หวังสี่ซุ่นเ็ปแสนสาหัสจนกระตุกไปทั้งร่าง เขาคาดไม่ถึงว่าการโจมตีครั้งที่สองจะตามมาติดๆ
เมิ่งอู่ไม่แม้แต่จะปล่อยให้อีกฝ่ายได้หายใจหายคอ นางงอเข่าขึ้นกระแทกเข้าที่หว่างขาของหวังสี่ซุ่น เคลื่อนไหวประหนึ่งเมฆเคลื่อนน้ำไหลในคราวเดียว เขายังไม่ทันตอบสนองจึงได้แต่ต้องยอมรับแรงกระแทกนั้นไปเต็มๆ
สีหน้าของหวังสี่ซุ่นประเดี๋ยวขาวประเดี๋ยวเขียว เ็ปแสนสาหัส เส้นเืตามขมับล้วนปูดโปน
สองมือเขากุมหว่างขาไว้แน่นก่อนทรุดฮวบลงกับพื้น สายตาที่มองเมิ่งอู่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
นี่ยังคงเป็สตรีที่ไร้ทางสู้เมื่อครู่คนนั้นหรือไม่?
เห็นได้ชัดว่าราวกับถูกิญญาร้ายเข้าสิงร่างไม่มีผิด!
หวังสี่ซุ่นเบิกตากว้างมองเมิ่งอู่ที่ค่อยๆ ลุกจากพื้นดิน นางยังคงปรับตัวปรับใจไม่ทันอยู่บ้าง ก่อนจะก้มลงมองตนเองจึงพบว่าเสื้อผ้าหลุดลุ่ย นางจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างไม่รีบไม่ร้อน จากนั้นเยื้องย่างไปตรงหน้าหวังสี่ซุ่น
หวังสี่ซุ่นหดตัวถอยกรูดอย่างต่อเนื่อง สีหน้าราบเรียบของนางช่างน่ากลัวเกินกว่าจะทนมอง
เมิ่งอู่ลดสายตาลงมองเขา แววตาดั่งภูตผีปีศาจ นางผูกสายรัดเอวอย่างสบายๆ พลางเอ่ยว่า "หน้าตะปุ่มตะป่ำเยี่ยงนี้ยังกล้าออกมาเพ่นพ่านเป็เสนียดสายตาผู้คนอีกหรือ?"
"จะ… เ้า… อย่าเข้ามา..."
เมิ่งอู่แสยะยิ้มมุมปากข้างหนึ่งอย่างรังเกียจ "อย่าพูดอย่างนั้นสิ เมื่อครู่ยังเก่งนักไม่ใช่หรือ? มาสิ ข้าจะเล่นกับเ้าเอง"
สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว ความพรั่นพรึงพุ่งเข้าใส่หัวใจของหวังสี่ซุ่น เขาไม่หลงเหลือท่าทางลำพองอวดดีอย่างเมื่อครู่แม้แต่น้อย ทำได้เพียงอดทนต่อความเ็ปแสนสาหัส แล้วลุกขึ้นวิ่งหนี
ทว่าเพิ่งวิ่งไปได้สองก้าว เมิ่งอู่ไม่ต้องใช้มือด้วยซ้ำ เพียงยกเท้าขึ้นตรงๆ แล้วเตะเขาจนล้มโครมลงกับพื้น จากนั้นเท้าอีกข้างก็กระทืบหว่างขาของเขาอย่างแรงจนสีหน้าของหวังสี่ซุ่นพลันซีดเผือด
เมิ่งอู่เอ่ย "จะวิ่งไปไหนเล่า? ข้าไม่ได้จะกินเ้าสักหน่อย" กล่าวจบก็ออกแรงขยี้ที่เท้า
หวังสี่ซุ่นร้องโหยหวน
เมิ่งอู่เอ่ยอย่างเฉยชาท่ามกลางเสียงร้องอย่างน่าเวทนาของเขา "ดูสิ เ้าดูแลน้องชายของเ้าไม่ดี ข้าก็แค่ช่วยสั่งสอนมันแทนเ้า ถูกแล้ว นับจากนี้ไปมันจะได้ไม่กำเริบเสิบสานอีก"
เมิ่งอู่เหยียบซ้ำไปที่ใบหน้าของเขา ก่อนกดหน้าของเขาจมดิน นางเลิกคิ้วพลางเอ่ยลอยหน้าลอยตา "อย่าจ้องข้าด้วยใบหน้านี้สิ อา… อัปลักษณ์ อัปลักษณ์เกินไปแล้ว จ้องมากเข้ายิ่งระคายตายิ่งกว่าพริกไทยน้ำซะอีก ไอ้สารเลวไร้ค่า กล้าออกมาทำให้ผู้คนรำคาญสายตา ช่างไม่ละอายเลยนะ?"
หวังสี่ซุ่นถูกทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ เ็ปและสับสนวุ่นวายใจ ปากเต็มไปด้วยเศษดิน ใบหน้ายังถูกเหยียบย่ำจมลงไปในดิน เขาคร่ำครวญร้องขอความเมตตา “ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว… ต่อไปข้าไม่กล้าอีกแล้ว โปรดยกโทษให้ข้าด้วย…”
เมื่อเหยียบจนพอใจแล้ว เมิ่งอู่จึงถอนเท้าออก "ไสหัวไปซะ"
หวังสี่ซุ่นไม่สนใจความเ็ป รีบลุกพรวดก่อนวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกออกจากทุ่งข้าวฟ่างแห่งนี้
ลมพัดยอดรวงข้าวฟ่างจนไหวเอน เกิดเป็เสียงกรอบแกรบ
ลำคอของเมิ่งอู่มีรอยฟกช้ำจางๆ ที่หวังสี่ซุ่นทิ้งไว้ ยังเจ็บแปลบอยู่บ้าง นางยกมือขึ้นจับคอและส่ายศีรษะสองสามครั้ง รู้สึกเวียนศีรษะไปหมด นางพึมพำกับตนเอง “นี่มันสถานที่บ้าบออะไรเนี่ย?”
’เธอ’ จำได้ว่า เมื่อกี้นี้เธอกำลังปฏิบัติภารกิจ แต่ให้ตายเถอะ คู่ต่อสู้ของเธอกลับเป็ผู้ชายหน้าตาดี เธออดมองเขานานหน่อยไม่ได้ และแล้วก็พลาดท่าให้อีกฝ่ายจนได้...
อย่างที่เขาว่ากัน ผู้ชายหน้าตาดีคือหายนะ เมื่อมองมากเข้าๆ ก็ถึงกับเอาชีวิตไม่รอด
ผลลัพธ์คือ หลังจากที่เธอลืมตาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ในทุ่งข้าวฟ่างแห่งนี้ จากนั้นก็จัดการไอ้สารเลวนั่น
เวลานี้เมิ่งอู่นั่งอยู่กลางทุ่งข้าวฟ่าง กระทุ้งหน้าผาก จากนั้นความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอก็ค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามาในหัว
เมิ่งอู่ย่อยข้อมูลพักหนึ่งจนเข้าใจแจ่มแจ้ง
ความทรงจำเหล่านี้เป็ของร่างกายนี้ แต่ร่างกายนี้ไม่ใช่ของ ‘เธอ’
เธอ… กลายเป็สาวบ้านนอกไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นมารดายังป่วยหนัก ครอบครัวของลุงและย่าต่างอยากให้นางออกเรือนโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้สินสอดบ้างก็ยังดี ขณะเดียวกันก็ยึดครองที่ดินไม่กี่หมู่ของครอบครัวนางด้วย
คราวนี้ย่าของเ้าของร่างเดิมฉวยโอกาสที่มารดาของนางล้มป่วยเกินกว่าจะลุกจากเตียงได้ ขายนางให้กับไอ้สารเลวนั่น แม่เฒ่าผู้นี้ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง รังแกคนอ่อนแอ และยอมสยบต่อผู้แข็งแกร่ง อุปนิสัยใจคอค่อนข้างโเี้
เมิ่งอู่นั่งอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง เมื่อพบว่าตัวเองกลับไปไม่ได้แล้ว ยิ่งกว่านั้นระหว่างปฏิบัติภารกิจยังถูกคู่ต่อสู้เล่นงานจุดสำคัญ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว
นางรู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก
นางจับหน้าผาก เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “คนที่อยู่ตรงนั้น มองข้าพอแล้วหรือยัง?”
ลมกระโชกแรงพาให้ต้นข้าวเขียวขจีในทุ่งข้าวฟ่างส่งเสียงดังกรอบแกรบ ทว่าไร้ซึ่งเสียงคนตอบรับ
เมิ่งอู่ยันหัวเข่า แล้วลุกขึ้นยืน ถอนต้นข้าวฟ่างหนึ่งต้นอย่างสบายๆ ก่อนเดินลึกเข้าไปในทุ่งข้าวฟ่างไปพลางใช้ต้นข้าวฟ่างในมือแหวกทางไปพลาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้