ผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินคนหนึ่งยืนอยู่นอกหมู่บ้านเถาหยวน เขามองรอยเืที่หยดเป็ดวงใต้ต้นไม้ใหญ่นิ่ง มีความเศร้าใจดั่งสูญเสียอยู่ภายใน
“ศิษย์พี่เป็อะไรไปขอรับ?” ศิษย์น้องเล็กที่ตามอยู่ข้างกายเอ่ยถามอย่างุนงง
“ไม่ ไม่มีอะไร ข้าแค่รู้สึกว่าที่นี่น่าจะมีคนได้รับาเ็น่ะ!” ผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินชี้รอยเืไม่กี่หยดบนพื้น เอ่ยขึ้นอย่างไร้ที่มา
“ไม่นะขอรับ แค่เืไม่กี่หยดเท่านั้น ดูจากสีแล้วไม่เหมือนเืมนุษย์ คล้ายจะเป็เืสัตว์อสูรนะขอรับ!” ศิษย์น้องเล็กมองเืไม่กี่หยดใต้ต้นไม้อย่างละเอียดแล้วเอ่ยขึ้น
“ข้าคงเข้าใจผิดไปกระมัง!” แปลก ทำไมถึงรู้สึกว่าพลาดจากใครบางคนไปนะ?
“ศิษย์พี่ ด้านหน้านี้มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ เช่นนั้นคืนนี้พวกเราพักกันที่นี่ วันพรุ่งนี้ค่อยเดินทางกลับดีไหมขอรับ?” ศิษย์น้องเล็กชี้หมู่บ้านเถาหยวนที่อยู่ด้านหน้าแล้วเอ่ยถาม
“ไม่ต้องหรอก ข้าจะขี่กระบี่พาเ้ากลับ ไม่นานก็ถึงวิทยาลัยแล้ว” ผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินพูดพลางเอากระบี่อาคมเล่มหนึ่งออกมา กระบี่อาคมถูกโยนขึ้นฟ้า เมื่อต้องลมก็ขยายใหญ่จนยาวสองเมตรกว่าอย่างรวดเร็ว
“ขอรับ!” ศิษย์น้องเล็กพยักหน้า ะโตามผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินขึ้นกระบี่วิเศษไป
ผู้ฝึกตนชุดน้ำเงินบังคับกระบี่อาคมช้าๆ ยังคงมองใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นทีหนึ่งอย่างตัดใจไม่ลงแต่ก็ไร้ผล
เขาเก็บอารมณ์เศร้าเหมือนสูญเสียเช่นนั้นไป จดจ้องกับการบังคับกระบี่อาคม พาศิษย์น้องเล็กไปจากที่แห่งนี้ บินไปยังทิศทางของเมืองเซิ่งตู
……...
วันต่อมา
หลิ่วเทียนฉีลืมตาขึ้น สะบัดมือปลดยันต์เขตแดนออก แสงตะวันอ่อนโยนสายหนึ่งส่องจากนอกหน้าต่างเข้ามาในห้อง
เขาพลิกกายหันข้าง รีบร้อนบังแสงตะวันแยงตาให้คนในอ้อมแขน
“เสี่ยวรุ่ยรุ่ย เ้าช่างเป็สิ่งพิเศษ ทำให้ข้ารู้สึกเสพติดจริงๆ!” หลิ่วเทียนฉีจ้องคนที่หลับสนิท มุมปากยกยิ้มน้อยๆ
ชีวิตก่อนหลิ่วเทียนฉีเป็มือสังหาร นอกจากสังหารคนเพื่อรับค่าจ้างสูงลิ่ว เวลาส่วนใหญ่ก็เอามาหาความสุข เขาชอบอ่านหนังสือ ชอบท่องเที่ยวแล้วก็ชอบหลับนอนกับนายแบบวัยละอ่อน ไอดอลวัยกระเตาะและผู้ชายหน้าสวยมากหน้าหลายตา แต่เขาไม่เคยสานความสัมพันธ์กับใคร เพราะเขารู้ ว่ามือสังหารไม่อาจมีคนรักได้
ชีวิตนี้ เขามาอยู่ตระกูลหลิ่วได้สามปี เด็กรับใช้ ผู้คุ้มกันในจวนไม่มีสักคนที่ถูกรสนิยม แต่คนในอ้อมแขนกลับถูกรสนิยมเขาได้อย่างน่าประหลาด
เฉียวรุ่ยมีใบหน้าน้อยที่เครื่องหน้างดงามเหมาะเจาะ มีลำคอระหงได้รูป และยังดวงตาหวานฉ่ำคู่หนึ่งที่ทำให้เขามองแล้วรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดอย่างลึกล้ำ เรียกได้ว่าหน้าตาของเด็กหนุ่มเป็แบบที่เขาชอบทุกประการ
“เสี่ยวรุ่ยรุ่ย ข้าพบว่าข้าคงชอบเ้าเพิ่มขึ้นนิดหน่อยเสียแล้ว ทำอย่างไรดีเล่า?” หลิ่วเทียนฉีลูบลำคอที่เต็มไปด้วยรอยจูบสีเขียวสีม่วงของคนในอ้อมแขน ยิ้มถามข้างหูอีกฝ่าย
แต่เฉียวรุ่ยกำลังหลับสนิท ย่อมไม่มีทางตอบคำถามเขา
หลิ่วเทียนฉีมองเ้าตัวเล็กที่หลับสบายอยู่ในอ้อมแขน รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งกดลึก “ไม่เช่นนั้น พวกเราเปลี่ยนความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนเป็ความสัมพันธ์ทุกค่ำคืนเสียเลยเถอะ อย่างไรสถานที่แห่งนี้ของพวกเ้า ไม่ว่าบุรุษสองเพศหรือสตรีล้วนให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ไม่น้อย!”
หลิ่วเทียนฉีรู้ว่าแผ่นดินแห่งการฝึกตนนี้ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ไม่ว่าบุรุษสองเพศหรือสตรีก็ล้วนให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ไม่เหมือนชีวิตก่อนในสังคมยุคปัจจุบันที่เขาอยู่ ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนล้วนเป็เื่อย่างไรก็ได้
เมื่อคิดว่าจะสู่ขอเด็กหนุ่มกลับบ้าน ทุกวันได้มอง ทุกวันได้กอดไว้ในอ้อมแขน หัวใจของหลิ่วเทียนฉีก็สุขขึ้นมาจากเบื้องลึกของหัวใจ บางที ชีวิตนี้เขาอาจคิดเื่มีความรักและรักใคร่ภรรยาได้ อย่างไรตอนนี้เขาก็ไม่ใช่มือสังหารแล้ว มีครอบครัวเป็ของตนเองแล้ว
“อืม เป็ความคิดที่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวรุ่ยรุ่ยจะยอมหรือไม่” หลิ่วเทียนฉีบ่นพึมพำกับตนเองพลางลูบใบหน้าน้อยในอ้อมแขน
ชีวิตก่อนหลิ่วเทียนฉีอ่าน ‘เป็หนึ่งในต่างโลก’ นิยายสามล้านตัวอักษรั้แ่ต้นจนจบ ไม่ข้ามสักตัวอักษรถึงสามรอบ ไม่ใช่เพราะพระเอกสารเลวที่ภายนอกงามสง่าเก่งกล้าสามารถ แต่ความจริงเ้าเล่ห์เพทุบายใจดำหลายใจ หรือนางเอกดอกบัวขาวทั้งหลายที่ภายนอกงดงามล่มเมือง ความสามารถน่าตะลึง แต่ความจริงแล้วเป็แม่นางมากเล่ห์จอมเสแสร้งทั้งห้าคนนั้น แต่เพราะตัวเบี้ยอย่างเฉียวรุ่ยต่างหาก
ตอนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ หลิ่วเทียนฉีรู้สึกว่าเฉียวรุ่ยเป็คนที่รักพระเอกมากที่สุด เขาถึงขั้นเคยคิดอยู่หลายครั้งว่าหากตนเป็พระเอก จะฆ่านางเอกจิตใจมากเล่ห์ห้าคนนั้นอย่างไม่ลังเลสักนิด แล้วมารักเฉียวรุ่ยที่รักเขาอย่างลึกซึ้งให้มากเท่าฟ้า ตราบเท่าชีวิต เพราะมีเพียงเฉียวรุ่ยที่รักพระเอกจากใจจริง และมีเพียงเฉียวรุ่ยที่คู่ควรจะได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น
ทุกครั้งที่เห็นเฉียวรุ่ยทุ่มเทให้พระเอกอย่างโง่งม แต่โดนแผนร้ายของพระเอกกับการกดขี่ของนางเอกคืนกลับมา หลิ่วเทียนฉีก็ปวดใจกับเฉียวรุ่ยผู้โง่งมในหนังสือยิ่งนัก เขารู้สึกว่าคนผู้นี้ได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ได้ ไม่มีความจำเป็ต้องผูกใจรักพระเอกสารเลวใจดำคนนี้สักนิด
“เสี่ยวรุ่ยรุ่ย ครั้งนี้มีข้าอยู่ ข้าไม่มีทางปล่อยให้คนพวกนั้นทำร้ายเ้าอีกแล้ว” หลิ่วเทียนฉีก้มศีรษะจูบริมฝีปากของเฉียวรุ่ย
บางทีั้แ่ชีวิตก่อนตอนอ่านนิยายเล่มนี้ เขาก็ตกหลุมรักเฉียวรุ่ย เด็กโง่ผู้มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ตามจีบพระเอกอย่างโง่งมคนนั้นในหนังสืออย่างลึกซึ้งไปเสียแล้วกระมัง?
บางที อาจเป็เพราะความรู้สึกนี้ หลังตายเขาถึงได้ข้ามมิติเข้ามาและมีโอกาสได้พบสินะ?
สรุปคือ ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องคว้าโอกาสครั้งนี้ให้มั่น รักเด็กโง่คนนี้ให้ดี ไม่ให้เขาข้องเกี่ยวอันใดกับพระเอกต่ำช้าไร้ยางอายอีก เขาจะให้เด็กโง่คนนี้ดื่มด่ำกับความอ่อนโยนและความรักที่เขามอบให้อย่างเต็มเปี่ยม จะพลิกโครงเื่ของนิยายเล่มนี้ให้เฉียวรุ่ยกลายเป็คนที่โชคดีมีความสุขที่สุด ไม่ใช่ตัวเบี้ยที่น่าเศร้าอีกต่อไป
“อือ อือ...” เฉียวรุ่ยที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของหลิ่วเทียนฉีขมวดคิ้ว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นทั้งสองข้าง
“ตื่นแล้วหรือ?” หลิ่วเทียนฉีมองเ้าตัวเล็กที่มีสีหน้างุนงงอย่างน่ารักลืมตาขึ้นมา ก็ยกมุมปากนิดๆ
“เ้า เ้าเป็ใคร?” เฉียวรุ่ยลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษอยู่ใกล้แค่เอื้อมจึงกะพริบตาปริบๆ อย่างฉงน ใบหน้าน้อยเขียนคำว่างุนงงอยู่เต็มไปหมด
“ข้า...” ได้ยินเข้า หลิ่วเทียนก็รู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นอ่างหนึ่งสาดรดั้แ่ศีรษะลงมา สาดจนเขาหนาวไปถึงหัวใจ
นี่คือสิ่งที่เรียกกันว่าใช้แล้วทิ้งสินะ?