“คำถามที่ 5............” น้ำเสียงที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยหวาดกลัวของญาญ่าดังขึ้นมาข้างหูของเย่เทียนเซี่ยอีกครั้ง “คำถามนี้ง่ายมากๆ พี่ชายฟังให้ดีๆล่ะ เอ่อ........พี่ชายรู้ไหมว่าร้อยปีก่อนาาทหารรับจ้างของทวีปที่สาบสูญคือใคร?”
เย่เทียนเซี่ยสั่นไปทั้งร่าง ความมั่นใจที่ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นราวกับถูกเก็บกู้กลับมาในวินาทีนั้น เขายืดหน้าอกขึ้นแล้วตอบออกไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม “รู้สิ เขาคือเริ่นจ่านฉิง”
ญาญ่าตบมือน้อยๆแล้วหัวเราะพร้อมกับพูดออกมา “ว๊าว! พี่ชายฉลาดมากเลย! แต่คำถามที่แท้จริงก็คือ....... ถ้าเริ่นจ่านฉิงยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ ทวีปที่สาบสูญในตอนนี้จะมีอะไรแตกต่างออกไป?”
ไม่ง่ายเลยที่จะเจอคำถามที่ทำให้เขายิ้มได้ครึ่งนึงอย่างนี้ เพราะงั้นจะตอบผิดไม่ได้เด็ดขาด เย่เทียนเซี่ยครุ่นคิดอย่างระวังอยู่นานก่อนจะพูดออกไป “ถ้าเริ่นจ่านฉิงยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ ก็คงจะมี “กลุ่มทหารรับจ้างเทพ์” กลุ่มใหม่ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สมาคมทหารรับจ้างแห่งทวีปที่สาบสูญและกลุ่มทหารรับจ้างก็จะต้องแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่านี้”
“ผิด!” และน้ำเย็นๆก็ไหลลงมาจากหัวของเย่เทียนเซี่ย “ถ้าตอนนี้เริ่นจ่านฉิงยังมีชีวิตอยู่.......... สิ่งที่จะแตกต่างไปจากทวีปที่สาบสูญในตอนนี้ก็คือ........... จะมีคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพิ่มขึ้นมาอีกคนไงเล่า”
“...............” เย่เทียนเซี่ย
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าชีวิตตลอด 20 ปีที่ผ่านมาของเขาดูเหมือนจะสูญเปล่าเสียแล้ว
“คำถามข้อที่ 6................ คำถามสิบข้อต้องตอบให้ถูกห้าข้อถึงจะเข้าไปในถ้ำหมาป่าหิมะได้นะ ตอนนี้พี่ชายตอนผิดไปแล้วห้าข้อ! ถ้าอีกห้าข้อต่อไปมีข้อผิดอีกแม้แต่ข้อเดียวล่ะก็วันนี้จะเข้าไปด้านในไม่ได้นะจะบอกให้......... เอาล่ะฟังดีๆ! คำถามข้อที่ 6 คือ.......... ทำไมหนูถึงบินได้!?”
สีหน้าของเย่เทียนเซี่ยมืดมน “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า............ หนูมันบินไม่ได้อยู่แล้วนี่!”
“ผิดแล้ว! หนูบินได้ก็เพราะมันกินยาอายุวัฒนะเข้าไปยังไงล่ะ” ญาญ่า
เย่เทียนเซี่ย “................” มันเป็คำตอบบ้าอะไรวะเนี่ย!
“งั้นพี่ชาย ทำไมงูถึงบินได้ล่ะ?” ญาญ่า
“เพราะมันกินยาอายุวัฒนะ” เย่เทียนเซี่ยตอบออกไปหน้าตาย
“ผิด! เพราะมันกินหนูเข้าไปต่างหาก!”
“...........” เย่เทียนเซี่ยหมดคำจะพูด
“งั้นทำไมนกอินทรีย์ถึงบินได้?” ญาญ่า
“เพราะมันกินงูเข้าไป!” เย่เทียนเซี่ยตอบออกไปหน้านิ่ง
“ผิดๆๆๆ! พี่ชาย พี่นี่โง่จริงๆเลย เพราะนกอินทรีย์มันบินได้อยู่แล้วต่างหาก!”
“¥#*%%#&¥!…………” เย่เทียนเซี่ย
ดวงตางดงามเหมือนคริสตัลของญาญ่ากระพริบปริบๆ เธอเม้มปากแน่นแล้วพูดขึ้นมา “พี่ชาย คำถามสิบข้อ พี่ตอบผิดติดต่อกันมาหกข้อแล้วนะ ดังนั้นวันนี้ญาญ่าให้พี่เข้าไปในถ้ำหมาป่าหิมะไม่ได้หรอก เพราะเทพธิดาผู้สร้างโลกพูดไว้ว่า ถ้าไม่ฉลาดพอก็จะถูกหมาป่าที่น่ากลัวที่อยู่ในที่แห่งนั้นจับกิน เพราะพลังเวทมนต์บนรองเท้าลุยหิมะสามารถคงอยู่ได้แค่สิบสองชั่วโมง ถ้าพรุ่งนี้มาใหม่พี่ก็ต้องซื้อรองเท้าคู่ใหม่อีกครั้งนะ”
เย่เทียนเซี่ยมองใบหน้าอมชมพูและดวงตาใสบริสุทธิ์ของเธอแล้วในที่สุดเขาก็รู้ได้ทันทีว่าอะไรที่เขาเรียกกันว่าขูดเืขูดเนื้อ.........คู่ละหนึ่งพันเหรียญทอง ไม่ซื้อก็ไม่ได้......... ซื้อแล้วก็ใช่ว่าจะได้ใช้ แค่ทำให้มีคุณสมบัติในการตอบคำถามของเธอแค่นั้น ถ้าตอบคำถามไม่ผ่าน........ ครั้งต่อไปก็ต้องซื้อใหม่อีก
ยัยเด็กคนนี้.......... กล้าให้ตอบคำถามเสร็จก่อนแล้วค่อยซื้อไหมล่ะ!!!
“เอาเถอะ ลาก่อนน้องสาวตัวน้อย” เย่เทียนเซี่ยพยายามโบกมือลาเธอด้วยรอยยิ้มที่ฝืนเต็มที จากนั้นเขาก็หมุนตัวกลับไปด้วยความไม่พอใจ.......... แต่เขาไม่ได้กลับไปเมืองเทียนเฉิน ทว่ากลับเดินเข้าไปในมุมๆหนึ่ง
“ลาก่อนพี่ชาย.......... เอ๋? พี่ชาย พี่จะไปไหนน่ะ? ที่นั่นถูกปิดผนึกไว้นะ พี่ออกไปเถอะ” ญาญ่าร้องเตือนขณะที่นั่งอยู่บนมนุษย์หิมะโดยไม่ได้เดินลงมา
เย่เทียนเซี่ยหันหลังให้กับญาญ่าก่อนจะกำห้วงเวลาแห่งโชคชะตาแน่นแล้วพูดออกมาเสียงต่ำ “กั่วกัว ออกมาเร็ว”
“หึ.........ไม่เอา! ข้างนอกมีกลิ่นที่น่ากลัวมาเลยนี่เ้าคะ” ในหัวของเย่เทียนเซี่ยมีเสียงแหลมๆของกั่วกัวตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
“วางใจเถอะน่า พวกเราออกมาจากที่นั่นตั้งนานแล้ว ตอนนี้ด้านนอกเป็ดินแดนหิมะที่สวยงามมากเลยนะ เธอจะต้องไปเคยเห็นมาก่อนแน่ๆ” เย่เทียนเซี่ยพูดอย่างอ่อนโยน
“หลังจากเงียบไปสักพักแสงสว่างสีขาวดวงน้อยก็ปรากฏขึ้นบนไหล่ของเย่เทียนเซี่ย กั่วกัวตัวน้อยบีบจมูกของตัวเองแน่นแล้วปรากฏตัวขึ้นมาบนไหลของเย่เทียนเซี่ยอย่างขลาดกลัว จากนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง ปากน้อยๆก็อ้าค้างแล้วมือที่บีบจมูกอยู่ก็ปล่อยลงไปทันทีพร้อมกับเสียงร้อง “ว๊าว” ที่ดังออกมาจากปากของเธอด้วยความตื่นเต้น
“หิมะ........... นี่คือหิมะหรือเ้าคะ? สวยมากเลยเ้าค่ะ”
ทางเหนือของที่แห่งนี้คือหุบเขาสูงที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ส่วนด้านล่างของหุบเขาปรากฏเป็ปากถ้ำมืดมิด ด้านหน้าปากถ้ำเองก็มีกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ปิดกั้นเอาไว้ มันน่าจะเป็ทางเข้าถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง ตำแหน่งอื่นๆเองก็ล้วนเป็สีขาวทั้งหมด ท่ามกลางดินแดนหิมะขนาดใหญ่พืชหรือต้นไม้ที่ปรากฏออกมาล้วนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทั้งสิ้นและพวกมันยังปลดปล่อยความรู้สึกอันงดงามและบริสุทธิ์ออกมาด้วย
ฤดูหนาวทุกปีของจิงหัวมักจะมีหิมะตกลงมา ั้แ่เย่เทียนเซี่ยยังเป็เด็กฤดูหนาวและหิมะก็คือสิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุด เพราะมันคือ่เวลาที่เขาเฉียดใกล้ความตายมากที่สุด ต่อมาเมื่อเธอปรากฏตัวขึ้นมา เมื่อได้มองหิมะด้วยกันกับเธอเขาถึงได้ลืมเลือนความสิ้นหวังอันหนาวเหน็บที่หิมะนำมาให้และได้พบกับความงดงามของมันในที่สุด ภาพหิมะโดยรอบดูบริสุทธิ์ยิ่งว่าภาพหิมะในโลกแห่งความจริง และมีผลกระทบต่อสายตามากยิ่งกว่าด้วย เย่เทียนเซี่ยไม่ได้ตกตะลึง แต่เห็นได้ชัดว่ากั่วกัวที่เคยเห็นหิมะเป็ครั้งแรกหลงใหลมันเข้าเต็มๆ.......... จริงๆแล้วสิ่งที่บริสุทธิ์ก็คือสิ่งที่เธอชอบและปรารถนาจะเข้าใกล้เป็ที่สุด
เย่เทียนเซี่ยไม่ได้รบกวนเธอและปล่อยให้เธอชื่นชมโลกสีขาวโดยรอบต่อไปและคอยฟังเสียงหัวเราะและเสียงะโหวานหูของเธอดังออกมาไม่หยุด สามนาทีต่อจากนั้นในที่สุดเย่เทียนเซี่ยก็พูดจุดประสงค์ที่เขาเรียกเธอออกมา “กั่วกัว เธอลงมาก่อนสิ......... เธอยังมีอมยิ้มอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อกั่วกัวที่บินลงมาจากบนฟ้าได้ยินคำพูดของเย่เทียนเซี่ยเธอก็มีท่าทีระแวงขึ้นมาทันทีก่อนจะถามออกมาด้วยความกังวล “นายท่าน......... ท่านคิดจะทำอะไร........ นายท่านโตแล้ว ยังจะแย่งอมยิ้มของเด็กสาวอย่างข้ากินอีกเหรอเ้าคะ”
หัวคิ้วของเย่เทียนเซี่ยกระตุกวูบ จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ดูสิ ดูพี่สาวที่อยู่ตรงนั้น.......... โอ้ไม่สิ เป็น้องสาวต่างหาก อายุของเธอคนนั้นดูเหมือนจะน้อยกว่าเธอนะ หน้าตาของเธอก็น่ารักขนาดนั้น พวกเราแบ่งอมยิ้มให้เธอซักสองสามอันบ้างดีไหม?”
ดูๆไปแล้วกั่วกัวมีอายุอยู่ประมาณ 12-13 ปี แต่ญาญ่าไม่ว่าจะดูยังไงก็เป็แค่เด็กตัวน้อยๆไม่มีพิษสงที่อายุแค่ 8-9 ปีเท่านั้น........... และแน่นอนว่าเธอเ้าเล่ห์มากกว่าเด็กน้อยธรรมดามากเลยล่ะ!
“ไม่เอาไม่เอา! อมยิ้มเป็ของข้า ข้าไม่ให้คนอื่นกิน.......... ไม่ได้เ้าค่ะ!” กั่วกัวรีบถอยออกไปไกลแล้วส่ายหัวอย่างแรง เธอมองมาที่เย่เทียนเซี่ยด้วงท่าทางหวาดระแวงราวกับกลัวว่าเขาจะเข้ามาแย่งอมยิ้มไปจากเธอ
“เอาเถอะ” ก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าผลมันจะเป็แบบนี้ การจะเอาสิ่งที่กั่วกัวชอบมาจากมือของเธอมันยากยิ่งกว่าเอาของออกมาจากปากเสือซะอีก......... ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งหลายคราหากอยากได้อะไรจากกั่วกัวก็จะต้องชดใช้ให้เธอเป็จำนานมากมายหลายเท่า ดังนั้นเย่เทียนเซี่ยจึงพูดออกมา ถ้ากั่วกัวให้อบยิ้มสามแท่งกับฉันตอนนี้ ตอนเย็นฉันจะไปซื้ออมยิ้มให้กั่วกัวอีก 100 แท่ง...........แล้วก็จะให้พี่เฟยเฟยทำของที่เธอชอบกินที่สุดให้เยอะๆเลย ดีไหมล่ะ”
ปิ๊ง! อมยิ้มสามแท่งปรากฏขึ้นในมือของกั่วกัวทันทีแล้วก็ถูกเธอยื่นส่งมาตรงหน้าเย่เทียนเซี่ย จากนั้นเธอก็หัวเราะอย่างร่าเริงแล้วพูดออกมา “รู้อยู่แล้วว่านายท่านจะต้องดีต่อกั่วกัว จะต้องทำตามที่พูดไว้นะเ้าคะ ไม่อย่างนั้นกัวกัวจะโกรธๆๆๆจริงๆด้วย”
กั่วกัวที่เพิ่งจะมีท่าทีหวาดกลัวเปลี่ยเป็ท่าทีที่มีความสุขในชั่วพริบตา ความเร็วในการส่งอมยิ้มให้เขาเร็วเหมือนกับเตรียมตัวมาแล้วอย่างดี...........เพียงแค่รอเขาพูดประโยคอะไรแบบนี้ก็เท่านั้น เมื่อมองอมยิ้มสามแท่งในมือแล้วเย่เทียนเซี่ยก็อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้............ ทั้งๆที่เด็กสาวคือคำเรียกที่ช่างบริสุทธิ์ใสซื้อแท้ๆ แต่ทำไมกั่วกัวที่อยู่ข้างกายเขากับญาญ่าที่เพิ่งเจอวันนี้ถึงได้เจ่าเล่ห์ยิ่งกว่าจิ้งจอกอย่างนี้นะ............
อมยิ้ม : ของหวานที่เด็กสาวชอบกินที่สุด , ผลลัพธ์ : หลังจากใช้งานแล้วจะลดค่าความหิวได้ -2 ฟื้นฟูพลังชีวิต 5 หน่วย
คุณสมบัติของอมยิ้มนั้นอ่อนแอจนแทบจะเรียกได้ว่ากระจอก แต่ถ้าอมยิ้งแท่งนี้ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าผู้เล่นทั่วไปล่ะก็จะต้องดึงดูดความโกลาหลได้อย่างแน่นอน การคงอยู่ของอมยิ้มอาจจะไม่ส่งผลอะไรต่อโลกใบนี้ แต่กุญแจสำคัญของมันก็คือกระดาษห่อของอมยิ้มต่างหาก.............
ถ้าบอกว่าอมยิ้มแท่งนี้ถูกนำมาจากโลกแห่งความจริงเข้ามาในนี้จะมีใครเชื่อหรือเปล่า? แน่นอนว่าผู้คนทั้งหมด 100% จะต้องคิดว่านี่เป็เื่ตลกแน่นอน
การที่ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาปรากฏขึ้นใน World of Fate การที่กั่วกัวปรากฏตัวขึ้นมาเองในโลกแห่งความจริงและใน World of Fate แล้วเธอยังมีความสามารถนำของที่เป็ของทั้งสองโลกไปยังโลกอีกใบได้อีกด้วย........... เย่เทียนเซี่ยรู้นานแล้วว่าเื่ทั้งหมดนี้จะต้องเป็ความจริงที่น่ากลัวอย่างแน่นอน
เขาบอกเธอเสมอว่าถ้าความจริงถูกเปิดโปง..........ผลที่ตามมาอาจจะสั่นะเืไปทั่วทั้งโลกก็เป็ได้ คำพูดที่ผู่ลั่วซือเคยประกาศไว้ก่อนที่ World of Fate จะเปิดให้บริการ และยังมีจดหมายลาตายแปลกๆกับคำสั่งเสียสุดท้ายอีก........... ไหนจะชื่อของโลกแห่งเกมใบนี้ที่หมายความว่า..............โชคชะตาอีกล่ะ!
ในตอนที่คนอื่นเอาแต่เล่นเกม แต่เย่เทียนเซี่ยกลับค้นหาคำตอบที่ไม่สามารถเปิดเผยได้อย่างเงียบๆ
จะว่าไปแล้วตอนนี้สิ่งที่กั่วกัวนำมาจากโลกจริงก็มีแค่อมยิ้มเท่านั้น เย่เทียนเซี่ยเคยใช้วิธีการต่างๆหลอกล่อให้เธอลองนำของอย่างอื่นจากโลกจริงมายัง World of Fate ดูแล้วว่ามันจะมีผลลัพธ์อันน่าตกตะลึงขนาดไหน แต่ทั้งหมดกลับถูกเธอปฏิเสธกลับมาด้วยหลักการต่างๆนาๆ............. หลังจากพยายามอย่างต่อเนื่องแล้วไม่ได้ผลเขาก็ยอมแพ้ไปในที่สุด
เย่เทียนเซี่ยเก็บอมยิ้มสองแท่งกลับเข้ากระเป๋าแล้วหยิบอันนึงออกมาแล้วเดินตรงไปหาญาญ่าที่มองมาทางเขาตาไม่กระพริบ เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ญาญ่าก็ถามออกมาอย่างสงสัย “พี่ชาย ทำไมท่านถึงยังไม่ไปอีกล่ะ? พี่ตอบคำถามผิดทั้งหมดเลย ถ้าอยากจะเข้าไปในถ้ำหาป่าหิมะจะต้องรอวันพรุ่งนี้นะ........ เอ๋? ของสวยๆที่ท่านกำลังถืออยู่นั่นมันคืออะไรเหรอ?”
“มันคืออม........ชื่อของมันคืออมยิ้ม” เย่เทียนเซี่ยพูดจบเขาก็ยื่นอมยิ้มไปตรงหน้าญาญ่า ญาญ่าที่นั่งอยู่บนมนุษย์หิมะทำให้อยู่ในระดับความสูงพอๆกับเขา “มันสามารถกินได้ แล้วก็อร่อยมากด้วย เธอลองกินดูสิ”
“กินได้?” ญาญ่ากระพริบตาปริบๆจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดออกไปอย่างหวาดระแวง “พี่ชาย เทพธิดาผู้สร้างโลกบอกว่าห้ามรับสินบน ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงก็ตามวันนี้ญาญ่าก็ให้พี่เข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งไม่ได้หรอก”