ฟิ้ว!
มีดที่ขาวราวกับหิมะเฉือนผ่านไหล่ของฉินหลาง เืสีแดงสดซึมออกมาเป็ทางยาว
ฉินหลางยกเท้าขวาขึ้น แล้วกวาดเท้าไปยังหมวกกันน็อกของคนขับมอเตอร์ไซค์
ปึง!
คนขับร่วงลงมาจากมอเตอร์ไซค์ ในขณะที่มอเตอร์ไซค์พุ่งไปชนกับต้นไม้ข้างทาง เสียงกรีดร้องดังระงม
ฉินหลางใช้มือกดแผลที่หัวไหล่ เดินหน้าสองก้าว เพื่อเอาหมวกกันน็อกของคนขับมอเตอร์ไซค์ที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นออก จากนั้นใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปใบหน้าของเ้าหมอนี่เอาไว้
เ้าหมอนี่เป็ชาวอุยกูร์ จากการคาดเดาของฉินหลาง มีความเป็ไปได้สูงมากที่เ้าหมอนี่จะเป็ลูกสมุนที่ซื่อสัตย์ของซางคุน
เถารั่วเซียงรีบตามเข้ามา มองที่าแบนหัวไหล่ของฉินหลางด้วยความเป็ห่วงเป็ใย “ฉินหลาง…ขอโทษ…ไป เรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ!”
เมื่อเห็นเถารั่วเซียงเป็ห่วงตนมากขนาดนี้ ฉินหลางกลับหัวเราะขึ้นมา
ตอนแรกเถารั่วเซียงเป็ห่วงเขาจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว ทว่าฉินหลางกลับหัวเราะออกมา คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะหัวเราะ เธอจึงพูดขึ้นด้วยความโมโห “นาย…นายหัวเราะอะไร! เวลาแบบนี้นายยังจะมาหัวเราะอีกเหรอ!”
“คุณเป็ห่วงผมมากขนาดนี้ ผมจะไม่ดีใจได้ยังไง” ฉินหลางยังยิ้มอยู่ มีดของอีกฝ่ายดูเหมือนจะคมมาก แต่ฉินหลางผลักเถารั่วเซียงออกก่อนได้ เขาก็ต้องเตรียมตัวรับมือไว้แล้วเหมือนกัน ดังนั้นมีดนั้นจึงไม่โดนจุดสำคัญ ที่เขาได้รับาเ็จริงๆ ก็มีแค่ิัเท่านั้น าแเล็กน้อยนี่แลกกับความเป็ห่วงเป็ใยของเถารั่วเซียง สำหรับฉินหลางแล้ว มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มซะอีก
สำหรับเขานั้น อย่างน้อยาแเล็กน้อยจากสมุนของซางคุน ก็ทำใหู้เาที่กั้นกลางระหว่างเขากับเถารั่วเซียง น้อยลงไปหลายลูก
“ยังจะยิ้มอีก! รีบไปโรงพยาบาล!” เถารั่วเซียงสบถ ตอนนี้มีคนโทรแจ้งตำรวจไปก่อนแล้ว ตำรวจที่มา มาจากสถานีตำรวจของหลูจินพอดี
นอกจากนี้ หลูจินก็ทราบเื่ และกำลังรีบมาที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน
“ขอโทษครับ อาจารย์เถา พวกเราคุ้มครองไม่ทั่วถึง ทำให้พวกคุณต้องใ! ดูไปแล้ว ต่อไปพวกเราจะต้องจู่โจมผู้ร้ายเหล่านี้ให้หนักขึ้นซะแล้ว!” หลูจินถอนหายใจยาวๆ
แต่ไม้นี้ใช้กับเถารั่วเซียงและฉินหลางไม่ได้อีกแล้ว ใบหน้าเสแสร้ง แกล้งเป็คนดีของหลูจินตอนนี้ ทำให้เธอกับฉินหลางรู้สึกขยะแขยง เถารั่วเซียงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นะเื “ขอโทษนะคะ ผู้อำนวยการหลู ฉินหลางได้รับาเ็ ฉันจะส่งเขาไปโรงพยาบาล!”
“รีบไปเถอะ จะได้รีบรักษา” หลูจินยิ้มจางๆ “อาจารย์เถาเดี๋ยวนี้อาชญากรกำเริบเสิบสาน การสืบสวนคดีก็ปล่อยให้เป็หน้าที่ของตำรวจอย่างพวกเราเถอะ พวกคุณไม่ต้องทำแทน จะได้ไม่โดนอาชญากรโต้ตอบอีก”
คำพูดนี้อาจดูเหมือนพูดเพราะห่วงเถารั่วเซียง แต่ทว่า ความจริงนั้นเขากำลังบอกว่าฉินหลางกับเถารั่วเซียงไม่เพียงแต่มาแทรกแซงการทำงานของเ้าหน้าที่ตำรวจ ยังทำให้อาชญากรเคียดแค้น จนต้องโต้ตอบกลับแบบนี้ ดังนั้น ความจริงแล้วคำพูดนี้เป็คำเตือน
“ขอบคุณสำหรับคำเตือนค่ะ ผู้อำนวยการหลู” เถารั่วเซียงสบถเย็นเยือก แล้วพาฉินหลางเดินจากไป
“น้าเถา ผมเป็แผลถลอกแค่เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง ความจริงเราไม่ต้องไปโรงพยาบาลก็ได้” ฉินหลางพูดปลอบใจเถารั่วเซียง
“ไม่ได้ ยังไงก็ต้องไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อน” เถารั่วเซียงยังคงเป็ห่วงอยู่ดี
“ไม่ได้เป็อะไรจริงๆ ครับ”
“ไม่ได้! อย่างน้อยก็ไปทำแผลที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน” เถารั่วเซียงกล่าว “เดี๋ยวฉันทำแผลให้!”
ได้ยินว่าเถารั่วเซียงจะทำแผลให้เขาเอง ฉินหลางจึงไม่ได้ปฏิเสธอีก ในใจกลายเป็สีชมพูหวานแหว๋ว
ปกติแล้ว ห้องพยาบาลของโรงเรียน จะมีหมอวาง คุณหมอชรากับฮานหนิงพยาบาลสาว อยู่ประจำห้องพยาบาล
เห็นคราบเืบนเสื้อของฉินหลาง หมอวางรีบลุกขึ้นยืน ส่ายหน้าพลางกล่าว “เฮ้อ พวกเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ ทำไมเอะอะอะไรก็ต้องลงไม้ลงมือกันตลอด นี่ยังใช้มีดอีก! จริงๆ เลย—ถ้ามีดแรงกว่านี้อีกหน่อย เธอจะต้องเสียแขนแน่! รู้รึเปล่า!”
ตอนแรกหมอวางกำลังสั่งสอนฉินหลาง แต่เถารั่วเซียงที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับน้ำตาคลอ ดวงตาแดงก่ำ คิดขึ้นว่าฉินหลางเกือบต้องเสียแขนเพราะช่วยเธอ เธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องขอบคุณเขายังไงดี อีกอย่าง เถารั่วเซียงเป็คนฉลาด เธอรู้ว่าวันนี้ต้องเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้ เพราะเมื่อวานไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ จึงทำให้เื่นี้แพร่งพรายออกไป ถ้าเธอยอมฟังฉินหลาง ยังไม่รีบไปแจ้งความ วันนี้ก็ไม่เกิดเื่แบบนี้ขึ้น
“ขอบคุณที่เตือนนะครับ คุณหมอวาง ต่อไปผมจะระวังให้มากขึ้น” ฉินหลางตอบด้วยรอยยิ้ม ราวกับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว
“เ้าเด็กหนุ่ม—ช่างเถอะ คำพูดของคนแก่อย่างฉัน เธอก็ไม่ฟังอยู่ดี”
เหมือนกับหมอวางจะรู้สึกว่า ฉินหลางนี่หมดทางเยียวยาแล้ว จึงี้เีที่จะสอนอะไรอีก ทว่าเวลานี้เถารั่วเซียงกลับพูดขึ้น “ไม่ใช่อย่างงั้นนะคะ คุณหมอวาง ฉินหลางเขาโดนฟันเพราะช่วยฉัน”
ได้ยินเถารั่วเซียงพูดดังนั้น หมอวางทั้งใและนับถือเขาขึ้นมาทันที
สมัยนี้ขนาดอยู่ในโรงเรียนชีจง เขาเคยเห็นคนจำนวนมากาเ็เพราะการทะเลาะวิวาท คนที่กล้าใช้มีดฟันคู่ต่อสู้ก็มีไม่น้อย แต่คนที่มีคุณธรรม และความกล้ามากพอรับมีดแทนคนอื่นกลับเคยเห็นน้อยมากๆ ฉินหลางกล้ารับมีดแทนครูของตัวเอง ความกล้าหาญของเขาสมควรได้รับคำชื่นชม และความนับถือ!
“เ้าหนู เยี่ยมมาก!” หมอวางยกนิ้วโป้งให้ฉินหลาง ก่อนจะบอกให้ฉินหลางถอดเสื้อออก จะได้สะดวกต่อการตรวจสอบ และทำความสะอาดาแ แล้วทำแผลให้เขาได้ตามขั้นตอน
“กรี๊ด! ดูไม่ออกเลยว่ากล้ามเนื้อนายจะแน่นขนาดนี้!”
ตอนที่ฉินหลางถอดเสื้อออก ฮานหนิงพยาบาลสาวกรีดร้องชื่นชม
ตอนแรกเถารั่วเซียงสังเกตเพียงาแบริเวณไหล่ ที่ยาวประมาณ 7-8 เิเของฉินหลางเท่านั้น แต่เมื่อได้ยินพยาบาลสาวชื่นชม จึงแอบมองกล้ามเนื้อฉินหลางด้วยความอยากอยากรู้อยากเห็น
กล้ามเนื้อเ้าหมอนี่ชัดเจนมาก แม้ไม่ได้ดูอลังการเหมือนพวกนักกีฬาเพาะกาย ทว่ากลับมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงามได้รูป มีความลึกตื้นชัดเจน ทำให้รู้สึกราวกับว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเขาอัดแน่นไปด้วยพละกำลังมหาศาล
แต่นั่นก็เป็ความจริงคนที่ฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ล้วนไม่มีกล้ามเนื้อที่ดูอลังการเหมือนนักเพาะกล้ามอาชีพอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็ผู้ฝึกยุทธที่แท้จริง ความรุนแรงและพละกำลังเวลาออกหมัด จะเหนือกว่านักเพาะกายมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อก็เหมือนกับอย่างอื่น ใช่ว่ายิ่งใหญ่จะยิ่งแข็งแกร่งซะหน่อย
ตอนนี้พยาบาลสาวกำลังใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดาแให้ฉินหลาง
ทว่าตลอดทั้งขั้นตอนนั้น ฉินหลางไม่แม้แต่ขมวดคิ้วด้วยซ้ำ
“นายนี่เจ๋งจริงๆ!” ฮานหนิงชื่นชมอย่างเหลืออด “ทุกครั้งเวลาที่ฉันทำแผลให้คนอื่น ขนาดโดนมีดเหลาดินสอบาด พวกเขายังร้องซะดังพอๆ กับหมูที่กำลังโดนเชือด แต่นายกลับไม่โอดโอยเลยแม้แต่คำเดียว เก่งมากจริงๆ!”
“มีพยาบาลสาวสวยๆ อย่างพี่มาทำแผลให้ ผมจะรู้สึกเจ็บได้ยังไงล่ะครับ”
ฉินหลางหยอกล้อพยาบาลสาวกลับไปด้วยรอยยิ้ม อันที่จริง สำหรับฉินหลางแล้ว แผลแค่นี้เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ เพราะเมื่อเทียบกับความเ็ปตอนที่ตาเฒ่าพิษ บังคับให้เขาฝึกฝนวิชาพิษแล้ว แบบนั้นต่างหากที่เจ็บอย่างแท้จริง ถ้าเทียบกับความเจ็บนั้น ตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับการโดนมดกัดเท่านั้น
“ฮ่าๆ นายที่พูดเก่งจริงๆ เลย แต่เสียดายที่พี่สาวมีแฟนแล้ว ไม่อย่างนั้นพี่สาวคงจะรับไว้พิจารณาแล้ว” ฮานหนิงไม่รู้สึกเขินอายเลยสักนิด แถมยังยื่นมือไปตบๆ กล้ามหน้าอกของฉินหลางเบาๆ
“หมอวางคะ ต้องส่งเขาไปโรงพยาบาลรึเปล่า?” เถารั่วเซียงยังคงเป็ห่วงอยู่ดี
“ไม่ต้องก็ได้ วัยรุ่นสามารถฟื้นฟูร่างกายได้เร็ว ขอแค่แผลไม่ติดเชื้อ อย่างมากครึ่งเดือนก็หายดีแล้ว” หมอวางกล่าว
“ค่ะ หมอวาง ขอยารักษาาแด้วยค่ะ เดี๋ยวฉันจะทำแผลให้เขาเอง” เถารั่วเซียงค่อนข้างรักษาคำพูด จึงจะทำแผลให้ฉินหลางเอง นั่นทำให้เขาดีใจมากๆ
หากแต่ฉินหลางปฏิเสธที่จะใช้ยาผงพิเศษหยุนหนาน ทว่ากลับหยิบขวดเล็กๆ ออกมา เทผงที่มีสีเหลืองขุ่นลงบนาแเอง จากนั้นค่อยบอกเถารั่วเซียงช่วยทำแผลให้เขา
เถารั่วเซียงจบเอกอาชญาวิทยา ดังนั้นเธอจึงมีความรู้ทางการปฐมพยาบาลพื้นฐาน ถึงเธอจะทำแผลได้ไม่ดีเท่ามืออาชีพ แต่ก็ค่อนข้างจะคล่องแคล่ว เพียงไม่นานเธอก็ทำแผลให้ฉินหลางเสร็จ
ฉินหลางเห็นสายตาที่เ็ปและห่วงใยของเถารั่วเซียง ตอนทำแผลให้เขา เขารู้สึกดีใจมาก แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนตัวเอง ‘น่ารังเกียจ’ มากเกินไปรึเปล่า ทั้งๆ ที่เขาสามารถหลบมีดนี้ได้…
แต่ถ้าหากฉินหลางมีโอกาสเลือกใหม่อีกครั้ง เขาก็คงจะเลือกเหมือนเดิมอยู่ดี!