อวิ๋นหลัวซียกชาขึ้นมาจิบแก้เก้อเขิน เสี่ยวหงเองที่อาละวาดชินอ๋องไปเมื่อครู่ก็รู้สึกว่าลำคอเริ่มแห้งผากเช่นกัน จึงยกชาขึ้นจิบดับกระหาย ดวงตาของนางพลันเป็ประกายอย่างมีความสุข
"ชาหลงจิ่งที่โรงเตี๊ยมนี่รสชาติดียิ่งนัก"
"เข้าชอบชานี่หรือ?"
เสี่ยวหงพยักหน้าอย่างมีความสุข ในชาติก่อนที่บ้านของนางมักจะมีชาหลงจิ่งไว้ชงดื่มในบ้านอยู่เสมอ ชาสีเขียวมรกต รสชาติหอมหวาน ลักษณะใบชาคล้ายลิ้นนกกระจอก แก้ดับกระหายได้ดี และยังล้างสารพิษในร่างกายได้อีกด้วย
"ที่ข้าชอบมากที่สุดอีกอย่างก็คือกุ้งผัดใบชาหลงจิ่ง"
อวิ๋นหลัวซีหันไปมองนางด้วยแววตาที่ประหลาดใจไม่น้อย
เขาเองก็ชอบกุ้งผัดใบชาหลงจิ่งเช่นกัน!
"ข้ามีเื่หนึ่งที่อยากถามเ้า"
อวิ๋นหลัวซีวางถ้วยชาในมือลงก่อนจะมองเสี่ยวหงด้วยสายตาที่จริงจัง เขาตั้งใจอยากจะถามนางเื่แมวเก้าหางตัวนั้น เขาสังเกตเห็นว่าคืนนั้นที่เขาหลับอยู่บนต้นกุ้ยฮวา แมวเก้าหางตัวนั้นก็นอนขดตัวอยู่ไม่ไกลจากเขามากเท่าใดนัก
เสี่ยวหงเองก็หันไปมองเขาด้วยความสงสัย
"เื่ใดกันเ้าคะ?"
"เ้าได้แมวเก้าหางนั้นมาจากที่ใด มันอยู่กับเ้ามานานแล้วหรือ? เ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็สัตว์เทพ?"
เสี่ยวหงมีสีหน้ากระอักกระอ่วนไม่น้อย เขาจะติดใจสงสัยอะไรกับมู่มู่ของนางนักหนากัน แต่เพราะเห็นสีหน้ารอคอยคำตอบของเขา เสี่ยวหงจึงเม้มริมฝีปากแน่นพยายามหาคำตอบที่จะทำให้เขาสงสัยในตัวนางน้อยที่สุด
"คือว่า ตอนข้ายังเด็กก่อนจะมาที่จวนท่านเสนาบดีน่ะ ข้าพบกับมู่มู่มันได้รับาเ็ข้าเลยช่วยรักษามันั้แ่นั้นมามันก็ติดตามข้ามาตลอด"
"เ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็สัตว์เทพ?"
"ตอนนั้นข้ายังเด็กไม่รู้ว่ามันเป็สัตว์เทพ"
"แต่เ้ากับมันดูเข้ากันได้ดี?"
"แน่นอนสิ มันรักข้าที่สุด"
อวิ๋นหลัวซีมองพิจารณาเสี่ยวหงอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาก็ยกชาขึ้นจิบอีกครั้ง
ทั้งสองคุยกันสัพเพเหระทั่วไปจนหยางซูจวิ้นกลับมา เขาทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะก่อนจะใช้มือดันกล่องเครื่องประดับตรงหน้าส่งให้นาง เสี่ยวหงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะมองหยางซูจวิ้นด้วยแววตาที่สงสัยไม่น้อย
"ให้ข้า?"
"ให้แม่นางอิ๋งเอ๋อร์"
"มันคือสิ่งใด?"
"ปิ่นปักผมอย่างดี บอกนางว่าหยางซูจวิ้นผู้นี้เดินรอบตลาดเพื่อหาปิ่นปักผมที่ดีที่สุดให้นาง"
หยางซูจวิ้นยิ้มอย่างภูมิใจในตนเอง เสี่ยวหงเบ้ปากเล็กน้อยแต่ก็ยื่นมือไปรับกล่องใบนั้นมาถือเอาไว้ในมือ
อวิ๋นหลัวซีที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างพลันรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่ด้านนอกโรงเตี๊ยม เสี่ยวหงมองตามสายตาของเขาไปก่อนจะพบเข้ากับชายชุดดำสองคนที่ยืนหลบอยู่ตรงมุมร้านค้าแห่งหนึ่ง
"ซื่อจื่อ ท่านมองสิ่งใดอยู่หรือเ้าคะ?"
เสี่ยวหงแกล้งถามเขาออกไปด้วยใบหน้าที่มีความสงสัยปนอยู่ไม่น้อย อวิ๋นหลัวซีละสายตาจากเสี่ยวหงมองไปที่หยางซูจวิ้นด้วยแววตาเป็กังวล
"ข้ายังมีงานสำคัญต้องไปทำต่อ อีกประเดี๋ยวข้าจะส่งเ้ากลับจวนก่อน"
"ไม่เป็ไรเ้าค่ะ ข้ามีธุระต้องไปทำต่ออีกนิด"
"ให้ข้าไปส่งเ้าเถอะ"
"ท่านคอยดูแลหยางซูจวิ้นเถอะเ้าค่ะ ข้าดูแลตนเองได้"
อวิ๋นหลัวซีพยักหน้าอย่างกังวลใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปที่รถม้า ชายชุดดำที่ปิดหน้าสองคนนั้นเป็ใครที่ส่งมาเขาเองยังรู้ไม่แน่ชัด
หลังจากอวิ๋นหลัวซีจากไปแล้ว เสี่ยวหงก็เดินตรงไปหาเถ้าแก่เพื่อจ่ายเงินในส่วนที่เหลือ ก่อนจะเดินเข้าตามตรอกเล็กๆ เพื่อสำรวจดูว่ามีจวนที่เ้าของจวนตระกูลใดอยากขายรึไม่ นางตั้งใจจะซื้อเก็บเอาไว้!
ตำหนักองค์รัชทายาท
หยางเส้าเฉินที่กำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าใดนัก กำลังยืนเหม่อมองไปด้านนอกตำหนักอย่างคนที่ใจเหม่อลอย
องครักษ์เงารายงานว่า นางกับอวิ๋นหลัวซีพบกันหลายต่อหลายครั้ง นางดูยิ้มแย้มและมีความสุขมากกว่าตอนที่ได้เจอกับเขา
ั้แ่วันนั้นที่นางหนีเขาออกจากวัง เขาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ คอยเฝ้าคิดถึงแต่นาง
เขามีสิ่งใดที่สู้อาหลัวไม่ได้กัน เขามีทุกอย่างดีกว่าอาหลัว แต่เหตุใดนางจึงเลือกที่จะใกล้ชิดกับอาหลัวไม่ใช่เขา!!! นางรังเกียจเขาขนาดนี้เชียวหรือ?
"ไปบอกอวิ๋นหลัวซี ว่าข้า้าพบเขาตอนนี้"
"พ่ะย่ะค่ะ"
อวิ๋นหลัวซีที่เพิ่งออกมาจากตำหนักของหยางซูจวิ้นนั้น ในสมองของเขาตอนนี้คิดถึงเพียงแต่ชายชุดดำสองคนนั้น
ลักษณะท่าทางของคนพวกนั้นเหมือนพวกที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี ฝีเท้าเบายิ่งนัก เขาเองที่มีความสามารถไม่น้อยยังพลาดการติดตามของคนพวกนั้นไป
"ท่านรองแม่ทัพอวิ๋นขอรับ องค์รัชทายาทมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าขอรับ"
อวิ๋นหลัวซีพยักหน้าให้ขันทีเล็กน้อย น้อยครั้งนักที่อาเฉินจะเรียกพบเขา นอกจากจะมีเื่ที่หนักใจอันใด
เขากับหยางเส้าเฉินเป็สหายสนิทกันมานาน เขาเองเป็สหายร่วมเรียนกับหยางเส้าเฉินั้แ่อายุสิบขวบ ความสนิทสนมของพวกเขาเริ่มต้นจากตรงนั้นจนกลายมาเป็เพื่อนรักกัน
"ทูลองค์รัชทายาท ท่านรองแม่ทัพอวิ๋นมาถึงแล้วขอรับ"
"ให้เข้ามาได้"
อวิ๋นหลัวซีเดินเข้ามาในตำหนักก่อนจะโค้งกายลงทำความเคารพ หยางเส้าเฉินโบกมือให้เหล่านางกำนัลขันทีออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคออวิ๋นหลัวซีด้วยความสนิทสนม
"อาหลัว ไม่เจอกันเสียนาน เ้าสบายดีหรือไม่?"
"ข้าสบายดี เ้าเล่า มีเื่ไม่สบายใจอันใดกันถึงอยากพบข้า?"
อวิ๋นหลัวซีกล่าวพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย หยางเส้าเฉินหัวเราะไปพลางมองหน้าอวิ๋นหลัวซีไปพลาง
ช่างเป็สหายที่รู้ใจเขายิ่งกว่าใคร!
หยางเส้าเฉินยกกาเหล้ามาเทใส่จอกก่อนจะยื่นมันส่งให้อวิ๋นหลัวซี เขายกเหล้าดื่มจนหมดจอก ก่อนจะมองอวิ๋นหลัวซีด้วยแววตาล้ำลึก
"อันที่จริงก็มิใช่เื่สำคัญอันใด เพียงแค่ข้าไปถูกใจสตรีนางหนึ่งเข้า ข้าคิดถึงนางยิ่งนัก"
อวิ๋นหลัวซีที่กำลังยกจอกเหล้าเข้าปาก พลันชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เขาเงยหน้าไปมองหยางเส้าเฉินก่อนจะเอ่ยถามออกไป
"อาเฉินไปถูกใจสตรีตระกูลใดกัน ถึงทำให้จิตใจล่องลอยได้ขนาดนี้?"
หยางเส้าเฉินอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะมองอวิ๋นหลัวซีอีกครั้ง
"นางมีนามว่า เสี่ยวหง เป็บุตรสาวบุญธรรมของจวนตระกูลเสี่ยว เ้ารู้จักนางหรือไม่?"
หยางเส้าเฉินเอ่ยถามอวิ๋นหลัวซีด้วยรอยยิ้ม แต่ในน้ำเสียงกลับซ่อนความเ็าเอาไว้ อวิ๋นหลัวซีพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้ายังคงเรียบเฉยไร้ความรู้สึก
"ก็พอจะได้ยินชื่อนี้ผ่านหูมาบ้าง เคยพบเจอนางบ้างแต่ไม่บ่อยนัก"
หยางเส้าเฉินหรี่ดวงตาลง มือกำจอกเหล้าเอาไว้แน่น
สหายรัก!!! เ้ากล้าโกหกข้าหน้าตาเฉย ทั้งที่เ้ากับนางใกล้ชิดกัน แทบจะทุกครั้งที่พวกเ้าสองคนพบกัน นางจะยิ้มแย้มสดใสตลอด รอยยิ้มนั้นมันควรเป็เขาที่ได้รับมัน!
"ข้าอยากรับนางมาอยู่ในความดูแลของข้า ข้าอยากได้นางมาเป็ชายารอง เ้าพอจะช่วยข้าได้หรือไม่?"
อวิ๋นหลัวซีชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่เคยคาดคิดว่าหยางเส้าเฉินจะถามเขาด้วยคำถามเช่นนี้
"ข้าจะช่วยเ้าอย่างไรได้?"
"ได้ยินมาว่า ซูจวิ้นเป็สหายสนิทกับเสี่ยวหง เ้าเองก็ติดตามซูจวิ้นบ่อยครั้งคงเคยพบนางอยู่บ้าง ช่วยพูดกับซูจวิ้นให้หาทางทำให้นางใจอ่อนยอมแต่งกับข้าทีเถอะ"
หยางเส้าเฉินลอบสังเกตอาการของอวิ๋นหลัวซี ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเ้าเล่ห์
สมกับเป็อาหลัว เก็บอาการได้ดียิ่งกว่าใคร
"อันที่จริงนางก็มีใจชอบพอข้า แต่นางยังไม่รู้ใจตัวเอง ข้าพอมองออก นางรักข้าออกปานนั้น แต่เหตุใดจึงไม่ยอมรับรักข้าเสียที"
หยางเส้าเฉินพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เขาถอนหายใจออกมาอย่างคนหมดหวัง
อวิ๋นหลัวซีลอบยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน
มีใจเช่นนั้นหรือ?
เมื่อครั้งที่หยางเส้าเฉียนอยากได้หลิวเย่ว์หลี อดีตคู่หมั้นของเขา หยางเส้าเฉินก็พูดเช่นนี้
หลิวเย่ว์หลีเป็คู่หมั้นที่ท่านพ่อหมั้นหมายให้เขา เขาเองก็รู้สึกพอใจกับนางไม่น้อย แต่ใครจะคาดคิดว่าคืนก่อนวันแต่งงานเพียงคืนเดียวนางกลับตกเป็ของอาเฉิน
เขาทำได้เพียงทนมองดูหญิงสาวที่เขามีใจต้องตกไปเป็ของเพื่อนรัก หยางเส้าเฉินสัญญาว่าจะรักนางเพียงผู้เดียว แต่สุดท้ายก็ผิดสัญญานั้น
แล้วยังจะคิด้าได้เสี่ยวหงไปอีกคน
ที่แย่กว่านั้นคือใส่ความว่านางรักตนเองจนหมดใจ!
ช่างน่าขันนัก! อาเฉินเห็นเขาเป็คนโง่เพียงเพราะเขาไม่พูดออกมาเช่นนั้นหรือ
คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่ออาเฉิน แต่สำหรับเขาที่เคยโง่มาครั้งหนึ่งแล้วเขาไม่มีทางเชื่อ!
เขาพอได้ยินเื่ราวของเสี่ยวหงกับอาเฉินจากหยางซูจวิ้นมาบ้าง อาเฉินหลอกนางให้เข้าวังคิดจะกักตัวนางไว้ แต่เสี่ยวหงเอาตัวรอดออกมาได้
เขาเองก็ไม่เข้าใจถึงความในใจที่รู้สึกกับเสี่ยวหง แต่เขาเองก็ไม่ได้อยากให้นางตกเป็ของอาเฉินเหมือนกับหลิวเย่ว์หลี
"อาหลัว เ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่?"
เสียงเรียกของหยางเส้าเฉิน ปลุกให้อวิ๋นหลัวซีหลุดออกมาจากห้วงความคิด เขามองหยางเส้าเฉินด้วยสายตาเรียบเฉย
"ข้าไม่มีความสามารถพอไปเป็พ่อสื่อให้ใคร บุรุษดีพร้อมเช่นอาเฉินสตรีที่ไหนก็อยากเข้าหา"
หยางเส้าเฉินยกยิ้มเย็นที่มุมปาก ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธเขาเช่นนี้ อาหลัวต้องมีใจให้เสี่ยวหงเป็แน่
หลิวเย่ว์หลีข้ายังพานางมาอยู่ในอ้อมกอดได้ แล้วเสี่ยวหงทำไมข้าจะทำไม่ได้!