดของอาณาจักรเซวียนอาจจะถูกทำลายลงในทันที"
"ข้อสรุปของข้าคือชายหน้ากากหยกต้องมาจากอาณาจักรบนและเขาได้รับาเ็จนพลังเขาลดลง หรือต้องเป็ิญญาของปรมาจารย์ที่กลับชาติมาเกิด" เมื่อสิ้นสุดการคาดเดาของหงเจิ้น สีหน้าของทุกคนในห้องประชุมไม่ได้ผ่อนคลายลงแม้แต้น้อย พวกมันกลับกังวลมากขึ้นไปอีก
หากชายหน้ากากหยกฟื้นฟูพลังที่แท้จริงของเขากลับคืนมา ตระกูลหงจะถูกลบออกจากหน้าประวัติศาสตร์หรือไม่?
"เ้ามีวิธีตามหาชายผู้นั้นหรือไม่?" หงชาเทียนหันไปถามหงเจิ้น
หงเจิ้นตอบกลับว่า "หากข้าสามารถได้รับเืของชายผู้นั้น ข้าสามารถตามหาเขาได้อย่างแน่นอน แต่ปัญหาใหญ่คือเขามีสมบัติเชิงมิติที่สามารถใช้หลบหนีได้ตลอดเวลา"
"สมบัติเชิงมิติ!" ดวงตาของทุกคนที่นี่เกือบจะหลุดออกมาจากเบ้า
แม้แต่หงชาเทียนก็ไม่มีข้อยกเว้น การฆ่าชายหน้ากากหยกจะเป็เื่ที่ยากขึ้นไปอีกขั้น หากเขามีสมบัติเชิงมิติอยู่กับตัว "ตอนนี้เราทำได้แค่สอบสวนและหาข้อมูลที่ตรงกับชายหน้ากากหยกเท่านั้น"
"ค้นหาชายที่ใช้กระบี่โบราณทั้งหมดในอาณาจักรเซวียน ชายผู้นี้ไม่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่!" หงชาเทียนส่งคำสั่งขั้นเด็ดขาดไปยังเครือข่ายข้อมูลต่างๆ มันพร้อมจะเสียสละสมบัติทั้งหมดที่มีเพื่อตามหาตัวตนของชายหน้ากากหยกให้ได้
"เช่นนั้นพรุ่งนี้เราจะไปรายงานกับฝ่าาหรือไม่?" ผู้าุโสูงสุดพูดขึ้นมา
"แน่นอนว่าเราต้องทำ เราต้องขอความช่วยเหลือจากผู้บัญชาการฝ่ายตรวจสอบ" หงชาเทียนพยักหน้า
จากนั้นไม่นานหงชาเทียนก็ปิดการประชุมในครั้งนี้ แม้ว่าผู้าุโที่สามจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่มันไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว
ตัวตนของชายหน้ากากหยกนั้นเป็ปริศนามากเกินไปสำหรับตระกูลหง พวกมันทำได้แค่ค้นหาทีละขั้นตอนเท่านั้น
ั้แ่พวกมันตั้งรกรากมาไม่เคยมีข้อมูลที่ตรงกับบุคคลเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นพรุ่งนี้พวกมันจะไปรายงานกับโม่หยุนเทียนโดยตรง
หลังจากผู้าุโทั้งหมดออกจากห้องแล้ว เหลือเพียงหงชาเทียน หงเจิ้นและหงเจิ้งหยวนเท่านั้น
"ท่านพ่อ เกี่ยวกับหลี่ชิงหยุนพวกเราจะทำอย่างไรดี?" หงเจิ้งหยวนเป็กังวลอย่างมากกับหลี่ชิงหยุน ตอนนี้พวกเขาทั้งสองมีความขุ่นเคืองต่อกันแล้ว มันเชื่อว่าหลี่ชิงหยุนจะไม่ปล่อยเื่นี้ไว้อย่างแน่นอน
หลี่ชิงหยุนกล้าแม้กระทั่งฆ่าหงจวินต่อหน้าหงชาเทียนด้วยซ้ำ หงเจิ้งหยวนกลัวว่าตัวมันเองจะเป็รายต่อไป หากหลี่ชิงหยุนแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ ชีวิตของมันอาจจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
"เราไม่สามารถฆ่าชายหนุ่มผู้นั้นได้ด้วยเงื่อนไขหรือสถานการณ์ปกติ แต่ถ้าหากชายหนุ่มไปที่มิติโบราณก็อีกเื่หนึ่ง" หงชาเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม "มิติโบราณแห่งนั้น ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าลมปราณฟ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป เราต้องหาวิธีลากหลี่ชิงหยุนไปที่มิติโบราณเท่านั้น!"
"ท่านพ่อ ข้าส่งคนไปทำลายตระกูลของมันได้หรือไม่?" ตอนนี้หงเจิ้งหยวนมีสีที่หน้าดุร้าย มันไม่สามารถทำอะไรกับหลี่ชิงหยุนได้ แต่มันสามารถทำลายล้างตระกูลหลี่ได้ "แม้ว่าปรมาจารย์ผู้นั้นจะคอยปกป้องหลี่ชิงหยุนอยู่อย่างลับๆ แต่ข้าเชื่อว่าที่ตำหนักของพวกมันคงไม่มีปรมาจารย์ระดับสูงอยู่อย่างแน่นอน"
น้ำเสียงของหงเจิ้งหยวนดูโกรธแค้น มันจะไม่ปล่อยให้หลี่ชิงหยุนมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแน่นอน
หงชาเทียนกำลังครุ่นคิดและชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียในคำพูดของหงเจิ้งหยวน
ไม่นานหงชาเทียนก็เห็นด้วย "เอาล่ะ พรุ่งนี้เ้าสามารถเลือกผู้าุโสองคนไปที่ตระกูลหลี่พร้อมกับเ้าได้"
พวกมันสามารถทำให้จิตใจของหลี่ชิงหยุนสิ้นหวังได้จากการสังหารหมู่ครอบครัวของเขา!
หากครอบครัวสกุลหลี่เสียชีวิตทั้งหมด หลี่ชิงหยุนจะ้าความแข็งแกร่งที่มากขึ้นเพื่อกลับมาล้างแค้นอย่างแน่นอน
นี่จะเป็วิธีที่ทำให้หลี่ชิงหยุนเข้าร่วมการสำรวจมิติโบราณเพื่อได้รับโอกาสหรือโชคลาภ จากนั้นพวกมันจะมีโอกาสสังหารหลี่ชิงหยุนที่นั่นได้!
"ฮ่าๆๆๆ! ขอบคุณมากท่านพ่อ" หงเจิ้งหยวนยิ้มอย่างมีเลศนัย
"เ้าโสเภณีตัวน้อยจากตระกูลปิง เ้ากล้าที่จะปฏิเสธข้า งั้นข้าจะให้คนรักของเ้าได้ลิ้มรสกับความสิ้นหวังที่แท้จริง!" หงเจิ้งหยวนะเิเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้าย