จามรีดับสิ้นไปแล้วทว่าอีกฝ่ายก็ย่ำแย่มิแพ้กัน หัวหน้าเผ่าวานรแขนเหล็กหายใจไม่ออก ยามนี้ปราณเหมันต์แช่แข็งอวัยวะภายในของมันจนหมดแล้ว มาดแม้นเป็เทพเซียนบนชั้นฟ้าก็ยังช่วยมิได้
จูชิงกวาดสายตามองดอกบัวสีน้ำเงินที่หยั่งรากอยู่ในหนองน้ำ
วานรแขนเหล็กกับจามรียอมต่อสู้จนตัวตายเพื่อ่ชิงสิ่งนี้ แน่นอนว่ามันจักต้องมิใช่ของล้ำค่าสามัญธรรมดาๆ แน่ บางทีอาจเป็สมบัติล้ำค่าฟ้าดิน ไม่เช่นนั้นอสูรดึกดำบรรพ์คงไม่กระหายอยาก สำหรับจอมยุทธ์แล้ว มันก็คือสิ่งล้ำค่าที่มีประโยชน์ยวดยิ่งกับการบำเพ็ญเพียรเช่นกัน
จูชิงเคลื่อนกายเข้าใกล้หนองน้ำ อุณหภูมิรอบๆ หนองน้ำต่ำกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบริเวณใกล้เคียงกับดอกบัวนั้นเย็นะเืจนแทบอยู่ในจุดต่ำสุด
“บัวหยาดน้ำฟ้าหกแฉก อย่าเข้าไปใกล้เชียว ไอเย็นที่แผ่ซ่านออกมาสามารถแช่แข็งเ้าได้ในพริบตาเดียว” เฒ่าปีศาจห้ามปรามจูชิงไว้ก่อน
ได้ยินดังนั้นจูชิงก็โยนหินแถวนั้นออกไปทางดอกบัวก้อนหนึ่ง ยังมิทันัักับดอกบัว ก้อนหินก็ถูกแช่แข็งก่อนที่จักสลายกลายเป็เสี่ยง!
“น่ากลัวยิ่ง ดีที่ข้าไม่ผลีผลามไปแตะมัน!” ครั้นจูชิงคิดว่าตัวเองอาจถูกดอกบัวพิสดารแช่แข็ง กายาพลันสั่นสะท้านขึ้นมา
โชคดีที่แม้บัวหยาดน้ำฟ้าหกแฉกจักมีปราณเหมันต์น่าพรั่นพรึง ทว่าอุณภูมิในหนองน้ำมิได้ต่ำมาก ยังคงอยู่ในระดับที่จูชิงพอทนไหว
จูชิงขับเคลื่อนลมปราณ ใช้ลมปราณปัดป้องครอบคลุมกายาต้านทานความเย็นแล้วเดินเข้าไปในหนองน้ำ
“เย็นยิ่งนัก!” ถึงจักมีลมปราณปัดป้อง แต่เมื่อสืบเท้าเดินเข้าไปในหนองน้ำ กายายังสั่นสะท้านเพราะความหนาวเย็นอย่างอดมิได้
จูชิงก้าวเดินเข้าไปทีละนิดกระทั่งเพียงพอที่จะมองเห็นว่าแท้จริงแล้วมีหยกเย็นชิ้นหนึ่งอยู่ใต้ดอกบัว ซึ่งดอกบัวหยั่งรากอยู่ในหยกเย็น!
ทว่าไอเย็นที่แผ่นซ่านออกมาจากหยกเย็นน่าหวาดหวั่นสุดแสน จูชิงมิอาจเข้าใกล้ได้ในระยะสิบฟุต!
“ต้องถอดใจทั้งแบบนี้หรือ?” จูชิงพึมพำอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ของล้ำค่าอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ กลับคว้าไว้ไม่ได้
ทันใดนั้นแสงโลหิตแสงหนึ่งพุ่งจากอกของจูชิงห่อหุ้มหยกเย็นเอาไว้ พลานุภาพเหลือล้ำเกินหยั่ง ถึงกับเคลือบคลุมกลั่นหลอมหยกเย็น!
จูชิงตะลึงลานคิดไม่ถึงว่าหินโลหิตจักทรงพลังถึงเพียงนี้!
หยกเย็นขนาดใหญ่เกือบหนึ่งฟุตหดเล็กเหลือเพียงหนึ่งกำปั้น กระทั่งไอเย็นะเืที่แผ่ออกมาราวกับจักแช่แข็งทุกสรรพสิ่งก็ดับสูญไปในพริบตา
จูชิงลูบไล้หยกเย็นขนาดเท่ากำปั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แท้จริงแล้วไอเย็นมิได้จางหายไปไหน หากหลอมผสานรวมอยู่ในหยกเย็นแทน
ขนาดปราณเหมันต์ของดอกบัวยังถูกกลั่นหลอม แท้จริงแล้วหินโลหิตนั้นมีพลานุภาพล้ำลึกปานใดกันแน่ จูชิงครุ่นคิดขณะถือสมบัติล้ำค่าทั้งสองเอาไว้ในมือโดยที่มิได้รู้สึกอึดอัดใดๆ เลยแม้แต่น้อย
ก่อนที่จักจากไปจูชิงก็หยิบหินหยกที่กองอยู่ใต้หนองน้ำมาด้วยหลายสิบชิ้น
ก้าวเดินไปพลางจูชิงก็ตกแต่งขัดเกลาหินหยกเป็ขวดหยกไปพลาง จากนั้นก็นำโลหิตบริสุทธิ์ที่สกัดจากหินโลหิตใส่ลงไปในขวด
เขาแยกโลหิตบริสุทธิ์ของจามรีกับหัวหน้าเผ่าวานรแขนเหล็กต่างหาก โลหิตบริสุทธิ์ของอสูรดึกดำบรรพ์มีพลานุภาพแกร่งกล้ายิ่งกว่าโลหิตบริสุทธิ์อื่นใด
ทั้งจูชิงยังพบลูกแก้วสองอันในหัวของจามรีกับหัวหน้าเผ่าวานรแขนเหล็ก ลูกแก้วของวานรแขนเหล็กเป็สีทมิฬมืด ส่วนของจามรีเป็สีฟ้าคราม
ในลูกแก้วอุดมไปด้วยลมปราณจำนวนมหาศาล เขานำลูกแก้วทั้งสองใส่ลงไปในขวดหยกอย่างไม่รอช้า!
“หัวขโมย!” ระหว่างที่จูชิงกำลังเสวยสุขกับของล้ำค่า จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง ช่างเป็เสียงที่คุ้นเคยยิ่งนัก
จูชิงหันขวับประหนึ่งเครื่องจักร ใบหน้าโฉมสะคราญของซั่งกวานจือหนิงประจักษ์ในคลองจักษุ ถึงจักงดงามปานใด หากแต่ในสายตาของเขาแล้ว นางมิต่างอะไรกับปีศาจ!
“เ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” จูชิงฝืนยิ้ม
“เ้าหนู เ้าโชคดีเสียจริง มีสาวงามติดใจจนตามมาถึงที่นี่!” เฒ่าปีศาจหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“ท่านมีความสุขที่เห็นข้าทรมานอย่างนั้นหรือ?” จูชิงกลอกตา
“คาดไม่ถึงล่ะสิ” ซั่งกวานจือหนิงแค่นเสียงหึ
“คาดไม่ถึง คาดไม่ถึงเลย เ้าก็คงไม่อยากเห็นหน้าข้าเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ ถ้างั้นข้าขอตัวก่อน” จูชิงหัวเราะ หันหลังวิ่งหนีเร็วยิ่งกว่ากระต่าย
“ฟึ่บ!” ฉับพลันกระบี่ยาวเล่มหนึ่งพุ่งทะลวงผ่านหน้าจูชิง!
จูชิงรีบยกมือขึ้นสองข้างด้วยความใ ไม่กล้าขยับเท้าแม้ครึ่งก้าว พลังของซั่งกวานจือหนิงน่าสะพรึงเกินหยั่งถึง แม้เขาจักเป็จอมยุทธ์แล้ว หากแต่ก็ยังมิใช่คู่ประมือของนาง
“หืม? วานรแขนเหล็ก จามรีเหมันต์ เ้าเป็คนฆ่าพวกมันงั้นหรือ” แววตาของซั่งกวานจือหนิงดูประหลาดใจเล็กน้อย
“ปะ…เปล่า พวกมันฆ่ากันเองต่างหาก ข้าแค่บังเอิญเดินผ่านมา!” จูชิงรีบอธิบาย
“นั่นสินะ อย่างเ้าแค่สบตากับอสูรดึกดำบรรพ์ก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว” ซั่งกวานจือหนิงพยักหน้า
จูชิงกลอกตา นางไม่คิดจะไว้หน้าเขาสักหน่อยรึ
“เ้าซ่อนอะไรไว้ในเสื้อ?” ซั่งกวานจือหนิงเลิกคิ้วเอ่ยถามฉงนสงสัย! การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของจูชิงย่อมไม่หลุดรอดสายตานาง
“นี่น่ะหรือ เ้าอยากได้มั้ยล่ะ ถ้าเ้าอยากได้ ข้าให้เ้า!” จูชิงหยิบดอกบัวสีน้ำเงินออกมาโดยไม่รอช้า
“บัวหยาดน้ำฟ้าหกแฉก!” ซั่งกวานจือหนิงอุทานด้วยความตกตะลึง กลิ่นหอมลอยสายหนึ่งโชยออกมาจากกายอรชรที่เข้ามา่ชิงบัวหยาดน้ำฟ้าหกแฉกไปจากมือของจูชิง
บัวหยาดน้ำฟ้าหกแฉกเป็สมุนไพรดึกดำบรรพ์ซึ่งหายสาบสูญไปนานมากแล้ว มันเป็ของล้ำค่าหายาก กระทั่งผู้าุโขุนเขากระบี่เทียนหยวนยังปรารถนา้า!
“เ้าค่อยๆ เชยชมมันไปนะ ข้าไปล่ะ” ไม่ทันพูดจบลมปราณทะลักทลายจากเท้าของจูชิง ทั้งร่างโจนทะยานหายวับไปในป่าประเดี๋ยวนั้น
เมื่อเห็นว่าจูชิงหนีไปอีกแล้ว ซั่งกวานจือหนิงกระทืบเท้าอย่างมีโทสะ “ไอ้หัวขโมย เ้าจะหนีไปไหน!” ซั่งกวานจือหนิงเบิกตาทั้งสองกว้างพุ่งตามจูชิงไป!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้