บิดาของหรูเอ๋อร์ได้ยินคำถามของนางก็ยิ้มเยาะกล่าวว่า "ทำไม เ้าสงสัยว่าข้าจะสังหารบุตรสาวของตนเองรึ นางเป็บุตรสาวเพียงคนเดียวของข้า ไม่รู้สึกว่าน่าขันไปหน่อยหรือ"
"ข้าย่อมทราบว่าท่านไม่มีทางสังหารบุตรสาวของตนเอง แต่เื่บางอย่างต้องมีหลักฐาน ท่านบอกว่าข้าสังหารบุตรสาวท่าน ข้าก็กล่าวได้เช่นกันว่าท่านสังหารบุตรตนเองแล้วมาใส่ร้ายข้า เมื่อทุกคนต่างก็น่าสงสัยเหมือนกัน การตรวจสอบร่วมกันจึงเป็สิ่งที่สมควร" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "ท่านยังไม่ตอบข้าเลยว่า่เวลานั้นท่านไปที่ใด"
"ที่บ้านไม่มีอะไรกิน ข้าเลยขึ้นเขาไปหาอาหาร ตอนนั้นยังมีพี่ฟางกับพี่หลี่ไปกับข้าด้วย พวกเขาล้วนเป็พยานได้" บิดาหรูเอ๋อร์กล่าวเสียงเย็น
เสียงคนสองคนช่วยยืนยันดังมาจากกลุ่มคนเ่าั้
นางมองไปยังมารดาของหรูเอ๋อร์ที่อยู่ตรงข้าม "หลังจากข้าไป ท่านกับบุตรสาวทำอะไรกันบ้าง"
มารดาของหรูเอ๋อร์สีหน้าลนลาน เอ่ยด้วยท่าทางตึงเครียด "หรูเอ๋อร์บอกว่าไม่สบาย ข้าเลยให้นางไปนอนบนเตียง ส่วนข้าก็ออกไปทำความสะอาดลานสวน ยามกลับมาก็พบว่านาง..."
"หากเป็ไปตามที่ท่านบอกเล่า นางก็นอนอยู่บนเตียงตลอด หาได้ไปทำธุระอื่น" ถังชิงหรูจดจ้องมารดาของหรูเอ๋อร์ด้วยสายตาเฉียบคม "ใช่หรือไม่?"
มารดาหรูเอ๋อร์พยักหน้าติดต่อกัน "แน่นอน แม้ว่าหรูเอ๋อร์จะเป็เด็กผู้หญิง แต่ข้ากับพ่อของนางก็รักนางดั่งสมบัติล้ำค่า แต่ไรมาไม่เคยปล่อยให้นางลำบาก ยิ่งยามนี้กำลังป่วยหนัก ข้ายิ่งไม่อาจให้นางเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย ดังนั้นปรกตินอกจากออกไปเดินเล่นเองบ้าง ก็จะนอนอยู่บนเตียงตลอด"
"ที่แท้ก็เป็เช่นนี้" ถังชิงหรูยกแขนของหรูเอ๋อร์ขึ้นมาดู มือของนางบอบบางนัก อุ้งมือมีแต่หนังหุ้มกระดูกไม่มีเนื้อเลยสักนิด
แน่นอนว่านี่หาใช่สิ่งที่นาง้าให้ทุกคนสังเกต นางชี้ไปที่เล็บมือของหรูเอ๋อร์ แล้วเอ่ยว่า "บนนี้ยังมีเศษดินใหม่ติดอยู่ บอกได้ว่านางเพิ่งไปเล่นดินโคลนมา นอกจากนี้หลังมือของนางยังมีรอยข่วน ก็แสดงว่านางอาจจะทะเลาะเบาะแว้งและเกิดการต่อสู้กับใครบางคน"
ถังชิงหรูชี้แจงรายละเอียดให้ทุกคนฟังตามข้อมูลที่ได้จากมารดาหรูเอ๋อร์
ถ้าอีกฝ่ายไม่พูดโกหก นางย่อมไม่อาจหาช่องโหว่ใหญ่ขนาดนี้ได้ ดังนั้นถ้าอยากปิดบังความจริง ทางที่ดีคืออย่าเอ่ยอะไรเลย เพราะยิ่งพูดเยอะ ก็ยิ่งผิดพลาดมาก
ถ้ามารดาหรูเอ๋อร์ยืนกรานไม่รู้ไม่เห็นสาเหตุการตายของหรูเอ๋อร์ และไม่ให้ข้อมูลอันใดเลย ถังชิงหรูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะลงมืออย่างไร ยามนี้นางเผยส่วนที่น่าสงสัยออกมามากมาย ถึงชาวบ้านเหล่านี้คิดจะกัดไม่ปล่อยว่าตนเองคือมือสังหาร ก็คงมีปัญหาแล้ว
บิดาของหรูเอ๋อร์หันไปมองภรรยาตาขวาง เขาเอื้อมมือไปบีบคอนางพลางเอ่ยอย่างเดือดดาล "ข้าให้เ้าดูแลนางให้ดีมิใช่หรือ แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ฮึ นางแพศยา เ้าฉวยโอกาสที่ข้าไม่อยู่ทำอันใดกับบุตรสาวข้า วันนี้หากมิสารภาพมาตามตรง บิดาไม่เลิกรากับเ้าแน่"
ดวงตาของมารดาหรูเอ๋อร์ผุดแววตื่นตระหนก นางคว้าข้อมือของสามีไว้คิดจะดิ้นให้หลุดจากการควบคุม แต่บิดาของหรูเอ๋อร์เป็บุรุษ ปรกติก็ขึ้นเขาล่าสัตว์เป็ประจำ หากเขาไม่คิดจะปล่อย นางไหนเลยจะรอดพ้นจากมือเขาไปได้ ด้วยเหตุนี้นางจึงสำลักอย่างรุนแรง ใบหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ แลดูทรมานเหมือนจะขาดอากาศหายใจ
"บิดาหรูเอ๋อร์ รีบปล่อยมือเร็ว เ้าทำแบบนี้เท่ากับสังหารนางเลยนะ" ชาวบ้านที่อยู่ข้างๆ เห็นท่าไม่ดี รีบเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อม
บิดาของหรูเอ๋อร์กำลังเืเข้าตา เอ่ยวาจาอย่างเดือดดาล "บิดาก็จะฆ่านางนี่แหละ แม้ว่านางจะไม่ได้เป็คนคลอดหรูเอ๋อร์ออกมาเอง แต่ก็เลี้ยงมากับมือจนเติบใหญ่ ไม่นึกว่านางจะโเี้สังหารบุตรสาวของข้าได้ลงคอ ถ้าวันนี้บิดามิได้สังหารนางเสีย ก็ผิดต่อบุตรสาวของตัวเองน่ะสิ"
มารดาหรูเอ๋อร์ถูกสามีบีบคอจนใกล้จะหมดลมหายใจ แววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ยิ่งไม่เหลือความหวังใดๆ นางกลับยิ่งทุ่มออกไปสุดแรง
"ฮ่าๆ ฮ่าๆ ๆ " มารดาหรูเอ๋อร์หัวเราะเสียงดังออกมา
การหัวเราะทั้งที่ถูกบีบคออยู่แลดูน่าสยดสยอง
ชาวบ้านที่อยู่ด้านข้างได้ยินเสียงหัวเราะของนางต่างขนลุกขนพองกันเป็แถว พวกเขามองสตรีที่เสียสติไปแล้วด้วยสีหน้าหวาดระแวง กลัวว่านางจะพุ่งออกมาอาละวาด
ถังชิงหรูเห็นนางเป็แบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ หันไปพูดกับบิดาของหรูเอ๋อร์ "ดูจากท่าทางของนางคงมีบางอย่าง้าพูด ท่านปล่อยนางก่อนเถิด ฟังว่านางจะกล่าวว่าอย่างไร"
บิดาของหรูเอ๋อร์ยอมปล่อยมือ เขามองทุกความเคลื่อนไหวของภรรยาด้วยสีหน้าเ็า รอฟังคำอธิบาย
มารดาของหรูเอ๋อร์โอบรอบคอของตนเองจนกระทั่งรู้สึกสบายขึ้น ถึงเอ่ยปาก "นางไม่ได้เกิดจากข้าเสียหน่อย ไยข้าต้องปรนนิบัตินางด้วย ไม่ผิด นางแล่นออกไปข้างนอกจริงๆ ส่วนจะเกิดอะไรขึ้น ข้าไม่รู้ ข้าแค่กลับห้องไปพักผ่อน พอออกมานางก็ไม่อยู่แล้ว ข้าไปตามหานางจนมาถึงที่ลำธาร ตอนนั้นนางตายไปแล้ว หากท่าน้าสังหารข้าเพื่อแก้แค้นให้บุตรสาว ตอนนี้ก็เชิญสังหารได้เลย"
"หมายความว่า ท่านไม่รู้ว่านางตายอย่างไร" ถังชิงหรูกล่าวสรุป
"ใช่" มารดาหรูเอ๋อร์ตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด "ข้าไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น"
ถังชิงหรูมองสตรีที่อยู่ตรงหน้าอย่างพินิจ สายตาของนางหยุดอยู่ที่รองเท้าของอีกฝ่าย "รองเท้าของท่านมีโคลนติด เหมือนกับโคลนที่ติดรองเท้าของหรูเอ๋อร์ ก็แสดงว่าไปเลอะที่ลำธารจริง ดูท่าท่านมิได้โกหก เช่นนั้น เมื่อคนตายที่ลำธาร ข้าย่อมไม่ใช่ฆาตกร ยามออกจากบ้านของพวกท่าน ข้าไปทางตะวันออก ซึ่งอยู่สวนทางกับลำธาร ส่วนคนร้ายคือผู้ใด ก็เป็เื่ที่พวกท่านต้องตรวจสอบกันเอง ตอนนี้ทุกท่านก็ควรจะไปได้แล้วกระมัง ข้ายังต้องตรวจให้ผู้อื่นอยู่นะ"
ทุกคนต่างมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกละอายใจที่ผลลัพธ์ออกมาเป็เช่นนี้ ผู้อื่นอุตส่าห์มีใจเมตตามาตรวจรักษาให้ แต่กลับถูกเข้าใจผิดว่าเป็ฆาตกร แม้ว่าจะเป็คนดีมีเมตตาอย่างไร ยามนี้ก็ต้องมีโมโหโทโสกันบ้าง
บิดาของหรูเอ๋อร์นั่งเอามือกุมศีรษะร้องไห้คร่ำครวญด้วยความขมขื่น "ลูกเอ๋ย ลูกสาวของพ่อ เ้าเป็เช่นนี้ได้อย่างไร ไอ้ชาติชั่วคนไหนที่มันทำร้ายเ้าจนตาย"
ชาวบ้านที่อยู่ด้านข้างได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆ มีคนเข้ามาปลอบประโลม "พี่ชาย อย่าร้องไห้เลย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนเป็คนใกล้ตายกันทั้งนั้น ท่านก็ถือเสียว่าหรูเอ๋อร์ป่วยตายไปเถิด"
บิดาของหรูเอ๋อร์ได้ยินคนกล่าวเช่นนั้นก็โมโหลุกขึ้นมา เอ่ยวาจาเสียงแข็ง "หรูเอ๋อร์ตายอย่างมีเงื่อนงำ จะให้ข้าทำหูหนวกเป็ใบ้อย่างนั้นหรือ ไม่ได้ ข้าต้องตรวจสอบสาเหตุการตายของนางให้กระจ่าง หากไม่พบความจริงข้าก็จะไม่มีวันเลิกรา ข้าจะต้องลากตัวฆาตกรที่ฆ่าหรูเอ๋อร์ออกมาให้ได้ มันทำกับหรูเอ๋อร์อย่างไร ข้าก็จะให้มันได้ลิ้มรสชาติแบบเดียวกัน"
"เอ้อ... เช่นนั้นก็เท่ากับฆ่าคนน่ะสิ การฆ่าคนผิดกฎหมาย เ้าทำแบบนี้ มิเป็การทำให้คนร้ายได้สมดังใจหรอกรึ" ชายชราที่อยู่ด้านข้างพยายามเกลี้ยกล่อมปากเปียกปากแฉะ
"นั่นสิ บิดาหรูเอ๋อร์ เด็กไม่อยู่แล้ว เ้ายังต้องทำใจไว้บ้าง" คนอื่นๆ ต่างช่วยพูดอีกแรง
"คนตายไม่ใช่บุตรสาวของพวกเ้านี่ ใครจะพูดอย่างไรก็ย่อมได้ ลองมาเป็บุตรสาวของตนเองดูบ้าง เกรงว่าคงไม่ได้ดีไปกว่าข้าเท่าไรหรอก" บิดาของหรูเอ๋อร์แค่นเสียงเยาะ
พวกชาวบ้านต่างสีหน้าบึ้งตึง แม้ว่าจะเห็นใจบิดาของหรูเอ๋อร์ที่ต้องสูญเสียบุตรสาว และเข้าใจว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี แต่พอได้ยินคนสาปแช่งบุตรธิดาของตนเองก็ไม่อาจใจเย็นได้
"ช่างเหอะ ถือเสียว่าความหวังดีมันเป็แค่ของไร้ค่าก็แล้วกัน" มีคนเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ "บ้านข้ายังมีงานอีกมากไม่อยู่ให้เสียเวลาดีกว่า"
"บ้านข้าก็เหมือนกัน" ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างพากันจากไปทีละคน
ไม่ช้าสถานที่แห่งนั้นก็เหลือเพียงถังชิงหรู เสี่ยวเยว่เอ๋อร์ บิดาของเยว่เอ๋อร์ บิดาของหรูเอ๋อร์ มารดาของหรูเอ๋อร์ แล้วก็อีกศพหนึ่งตั้งอยู่บนพื้น
ถังชิงหรูย่อตัวลงฝังเข็มให้บิดาของเยว่เอ๋อร์
เขาเป็โรคประสาท ก็แสดงว่าสมองมีปัญหา ตอนนี้นางต้องดูก่อนว่าสมองของเขายังสามารถรักษาได้อยู่หรือไม่ หากมิอาจรักษาได้ ก็คงได้แต่รักษาอาการเจ็บป่วยทางกายเท่านั้น
ร่างกายของเขาไม่ได้มีปัญหาใหญ่มาก หากกล่าวถึงปัญหา ก็เพียงแต่ไม่ได้รับการบำรุงที่ดี ซึ่งคนในหมู่บ้านต่างก็มีอาการเช่นนี้กันทั้งสิ้น
ขนาดแค่จะกินอิ่มท้องยังทำไม่ได้ ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงว่าจะได้กินอะไรดีๆ พออดอยากเช่นนี้บ่อยครั้ง โรคกระเพาะจึงเป็อาการที่พบได้ในทุกครัวเรือน หลังจากนั้นก็มีโรคอื่นๆ ตามมา
ถังชิงหรูผสมผสานการฝังเข็มกับความสามารถพิเศษส่วนตัวในการขุดเอาความทรงจำในสมองของบิดาเยว่เอ๋อร์ออกมา ไม่นานนัก เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
บิดามารดาของหรูเอ๋อร์ยังคงนั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น บิดาของหรูเอ๋อร์จมอยู่กับการจากไปของบุตรสาว ส่วนมารดาหรูเอ๋อร์ก็หน้าง้ำไม่พูดไม่จา เอาแต่มองพื้นราวกับท่อนไม้ เบื้องหน้ายังมีศพนอนอยู่ เด็กหญิงตัวน้อยที่เมื่อครู่ยังดูเหมือนมีชีวิต ยามนี้ได้เปลี่ยนเป็เย็นเฉียบดั่งน้ำแข็ง สีหน้าขาวซีด แลดูน่าหวาดกลัว
เยว่เอ๋อร์คุกเข่าอยู่หน้าบิดาของตนเอง พยุงเขาขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ราวกับทารกที่เพิ่งคลอดอย่างไรอย่างนั้น
"ท่านพ่อ รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่" เสี่ยวเยว่เอ๋อร์มองบิดาด้วยความวิตกกังวล
บิดาของเขามองไปรอบด้านอย่างงุนงง ก่อนกล่าวกับเด็กน้อยว่า "เยว่เอ๋อร์ นี่คือที่ไหน พ่อมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร"
เสี่ยวเยว่เอ๋อร์มองบุรุษตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก จดจ้องอยู่นานไม่เอ่ยคำใดออกมา
บิดาของเยว่เอ๋อร์เห็นบุตรชายทำท่าทางเช่นนั้นก็หยิกแก้มของเขาพลางเอ่ยว่า "โง่ไปแล้วหรือไร พ่อถามเ้า ไยไม่ตอบ นี่คือที่ไหน พ่อมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แม่เ้าล่ะ? ไฉนนางถึงไม่อยู่ แล้วก็พวกเขาเป็ใคร"
เยว่เอ๋อร์สูดน้ำมูก พูดไปร้องไห้ไป "ท่านพ่อ ท่านแม่ไม่อยู่แล้ว ที่นี่คือหมู่บ้านสกุลหลี่ เป็สถานที่ที่มีแต่คนป่วย ่ก่อนท่านไม่สบาย แม้แต่เยว่เอ๋อร์ก็จำไม่ได้ พี่สาวผู้นี้คือท่านหมอ นางเป็คนช่วยท่านไว้"
บิดาของเยว่เอ๋อร์ไม่รู้เลยว่าเกิดเื่อะไรขึ้นบ้าง พอได้ยินบุตรชายบอกว่าถังชิงหรูเป็หมอ และช่วยตนเองไว้ สีหน้าของเขาก็ยังคงงุนงงเหมือนเดิม
"ตอนนี้เขายังไม่หายขาด แค่ความทรงจำคืนมาชั่วคราวเท่านั้น" ถังชิงหรูบอกกับเยว่เอ๋อร์
แม้ว่าถ้อยคำประโยคนี้จะฟังดูโหดร้าย แต่สิ่งที่ควรพูดอย่างไรก็ต้องพูดให้ชัดเจน ยิ่งมีความหวังมากเท่าไรก็ยิ่งผิดหวังรุนแรงเท่านั้น
"พี่สาวทำให้บิดาข้ามีสติแจ่มชัดมาได้ครู่หนึ่ง ก็ย่อมสามารถรักษาให้หายขาดได้เป็แน่ เยว่เอ๋อร์เชื่อมั่นในตัวท่าน" เยว่เอ๋อร์มองถังชิงหรูด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความเชื่อถือ
ถังชิงหรูรู้สึกกดดันอย่างมาก นางส่ายหน้าเบาๆ ก่อนลูบศีรษะของเยว่เอ๋อร์กล่าวว่า "ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ เวลาไม่เช้าแล้วข้ากลับก่อนล่ะ"
ขณะที่ถังชิงหรูกำลังเตรียมจะจากไป บิดาของหรูเอ๋อร์ก็เข้ามากอดขานางไว้ นางสะดุ้งด้วยความใ ก่อนยกเท้าเตะออกไปด้วยสัญชาตญาณ
บิดาของหรูเอ๋อร์มิตอบโต้ ปล่อยให้ถังชิงหรูเตะเข้ากลางอกจนหงายหลังไป หลังจากนั้นก็ตะกายขึ้นมากอดขาของนางต่อ
"ท่านทำอะไรกันเนี่ย" ถังชิงหรูโกรธจัด "หากยังทำแบบนี้อีก อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ"
บิดาหรูเอ๋อร์เอ่ยทั้งน้ำตา "แม่นาง ท่านเฉลียวฉลาดเพียงนี้ ต้องช่วยข้าค้นหาความจริงได้แน่ ขอร้องท่าน โปรดช่วยข้าด้วยเถิด"
ถังชิงหรูหัวเราะเยาะ เอ่ยวาจาอย่างเ็า "ข้าจะไม่ช่วยคนที่ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว บุตรสาวท่านตายอย่างไร ก็ไปตรวจสอบให้กระจ่างเอาเองสิ หนึ่งข้าไม่ใช่เ้าหน้าที่ทางการ สองข้าหาใช่คนในครอบครัวของท่าน ไม่มีเหตุผลที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวเื่ของชาวบ้าน ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งมาก อย่ามารบกวนข้าอีก"
"ไม่ แม่นางเป็คนดี มิเช่นนั้นท่านจะมาช่วยคนแปลกหน้าที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างพวกเราได้อย่างไร" บิดาของหรูเอ๋อร์มองนางด้วยสีหน้าอ้อนวอน