เวลานี้เองที่หลินเยว่พลันนึกถึงเป้าหมายที่ตนเองได้วางแผนไว้เมื่อคืนตอนอยู่ที่โรงแรมเมื่อคิดถึงเป้าหมายนั้น แล้วกลับมาคิดถึงเงิน 50 ล้านหยวนเบื้องหน้าเขาจึงต้องหัวเราะให้กับความคิดของตนเอง
เมื่อสักครู่เขาคิดอยากจะทำเพื่อเงิน 50 ล้านหยวนโดยต้องล้มเลิกเป้าหมายและแผนการทั้งหมดที่ตนเองวางไว้ช่างไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ คุณค่าของสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เงิน 50 ล้านหยวนจะเอามาเทียบได้เลยและเป้าหมายนั้นก็ไม่ได้ใช้เงินเพียง 50 ล้านหยวนเสียด้วยตอนนี้เขายังต้องพนันหินหยกต่อไป เพื่อให้มีเงินและชื่อเสียงมากขึ้น ถึงจะทำให้เป้าหมายของเขาสามารถเป็จริงได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อหลินเยว่พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วเขาจึงรู้สึกโล่งสบายทั้งร่างกายและจิตใจทันที รอยยิ้มเจื่อนๆ ตรงมุมปากในตอนแรกก็กลายเป็รอยยิ้มน้อยๆจากใจ
อนาคตยังมีหินหยกที่ดีกว่านี้รอเขาอยู่แล้วทำไมเขาต้องผูกมัดตัวเองกับหินหยกก้อนนี้ด้วยล่ะ?
หลินเยว่มองหินหยกที่วางนิ่งอยู่ตรงกลางท่ามกลางผู้คนด้วยสายตาราบเรียบแล้วก็หมุนตัวคิดจะเดินจากไป เพราะการที่เขาอยู่ตรงนี้เขาคงได้แต่ถอนหายใจมองอย่างเงียบๆเท่านั้น
แต่ขณะที่เขากำลังยกเท้าเพื่อออกเดินนั้นพลันได้ยินเสียงคุยระหว่างเถ้าแก่เกาและวัยรุ่นคนนั้นดังขึ้น เขาจึงหยุดก้าวเท้าทันที
“สหายหนุ่ม หินหยกก้อนนี้ราคาเท่าไรหรือ?”เถ้าแก่เกามีท่าทางดีใจอย่างเห็นได้ชัด เขาถามพร้อมรอยยิ้ม
“1.2 ล้าน”เมื่อวัยรุ่นคนนั้นได้ยินคำถามจึงรีบตอบกลับทันทีสายตาที่เขามองเถ้าแก่เกามีประกายความคาดหวัง
“1.2 ล้าน?”
เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเถ้าแก่เกาพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากนั้นจึงพูดขึ้นพร้อมขมวดคิ้วลึก “สหายหนุ่ม ราคานี้สูงเกินไปหรือเปล่าหากไม่มีรอยแตก ราคา 1.2 ล้านหยวนก็ไม่มีปัญหาหรอกนะแต่ตอนนี้มีรอยแตกนี้แล้ว อย่างมากก็มีค่าแค่ 1 แสนเท่านั้นแหละ ราคา 1 แสนหยวน เป็อย่างไรล่ะ? อากาศร้อนขนาดนี้มันไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเด็กๆหรอกนะ คุณขายเสร็จก็รีบกลับบ้านดีกว่า”
และราคาสูงถึง 1.2 ล้านหยวนก็ทำให้คนที่มุงอยู่อุทานออกมาอย่างตกตะลึงมีรอยแตกยังแพงขนาดนี้อีก นี่คิดจะปล้นกันหรือไง!
“1.2 ล้านขาดไปนิดเดียวก็ไม่ได้” วัยรุ่นผู้นี้ส่ายศีรษะอย่างหนักแน่น
ขาดไปนิดเดียวก็ไม่ได้?
คิ้วของเถ้าแก่เกาก็ขมวดลึกขึ้นไปอีกตอนแรกเขาคิดจะจ่ายอย่างมาก 3แสนหยวนเพื่อซื้อหินหยกก้อนนี้ เพราะราคานี้ยังพอมีโอกาสพนันได้บ้างเป็การพนันว่ามีรอยร้าวเล็กๆ ด้านในไม่ค่อยเยอะ หากพนันได้ก็ย่อมเป็เื่ดีแต่หากพนันเจ๊งก็ยังถือว่าขาดทุนไม่มากนัก แต่ทว่าราคา 1.2 ล้านหยวนนี้มันเป็ราคาที่สูงมากจนเกินไป หากซื้อหินหยกที่มีรอยแตกร้าวรอยหนึ่งด้วยราคา1.2 ล้านหยวนสู้ไปพนันหินหยกที่มีลักษณะภายนอกประมาณนี้แต่ไม่มีรอยแตกร้าวยังดีเสียกว่า
“ลดราคาไม่ได้จริงๆ หรือ?” เถ้าแก่เกาลองเป็ครั้งสุดท้าย
“ไม่ได้!”วัยรุ่นผู้นี้ตอบอย่างเด็ดขาด แต่สายตาเขาแฝงไปด้วยความผิดหวัง
เถ้าแก่เกาถอนหายใจอย่างอ่อนใจเขากางมือทั้งสองข้างออกใส่โจวเต๋อเซิง “ช่วยไม่ได้ ผมคิดอยากพนันแต่ราคามันสูงจนเกินไปจริงๆ”
“เหอๆ ผมก็ใกับราคา 1.2 ล้านหยวนเหมือนกัน ผมก็เลยไม่กล้าพนัน”โจวเต๋อเซิงหัวเราะเหอๆ
ที่แท้คุณก็รู้มาั้แ่แรกอยู่แล้วเป็เฒ่าจอมเ้าเล่ห์จริงๆ
ใบหน้าของเถ้าแก่มีรอยยิ้มเล็กน้อยแต่เขากลับด่าอีกฝ่ายในใจไม่รู้กี่รอบแล้ว
สถานการณ์พลิกผัน?
หลินเยว่ได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกเขาก็ตกตะลึงไปในทันทีหลังจากนั้นเขาก็แอบดีใจอย่างบ้าคลั่ง แต่ทว่าใบหน้าของเขายังไม่ทันปรากฏรอยยิ้มเขาก็ต้องชะงักค้างไปอีกครั้ง
1.2 ล้านหยวน?
ตอนแรกเขายังมีเงินเหลืออยู่ 3.6 แสนหยวน หักเงินที่เมื่อวานเขาซื้อหินหยกไป 7หมื่น ตอนนี้เขาเหลืออยู่ 2.9แสนหยวน จำนวน 2.9 แสนกับ 1.2 ล้านมันไม่ได้เป็เพียงตัวเอง 29 ถึง 120 เท่านั้นแต่ด้านหลังของมันยังมีเลข0 ถึง 4 ตัว
ทำอย่างไรดีล่ะ?
หลินเยว่เริ่มรู้สึกร้อนใจนี่เป็โอกาสที่ดีที่จะคว้าหินหยกที่มีหยกมูลค่าสูงถึง 50 ล้านไว้ในมือ แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่มีเงินน่ะสิ!
สถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่แตกต่างกับเขาเห็นเช็คมูลค่า50 ล้านอยู่ตรงหน้าแต่กลับไม่มีมือสักข้างที่จะหยิบขึ้นมาเขาจึงได้แต่ร้อนใจเปล่าๆ เท่านั้น
ขอยืมเงินจากเฮ่อโย่วจ้าง?
แล้วตอนนี้เขาจะไปหาเฮ่อโย่วจ้างที่ไหนล่ะ!
หลินเยว่แอบด่าตัวเองและเฮ่อโย่วจ้างอยู่หลายรอบด่าตัวเองว่าไม่ควรแยกกันเดินกับเฮ่อโย่วจ้าง แล้วด่าเฮ่อโย่วจ้างว่าหายตัวไปไหน!
ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ตัวเขาหวังว่าจะเจอตัวเฮ่อโย่วจ้าง แต่เขากลับเหลือบเห็นโจวเต๋อเซิงอย่างไม่ตั้งใจในใจของเขาเริ่มเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา
ขอยืมเงินจากเขา?
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมองหลินเยว่ก็ต้องยิ้มเจื่อนๆ เขากับอีกฝ่ายไม่ได้มีการติดต่อกันเป็การส่วนตัวเคยติดต่อค้าขายกันแค่ครั้งเดียวด้วยเงิน 4 แสนหยวน แล้วอีกฝ่ายจะยอมให้เขายืมเงินได้อย่างไรล่ะ
ใช่แล้ว!
ในสมองของหลินเยว่เกิดความคิดบางอย่างแวบเข้ามาจนทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างมาก
หินหยก!
ทำไมเขาถึงได้ลืมหินหยกก้อนที่เขาซื้อมาเมื่อคืนไปล่ะ
หลินเยว่ตบหัวและแอบด่าถึงความซื่อบื้อของตัวเองหากนำหินหยกที่เขาซื้อเมื่อวานเอามาผ่าออก มูลค่าของมันจะต้องอยู่ที่ 1.5 ล้านขึ้นไป ดังนั้น เขาควรตกลงซื้อหินหยกมูลค่า 50ล้านก้อนนี้ให้ได้ก่อนหลังจากนั้นค่อยผ่าหินหยกก้อนเมื่อคืนเพื่อขายในราคาดีๆหากขายไม่สำเร็จเขาก็ยอมแลกโดยตรงเลยก็ได้แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาจะต้องตกลงซื้อหินหยกก้อนตรงหน้านี้ให้เรียบร้อยก่อน
ต้องซื้อให้ได้!
หลินเยว่พยายามกดความรู้สึกตื่นเต้นดีใจลงไปเวลานี้เขาห้ามแสดงสีหน้าความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมา เพราะหากเขาทำออกมาแล้วก็อาจจะเป็ที่สังเกตของคนอื่นโดยเฉพาะคนที่มีเจตนาไม่ดีอย่างเถ้าแก่เกา คนผู้นี้ต้องเป็นักธุรกิจจอมเ้าเล่ห์อย่างแน่นอน
“ขอทางหน่อย ขอผมดูหินหยกก้อนนี้ได้หรือเปล่า?”
น้ำเสียงของหลินเยว่ไม่ได้ดังมากแต่ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างได้ยินกันหมดคนที่มุงดูอย่างนึกสนุกต่างรีบแหวกทางออกเป็ช่องเล็กๆ เพื่อให้หลินเยว่เดินเข้ามา
โจวเต๋อเซิงก็มองตามเสียงไปเช่นกันจึงพบว่าเป็เด็กหนุ่มที่ทำการซื้อขายกับเขาเมื่อสองสามวันก่อนเขาจึงยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดทักทายกับหลินเยว่ “คาดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้เจอกันรวดเร็วถึงขนาดนี้เมื่อตะกี๊ยังคิดว่าคุณจะไม่สนใจเสียแล้วคาดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มอย่างพวกคุณยังเปลี่ยนนิสัยที่ชอบร่วมผสมโรงไม่ได้จริงๆ”
หลินเยว่ก็ส่งยิ้มน้อยๆให้กับโจวเต๋อเซิงแล้วพูดตอบ “นั่นสิครับ คาดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้เจอกันรวดเร็วถึงขนาดนี้เมื่อตะกี๊ได้ยินการอธิบายของท่าน ช่างน่าสนใจจริงๆ ผู้น้อยได้รับการสั่งสอนชี้แนะแล้ว”
เถ้าแก่เกากวาดตาสำรวจหลินเยว่ตลอดทั้งตัวเขาแอบครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นจึงถามโจวเต๋อเซิงด้วยความข้องใจ“คุณรู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้ด้วยหรือ?”
“เจอกันแค่ครั้งเดียว ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร”โจวเต๋อเซิงพูดบรรยายการพบกันระหว่างตนเองกับหลินเยว่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเขามองออกว่าเถ้าแก่เกากำลังคิดอะไรอยู่ หากเขาบอกว่าหลินเยว่เป็คนที่พนันจาก 500หยวนได้เป็ 4 แสนหยวนอีกฝ่ายจะต้องสร้างปัญหาในการซื้อหินหยกของเด็กหนุ่มคนนี้อย่างแน่นอนเขามองออกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่เลวเลย เขาจึงพูดเพื่อช่วยเหลือทันที เพราะการพูดเช่นนี้ก็ไม่ต้องออกแรงอะไรนักอีกทั้งเถ้าแก่เกาก็ไม่ใช่คนดีเสียด้วย
เถ้าแก่เกาพยักหน้ารับทราบ เป็เพราะท่าทางนิ่งเฉยของโจวเต๋อเซิงจึงทำให้เขาคิดว่าหลินเยว่เป็เด็กหนุ่มที่โจวเต๋อเซิงยินดีรู้จักด้วยเท่านั้นเพราะในฮ่องกง โจวเต๋อเซิงได้ชื่อว่าเป็คนที่ชอบให้ความสำคัญกับเด็กวัยรุ่นพวกหัวโจกตามท้องถนนเขาก็เคยเห็นแววมาแล้วนั่นก็แสดงว่าสายตาของเขาก็ไม่ได้ดีไปสักเท่าไรหรอก
สายตาของเถ้าแก่เกาที่มองหลินเยว่จึงเปลี่ยนไปกลายเป็สายตาที่มีแต่ความดูถูกทันที
“เถ้าแก่เกาไม่ทราบว่าคุณยังสนใจหินหยกก้อนนี้อยู่หรือเปล่า หากยังสนใจอยู่ผมก็จะไม่ดูแล้วแต่หากคุณไม่้าแล้ว ผมก็จะขอดูหน่อย เหอๆ......” หลินเยว่พูดพร้อมรอยยิ้ม เขาต้องตัดโอกาสของอีกฝ่ายให้หมดไปก่อนจะได้ไม่ต้องเกิดสถานการณ์เมื่อเขาสำรวจเสร็จแล้วและกำลังจะตัดสินใจซื้อแต่อีกฝ่ายกลับพูดว่าตนเองมาก่อนและก็ยังไม่ได้พูดว่าไม่สนใจ
เถ้าแก่เกาเหลือบมองหลินเยว่ด้วยสายตาราบเรียบแล้วพูดขึ้น “เชิญตามสบาย 1.2 ล้านหยวนมันสูงเกินไปโอกาสพนันแพ้มีสูงมาก คุณอยากดูก็ดูเถอะ” เถ้าแก่เกาก็เป็เฒ่าเ้าเล่ห์เช่นกันเพราะเขาก็ไม่ได้พูดปิดโอกาสทั้งหมดของตัวเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้