เมื่อกลับมาถึงจวนอ๋อง ม่อหลิงหานก็รีบร้อนวิ่งพาเยว่เฟิงเกอไปที่โรงหมอ
ข้ารับใช้ทุกคนที่เห็นฉากนี้ต่างตกอกใ ล่าถอยไปอีกด้าน ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เห็นเพียงพระชายาหลับตาสนิทคล้ายว่าสลบไป
ม่อหลิงหานมีสีหน้าร้อนรน ทำให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงความร้ายแรงของเื่นี้
ตอนนี้หัวใจของม่อหลิงหานแทบกระดอนออกมาแล้ว ก่อนหน้านี้เป็เพราะเขา เยว่เฟิงเกอถึงได้ล้มศีรษะกระแทกพื้นจนเืออก ตอนนี้ก็ยังถูกคนวางยาอีก ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่ายาพิษในสุรานั้นมีฤทธิ์ร้ายแรงหรือไม่
หากนางเป็อะไรขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร?
ในใจคิดเช่นนี้ ฝีเท้าก็ยิ่งก้าวถี่ขึ้น เดินเร็วขึ้นจนแทบจะบินไปแล้ว
เมื่อชิงจื่อได้ข่าวว่าพระชายาของนางเกิดเื่ขึ้นก็รีบร้อนวิ่งมาดูทันที
ม่อหลิงหานเพิ่งมาถึงโรงหมอ ก็ะโเรียกหมอประจำจวนทันที
หมอประจำจวนรีบออกมาจากเรือนหลัง และได้เห็นพระชายาหลับตาปี๋ สลบไม่ได้สติ เขาก็รีบให้ม่อหลิงหานวางร่างเยว่เฟิงเกอลงบนเตียง เมื่อจับชีพจรแล้วถึงได้ทราบว่าที่แท้นางถูกวางยา
โชคดีที่ฤทธิ์ของยาพิษนี้ไม่รุนแรงนัก และถอนได้โดยง่าย
หมอประจำจวนนำยาออกมาเม็ดหนึ่ง เตรียมจะป้อนให้เยว่เฟิงเกอ แต่สุดท้ายกลับถูกม่อหลิงหานแย่งไป
ชายารักของเขาจะให้ชายอื่นััได้อย่างไร
เมื่อครู่หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์เร่งด่วน ต้องให้หมอประจำจวนจับชีพจรให้ ก็เกรงว่าแม้แต่ข้อมือของเยว่เฟิงเกอ หมอประจำจวนคนนี้ก็ยังไม่อาจััได้
หมอประจำจวนยืนงงอยู่ด้านข้าง มองม่อหลิงหานป้อนยาเม็ดนั้นใส่ปากเยว่เฟิงเกอ
การได้เห็นเขามีท่าทีระมัดระวังอย่างยิ่งเช่นนี้ ทำให้หมอประจำจวนรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่เหมือนท่านอ๋องที่พวกเขารู้จักแม้แต่น้อย
หลังจากเยว่เฟิงเกอกินยาเม็ดนั้นลงไป เพียงไม่นานก็ฟื้นขึ้นมา
นางส่งเสียง “อืม” ออกมาแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ
สิ่งแรกที่ปรากฏต่อสายตานางคือหน้าใหญ่โตของม่อหลิงหาน
เมื่อเห็นว่าเขากำลังมองนางด้วยสีหน้าห่วงกังวล เยว่เฟิงเกอถึงได้นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ตนถูกคนวางยา
“ชายารักรู้สึกเป็อย่างไรบ้าง ดีขึ้นแล้วหรือไม่? ” ม่อหลิงหานยื่นมือไปััหน้าผากของเยว่เฟิงเกอ ดีที่นางไม่ได้ไข้ขึ้น
เยว่เฟิงเกออยากจะลุกขึ้นนั่ง ม่อหลิงหานก็รีบเข้าไปประคอง
“ข้าไม่เป็ไรแล้ว แค่รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย” เยว่เฟิงเกอพูดพลางลูบศีรษะตน
ม่อหลิงหานเห็นว่านางเวียนศีรษะก็รีบหันมองหมอประจำจวน
“นี่มันอะไรกัน เหตุใดยาเ้าถึงมีผลข้างเคียงรุนแรงเช่นนี้? ”
หมอประจำจวนกล่าวตอบ “ไม่ใช่นะพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง...”
เขากำลังจะพูดอะไรต่อ แต่กลับถูกสายตาคมราวใบมีดของม่อหลิงหานทำเอาตกอกใ
ยาของเขามีผลข้างเคียงที่ใดกัน ก็แค่ยาถอนพิษธรรมดาหนึ่งเม็ด ส่วนเหตุที่พระชายาเวียนศีรษะ นั่นเป็ผลข้างเคียงจากการที่นางถูกคนวางยาต่างหากเล่า เข้าใจหรือไม่?
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานกำลังจะโทษหมอประจำจวน นางรีบกล่าวว่า “เื่นี้จะโทษหมอประจำจวนไม่ได้ เป็อาการปกติหลังฟื้นจากการโดนวางยาเพคะ”
ม่อหลิงหานถลึงตาใส่หมอประจำจวนไปทีหนึ่ง ถึงได้ประคองเยว่เฟิงเกอไปจากโรงหมอ
เมื่อคนทั้งสองจากไปแล้ว หมอประจำจวนถึงได้สูดลมหายใจเข้าไปไปเฮือกใหญ่
แรงกดดันเมื่อครู่ทำเอาเขาเกือบหายใจไม่ออก
กู้เฟิงเองก็เพิ่งกล้ายื่นศีรษะตนออกมาจากเรือนหลังในตอนนี้เอง
ท่าทางของท่านอ๋องเมื่อครู่ช่างน่าในัก ทำเอาเขาไม่กล้าโผล่หัวออกมาเลยทีเดียว
ม่อหลิงหานประคองเยว่เฟิงเกอกลับเรือนเยว่เหยา เขายืนยันจะให้นางเอนกายพักผ่อนบนเตียง ส่วนตนคอยเฝ้าอยู่ข้างเตียง
“ท่านอ๋อง ตอนนี้หม่อมฉันไม่เป็ไรแล้วจริงๆ เพคะ” ตอนนี้เยว่เฟิงเกอราวกับเป็สมบัติล้ำค่าของแว่นแคว้นก็ไม่ปาน นางถูกม่อหลิงหานประคบประหงมจนรู้สึกไม่เป็ธรรมชาติ
ม่อหลิงหานจะเชื่อคำของเยว่เฟิงเกอได้ที่ไหนกัน เมื่อครู่เขาเห็นนางร้องโวยวายว่าเวียนศีรษะ จะหายเร็วเพียงนั้นได้อย่างไร
“เ้าอย่าเพิ่งพูดอะไรมากมาย หลับตานอนพักสักหน่อยเถิด เปิ่นหวางจะอยู่เป็เพื่อนชายารักที่นี่” ม่อหลิงหานนั่งลงข้างกายอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจากไปแม้แต่น้อย
เมื่อครู่ที่เยว่เฟิงเกอฟื้นขึ้นมา นางก็รู้แล้วว่าตนถูกพิษอะไร
มันเป็พิษไร้สีไร้กลิ่น หากถูกพิษชนิดนี้เข้าไป คนคนนั้นจะสลบไสลไปสามวันถึงจะฟื้น แต่เนื่องจากพิษชนิดนี้ไม่ได้ร้ายแรง จึงไม่ได้ส่งผลร้ายต่อร่างกายคนมากนัก
เมื่อครู่ตอนที่เยว่เฟิงเกอดื่มดอกท้อเมามายลงไป นางไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใด จึงถูกคนวางยาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อนางอธิบายเื่ฤทธิ์ของพิษนี้ออกมา ม่อหลิงหานถึงได้เบาใจลง
โชคดีที่พิษชนิดนี้มีผลข้างเคียงไม่ร้ายแรงนัก ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องสั่งให้ถานอี้และเฉียวเฟยแยกศพของหลิ่วซานเหนียงออกเป็แปดชิ้น
หลังจากได้รับยาถอนพิษจากหมอประจำจวน ตอนนี้เยว่เฟิงเกอก็เรียกได้ว่าไม่เป็อะไรแล้วจริงๆ
ตอนนี้สิ่งที่นางอยากทำที่สุดก็คือล็อกอินเข้าเกมแล้วไปตีบอสที่ก่อนหน้านี้ยังตีไม่สำเร็จให้สำเร็จ เพื่อจะได้เหรียญในเกมเพิ่ม
นอกจากนี้ นางยังต้องสะสมอาวุธในเกมให้พรั่งพร้อมเพื่อเสริมกำลังให้ตน
ส่วนสองพี่น้องคู่นั้น ตอนนี้นางยังไม่มีอารมณ์ไปสนใจความเป็ความตายของพวกเขา ให้พวกเขาอยู่ในด่านกลไกไร้เทียมทานไปก่อนก็แล้วกัน
เพียงแต่ม่อหลิงหานยังอยู่ที่นี่ นางจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นก็ไม่ได้
หากถูกเขาพบเข้าว่ามู่เหยียนเฉินอยู่ในโทรศัพท์นั่นจะทำอย่างไร?
จากนิสัยของม่อหลิงหาน เขาจะไม่โยนโทรศัพท์ลงพื้นจนแหลกละเอียดหรือ?
ม่อหลิงหานเห็นว่าเยว่เฟิงเกอกลอกตาไปมาคล้ายกำลังวางแผนอะไรอยู่ เขาก็เอามือทาบลงบนดวงตาของนาง บังคับไม่ให้นางกลอกตาไปมา
“หลับตาลง พักผ่อนเสียก่อน” ม่อหลิงหานออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานไม่มีทีท่าจะจากไป นางทำได้แค่ต้องหลับตาลง แต่เพียงไม่นานก็หลับไปจริงๆ
นางหลับไปทั้งเช้า และตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะท้องหิว
เมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าม่อหลิงหานไปจากเรือนเยว่เหยาแล้ว ส่วนบนโต๊ะในห้องของนางมีกล่องอาหารวางอยู่
กลิ่นอาหารหอมหวนลอยโชย เยว่เฟิงเกอค่อยๆ คลานลงจากเตียงแล้วเปิดกล่องข้าวออกดู ข้างในล้วนเป็อาหารที่นางชอบ
นางหิวมาทั้งเช้าแล้ว หากไม่ใช่เพราะเมื่อครู่หลับลึกเกินไปก็เกรงว่าตอนนี้คงจะหิวจนเป็บ้าไปแล้ว
ในที่สุดตอนนี้ก็มีของกินแล้ว เยว่เฟิงเกอรีบหยิบอาหารในกล่องข้าวออกมากินอย่างตะกละตะกลาม
ชิงจื่อเดินเข้ามาเห็นพระชายาของนางกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยก็ยิ้มแย้ม ตักข้าวให้เยว่เฟิงเกอเพิ่มอีกถ้วย
ชิงจื่อยิ้มตาหยีมองเยว่เฟิงเกอกินอย่างตะกละ อดชมเชยออกมาไม่ได้ว่า “อาหารเหล่านี้เป็ท่านอ๋องที่มีบัญชาให้ห้องเครื่องตระเตรียมไว้ให้พระชายา ดูท่าท่านอ๋องจะทรงรักใคร่พระชายามากเลยนะเพคะ”
เมื่อก่อนเยว่เฟิงเกอมักจะขัดคำพูดเหล่านี้ของชิงจื่อ แต่ตอนนี้นางไม่มีเวลาว่างไปปฏิเสธหรือคัดค้านอะไรด้วยทุ่มความสนใจทั้งหมดที่มีไปที่อาหารตรงหน้า เพราะอาหารเหล่านี้อร่อยเหลือเกิน
เยว่เฟิงเกอกินข้าวไปสองถ้วย ส่วนกับข้าวในกล่องข้าวต่างเว้าแหว่งจนเห็นก้นแล้วทั้งสิ้น
ท้ายที่สุดเยว่เฟิงเกอถึงได้เช็ดปากมันแผล็บด้วยความพอใจ ลูบท้องกลมๆ ของตน ทั้งยังอดเรอส่งเสียงออกมาเบาๆ ไม่ได้
“ในที่สุดก็อิ่มเสียที พอใจจัง” เยว่เฟิงเกอพูดพลางเรอออกมาอีกครั้ง
เมื่อชิงจื่อได้เห็นพระชายาของตนกลับมาแข็งแรงและมีชีวิตชีวา ก็ให้รู้สึกมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ
เมื่อครู่ตอนที่เยว่เฟิงเกอถูกท่านอ๋องอุ้มไปที่โรงหมอ ใบหน้าซีดขาวของผู้เป็นายทำเอาชิงจื่อใไม่น้อย
ตอนนี้ดียิ่ง พระชายาของนางกลับมาเป็ปกติแล้ว
ชิงจื่อเก็บกล่องข้าวพลางพูดว่า “พระชายาเพคะ เมื่อครู่ที่ท่านอ๋องออกไปได้ให้บ่าวแจ้งกับพระชายาหลังตื่นบรรทมว่า พระองค์จะเข้าวังไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้”
เมื่อได้ยินว่าจะเข้าวัง เยว่เฟิงเกอก็รีบร้อนถามว่า “เขาพูดเมื่อใด? ”
“เพิ่งตรัสไปเมื่อครู่เพคะ” ชิงจื่อตอบตามจริง
เยว่เฟิงเกอผุดลุกขึ้นแล้วรีบร้อนวิ่งออกไปจากเรือนเยว่เหยา
นางจะไปเข้าเฝ้าฮองเฮาที่วัง แม้ยาถอนพิษที่นางทำให้ฮองเฮาก่อนหน้านี้จะให้ม่อหลิงหานกินไปหมดแล้ว แต่นางก็อยากจะแวะไปดูว่าอาการของฮองเฮาหนักหนาขึ้นหรือไม่
หากไม่หนักหนา นางสามารถใช้สมุนไพรชนิดเดิมทำยาถอนพิษได้ แต่หากว่าอาการของฮองเฮาหนักกว่าเดิม นางจำต้องปรับแก้สูตรใหม่ เปลี่ยนเป็สมุนไพรตัวอื่น