วินาทีต่อมา!
ในมือของมือกระบี่เงาผีพลันมีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งโผล่ขึ้นมา!
ฟึบ!
แสงสว่างจุดหนึ่งพลันปรากฏขึ้น พริบตาก็กลายเป็รัศมีกระบี่เจิดจ้า
รัศมีกระบี่ราวกับธนูคมพุ่งออกจากแล่งเร็วจนชวนตะลึง พุ่งตรงมาที่ลำคอของเสวียนเทียน
กระบี่ที่เร็วถึงเพียงนี้ นอกจากตัวเขาเองแล้ว ปกติน้อยนักเสวียนเทียนจะได้พบ
“ฮี่ๆ!”
รัศมีกระบี่ปรากฏ มือกระบี่เงาผีก็ส่งเสียงหัวเราะแหลมเสียดแก้วหูออกมาพร้อมๆกัน เสียงราวกับกำลังกัดฟันอยู่
ดวงตาของเสวียนเทียนกะพริบในลูกตาดำสะท้อนภาพรัศมีกระบี่ของมือกระบี่เงาผีพุ่งเข้ามา
ชั่วพริบตา เสวียนเทียนพบจังหวะลงมือที่ดีที่สุดสองขาดีด ร่างกายฉับพลันโผขึ้นจากหลังของม้ากิเลนดำ
ชิ้ง!
เสียงแหลมสูงดังขึ้นแสงสีฟ้าวูบหนึ่งพลันปรากฏออกมา ‘กระบี่แรกฟ้า’ ออกจากฝัก
ปราณแท้เบิกนภาโคจรในพริบตา จากแรงที่ชักกระบี่ รัศมีกระบี่สีฟ้าสว่างบาดตาสายหนึ่งพุ่งทะยานออกมา
ชักกระบี่ ลงมือ เสร็จในหนึ่งลมหายใจเป็เวลาเพียงชั่วพริบตา
ดวงตาของมือกระบี่เงาผีมีแววประหลาดใจแล่นผ่านพริบตานั้นรัศมีกระบี่สีฟ้าก็ฟันมาถึงกระบี่ยาวในมือของเขา
เคร้ง!
เสียงแหลมสูงเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นกระบี่ของทั้งสองัักันแล้วผละออกทันที เสวียนเทียนพลิกตัวไปข้างหลัง ร่อนลงบนหลังม้าอย่างแ่เบา
มือขวาถือ ‘กระบี่แรกฟ้า’ สีฟ้าครามตัวกระบี่เอียงลงสี่สิบห้าองศา ปลายกระบี่หันข้างชี้ลงพื้นดิน ตอนนี้สายลมอ่อนๆ หอบพัดมาเป็ระลอกเสื้อผ้าสีเขียว เส้นผมสีดำของเสวียนเทียนพลิ้วไหว
คนทั้งคนท่าทางสบายๆ ละมุนละม่อม
มือกระบี่เงาผีกลับรู้สึกถึงพละกำลังมหาศาลระลอกหนึ่งส่งผ่านจากตัวกระบี่ขึ้นมาร่างทั้งร่างจากที่ทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วฉับพลันก็หยุดชะงักจากนั้นแรงสะท้อนหนักหน่วงก็ทำให้เขาถอยหลัง ตกลงบนพื้นถอยไปสามก้าว
“พละกำลังแข็งแกร่งนัก ที่แท้เ้าก็ฝึกฝนปราณฝึกร่างด้วย?” ในดวงตาของมือกระบี่เงาผีปรากฏแววประหลาดใจและสงสัยขึ้นชั่ววูบ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเย็น
ประหลาดใจในพละกำลังของเสวียนเทียน สงสัยถึงการฝึกฝนปราณฝึกร่างของเสวียนเทียนแต่ร่างกลับไม่ต่างกับคนธรรมดา ดูไม่ออกอย่างสิ้นเชิง
เสวียนเทียนผ่านการตีเหล็กมาหนึ่งเดือนกลายเป็ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก ผ่านการฝึกฝนมาหนึ่งเดือนพละกำลังก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นกำลังแขนข้างหนึ่งเกือบถึงหนึ่งหมื่นชั่งแล้ว
กระบี่เมื่อครู่แค่โจมตีไปตามการชักกระบี่เฉยๆ เท่านั้นพละกำลังที่ใช้ไม่ถึงสี่ส่วน
แต่ว่านั่นก็มีแรงเกือบถึงสี่พันชั่งแล้วสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองเป็พละกำลังที่ยากจะต้านทานได้
มือกระบี่เงาผีกลับถอยไปเบาๆ เพียงแค่สามก้าวดูแล้วปราณแท้เบิกนภาของเขาจะลึกล้ำกว่าผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองธรรมดาทั่วไปอยู่มากความสามารถในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองคงเป็ระดับสูงสุดยอดเทียบกับจอมยุทธ์พเนจรธรรมดาไม่ได้เลย
ไม่รอให้เสวียนเทียนตอบคำมือกระบี่เงาผีก็พูดต่อว่า “หากความมั่นใจของเ้ามาจากพละกำลังที่ได้จากปราณฝึกร่างเพียงอย่างเดียวถ้าเช่นนั้น ความมั่นใจของเ้าคงได้กลายเป็ความสิ้นหวังในเร็วๆ นี้แล้วท่าเท้าเงาผีลวงิญญา!”
สิ้นเสียงของมือกระบี่เงาผีฉับพลันเงาร่างก็ขยับ รวดเร็วอย่างที่สุด ขยับผ่านอากาศเป็เงาติดตาเงาติดตาฉับพลันจากหนึ่งแยกเป็สอง เพราะความเร็วที่เร็วเหลือเกินไม่อาจแบ่งแยกได้ว่าเงาติดตาแบ่งออกมาได้อย่างไรไม่รู้ว่าร่างจริงของมือกระบี่เงาผีอยู่ที่ใด
เงาร่างของมือกระบี่เงาผีจากหนึ่งแยกเป็สองแต่ไม่ได้รีบร้อนโจมตีเสวียนเทียน วินาทีต่อมา เงาร่างก็แยกออกมาอีกครั้งสองร่างกลายเป็สี่ร่าง เงาร่างทั้งสี่ขยับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกลายเป็วงกลมล้อมมรอบเสวียนเทียน
“ฮี่ๆๆๆ...”
เสียงหัวเราะแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นมาจากสี่ทิศราวกับมือกระบี่เงาผีทั้งสี่ล้วนเป็ตัวจริง “ไอ้หนู โชคร้ายของเ้ามาเยือนแล้ว!”
ฟึบๆๆๆ!
มือกระบี่เงาผีทั้งสี่ขยับอย่างรวดเร็วแทงกระบี่หนึ่งอออกมาอย่างว่องไว ฉับพลันรัศมีกระบี่ก็ปรากฏขึ้นมาสี่สายจากสี่ทิศแทงเข้ามาหาเสวียนเทียน
ทุกกระบี่เร็วเหนือสิ่งใด
ทุกกระบี่ราวกับเป็ของจริง
ต่อให้เป็ผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่ามือกระบี่เงาผีสองขั้นเมื่อเผชิญการโจมตีจากสี่กระบี่พร้อมกัน ถ้าหากแยกไม่ออกว่าเงาร่างใดเป็ร่างจริงก็ไม่มีทางตอบโต้ได้
ตอนที่รัศมีกระบี่ทั้งสี่สายปรากฏขึ้นในพริบตานั่นเองเสวียนเทียนก็หลับตาทั้งสองข้างลงในพริบตา
ในเมื่อดวงตาไม่อาจแบ่งแยกเงาร่างได้ถ้าเช่นนั้น ยามนี้ดวงตาก็มีแต่จะพาให้ตัวเองสับสน
เสวียนเทียนตัดสินใจในทันที หลับตาลง
พร้อมกันนั้นหูทั้งสองข้างของเสวียนเทียนก็กระดิกขึ้นเสียงทั้งหมดจากสี่ด้านแปดทิศไหลเข้ามาในหู
ในฐานะช่างตีเหล็กคนหนึ่งการฟังเสียงเป็ทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งทักษะหนึ่ง ยามที่ตีหลอมวัตถุดิบจะแบ่งแยกว่าตีหลอมสิ่งเจือปนออกไปได้หมดจดหรือไม่ ใช้ดวงตาย่อมมองไม่ออกต้องใช้หูฟังเท่านั้น
วัตถุดิบที่แตกต่างกัน เมื่อค้อนเหล็กตีลงไปย่อมมีเสียงที่ไม่เหมือนกัน
เสวียนเทียนผ่านการฝึกตีเหล็กมาหนึ่งเดือนทั้งยังเป็ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก การแยกแยะเสียงด้วยหูบรรลุถึงจุดที่ละเอียดอย่างที่สุดแล้ว
มือกระบี่เงาผีไม่สามารถแบ่งร่างออกมาจริงๆ ได้ในเงาร่างทั้งสี่ มีเพียงหนึ่งร่างเป็ร่างจริง สามร่างเป็ร่างลวงหนึ่งร่างเป็เืเนื้อ สามร่างเป็อากาศธาตุ
เพราะว่าขยับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเงาร่างทั้งสี่ดูไปแล้วแทบจะเหมือนภาพลวงไปเสียหมด เหมือนกันทุกประการแต่ว่าร่างจริงกับร่างลวงยามเคลื่อนผ่านอากาศ เสียงย่อมไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน
ขอแค่มีความแตกต่างก็ไม่อาจหลบรอดหูของเสวียนเทียน
เสวียนเทียนเพิ่งหลับตาลงไม่ถึงครึ่งพริบตาฉับพลันก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ‘กระบี่แรกฟ้า’ ในมือพลันขยับรัศมีกระบี่สีฟ้าสายหนึ่ง พุ่งฉับไวออกมา เสวียนเทียนไม่มองสามเงาร่างที่เหลือหนึ่งกระบี่ฟันลงไปที่เงาร่างที่แทงกระบี่มาทางด้านซ้าย
ถลาลมเก้ากระบี่...วายุสะบั้น!
กระบี่นี้ความเร็วรวดเร็วเหนือสิ่งใดเช่นกัน
เคร้ง!
เสียงแหลมดังขึ้นอีกครั้ง ‘กระบี่แรกฟ้า’ กับกระบี่ยาวในมือของมือกระบี่เงาผี ปะทะเข้าด้วยกันอย่างรุนแรงกระบี่นี้เสวียนเทียนใช้พละกำลังหกส่วนแรงมหาศาลหกพันชั่งผสานกับปราณแท้หนึ่งนภาฟาดฟันออกมาหนึ่งกระบี่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองเป็กระบี่ที่น่าหวาดหวั่นอย่างแท้จริง
มือกระบี่เงาผีมั่นใจในตัวเองล้นปรี่ย่อมต้องมีความสามารถแท้จริงเป็เครื่องรองรับยังคลำไม่กระจ่างความสามารถที่แท้จริงของอีกฝ่ายเสวียนเทียนย่อมไม่ใช้พลังทั้งหมดโจมตี
โจมตีออกไปเต็มกำลัง ใช้เรี่ยวแรงมากเกินไปยากจะยั้งมือหากไม่สามารถสังหารศัตรูได้ในคราวเดียว กลับกันจะทำให้ศัตรูรู้ความสามารถของตนเองพละกำลังหกส่วน เสวียนเทียนปล่อยรั้งได้อย่างง่ายดายดังใจ
พลังที่ไม่อาจหยั่งรู้เป็สิ่งที่น่ากลัวที่สุดผู้ฝึกยุทธ์ที่ใช้ความสามารถทั้งหมดออกมาั้แ่เริ่ม เมื่อถูกศัตรูหาจุดอ่อนที่เอาชนะได้พบต่อให้พลังแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายก็ต้องตายวายชีวาเพราะเหตุนี้
ร่างกายของมือกระบี่เงาผีสะท้านอย่างแรงกระบี่ยาวในมือถูกกระแทกจนเบี่ยงออกไป รัศมีกระบี่สีฟ้าไม่ลดพลังลง
พร้อมกันนั้นร่างเงาที่เหลืออีกสามร่างพลันสลายหายไป เสวียนเทียนฟังเสียงเพื่อแยกแยะไม่ผิดเลยเป็ภาพลวงจริงๆ
ดวงตาของมือกระบี่เงาผีตกตะลึงยิ่งนักร่างกายราวกับลูกศรที่พุ่งออกจากแล่งฉับพลันลอยถอยหลังไป หลบ ‘กระบี่แรกฟ้า’ ไปได้อย่างหวุดหวิด
พุ่งถอยไปถึงสามสิบกว่าเมตรเมื่อเหยียบลงพื้นยังถอยต่อไปอีกเจ็ดก้าว มือกระบี่เงาผีถึงตั้งหลักได้
รัศมีกระบี่สีฟ้าฉับพลันแหวกอากาศฟันมาถึงเสวียนเทียนเป็ฝ่ายได้เปรียบ ไม่ปล่อยให้มือกระบี่เงาผีได้หายใจหายคอร่างกายก็ราวกับหนอนแมลงไชกระดูกฉวยจังหวะที่มือกระบี่เงาผีถอยหลังตามติดบุกเข้าไป หนึ่งกระบี่ฟันลงมารุนแรงอย่างที่สุดราวกับสายลมคลั่งพัดกวาดใบไม้ร่วง
ถลาลมเก้ากระบี่...วายุสลาตัน
แม้ว่าจะเป็กระบวนท่ากระบี่ที่คิดขึ้นมาเองไม่ดีเลิศเท่ากับวิทยายุทธ์ชั้นนิล แต่พละกำลังชวนสะพรึงของเสวียนเทียนใช้กำลังพิชิตชั้นเชิงฝีมือได้อย่างสิ้นเชิง หนึ่งกระบี่ฟันลงมาถึงแม้ไม่ใช้วิทยายุทธ์ชั้นนิล แต่พลังชนะวิทยายุทธ์ชั้นนิลไปไกล
กระบี่นี้ เสวียนเทียนใช้พลังเจ็ดส่วน
เสวียนเทียนรู้ว่ามือกระบี่เงาผียังมีไพ่ที่ไม่ได้ใช้ออกมาจึงไม่ใช้พลังทั้งหมด แต่ใช้พละกำลังเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งส่วน บีบมือกระบี่เงาผีให้ตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงดูว่าอีกฝ่ายจะคลี่คลายอย่างไร
‘ท่าวายุสลาตัน’ เป็กระบวนท่ากระบี่ที่โจมตีเป็วงกว้าง หนึ่งกระบี่ฟาดฟันออกมาไม่มีที่ให้หลบ ได้แต่ต้องเข้ารับตรงๆ
เผชิญหน้ากับรัศมีกระบี่ที่เสวียนเทียนฟันลงมามือกระบี่เงาผีรู้ว่ารัศมีกระบี่แฝงพละกำลังอันน่าหวาดกลัวอย่างที่สุดไว้พลังของเขาในตอนนี้ไม่อาจต้านรับได้
ฉับพลันกลิ่นไอของมือกระบี่เงาผีก็ขยับไหวอย่างรุนแรงพริบตาพุ่งทะยานสูงขึ้น พลังวัตรพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว สูงขึ้นหนึ่งระดับขั้นกลายเป็ชั้นเบิกนภาขั้นสาม
เคร้งๆๆๆ!
เสียงสูงกังวานหลายเสียงดังขึ้น ชั่วพริบตา ทั้งสองประกระบี่กันหลายกระบี่ ‘ท่าวายุสลาตัน’ ท่านี้ของเสวียนเทียน ถึงกับถูกมือกระบี่เงาผีรับเอาไว้ได้ทั้งหมด
“หืม?”
เสวียนเทียนใอึ้งไป มือกระบี่เงาผีผนึกพลังวัตรพลังวัตรชั้นเบิกนภาชั้นสองเป็แค่ของบังหน้า!
เฟิงปู๋จื้อถึงจะเป็ยอดฝีมือระดับสุดยอดของชั้นเบิกนภาขั้นสองก็เกรงว่ายากจะเป็คู่มือของผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามแม้จะมีกู้เชียนโหรวกับซุนอี้ชิวอยู่ด้วย หากทั้งสามคนเจอมือกระบี่เงาผีก็มีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ
มิน่าเล่า มือกระบี่เงาผีถึงมั่นใจได้ถึงเพียงนี้ตอนที่พูดไม่เห็นเฟิงปู๋จื้อ กู้เชียนโหรว ซุนอี้ชิวอยู่ในสายตาที่แท้ก็มีพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสามนี่เอง
“มือกระบี่เงาผีคนนี้ที่แท้มีความเป็มาอย่างไรกันแน่? กระบี่ยาวในมือเป็ศาสตราวิเศษชั้นนิลระดับล่างวิชาตัวเบาพิสดารลึกล้ำอย่างที่สุด ถึงกับชนะข้าอยู่ขั้นหนึ่ง ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ นั่นยิ่งลึกลับไม่อาจป้องกันถ้าเป็ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาคนอื่นพบเข้า ต่อให้พลังวัตรสูงกว่ามือกระบี่เงาผีก็ต้องถูกทำร้ายสาหัสหรืออาจถึงตายคนผู้นี้เทียบกับหนิวเจิ้นซานที่อาศัยของภายนอกยกระดับสู่ชั้นเบิกนภาขั้นสี่ยังน่ากลัวเสียกว่าโชคดีที่พบกับข้า หากพวกศิษย์พี่เฟิงทั้งสามคนพบเข้าคงถูกทำร้ายจนเจ็บหนักแน่”
มือกระบี่เงาผีพลังวัตรฉับพลันเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้นทำให้เสวียนเทียนตกตะลึงไป “ถึงกับมีศาสตร์ลับผนึกพลังวัตรจอมยุทธ์พเนจรธรรมดาจะมีวิทยายุทธ์ลึกล้ำเช่นนี้ได้อย่างไร? ไม่ว่าเขาจะเป็ผู้มาเยือนจากที่ใดวันนี้เมื่อได้พบแล้วก็ต้องเอาชีวิตเขามาให้ได้”
“ฮี่ๆๆๆ!”
มือกระบี่เงาผีหัวเราะขึ้นมา แต่เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความโกรธเอ่ยว่า “ไอ้หนูเ้าฝึกปราณฝึกร่างอะไร ถึงกับมีพละกำลังมหาศาลถึงเพียงนี้บีบให้ข้ามาถึงจุดที่ต้องคลายผนึกพลังวัตร แต่ว่า ต่อให้พละกำลังของเ้ามากมายอีกเพียงใดเ้าก็ต้องตาย ข้าจะให้เ้าได้ััความน่าหวาดหวั่นของ ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ ขั้นที่สามดูเสียหน่อย!”
พร้อมกับที่พูดมือกระบี่เงาผีก็ขยับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขึ้นมาอีกครั้ง เพียงพริบตาหนึ่งแบ่งเป็สอง จากนั้นสองแบ่งเป็สี่ ตามมาติดๆ สี่แบ่งเป็แปด
สิ้นเสียงมือกระบี่เงาผีก็แบ่งออกเป็เงาร่างแปดร่างเงาร่างทั้งแปดนี้ขยับเคลื่อนไหวรวดเร็วเหนือสิ่งใด แต่ละร่างดูแล้วเหมือนกันทุกอย่างไม่อาจแยกแยะได้
เงาร่างทั้งแปดล้อมเสวียนเทียนไว้ในพริบตาเสียงดังมาจากสี่ทิศแปดด้าน “ไอ้หนู ตายเสียเถอะ”
ฟึบๆๆๆ!
เสียงแหวกอากาศแปดเสียงดังขึ้นมาจากรอบด้านรัศมีกระบี่แปดสายพุ่งทะยานเข้ามาหาเสวียนเทียน
เสวียนเทียนตะลึงไปเล็กน้อย หัวคิ้วขมวดั้แ่อีกฝ่ายใช้ ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ เสวียนเทียนก็หลับตาลงแล้ว แต่ว่า ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ ขั้นสาม เห็นได้ชัดว่าสูงส่งกว่าขั้นสองอยู่มาก ถึงกับฟังแล้วเสียงก็ยังเหมือนกันไปหมด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้