หลังจากวางสายฉินเฟิงทะยานไปพร้อมกับจักรยาน 28 นิ้วความเร็วของเขาทำลายสถิติใหม่ เขาถอดเกราะับินและรีบไปยังเขาโค้งงู
เขาโค้งงูเป็ูเาที่แห้งแล้งในตะวันตกเฉียงใต้ของเว่ยเฉิง
เดิมทีูเาลูกนี้เป็เหมืองหลังจากทำเหมืองมากว่าสิบปีมันก็กลายเป็ที่รกร้างเพราะตัวูเาสูงตระหง่านและขรุขระเส้นทางบนูเาถูกสร้างขึ้นตามรูปของมัน มองจากไกลๆจะดูเหมือนงูที่กำลังเลื้อยคดเคี้ยวอยู่บนูเา ด้วยเหตุนี้มันจึงชื่อว่า‘เขาโค้งงู’
เนื่องจากทำเหมืองจนหมดแล้วเขาโค้งงูจึงกลายเป็สถานที่รกร้างไร้ผู้คน และมันก็กลายเป็ดินแดนแข่งรถใต้ดินอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่าลูกคุณหนูทั้งหลายของสี่เมืองที่ใกล้กับมณฑลยูนาน
ฉินเฟิงใช้เวลาแค่8นาทีในการขี่จักรยาน 28 นิ้วมาถึงด้านล่างของูเา เวลานี้พระอาทิตย์เกือบจะตกแล้วและดินแดนที่อ้างว้างก่อนหน้านี้ก็เต็มไปด้วยรถสปอร์ตหรูหราแพรวพราว
รถทุกคันเปิดไฟหน้ามันส่องเขาโค้งงูจนเหมือนกับกลางวันเสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตคำรามเหมือนดั่งสัตว์ป่าในยามวิกาล
เมื่อเขาเห็นภาพนี้เืของฉินเฟิงก็รุ่มร้อนขึ้นอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้เขาก็เป็สมาชิกของกลุ่มแข่งรถนี้เช่นกันทุกคืนเขาจะพาสาวไม่ซ้ำหน้ามาเติมเต็มวัยหนุ่มอย่างอิสระแต่แค่สองสามเดือนหลังต่อมาเมื่อได้กลับมาที่ตีนเขาโค้งงูและมองดูฉากจอแจที่คุ้นเคยมันรู้สึกเหมือนกับเป็เพียง่ชีวิตหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่ยืนอยู่บนตีนเขาฉินเฟิงก็กวาดตามองไปรอบๆภายใต้แสงไฟหน้ารถที่ฉายในยามค่ำคืนเขาไม่สามารถหาตำแหน่งของเหวยเสียวเหล่ยได้เขาจูงจักรยาน 28 นิ้ว เดินเข้าไปในฝูงชน
คืนนี้เขาโค้งงูอึกทึกกว่าแต่ก่อนรถหรูจอดเรียงแถวยาวเหมือนัในระหว่างที่เขาเดินฉินเฟิงตระหนักได้ว่าแม้แต่รถที่ระดับต่ำที่สุดก็คือออดี้ TT วันนี้เขาได้เป็จุดสนใจของสายตานับไม่ถ้วนขณะที่จูงจักรยานโบราณ 28นิ้ว ผ่านรถหรูที่รวมตัวกัน
“เฮ้ย ตาแก่ตระกูลไหนหลงมาแถวนี้วะ?”
“แม่เ้าโว้ย ไอ้หมอนี่มันจูงอะไรมาวะเนี่ย? มันมาแข่งที่นี่ด้วยเหรอ?ฮ่าๆๆ”
“แม่งเอ๊ย ไอ้บ้านี่มันต้องมาจากจักรวาลอื่นแน่เลยว่ะ”
ด้วยไฟหน้าที่ส่องสว่างจึงยากนักที่จะเห็นหน้าฉินเฟิงดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าเขาคือนายน้อยฉินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเต็มรูหูแต่สีหน้าของฉินเฟิงยังไม่เปลี่ยนเขาเมินคำล้อเลียนพวกนั้นและจูงจักรยานหาสวี่รั่วโหรวอย่างกระหาย
วูบวูบ!
ทันใดนั้นไฟหน้า2ดวงก็ปรากฏขึ้นมาส่องยอดเขาโค้งงูที่มืดก่อนหน้านี้สว่างขึ้นด้วยความเอะอะผู้คนจึงหันไปดู
ลัมโบร์กีนีเรเบนตันจอดอยู่บนยอดเขาอย่างเงียบงันราวกับสัตว์ป่าที่กำลังหลับใหล
มันเป็รถสปอร์ตหรูรุ่นจำกัดที่มีเพียงแค่37คันในโลก 21 คันเป็สปอร์ตคูเป้ และอีก 16คันเป็แบบเปิดประทุนรถสปอร์ตระดับแนวหน้าคันนี้สวยทั้งภายในและภายนอก มันแสดงให้เห็นถึงฐานะระดับสูงมีราคาประมาณหนึ่งล้านยูโร ซึ่งราวๆ 10.41 ล้านหยวนด้วยการที่มันมีมูลค่ามากแบบนี้มันจึงไม่มีขายในตลาดถ้ามีใคร้าจะซื้อมันจริงๆ พวกเขาต้องใช้จ่ายประมาณสิบห้าล้านหยวน
ครั้งนี้คนดูที่รวมตัวกันด้านล่างูเาโค้งงูคือนายน้อยที่ร่ำรวยของสังคมไฮโซที่มาจากสี่เมืองข้างเคียงของมณฑลยูนนานพวกเขามีความสุขกับการแข่งรถและเก็บสะสมรถซูเปอร์คาร์อย่างเรเบนตันทุกคนรู้จักรถคันนี้และพวกเขาทุกคนก็จ้องมันด้วยสายตาที่อิ่มเอิบไปด้วยความปรารถนา
ชื่อเรเบนตัน เดิมทีเป็ชื่อของวัวกระทิงที่ฆ่ามาทาดอร์ เฟลิกซ์ กุซมัน ในปี 1943 โดยรายงานว่ารถคันนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเครื่องบินขับไล่ F22ดังนั้นรูปทรงของมันจึงดูเหมือนเครื่องบินรบตัวรถจะมีดีไซน์มากมายที่มีองค์ประกอบเกี่ยวกับการบิน
ดีไซน์ด้านในรถมีค่าใช้จ่ายมากจนยากจะจินตนาการมันเป็ที่นั่งแบบสปอร์ตที่สนับสนุนคนขับด้วยระบบอเนกประสงค์ต่างๆ จอ LCD ที่แสดงผลตัวเลขดิจิทัล 3 หลัก ทำให้คนขับรู้สึกเหมือนกำลังนั่งในค็อกพิท
ที่หน้ารถของลัมโบร์กีนีเรเบนตันเป็ไฟซีนอนLEDส่วนด้านหลังเป็ไฟท้ายทันสมัยที่ทำมาเพื่อป้องกันความร้อนจากไฟ LEDเป็พิเศษ นี่เป็รถที่อยู่บนยอดเขาโค้งงูห่างไปสองสามร้อยเมตรไฟหน้าของมันส่องสว่างจนทุกคนสามารถเห็นได้ชัดเจน
ผู้คนมากมายเริ่มตื่นเต้นมีคนเดินออกจากเรเบนตันด้วยการที่เขาอยู่ไกลนิดหน่อย ใบหน้าของเขาจึงเห็นไม่ชัดและทันทีที่เขาพูดผ่านลำโพงใบหน้าของฉินเฟิงก็ครึ้มลง
“สวัสดีทุกคน ฉันชื่อเหวยเสียวเหล่ย ถ้านายรู้จักเมืองหลวงนายก็รู้จักฉันนายจะเรียกฉันว่านายน้อยเหวยก็ได้...ครั้งนี้ฉันหาความบันเทิงในเว่ยเฉิงไม่เจอเลยฉันจึงตัดสินใจจัดการแข่งรถใต้ดินสำหรับสี่เมืองของมณฑลยูนนานฉันมั่นใจว่าพวกนายทุกคนรู้จักและ้าเรเบนตันที่อยู่ข้างหลังฉันคันนี้เพราะมันล้ำค่ามากเป็ซูเปอร์คาร์ระดับแนวหน้า มันหมายถึงความภาคภูมิใจและสัญลักษณ์ของฐานะสำหรับนายน้อยอย่างเราที่มีความสุขในการเก็บสะสมรถหรู”
“ดังนั้นวันนี้ฉันจึงจัดงานรวมตัวรถใต้ดินนี้ขึ้นมาเพราะฉันมีรางวัลที่สุดยอดโคตรๆ และเรเบนตันนี่ก็คือรางวัลแรกสำหรับผู้ชนะ”
เหวยเสียวเหล่ยหยุดพูดและรอยยิ้มชั่วร้ายก็โผล่ขึ้นบนใบหน้าแล้วก็มีใครบางคนโดนบังคับให้ออกจากเรเบนตัน
“แล้วรางวัลที่สองล่ะ? ใช่แล้วสาวน้อยคุณภาพคนนี้ยังไงล่ะ เธอทั้งน่ารักและใสซื่อ ร่างกายของเธอผอมบางเซ็กซี่แถมเธอยังสาวและไร้ประสบการณ์รถสวยกับสาวงามสิ่งเหล่านี้เป็ของขวัญที่เตรียมไว้สำหรับผู้ชนะในค่ำคืนนี้ส่วนพวกนายจะได้มันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนายเอง”
พวกนายน้อยนักแข่งตามถนนทั้งหลายต่างมีประสบการณ์เมื่อพวกเขาได้ยินว่าสาวสวยเป็ของรางวัล พวกเขาทุกคนก็หยิบกล้องส่องทางไกลออกมาดูเมื่อพวกเขาเห็นหน้าตาของสวี่รั่วโหรวสายตาทุกคนก็เขียวปั๊ดและดูเหมือน้าจะพุ่งไปคว้าตัวเธอ
“โอเค เราจะเริ่มสมัครสำหรับการแข่งขัน ค่าสมัครคือ 200,000 หยวนด้วยการที่รางวัลใหญ่โตขนาดนี้ฉันมั่นใจว่าพวกนายทุกคนคงไม่อยากพลาดมันแน่ๆ”
เมื่อเสียงของเขาซาลงเหวยเสียวเหล่ยก็พาสวี่รั่วโหรวกลับเข้าไปในรถปิดไฟหน้าและยอดเขาโค้งงูก็มืดลงอีกครั้งเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ครั้งนี้โทรศัพท์ของฉินเฟิงดังออกมา
“นายน้อยฉินคำพูดฉันเป็ไงบ้าง? ฉันเท่ใช่ไหม?”เสียงเริงร่าของเหวยเสียวเหล่ยดังออกมา
“บอกมา นาย้าอะไรถึงจะยอมปล่อยตัวสวี่รั่วโหรว?” เสียงของฉินเฟิงเ็าเป็น้ำแข็ง
“ฮ่าๆๆ นายน้อยฉินหนอนายน้อยฉิน ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้นายยังทำหยิ่งอยู่หรอกเหรอ?มีผู้หญิงเยอะไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าทั้งเว่ยเฉิงอยู่ในฝ่ามือของนายเหรอ?ทำไมตอนนี้ถึงมาขอร้องนายน้อยคนนี้ซะแล้วล่ะ? ในเมื่อนายทั้งเ้าชู้เสเพลทำไมนายต้องสนใจกับแค่สาวสวยคนเดียวด้วย? ทำไมนายไม่ปล่อยเธอให้กับทุกคนล่ะ?เราจะได้มีความสุขด้วยกันไง”
“ก็ถูกของนาย โอเคงั้นฉันไปก่อนล่ะ หวังว่าพวกนายจะสนุกกันนะ”ฉินเฟิงฟังดูเหมือนเขาอยากจะวางสาย
รอยยิ้มของเหวยเสียวเหล่ยแข็งทื่อทันทีเขาเร่งรีบะโใส่โทรศัพท์ “ฉินเฟิงอย่ามาทำแกล้งนะโว้ย ฉันตรวจสอบมาแล้วเมื่อเร็วๆ นี้แกพยายามจะจีบสาวคนนี้อยู่ และแกก็ยังไม่ได้เธอ ฮ่าๆแกจะทนปล่อยให้คนอื่นมาคาบนกน้อยตัวนี้ไปได้ยังไง? แค่ขอร้องฉันอย่างเชื่อฟังตอนนี้ฉันอารมณ์ดีอาจจะคืนเธอให้แกก็ได้”
“โอ้? พอนายพูดถึงฉันก็นึกได้ทันทีว่าครูหยุนเซียวก็นัดกับฉันคืนนี้ด้วยสิเธอก็เป็หนึ่งในเป้าหมายของฉันเหมือนกัน ฉันจะฉวยโอกาสแอ้มเธอคืนนี้เลยแล้วกัน”เหวยเสียวเหล่ยตรวจสอบฉินเฟิง และฉินเฟิงก็ตรวจสอบเหวยเสียวเหล่ยเช่นกัน
คนที่รู้ว่าเขามาจากตระกูลเหวยแห่งเมืองหลวงก็จะรู้ว่าเขามาเว่ยเฉิงเพื่อแต่งงานกับหยุนเซียว
“แก...กลับมานี่นะ ห้ามไปหาหยุนเซียวเด็ดขาด ถ้าแกกล้าจุ้นจ้านกับเธออีกครั้งฉันจะขยี้แกซะ”เหวยเสียวเหล่ยโกรธมากจนแทบกระอักเื
คืนนี้เขามีแผนจะขยี้ฉินเฟิงอย่างไร้ความปรานีฉินเฟิงจะได้ลิ้มรสถึงผลที่ตามมาจากการหาเื่เขาแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“ทำไมฉันต้องฟังนาย? ฉันไม่มีเวลาสำหรับเื่ไร้สาระของนายหรอกนะฉันต้องไปหาครูหยุนเซียวเพื่อเรียนชดเชยครูหยุนเซียวชอบแนบหนังสือไว้ระหว่างถุงน่องสีดำกับขาอ่อนระหว่างสอนฉันซะด้วยสิ”ฉินเฟิงกล่าวขณะที่ริมฝีปากโค้งขึ้น
เหวยเสียวเหล่ยโกรธจนหน้าเขียวเขากัดฟันกรอด “ฉินเฟิงแก้าอะไร?” หลังจากที่พูดออกไปเหวยเสียวเหล่ยก็รู้สึกว่ามันฟังดูคุ้นๆไม่ใช่ว่านี่เป็คำที่ฉินเฟิงเพิ่งถามเขาหรือไง?
ทันใดนั้นเหวยเสียวเหล่ยก็อยากจะร้องไห้
“ฉันไม่้าอะไรทั้งนั้นฉันก็แค่จะไปบ้านครูหยุนเซียวเพื่อคุยเื่วรรณกรรมกับศิลปะจีนนายก็รู้ว่าฉันขยันเรียนมาก”
เหวยเสียวเหล่ยกำลังจะบ้าเขารู้ว่าฉินเฟิงไม่เหมือนกับลูกคุณหนูคนอื่นๆ ความคิดของมันคาดเดาไม่ได้เหวยเสียวเหล่ยกลัวว่าถ้าเขาพยายามจะขู่ฉินเฟิงเขาอาจจะโดนขู่ซะเอง
“ฉินเฟิงอย่าเพิ่งไป ฉันได้ยินมาว่าแกชอบแข่งรถทำไมไม่ลองมาเล่นสักหน่อยก่อนออกไปล่ะ?” เหวยเสียวเหล่ยเปลี่ยนแผนในเมื่อไม้แข็งไม่ได้ผลงั้นก็ต้องลองใช้ไม้อ่อนเพื่อล่อฉินเฟิง
การแข่งรถใต้ดินคืนนี้เป็แผนที่วางไว้เพื่อฉินเฟิงโดยเฉพาะเขาวางแผนเพื่อที่จะใช้อุบัติเหตุฆ่าฉินเฟิง แต่ถ้าฉินเฟิงไม่เข้าร่วมการแข่งงั้นแผนทั้งหมดก็ต้องพังยับ
“นายกำลังขอร้องฉันเหรอ?” ฉินเฟิงถาม
อีกด้านหนึ่งของสายเงียบไปสักพักหนึ่งแล้วก็มีเสียงกัดฟัน “ใช่แล้ว ฉันกำลังขอร้องแกให้เข้าร่วมการแข่งขัน”
“โอ้ไม่นะ...จุดอ่อนอันใหญ่หลวงของนายน้อยผู้นี้ก็คือใจดีเกินไปในเมื่อนายได้ยินมาว่าทักษะขับรถของนายน้อยผู้นี้มันขั้นเทพและนายก็กำลังตั้งใจขอร้องฉันให้เข้าร่วมแข่งขันเพื่อดูทักษะขั้นเทพของฉันงั้นฉันก็ต้องฝืนใจเติมเต็มความปรารถนาของนายซะแล้ว...แต่ฉันไม่จ่ายค่าสมัครนะ”
หลังจากคิดเล็กน้อยฉินเฟิงก็เพิ่มเติม “โอเค เอาโทรศัพท์ให้รั่วโหรวหน่อยฉันมีคำพูดสองสามคำที่จะคุยกับเธอเป็การส่วนตัว”
เหวยเสียวเหล่ยยื่นโทรศัพท์ให้สวี่รั่วโหรวอย่างโง่ๆทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าเขาทำตัวเหมือนกับเป็ลูกน้องของฉินเฟิง
“ฉินเฟิง...” เมื่อเธอได้โทรศัพท์สวี่รั่วโหรวก็บ่อน้ำตาแตกอย่างควบคุมไม่อยู่
“รั่วโหรว พวกมันไม่ได้รังแกเธอใช่ไหม?” ความใจเย็นของฉินเฟิงก่อนหน้านี้หายไปหมดสิ้นเขาถามคำถามด้วยความเป็ห่วง
“เปล่า พะ...พวกเขาไม่ได้ทำอะไร พวกเขาแค่ไม่ปล่อยให้ฉันกลับบ้าน”สวี่รั่วโหรวกล่าวอย่างโศกเศร้า
ฉินเฟิงโล่งอกสายตาของเขาเ็าเหมือนน้ำแข็ง “รั่วโหรวอย่ากลัวนะฉันจะแข่งเพื่อไปให้ถึงข้างบนในทันทีและสอนบทเรียนพวกคนเลวให้แล้วฉันจะพาเธอกลับบ้านและสอนเธอ...เป่าขลุ่ยคืนนี้เอง”
เมื่อสวี่รั่วโหรวพบว่าฉินเฟิงอยู่ด้านล่างของูเาใจของเธอก็สงบลง เธอพยักหน้าอย่างขะมักเขม้น “โอเค ฉะ...ฉันจะรอคุณ...มะ...เมื่อเรากลับไปแล้วสอนฉันด้วยนะ ฉันชอบเล่นดนตรีมากเลย”