ซูเฟยซื่อมองดูจือฉินวางขนมเรียงลงตรงหน้าของนางอย่างคล่องแคล่วจนเสร็จนางอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างอ่อนโยน หยิบขนมขึ้นมาเตรียมจะกิน
แต่จู่ๆรถม้าก็ะเืโดยพลัน ขนมนุ่มเป็ปุยถูกซูเฟยซื่อบีบแหลกเป็ผงในทันใด
เดิมคิดว่ารถม้าชนอะไรบางอย่างเข้าแต่ไม่คิดว่าหลังจากการะเืครานี้ รถม้าถึงกับยิ่งสั่นไหวอย่างรุนแรงมากขึ้น
ครานี้ไม่ได้เป็เพียงขนมในมือของซูเฟยซื่อเท่านั้นกระทั่งขนมที่จือฉินนำออกมาจัดเรียงเมื่อครู่ต่างกระจัดกระจายไปหมด
นี่...ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วแม้ว่านางจะไม่เคยไปที่บ้านตระกูลหลี่มาก่อน ก็รู้ว่าตระกูลหลี่ไม่ได้อยู่ไกลจากจวนอัครมหาเสนาบดี
แต่ถนนที่เพิ่งถูกสร้างในแถบพื้นที่นี้เป็ไปได้อย่างไรที่ขรุขระขนาดนี้?
เมื่อตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติซูเฟยซื่อรีบสั่งการ “จือฉิน เ้าไปดูว่าเกิดเื่อะไรขึ้น?”
“เ้าค่ะ”จือฉินเห็นแบบนี้ก็ใบ้าง มือยึดผนังพยุงกายขึ้นแล้วเดินโงนเงนออกไป “เ้าขับรถม้าประสาอะไร? คิดจะทำร้ายคุณหนูหรือ?”
“แม่นางขออภัยม้าตัวนี้จู่ๆ ก็ตะบึงวิ่งเหมือนเป็บ้า ข้าน้อยก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น”คนขับรีบตอบอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงเรียบสงบ ฟังไม่ออกถึงความร้อนใจสักนิด
เห็นแบบนี้คิ้วของซูเฟยซื่อยิ่งขมวดแน่นขึ้น ในเวลาชนิดนี้คนขับควรตึงเครียดมากที่สุดเพราะไม่สามารถควบคุมม้าได้ ไม่เพียงแต่นางกับจือฉิน กระทั่งคนขับรถก็ต้องประสบความพินาศด้วยเช่นกัน
แต่น้ำเสียงของเขาไม่เพียงแต่ไม่แสดงความร้อนใจยังดูเหมือนแฝงความตื่นเต้นเร้าใจไว้กระแสหนึ่ง นี่มันเื่อะไรกัน?
“นี่มันเื่อะไรกันม้าวิ่งเร็วมากขนาดนั้นแล้วเ้ายังสะบัดแส้ฟาดใส่ ที่แท้เ้าบังคับรถม้าเป็หรือไม่?” จือฉินะโเสียงดังเพราะะเื จนเสียงสั่นไปหมดแล้ว
ได้ยินคำพูดของจือฉินประโยคนี้ซูเฟยซื่อมั่นใจแล้วว่ารถม้าคันนี้มีพิรุธ
ทว่าปล่อยให้อยู่ในสภาพนี้ต่อไปต้องเกิดอุบัติเหตุแน่ๆ
เพราะนางได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงแหลมดังมาที่ข้างหูแล้ว
นางรีบเปิดม่านทันที
เพียงเห็นรถม้าวิ่งพุ่งเข้าไปกระแทกชนตรงๆตลอด ทำเอาผู้คนบนถนนใหลบหลีกกันอย่างสุดชีวิต กลัวถูกทำให้ได้รับาเ็
หรือว่านี่ก็เป็จุดประสงค์ของนางแซ่หลี่?
ถ้ารถม้าของนางทำให้ผู้คนบนถนนาเ็ละก็เช่นนั้นตำแหน่งของนางในจิตใจของผู้คนต้องถูกทำลายลงแน่นอน
และต่อให้ไม่มีใครได้รับาเ็ผู้คนที่ได้รับความหวาดผวาเ่าั้กับเ้าของร้านขายของแผงลอยที่ถูกทำให้แผงกระจายเละต้องมีความคับแค้นแน่ๆ
ตอนนี้นางแซ่หลี่เพียงหาคนส่วนหนึ่งช่วยกระพือเร่งจุดไฟผลงานที่นางบากบั่นสะสมไว้ในใจของผู้คนอย่างยากลำบากก็จะสูญเปล่าไปในท้ายสุด
“หยุดรถข้าสั่งให้เ้าหยุดรถเดี๋ยวนี้” ซูเฟยซื่อคำรามก้องด้วยความโกรธ
คนขับฟังออกถึงความโกรธในน้ำเสียงของนางแส้ในมืออดไม่ได้ที่จะสั่น แต่ยังทำใจกล้ากล่าวตอบว่า “คุณหนูไม่ใช่ข้าน้อยไม่ยอมหยุดรถ เป็เ้าม้าตัวนี้ที่บ้าไปแล้ว หยุดไม่ได้เลยขอรับ”
เสียงนี้...ทำไมคุ้นขนาดนี้?
เมื่อครู่ซูเฟยซื่อไม่ได้สังเกตตอนนี้หวนระลึกคราหนึ่ง คิ้วเรียวเลิกขึ้นมาแล้ว “หลี่ฉี!”
นางสะเพร่าเกินไปจริงๆถึงกับเพิ่งพบว่าคนขับรถเป็หลี่ฉีที่ปลอมตัวมา
ดูไปแล้วบัตรเชิญของตระกูลหลี่คงเป็เื่เท็จหลี่ฉีคิดหาทางแก้แค้นนางจึงเป็เื่จริง
หลี่ฉีไม่คิดว่าภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวซูเฟยซื่อยังสามารถจำเขาได้ ใจนเกือบจะหยุดมือ
แต่หวนนึกถึงเมื่อคืนขณะอยู่ที่จวนอัครมหาเสนาบดีถูกซูเฟยซื่อฟาดตีอย่างเ็ปยังมีภาพที่ถูกซูเต๋อเหยียนทำให้อัปยศอดสู
ความแค้นเคืองในใจของเขาก็ลุกไหม้ขึ้นมาแล้ว
ครั้งนี้ต้องให้บทเรียนแก่ซูเฟยซื่อเสียบ้าง
เขากัดฟัน“เื่เมื่อคืนข้าผิดจริงข้าตั้งใจมาขับรถให้คุณหนูสามชดใช้ความผิดเป็พิเศษขอรับ”
ชดใช้ความผิดหรือ? นี่เห็นได้ชัดว่าคิดเอาชีวิตของนาง!
ดูไปแล้วเมื่อคืนนางยังลงมือใส่หลี่ฉีเบาเกินไป ควรเอาชีวิตของเขาโดยตรง เพื่อขจัดต้นตอของปัญหา
คิดมาถึงตรงนี้ซูเฟยซื่อก็แทบจะอยากฆ่าเขาระบายความโกรธแค้นทันที
“อ่า”จือฉินที่ยืนเกาะอยู่นอกรถม้ามาตลอด จู่ๆ ก็กรีดร้องใ เนื่องจากเกือบจะถูกเหวี่ยงทิ้งลงไปแล้ว
ซูเฟยซื่อใมากเอื้อมมือไปคว้าแขนของนางอย่างไม่รู้ตัว
แย่แล้วรถม้านี่วิ่งเร็วมาก ทั้งจือฉินไม่เป็วิทยายุทธ์ ถ้าถูกเหวี่ยงทิ้งลงไป ไม่ตายก็พิการแล้ว
ถึงแม้ว่าจือฉินจะเป็เพียงสาวรับใช้คนหนึ่งไม่นับว่าสนิทกับนาง แต่ความจงรักภักดีของจือฉินที่มีต่อนางเป็สิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลย
ดังนั้นนางต้องช่วยจือฉินให้ได้ไม่ยอมให้คนที่ซื่อสัตย์ต่อนางตายเพราะนางอีกเด็ดขาด
“จือฉินเ้าจับมือข้าแน่นๆ อย่าปล่อยเด็ดขาด” ซูเฟยซื่อมือหนึ่งคว้าโครงรถม้าไว้ มือหนึ่งคว้าแขนของจือฉินไว้แน่นนี่จึงหันไปสั่งหลี่ฉีอย่างลำบากว่า “หลี่ฉี หยุดรถเดี๋ยวนี้มิฉะนั้นข้าจะเอาชีวิตเ้า”
เดิมหลี่ฉียังค่อนข้างกลัวซูเฟยซื่อแต่ตอนนี้เห็นนางกระทั่งป้องกันตนเองยังยาก กลับกล้าข่มขู่ตน อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเ็า
ดูไปแล้วเขาไม่ให้ซูเฟยซื่อเห็นสีสันสักหน่อย คงมิอาจลบไฟเผาไหม้ของนาง
คิดจบหลี่ฉีรีบตีโค้งรถม้าทันที ระดับความเร็วของการตีโค้งเลี้ยวกลับนั้นเร็วมาก ร่างผอมบางของจือฉินก็เป็เหมือนผ้าขี้ริ้วที่ถูกเหวี่ยงขว้างไปรอบๆ
เพื่อไม่ให้ถูกเหวี่ยงทิ้งออกไปนางรีบคว้าโครงรถม้าไว้แน่น
แต่การตีโค้งมีขนาดกว้างเกินไปคว้าจับครานี้ ทำให้เล็บของนางครูดจนหลุดออกมาทั้งสองข้าง
“โอ้ย”นิ้วมือทั้งสิบเชื่อมหัวใจ จือฉินปวดจนร้องอย่างอนาถออกมาเสียงหนึ่งกระทั่งริมฝีปากซีดขาวไปแล้ว
ซูเฟยซื่อมองดูสิบนิ้วของจือฉินที่เืสดไหลออกมาเต็มไปหมดปวดใจจนขมวดคิ้ว “หลี่ฉี เ้าพูด ที่แท้้าอย่างไรจึงจะหยุดรถ?”
คำพูดประโยคนี้ของนางก็เท่ากับยอมอ่อนข้อให้หลี่ฉีแต่นางไม่มีวิธีอื่น ถ้าวันนี้บนรถม้ามีนางเพียงคนเดียวนางต้องยืนหยัดแข็งขืนกับหลี่ฉีจนถึงที่สุด
แต่จือฉินไม่เหมือนกันนางไม่เพียงไม่เป็วิทยายุทธ์ ยังเป็ผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง ทนไม่ได้กับการทรมานแบบนี้โดยสิ้นเชิง
หลี่ฉีได้ใจยกมุมปากขึ้นหึ รู้ถึงความร้ายกาจของเขาแล้ว?
ตอนนี้จึงขอความเมตตาใช่สายเกินไปแล้วหรือไม่!
เห็นวิธีนี้ใช้ได้กับซูเฟยซื่อหลี่ฉีก็ตีโค้งเลี้ยวกลับกะทันหันหลายครั้งเสียเลย สลัดเหวี่ยงจนจือฉินเกือบจะเป็ลมตายไป
“จือฉินยืนหยัดไว้ ข้าต้องช่วยเ้าแน่นอน” ดูดวงตาทั้งสองของจือฉินหรี่เล็กน้อยซูเฟยซื่อใจนรีบะโเสียงดัง
เป็ลมไม่ได้ๆเป็ลมไปตอนนี้ต้องตายแน่ๆ
ซูเฟยซื่อร้อนใจจนเกือบกัดฟันแตกไปทั้งปากทำอย่างไรดี ขืนเป็แบบนี้ต่อไป ไม่เพียงจือฉินยืนหยัดไม่ไหว แม้กระทั่งนาง...
ตีโค้งเลี้ยวกลับหลายครั้งทำเอาข้อมือนางหลุดออกจากข้อต่อแล้วนางฝืนทนความเ็ปคว้าจับจือฉินไว้ แต่นางยังสามารถทนได้นานเท่าไร?
ถ้าบังเอิญนางทนไม่ไหวปล่อยมือชีวิตของจือฉิน...
แต่ต่อให้นางสามารถทนได้ไม่ปล่อยมือมือของนางข้างนี้ต้องพิการไปด้วยแล้ว
บุตรสาวที่มือพิการไปแล้วคนหนึ่งซูเต๋อเหยียนจะเห็นความสำคัญได้อย่างไร
ซูเต๋อเหยียนก็เป็ดั่งเครื่องชั่งดูถูกนางก็จะเห็นความสำคัญของนางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียนเมื่อถึงเวลานั้นวันเวลาของนางที่อยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดีต้องลำบากกว่าตอนนี้สิบเท่า
ไม่ไม่ใช่เพียงยากลำบาก นางอาจถึงขั้นต้องตายเสีย
คนตายคนหนึ่งยังจะแก้แค้นให้ตระกูลกู้ได้อย่างไร!
ดูเหมือนจะดูออกถึงความเ็ปบนใบหน้าของซูเฟยซื่อจือฉินอดไม่ได้ที่จะสะอึกสะอื้น “คุณหนู ท่านอย่าห่วงบ่าวเลยรีบปล่อยมือเถิดเ้าค่ะ”
ได้พบกับเ้านายเช่นนี้นับเป็วาสนาที่นางได้สั่งสมมาไม่รู้กี่ชาติดังนั้นตอนนี้แม้ต้องตายนางก็ยินดีแล้ว
เพียงหวังว่าชาติหน้ายังสามารถเป็คนรับใช้ให้ซูเฟยซื่อได้
คิ้วของซูเฟยซื่อขมวดทันทีเพราะความเ็ป เสียงจึงสั่นเครือไปบ้าง “ข้าไม่มีวันไม่สนเ้าเด็ดขาด อย่าพูดอะไรโง่ๆจับไว้แน่นๆ”
ฟังออกถึงความมุ่งมั่นในน้ำเสียงของซูเฟยซื่อจือฉินซาบซึ้งเหลือขนาดและยิ่งกังวลนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้