“มอบผลไม้มา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเ้า”
ถงเหว่ยจากสำนักั์พฤกษาผู้มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำกล่าวขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ดุร้าย
“เ้าหนู ผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สิ่งที่เ้าจะได้ หากไม่อยากตายก็ส่งมาให้ข้า”
ไป๋เหลียง ผู้บำเพ็ญวัยยี่สิบสามปีแห่งสำนักทะยานเวหาก็้าผลไม้นี้เช่นกัน แม้รูปลักษณ์ของเขาจะดูบริสุทธิ์และเงียบสงบ ทว่าแท้จริงแล้วเขาทั้งร้ายกาจและโเี้
หนิงเทียนหันรีหันขวาง พลางคิดว่าจะแยกตัวออกมาอย่างไร เขาได้ผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์มาแล้วจึงไม่อยากสู้จนตาย แต่ถงเหว่ยและไป๋เหลียงกลับคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด และคนอื่นๆ ก็จงใจสกัดทางหนี ทำให้เขาไม่สามารถออกไปได้
“ในเมื่ออยากสู้นัก เช่นนั้นก็เข้ามาเลย!” หนิงเทียนคำรามอย่างไม่พอใจ เขาเลิกหนีแล้วใช้หมัดซ้ายมีดขวาตอบโต้อย่างสุดกำลัง
“เ้าเด็กหน้าเหม็น เ้ากำลังมองหาความตาย!” ถงเหว่ยยิ้มชั่วร้าย ก่อนที่ต้นไม้ใหญ่แปดต้นจะรวมตัวกันเป็วงกลมด้านนอก เขาใช้ทักษะขุดรากต้นไม้ั์เพื่อปิดกั้นทางหนีของหนิงเทียน จากนั้นก็ออกพลังหมัดและเท้าราวกับอัสนีฟาด ทุกหมัดของเขามีเงาไม้ใหญ่ซึ่งมีอำนาจทลายภูผา และการต่อสู้แต่ละครั้งก็ทำให้หนิงเทียนแขนชาจนต้องถอยหลังไปทีละก้าว
ต้นไม้ใหญ่ทั้งแปดช่วยถงเหว่ยดูดกลืนพลังิญญา เงาเ่าั้ค่อนข้างเสมือนจริงราวกับวังวนสีน้ำเงินที่ปล่อยคลื่นอันน่าสะพรึงกลัว
ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นแปดจะสามารถควบแน่นรากจิติญญาทั้งแปดในร่างกาย อีกทั้งความเร็วในการกลืนพลังิญญายังมากเป็แปดเท่าของขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นแรก
แม้หนิงเทียนจะมีเส้นลมปราณฟ้าประทาน ทว่าท้ายที่สุดแล้วเขาก็อยู่แค่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นแรก และอาศัยเพียงบงกชสีมรกตในการดูดกลืนพลังิญญา แน่นอนว่าย่อมมีช่องว่างระหว่างขอบเขตทั้งสอง
หากเขายังไม่ผ่านการขัดเกลากายาระดับหนึ่งจนมีร่างกายที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ป่านนี้คงถูกถงเหว่ยทุบตีจนตายไปแล้ว
ทางด้านไป๋เหลียงจากสำนักทะยานเวหา พฤกษาของเขาคือเถาวัลย์ ดังนั้น มือของเขาจึงกระฉับกระเฉงและเปลี่ยนแปลงได้ราวกับงูพิษ รวมถึงมีความเชี่ยวชาญเื่การลอบจู่โจม
การโจมตีของถงเหว่ยนั้นรุนแรงและทรงพลัง ขณะที่การโจมตีของไป๋เหลียงร้ายกาจและแปลกประหลาด เมื่อทั้งสองคนร่วมมือกัน หนิงเทียนก็เกือบจะตกที่นั่งลำบากแล้ว
“ทะยานหลงเงาตัดผกา!” ดวงตาของหนิงเทียนเต็มไปด้วยพลังอันแก่กล้า ในเมื่อยังเอาชนะไม่ได้เขาก็ต้องปรับกลยุทธ์ของตน
ก่อนหน้านี้เขาใช้วิธีการเผชิญหน้าโดยอาศัยความแข็งแกร่งทางกายภาพเข้าสู้จนตัวตาย ทว่าหากวิธีนี้ไม่สามารถปราบศัตรูได้ก็เหลือเพียงการชิงไหวชิงพริบเท่านั้น จากทะลวงพันชั้นก็เปลี่ยนเป็ทะยานหลงเงาตัดผกาทันที
ตามที่อาจารย์คนงามเคยสอนสั่ง การใช้วิชานี้สามารถทำได้สองวิธี ซึ่งทะยานหลงเงาตัดผกามีอานุภาพสูงมาก ใช้ได้ทั้งการต่อสู้แบบตัวต่อตัวและแบบกลุ่ม
ทะยานหลงเงาตัดผกาปลิวไสวอย่างไม่อาจคาดเดา ในกรณีที่ยังสยบคู่ต่อสู้ไม่ได้ ก็ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนท่าเพื่อพลิกวิกฤตพิชิตชัย
ดอกไม้บินสะพรั่งบานและหมุนวนบนปลายนิ้วของหนิงเทียน ทั้งยี่สิบห้าดอกมีใบมีดแหลมคมซึ่งไม่ประจักษ์นัก จึงยากที่จะประเมินความอันตราย
ภาพลวงและดอกไม้บินที่ลอยอยู่ค่อนข้างซับซ้อนและแยกแยะลำบาก ซึ่งสามารถถ่วงเวลาและลดการป้องกันตัวของอีกฝ่ายได้
ถงเหว่ยมักเคลื่อนไหวอย่างโจ่งแจ้ง ขณะที่การเคลื่อนไหวของไป๋เหลียงลึกลับและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดังนั้น หนิงเทียนจึงเลือกถงเหว่ยเป็เป้าหมายหลัก
“เ้าเด็กหน้าเหม็น เ้ากล้าต่อกรกับข้าหรือ?” ถงเหว่ยไม่คุ้นเคยกับการหลบเลี่ยงที่ไร้ทิศทางของหนิงเทียน เนื่องจากนี่ไม่ใช่จุดแข็งของเขา
หนิงเทียนใช้ยุทธศาสตร์ครอง์ บงกชสีมรกตข้างกายเปล่งประกายก่อนจะหยั่งรากลงดิน จากนั้นก็แผ่กลิ่นอายดุดันออกมา และต้านรับการรบกวนของไป๋เหลียง
ในเวลาเดียวกัน ใบมีดบนปลายนิ้วของหนิงเทียนก็หมุนทำมุมแปลกประหลาดเพื่อทำลายการป้องกันของถงเหว่ย จนเสื้อผ้าของเขาฉีกขาดและทิ้งาแไว้บนแผ่นหลัง
“โอ๊ย! เ้าเด็กบ้านี่” ถงเหว่ยกรีดร้องด้วยความเ็ป พร้อมหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
“ทะลวงพันชั้น!” หนิงเทียนขู่คำราม การเคลื่อนไหวของเขาเปลี่ยนไปจากเดิม ยามนี้เขาเริ่มบุกโจมตีแบบตัวต่อตัวแล้ว
“เ้าโง่! คิดว่าทำร้ายข้าได้แล้วจะสู้กับข้าได้หรือ? ข้าจะฆ่าเ้า!” ถงเหว่ยโกรธจัด ใบหน้าดุร้ายของเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขาสะบัดฝ่ามือใหญ่ที่สามารถเคลื่อนภูผาธารา แล้วโจมตีหนิงเทียนด้วยพลังอันรุนแรง
“สนเข็มเจาะทะลวง!” แววตาของไป๋เหลียงเป็ประกายอาฆาต ทันทีที่หนิงเทียนโจมตีถงเหว่ยด้วยกำลังทั้งหมด เขาก็เปิดฉากลอบโจมตีหนิงเทียนเช่นกัน
หนิงเทียนจ้องมือขวาของถงเหว่ยด้วยดวงตาที่ลุกเป็ไฟ เมื่อหมัดอาฆาตเข้ามาใกล้ เขาก็เปิดกำไลหยกหยวนเพื่อหยิบไข่มุกอสูรหยินออกมา ก่อนจะเปลี่ยนวิธีจู่โจมจากกำปั้นเป็ฝ่ามือ
ปัง!
เกิดเสียงอันพรั่นพรึงที่ตามมาด้วยเสียงร้องคำราม
ฝ่ามือของถงเหว่ยน่าหวาดเกรงเป็อย่างมาก มันกระทบฝ่ามือของหนิงเทียนและัักับมุกอสูรหยิน
พลันอวัยวะภายในของถงเหว่ยเริ่มสั่นไหว ร่างกายค่อยๆ สูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมด เส้นลมปราณแข็งทื่อ และความกลัวก็เข้าปกคลุมทันที
ขณะนั้นเองหนิงเทียนก็สะบัดมือซ้าย พลันกระบี่คมปรากฏขึ้นพร้อมแยกร่างถงเหว่ยออกเป็สองส่วน
นิ้วของไป๋เหลียงแข็งแกร่งราวกระบี่ ทั้งยังทิ่มแทงไปที่ไหล่ของหนิงเทียนจนเขาอาเจียนเป็เื
“เ้าหนู ไป...”
ก่อนที่คำว่า “ตายเสีย” จะหลุดออกจากปาก หน้าของไป๋เหลียงก็ถอดสีอย่างเฉียบพลัน เพราะเขาเพิ่งเห็นว่าร่างของถงเหว่ยถูกแยกออกเป็สองซีก
หนิงเทียนกลิ้งหนีไปไกลหลายจั้งก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนยอดเขา
“ตามข้ามา!” ไป๋เหลียงเคลือบแคลงใจทว่ายังคงไล่ตามไป เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าตนต้องได้ผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์มา
“ศิษย์พี่ถง!” ศิษย์จากสำนักั์พฤกษาร่ำร้องด้วยความโศกเศร้า และะโอย่างเดือดดาลว่าต้องล้างแค้น
หนิงเทียนาเ็ที่ไหล่ขวา ซึ่งส่งผลต่อความสามารถของเขาอย่างยิ่ง บงกชสีมรกตหมุนวนรอบร่างราวกับเงาแสนงดงาม พร้อมมุ่งตรงไปยังยอดเขา
อย่างไรก็ตาม เืจากแผลกลับหยุดไหลอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยพลังิญญาจำนวนมากช่วยหล่อเลี้ยงาแ และวิชาขัดเกลากายาระดับหนึ่งก็พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อซ่อมแซมร่างกายของหนิงเทียน
...
ใกล้ยอดเขาปรากฏต้นไม้แห้งเหี่ยวให้เห็น ซากไม้นี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางห้าจั้งและสูงประมาณเจ็ดจั้ง บริเวณใกล้เคียงเงียบสนิทและว่างเปล่า ไม่มีแม้กระทั่งต้นหญ้า
ไป๋เหลียงเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว รากบ่มเพาะของเขาเป็พืชประเภทเถาวัลย์และเขาก็มีกลวิธีในการเคลื่อนย้ายเถาวัลย์ ซึ่งทำให้เขาได้เปรียบอย่างมากท่ามกลางูเาและป่าไม้
“เ้าหนู ทิ้งผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์ไว้แล้วข้าจะไว้ชีวิตเ้า!”
ไป๋เหลียงยืนอยู่บนพื้นดินที่แตกระแหงและมองต้นไม้แห้งเหี่ยวจากหางตา
“ถ้าอยากได้เมล็ดก็เข้ามาเอา หรือเ้าจะไม่เอาก็ได้นะเพราะข้าเพิ่งกินผลเข้าไป” หนิงเทียนพิงต้นไม้แห้ง โดยมีหินิญญาลอยรอบร่างเพื่อเติมพลัง
“ต่อให้กินไปแล้วข้าก็จะผ่าท้องเ้า!” ไป๋เหลียงก้าวเข้าไปอย่างช้าๆ ทว่ากลับมีอีกหลายร่างพุ่งมาจากด้านหลังแล้ววิ่งนำหน้าเขาตรงเข้าหาหนิงเทียน
“เอาชีวิตเ้ามา!” ไป๋เหลียงแผดเสียงพลางหัวเราะเบาๆ เขาเองก็้าให้ใครสักคนมาทดสอบฝีมือของหนิงเทียนเช่นกัน
“เข้ามาเลย!” หนิงเทียนลุกขึ้นแล้วพุ่งตัวอย่างรวดเร็ว หินิญญาที่วนอยู่รอบกายะเิออก วิชาทะลวงพันชั้นดุร้ายและรุนแรงกว่าปกติ เขาโจมตีศัตรูด้วยหมัดเดียว ก่อนจะดึงรากจิติญญาออกมาเติมเต็มความหิวโหย
เถาวัลย์สีเขียวปรากฏอยู่ใต้ฝ่าเท้าของไป๋เหลียง เขาใช้ทักษะเถาวัลย์เคลื่อนย้ายและจู่โจมราวกับเงาผี จนหนิงเทียนต้องหลีกทางอย่างกะทันหัน
เสียงคำรามลากยาวมาจากด้านล่างของูเาก่อนที่ยอดฝีมืออีกคนจะมาถึง
หนิงเทียนเน้นการหลบหนีและทำเื่ง่ายๆ อย่างการฆ่าคนสี่คนใน่เวลาสั้นๆ และยามนี้ก็เหลือเพียงไป๋เหลียงกับผู้บำเพ็ญอีกสองคนเท่านั้น
“ช่างมีชีวิตชีวามาก เฮ้! นั่นมันเ้าเด็กเหลือขอนี่!”
เยี่ยชิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ศัตรูมักพบกันบนทางแคบ มาดูกันว่าคราวนี้เ้าจะหนีไปไหนอีก!”
ปราณกระบี่ดังสนั่นพร้อมเสียงคำรามลั่น คลื่นอันตรายเข้าปกคลุมทุกชีวิต ณ ที่แห่งนี้
ไป๋เหลียงกรีดร้องด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาดก่อนจะถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
หนิงเทียนสบถเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าเยี่ยชิงจะมาปรากฏตัวที่นี่ จากนั้นก็หมุนตัวกลางอากาศและหลบซ่อนอยู่หลังต้นไม้แห้งเหี่ยว ก่อนที่พลังปราณกระบี่ใบพฤกษาขจีจะทำลายและโจมตีต้นไม้แห้งเหี่ยว พร้อมทิ้งรอยกระบี่เอาไว้
เยี่ยชิงส่งเสียงร้องอย่างแ่เบา กระบี่ใบพฤกษาขจีของเขามีอานุภาพอยู่ยงคงกระพัน ไม่คาดคิดเลยว่าต้นไม้แห้งเหี่ยวจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ไป๋เหลียงมองเยี่ยชิงแล้วเอ่ยถาม “เ้ามีความแค้นกับเขาหรือ?”
เยี่ยชิงถามกลับ “เ้าก็เช่นกันหรือ?”
“เราร่วมมือกันสังหารเ้าเด็กนี่ได้”
เยี่ยชิงยิ้มเ้าเล่ห์แล้วตอบรับ “ตกลง ไม่มีปัญหา”
ไป๋เหลียงคิดในใจว่าเขาจะฆ่าหนิงเทียนก่อนแล้วค่อยฆ่าเยี่ยชิง เช่นนั้นทั้งผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์และกระบี่ใบพฤกษาขจีก็จะเป็ของตน
เมื่อทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงก็ส่งผลเสียต่อหนิงเทียนอย่างมาก
หากมีไป๋เหลียงเพียงคนเดียว หนิงเทียนยังสามารถรับมือและบุกทะลวงได้ตลอดเวลา ทว่าเยี่ยชิงนั้นแตกต่างออกไป เพราะกระบี่ใบพฤกษาขจีของเขาเป็อาวุธที่ทรงพลัง และอาจทำให้ถึงตายได้หากไม่ระวังให้ดี
“เข้าไปพร้อมกันเลย” ไป๋เหลียงแสยะยิ้มอันน่ากลัวบนใบหน้า แล้วเรียกอีกสองคนมาล้อมหนิงเทียนไว้
หนิงเทียนขมวดคิ้วแน่น รัศมีโดยรอบต้นไม้แห้งเหี่ยวไร้ซึ่งเหล่าพฤกษา จึงไม่เอื้อต่อการต่อสู้ของจื๋อซิว เพราะเขาไม่สามารถดูดซับพลังิญญาจากพื้นดินได้
การเผชิญหน้าครานี้ต้องได้รับการแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการใช้พลังิญญาที่ไม่ได้เติมเต็มจะเกิดผลลัพธ์อันร้ายแรง
เยี่ยชิงเปิดใช้กระบี่ใบพฤกษาขจี เขาจะกวาดล้างโลกด้วยพลังที่ทำให้หนิงเทียนต้องทนทุกข์
ไป๋เหลียงและอีกสองคนมีหน้าที่ไล่ล่าและสกัดกั้นเพื่อช่วยเหลือเยี่ยชิง พวกเขาคอยบีบบังคับให้หนิงเทียนสิ้นหวัง และเกือบตายด้วยกระบี่ใบพฤกษาขจีหลายครั้ง
หนิงเทียนคำรามด้วยความโกรธเกลียด เขาหนีไปรอบๆ ต้นไม้แห้งเหี่ยวอย่างบ้าคลั่งและ้ากลืนกินศัตรูให้สิ้นซาก
หินิญญาลอยว่อนรอบกายของหนิงเทียนเพื่อเติมเต็มพลังิญญาของเขา ซึ่งทำให้ไป๋เหลียงและเยี่ยชิงคลุ้มคลั่งอย่างมาก
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป หนิงเทียนสังหารผู้บำเพ็ญได้คนหนึ่งพร้อมดึงรากจิติญญาออกมา ความแข็งแกร่งของเขาจึงพุ่งสูงขึ้นในชั่วพริบตา
ทันใดนั้นปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวก็เพ่งเล็งมาทางหนิงเทียน ห้วงอากาศถูกฉีกกระชากจนพังทลาย และหนิงเทียนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เขาคำรามอย่างดุเดือดแล้วถอยหลังอย่างรวดเร็ว ยามที่เขาเคลื่อนกายมาอยู่ข้างต้นไม้แห้งเหี่ยว ปราณกระบี่ราวกับสายรุ้งก็เข้ามาใกล้ส่วนบนของศีรษะแล้ว
ด้วยการสะบัดนิ้วของหนิงเทียน เมื่อปลายนิ้วเรียวกวาดไปรอบทิศและใบมีดเฉือนผ่านอากาศ สุดท้ายเขาก็รอดพ้นจากการโจมตีได้สำเร็จ
ผมเส้นหนึ่งหลุดลอยไป ปราณกระบี่โฉบผ่านหูของหนิงเทียน แล้วกระแทกต้นไม้แห้งเหี่ยวอย่างแรง
เยี่ยชิงมุ่งมั่นที่จะเอาชนะด้วยกระบี่เล่มนี้ เขาพยายามรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีจนปราณกระบี่หดขยายตัวราวกับสายฟ้าอาละวาด
เมื่อเกิดการะเิขึ้น ต้นไม้แห้งเหี่ยวซึ่งแข็งแกร่งราวเหล็กกล้าก็แตกร้าว และข้อความลึกลับก็ถูกปล่อยออกมาจากใจกลางต้นไม้
โอกาสอันดี!
นี่เป็จังหวะที่หนิงเทียนรอคอยมานาน บงกชสีมรกตข้างกายหดตัวลงแล้วทะลุเข้าไปยังใจกลางของต้นไม้ พร้อมดูดซับพลังก้อนผลึก
“จงตายเสียเถอะ!” ไป๋เหลียงยิ้มอย่างน่ากลัว แม้กระบี่ของเยี่ยชิงจะไม่ได้คร่าชีวิตหนิงเทียน แต่มันก็ทำให้เขาจนมุมและไป๋เหลียงก็มีโอกาสที่จะสังหารเขาด้วยการโจมตีเดียว
ครานี้หนิงเทียนหลบไม่ทัน ร่องรอยความเกลียดชังจึงแวบขึ้นมาในดวงตา การขัดเกลากายาระดับแรกถูกใช้งานจนถึงขีดสุด ซึ่งไป๋เหลียงได้ข่วนหน้าอกของเขาและทิ้งรอยเล็บเปื้อนเืไว้เื้ั
หนิงเทียนกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง ทว่าบงกชสีมรกตก็ตามมาพร้อมผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็ยัดใส่ปากเขาโดยตรง
“เ้าหนู บังอาจนัก!” ไป๋เหลียงคำรามอย่างโกรธเคืองและ้ายั้งเขาไว้ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ส่วนเยี่ยชิงก็เหวี่ยงกระบี่ไปทั่ว แม้แต่ปราณกระบี่ทลายเมฆาก็ไม่อาจห้ามปรามสิ่งใดได้
หนิงเทียนหันกลับมาและซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้แห้งเหี่ยว ซึ่งนับเป็โล่ป้องกันที่ดีที่สุดในยามนี้
ผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์ที่กลืนกินเข้าไปกลายเป็เปลวเพลิงลุกโชน ทั้งยังปรารถนาที่จะทำลายล้างทุกสิ่งอย่างให้สิ้นซาก
เมื่อหนิงเทียนหมุนเวียนสูตรการขัดเกลากายา ลำแสงทั้งสามในเส้นลมปราณที่สองก็ประสานกันราวกับแส้ศักดิ์สิทธิ์ที่ปล่อยพลังอันไร้ขอบเขต
ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลเกี่ยวกับการขัดเกลากายาก็ปรากฏขึ้นในใจของหนิงเทียนอีกครา
“สนธยากาลไม่ดับสูญ กายาสุวรรณะนิรันดร์”
เครื่องหมายลึกลับที่ซ่อนอยู่ในใจกลางต้นไม้นั้น คือ ชุดของวิชาขัดเกลากายา ซึ่งว่ากันว่ากายาสุวรรณะนิรันดร์จะช่วยให้มีชีวิตเป็ะไปตลอดกาล
กายาสุวรรณะนิรันดร์แบ่งออกเป็เก้าระดับ ซึ่งหนิงเทียนผ่านระดับแรกมาแล้ว และอยู่ใน่เริ่มต้นของระดับแรก
หลังจากเขาได้รับรอยประทับใจกลางพฤกษาต้นที่สาม การฝึกฝนวิชากายาสุวรรณะนิรันดร์ก็ได้รับการพัฒนาจนเข้าสู่ระดับที่สอง
ตามข้อมูลที่มีในยามนี้ เขาต้องรวบรวมรอยประทับใจกลางพฤกษาให้ครบทั้งเก้าต้นเพื่อฝึกวิชากายาสุวรรณะนิรันดร์ที่สมบูรณ์ นอกจากนี้วิธีชำระกายาด้วยผลไม้ทองคำศักดิ์สิทธิ์ก็บันทึกลงไปในรอยประทับใจกลางพฤกษาต้นที่สามด้วย ทั้งยังถูกหนิงเทียนควบคุมพลังทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้