ขนาดถ้วยไม่ใหญ่ จึงไม่เสียเวลาในการนึ่งมากนัก
นึ่งเืในถ้วยเสร็จแล้ว ค่อยวางชามลงไปนึ่งต่อ
"ให้ท่าน เืนึ่งถ้วยนี้เย็นหน่อยแล้ว รีบกินสิ ต้องกินตอนร้อนๆ ถึงจะอร่อย" เซวียเสี่ยวหรั่นวางถ้วยอุ่นกำลังดีใส่มือของเหลียนเซวียน ก่อนใช้ตะเกียบคีบจากอีกถ้วยใส่ปากตัวเอง
"อื้ม มีรสเค็มจริงๆ ด้วย" เซวียเสี่ยวหรั่นตื่นเต้นเล็กน้อย ทั้งที่ไม่มีเครื่องปรุงแต่รสชาติไม่เลวเลย "เนื้อนุ่ม รสชาติใช้ได้"
เหลียนเซวียนชิมเงียบๆ เค็ม สด นุ่ม ลื่นคอ ไม่เลวจริงๆ
"นี่คือกวางจาง กวางผาว หรือว่าจะเป็กวางเส้ออะไรนั่น ดูคล้ายแต่ก็เหมือนไม่ใช่ คงเป็สัตว์ประเภทเดียวกับกวางละมั้ง" เซวียเสี่ยวหรั่นกินไปก็พูดงึมงำไป "ถึงยังไงก็เป็กวางเหมือนกัน เืกวางช่วยบำรุงเื เพิ่มพลังหยาง เสริมสมรรถภาพทางเพศ ให้ตายเถอะ หวังว่ากินเสร็จเืกำเดาคงไม่พุ่งหรอกนะ"
พอได้ยินคำพูดของนาง เหลียนเซวียนก็แทบจะพ่นเืที่อมอยู่ในปากออกมา
"แฮ่ม ๆ" เขาหันไปกระแอมกระไอ ก่อนควานหาก้อนหินมาเขียนอักษร
"ตัวอะไร...?" เซวียเสี่ยวหรั่นนึกอยู่นาน อักษรตัวนี้แลดูคุ้นๆ แต่จำไม่ได้ว่าออกเสียงอย่างไร
"ดูเหมือนว่าจะเป็สัตว์ประเภทเดียวกับกวางสินะ เอาเถอะ ถึงอย่างไรก็มีสรรพคุณช่วยบำรุงเหมือนกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นพึมพำเบาๆ เธอเป็คนเ้าเนื้อมาั้แ่ไหนแต่ไร แม้่หลายวันมานี้จะผอมลงบ้างก็ตาม "ข้าคงต้องกินให้น้อยหน่อย เหลียนเซวียน ที่เหลืออีกสองชามยกให้ท่านหมดเลย อย่างท่านต้องบำรุงเยอะๆ"
เหลียนเซวียนทำเป็หูทวนลม ยกถ้วยขึ้นมากินเงียบๆ
"คำพ้องเสียงของอักษรตัวนี้คืออะไร ท่านเขียนให้ข้าดูหน่อยสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นยังไม่ยอมแพ้
เหลียนเซวียนหยุดไปหนึ่งจังหวะ เหลือบมองนางปราดหนึ่ง แม่นางผู้นี้นับว่ามีไหวพริบ
"... จี (ไก่) ? จี่ (เลียงผา) ? อ้อ ที่แท้ก็ จี่ (เลียงผา) นี่เอง"
พอได้รู้เสียงอ่าน เซวียเสี่ยวหรั่นก็อารมณ์ดียิ่ง
หลังกินเืนึ่งหมด ก็ตักน้ำแกงงูที่ตุ๋นเอาไว้ก่อนหน้านี้ใส่ถ้วยดื่มจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวให้สิ้นเปลือง
เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกว่าร่างกายอบอุ่น รู้สึกคล้ายจะมีเหงื่อออก
"เืนึ่งนี้กินแล้วในท้องร้อนวูบวาบ บำรุงของแท้เลย"
ต่อให้ไม่มีเืนึ่ง กินแค่เนื้องูกับน้ำแกง ท้องก็อุ่นได้เหมือนกัน เหลียนเซวียนคิดในใจ
รอจนกระทั่งเือีกสองชามนึ่งเสร็จ เซวียเสี่ยวหรั่นก็ยกไปไว้บนช่องหินที่กำแพง หลังจากนั้นก็ขุดเอาถัง จานเล็ก และช้อนที่เผาเสร็จจนเย็นแล้วไปล้างที่ริมแม่น้ำ
ขณะกลับมา ยังยกน้ำมาค่อนถัง
"โอ๊ย แม้แต่ถังน้ำยังหนักแทบตาย" เซวียเสี่ยวหรั่นวางถังดินเผาอย่างระมัดระวัง ใช้จานสะอาดตักน้ำใส่หม้อแล้วเอาขึ้นตั้งไฟ
"ต้มน้ำก่อน เหลียนเซวียน อีกครู่หนึ่งท่านสระผมก่อนแล้วกัน"
ผมของเขาทั้งยาวและหนา หลายวันมานี้ทั้งกลิ้งบนกองฟางทั้งนอนพื้น สกปรกจนดูไม่ได้ แน่นอนว่าเซวียเสี่ยวหรั่นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร
เหลียนเซวียนไม่ต้องลูบคลำก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้สภาพของตนเองอเนจอนาถแค่ไหน เขาผงกศีรษะน้อยๆ แล้วเข้าไปเติมฟืนข้างเตาไฟ
เซวียเสี่ยวหรั่นเอาถ้วยกับช้อนใส่หม้อดินอีกใบ แล้ววิ่งไปที่ริมแม่น้ำ
"เฮ่อ โชคดีที่แม่น้ำอยู่ไม่ไกลจากถ้ำ ไม่อย่างนั้น ชามช้อนหม้อนี้คงไม่ต้องล้างกันแล้ว" ยามแบกหม้อกลับมาถึง ก็หย่อนก้นลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน "เอวของข้าจะหักอยู่แล้ว"
เหลียนเซวียนเงยหน้าขึ้นมองหน้า รู้สึกผิดในใจอยู่บ้าง
แท้จริงแล้วงานหนักเหล่านี้ควรเป็หน้าที่ของเขา แต่ว่า...
เหลียนเซวียนสีหน้าหม่นหมองลงไป
"...หมดกัน วันนี้คงไม่ได้ทำประตูกันแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นมองท้องฟ้ามืดครึ้มด้านนอก ยังมีเลียงผาอีกตัวต้องจัดการ
กว่าจะจัดการกับมันเสร็จ ฟ้าก็มืดพอดี มีเวลาทำประตูเสียที่ไหน
เหลียนเซวียนนิ่งงัน
"ช่างเถอะ ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น น้ำน่าจะได้ที่แล้ว ข้าจะไปเทมาให้ท่าน"
เสียงปุดๆ บนเตารั้งสติของเซวียเสี่ยวหรั่นกลับมา ตัดใบเผือกมารองมือแล้วยกหม้อน้ำไปเทใส่ถัง
เดิมทีในนั้นยังมีน้ำเหลืออยู่ไม่น้อย แต่เธอลองแตะดูอุ่นกำลังดี ครั้นแล้วก็ยกถังใบนั้นไปที่อีกมุมของถ้ำ
นำถังใบนั้นไปวางด้านหลังหินก้อนใหญ่สองสามก้อนที่ซ้อนกันอยู่ มีหินเ่าั้ช่วยบดบังเป็ฉากกั้นลมธรรมชาติ พื้นถ้ำส่วนที่ลึกเข้าไปลาดเทไปด้านหลัง น้ำที่หกลงพื้นย่อมจะไหลออกไปได้ ใช้เป็ที่กำบังสำหรับอาบน้ำสระผมได้พอดี
"แต่ไม่มีผ้าเช็ดตัว?" หัวคิ้วของเซวียเสี่ยวหรั่นขมวดย่นปานจะหนีบแมลงวันตาย
ไม่มีผ้าเช็ดตัว สระผมแล้วจะทำให้แห้งอย่างไร อาบน้ำเสร็จจะใช้อะไรเช็ดตัว?
พอหมุนตัวกลับออกไป เห็นเหลียนเซวียนในอาภรณ์ตัวยาวยืนหลังตรงแหน็วเป็ด้ามพู่กัน ก็เกิดปฏิภาณในฉับพลัน
เหลียนเซวียนหลุบตามองหญิงสาวที่นั่งย่อตัวอยู่ที่เท้าของเขา หูได้ยินเสียงผ้าขาดแคว่ก ในใจเกิดความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
"ฮ่าๆ เหลียนเซวียน ชุดของท่านนี่ไม่เลวเลย เนื้อผ้าทั้งหนาและนุ่ม เอามาทำเป็ผ้าเช็ดตัวได้พอดี" เซวียเสี่ยวหรั่นฉีกยิ้มกว้าง "ด้านหน้าตัดได้หนึ่งหนึ่ง ด้านหลังตัดอีกหนึ่งชิ้น ชุดยาวๆ แบบนี้ ใช้ประโยชน์ได้จริง"
เดิมทีอาภรณ์ของเขายาวถึงข้อเท้า หลังตัดหน้าหลังอย่างละชิ้น ชายเสื้อก็ยังคงยาวถึงน่อง
"รูปร่างสูงนี่ดีจริงๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นสะบัดผ้าสีขาวสองผืนในมือ
เหลียนเซวียนหนึ่งชิ้น เธอหนึ่งชิ้น มีผ้าเช็ดตัวใช้แล้ว
หลังเอาผ้าขาวชิ้นหนึ่งวางเสร็จเรียบร้อย ก็ประคองเขาไปด้านหลังโขดหิน
เหลียนเซวียนยกเท้าขึ้นรู้สึกว่าบริเวณข้อเท้าโล่งแปลกๆ ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย
เซวียเสี่ยวหรั่นหาหินก้อนหนึ่งมาให้เหลียนเซวียนใช้ต่างม้านั่ง แล้วเอาถ้วยตักน้ำออกมาเล็กน้อยซักผ้าขาวให้สะอาด
"ใช้แก้ขัดไปก่อนนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นพาดผ้าขาวไว้ข้างถังดินเผา "ใช้ถ้วยตักน้ำสระผม ผ้าเช็ดตัวพาดอยู่ข้างถัง ท่านสระผมเสร็จก็ใช้มันเช็ดให้แห้ง อืม... ทำได้ใช่ไหม"
เซวียเสี่ยวหรั่นลังเลอยู่บ้าง เขาคงไม่ต้องให้เธอช่วยสระผมให้หรอกมั้ง?
เหลียนเซวียนตวัดสายตามาที่เธอ เขาแค่ไร้เรี่ยวแรง มิได้ปัญญาอ่อน
เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกได้ถึงสายตาที่ตวัดมองมาจึงหัวเราะแหะๆ "งั้นข้าไปจัดการกับเลียงผาตัวนั้นที่ริมแม่น้ำก่อน"
พูดจบก็หมุนตัววิ่งออกไป
เธอลากเลียงผาตัวนั้นไปจัดการที่ริมแม่น้ำ แล้ววิ่งกลับมาที่ถ้ำหยิบตะกร้าเบี้ยวๆ กับมีดพับออกไป
หลังล้างตะกร้าสะอาดแล้ว ก็ใช้ใส่เครื่องในของเลียงผา มันเป็สัตว์ประเภทเดียวกับกวาง อวัยวะภายในของมันย่อมจะกินได้ วิธีการชำแหละไม่ต่างกันมาก
เลียงผาตัวใหญ่น้ำหนักมาก ไม่มีมีดที่เหมาะสม มีดเล็กๆ ด้ามเดียวใช้ถลกหนังกวางต้องเปลืองแรงไม่น้อย
เหลือบมองท้องฟ้าใกล้ค่ำแล้ว แต่งานที่ต้องทำยังมีอีกมาก เซวียเสี่ยวหรั่นเอาเลียงผาที่ถลกหนังแล้วพร้อมกับเครื่องในของมันใส่ในตะกร้า แล้วยกขึ้นวิ่งกลับถ้ำ
หลังวางตะกร้าเรียบร้อย ก็ยังไม่หยุด วิ่งกลับเอาส่วนเท้าเลียงผาที่ริมแม่น้ำกลับมา
แบ่งเป็สองรอบ น้ำหนักนับว่ายังอยู่ในขอบเขตที่เธอพอจะรับได้
เธอไม่ทักทายเหลียนเซวียนที่สระผมเสร็จแล้วสักคำ วิ่งไปหลังก้อนหิน แล้วอุ้มถังดินวิ่งไปที่แม่น้ำอีกรอบ
แล้วก็ยกถังใส่น้ำเกือบเต็มกลับมาถึงถ้ำก่อนฟ้ามืด
"เฮ่อ..." ในที่สุดเซวียเสี่ยวหรั่นที่ยุ่งจนหัวหมุนก็ได้หยุดพัก นั่งหายใจหอบอยู่ข้างกองไฟพลางบีบนวดแขนอย่างเมื่อยล้า
"เหลียนเซวียน ท่านสระผมเสร็จแล้วหรือ"
ตอนนี้ถึงเพิ่งมีเวลามองเหลียนเซวียนที่อยู่ข้างกองไฟ
ผมสีดำสนิทและยาวมากของเขาผิงไฟจนเกือบแห้งแล้ว แลดูเงางามภายใต้แสงไฟ มองแล้วสบายตามาก
โอ๊ยๆ เธอก็ต้องสระผมเหมือนกัน เซวียเสี่ยวหรั่นลูบหัวที่เหนียวเหนอะและสกปรกของตนเอง รู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาตงิดๆ
เธอหันไปหยิบหม้อที่ว่างอยู่ ใช้ถ้วยตักน้ำจากถังใส่ลงไปจนเต็ม แล้วยกขึ้นตั้งไฟ
เหลียนเซวียนเริ่มใส่ฟืนเข้าไปใต้เตาโดยไม่ต้องบอกกล่าว