ตอนที่ 108 แผนการที่คิดไว้
ชาวบ้านต่างก็มีน้ำใจ ไม่เหมือนกับผู้คนในยุคปัจจุบันที่แม้จะอยู่ห้องติดกันก็ไม่รู้จักกัน
ฝ่ายอวิ๋นโส่วจงพาผู้เฒ่าอวิ๋นกลับมาถึงบ้าน อีกทั้งยังเชิญหมอมาให้ด้วย ส่วนอวิ๋นโส่วกวงและอวิ๋นโส่วเย่าก็กลับมาพอดี
ภายในห้องโถง หมอตรวจอาการของผู้เฒ่าอวิ๋น จากนั้นก็นวดด้วยเหล้า แล้วจึงพอกยาให้ “ข้อเท้าของท่านไม่ได้เป็อะไรมาก แค่แพลงเฉยๆ กระดูกไม่ได้หัก พักฟื้นไม่กี่วันก็หายดีแล้ว พอกยาพวกนี้ไว้ก่อนสองวัน สองวันหลังจากนี้ข้าจะมาเปลี่ยนยาให้ใหม่”
ผู้เฒ่าอวิ๋นรีบกล่าวขอบคุณ “รบกวนท่านหมอแล้ว ค่าตรวจกับค่ายาเท่าไรหรือ?”
หมอโจวตอบ “สามสิบอีแปะ”
ผู้เฒ่าหันไปบอกกับเถาซื่อ “แม่เ้า จ่ายเงินให้ท่านหมอไปสิ”
เถาซื่อเบ้ปาก ดวงตาสามเหลี่ยมจ้องมองพี่น้องอวิ๋นโส่วจงด้วยสายตาไม่เป็มิตร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ในบ้านยากจนข้นแค้น หม้อข้าวยังไม่มีจะตั้ง จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย? เ้าไม่ได้มีลูกชายหรือ? ตั้งสามคน ไม่มีใครให้เงินเ้ารักษาอาการาเ็เลยหรือ?”
ต่อหน้าคนนอกยังกล้าทำให้เขาเสียหน้าถึงเพียงนี้ แม้แต่เงินสามสิบอีแปะยังไม่มีจะจ่ายค่ารักษา
ผู้เฒ่าอวิ๋นโกรธจนหน้าแดงก่ำ เขาตีที่ขอบเตียงพลางด่าว่า “ยายแก่ ข้าบอกให้เ้าจ่ายเงิน คิดว่าข้าไม่รู้หรือไงว่าบ้านเรามีฐานะเช่นไร? ไหนเลยจะถึงขั้นที่จ่ายเงินสามสิบอีแปะไม่ได้?”
เถาซื่อไม่ยอมแพ้ ตีขาตัวเองร้องไห้โวยวาย “ข้าช่างอาภัพนัก ลูกชายแท้ๆ ถูกยุยงให้แยกบ้านออกไป ไม่สนใจไยดีพ่อแม่ ลูกชายอีกคนก็ถูกใส่ร้ายจนต้องติดคุก ถูกตัดสินให้เนรเทศ”
“ลูกสะใภ้ก็หนีไปแล้ว งานบ้านก็ไม่มีใครทำ หมูในคอกก็กำลังจะอดตาย งานในนาก็ไม่มีใครทำ อีกไม่นานคงเต็มไปด้วยหญ้ารก... ตาแก่ไม่ตายนี่ มีชีวิตอยู่ไปทำไม มีลูกชายตั้งหลายคนเสียเปล่า สุดท้ายก็ต้องอยู่อย่างไร้คนดูแล...”
หมอโจวรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เขาก็แค่มาตรวจอาการาเ็ ไฉนพอจะต้องจ่ายเงินถึงได้เกิดเื่แบบนี้ขึ้นมาได้
อวิ๋นโส่วจงไม่พูดมากความ เขารีบหยิบเงินสองตำลึงออกมาจากอกเสื้อ
“แค่สองตำลึง เงินที่เหลือคงไม่พอให้พ่อเ้าบำรุงร่างกายหรอก” พอเห็นอวิ๋นโส่วจงควักเงินออกมา ดวงตาของเถาซื่อก็เป็ประกาย แต่ปากยังคงพูดจาดูถูกดูแคลน
นางกำลังจะเอื้อมมือไปรับ แต่อวิ๋นโส่วจงกลับยื่นเงินให้หมอโจวโดยตรง
เถาซื่อโกรธจัด “เ้ารอง นี่เ้าทำอะไร? ไม่คิดจะให้เงินพ่อเ้าแม้แต่อีแปะเดียว เ้ามันลูกอกตัญญู!”
อวิ๋นเจียวทนเห็นบิดาถูกกลั่นแกล้งไม่ได้ อย่างไรเสียนางก็ยังอายุน้อย ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็สามารถอ้างได้ว่ายังเด็ก “ท่านพ่อ ท่านจ่ายค่ายาให้ ท่านย่าก็ว่าท่านอกตัญญู เช่นนั้นพวกเราไม่ต้องจ่ายค่ายาแล้ว แบบนี้ท่านย่าจะได้เห็นว่าพวกเราเป็ลูกกตัญญูใช่หรือไม่เ้าคะ?”
พอได้ยินเช่นนั้นเถาซื่อถึงกับโกรธจนพูดไม่ออก ส่วนผู้เฒ่าอวิ๋นที่ทำเป็หลับตาอยู่ก็ทนไม่ไหว รีบเอ่ยตำหนิ “ยายแก่ เ้าพูดจาเหลวไหลอะไร? เ้าไม่ยอมจ่ายค่ายา เ้ารองจ่ายค่ายาให้ก็กลายเป็ลูกอกตัญญูแล้วหรือ เ้าอยากให้ข้าตายนักหรือไง?”
พอผู้เฒ่าอวิ๋นตวาด เถาซื่อก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่แอบสาปแช่งอวิ๋นเจียวในใจ เด็กน้อยคนนี้ช่างน่ารังเกียจเสียจริง พูดไม่กี่คำก็ทำให้คนอื่นจนมุมไปต่อไม่ได้ อยากจะบีบคอนางให้ตายคามือเสียจริงๆ
ในใจผู้เฒ่าอวิ๋นเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน ที่เขาแกล้งเท้าแพลงเป็เพราะอะไรเล่า เงินสองตำลึงนั่นให้เขาไม่ได้หรือ? ตอนนี้ครอบครัวลำบากยากเข็ญ ช่างไร้น้ำใจนัก
พอหันมองลูกชายอีกสองคนต่างก็ยืนข้างอวิ๋นโส่วจง คอยพูดช่วยเหลือ คอยทำงานให้ทุกอย่าง ลูกชายที่ดีๆ สองคน กลับถูกเ้ารองยุยงจนไม่สนใจไยดีเขา หัวใจของผู้เฒ่าอวิ๋นรู้สึกเ็ปราวกับถูกเกลือโรย
หมอโจวเอ่ยขึ้น “นายท่านรองอวิ๋น ไม่ต้องใช้เงินถึงสองตำลึงหรอก มากเกินไปแล้ว”
ตอนนี้อวิ๋นโส่วจงซื้อที่ดินในหมู่บ้านไปแล้วสองร้อยหมู่ [1] กลายเป็เศรษฐีที่ดินอย่างเต็มตัว คำเรียกขานของชาวบ้านที่เรียกเขาก็เปลี่ยนไป
จะต้องรู้ว่าในหมู่บ้าน ชาวนาส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินเป็ของตัวเอง บางคนมีที่ดินก็น้อยนิด คนที่ที่ดินหนึ่งถึงสองร้อยหมู่ก็ยิ่งมีน้อยมาก
อวิ๋นโส่วจงกล่าวว่า “เงินพวกนี้ท่านรับไปเถิด ต่อไปนี้เื่การรักษาอาการาเ็ของท่านพ่อข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว หักเงินจากในนี้ได้เลย หากไม่พอ ข้าจะให้ท่านเพิ่ม”
นี่เป็การจัดการเื่ค่ารักษาพยาบาลของผู้เฒ่าอวิ๋นได้อย่างอยู่หมัด ต่อไปนี้ผู้เฒ่าอวิ๋นคงไม่สามารถใช้อาการาเ็มาเป็ข้ออ้าง เพื่อมาขอเงินจากครอบครัวของเขาได้อีก อวิ๋นเจียวอดชื่นชมบิดาของตนในใจไม่ได้
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอรับไว้แล้ว” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หมอโจวก็เอ่ยขึ้น “ผู้เฒ่าอวิ๋น ท่านช่างโชคดีนัก มีลูกชายที่ดีพร้อมเช่นนายท่านรองอวิ๋น ดูแลเื่การเจ็บป่วยของท่านในอนาคตได้อย่างหมดห่วง”
“ลองดูหมู่บ้านข้างเคียงสิ มีครอบครัวไหนบ้างที่คนเฒ่าคนแก่ได้รับโชคเช่นนี้ มีคนมากมายที่ป่วยไข้แต่ไม่มีเงินรักษา ต้องนอนรอความตายอยู่ที่บ้าน ผู้เฒ่าอวิ๋น ถนอมบุญวาสนาของตนเถิด”
เขาเองก็สุดจะทนกับการกระทำของคนในครอบครัวนี้ ลูกชายประสบความสำเร็จไม่ใช่เื่ดีหรือ แทนที่จะผูกมิตรกับลูกชายที่ดีพร้อม กลับปล่อยให้ภรรยาและลูกของตนไปหาเื่ใส่ร้ายป้ายสีพวกเขา
จิตใจลำเอียงจนเกินไปแล้ว แต่สุดท้ายใครเล่าเป็คนดูแลเขา? ลูกชายลูกสาวพวกนั้น หรือต้องรอให้ลูกที่แยกบ้านออกไปแล้วกลับมาดูแลเขาล่ะ หลังจากหมอโจวพูดเตือนสติจบก็ประสานมือคำนับลา
“ท่านพ่อ หากท่านไม่มีธุระอะไรแล้วพวกข้าขอตัวกลับก่อน งานในนายังมีอีกมาก” พอหมอโจวจากไป อวิ๋นโส่วเย่าก็รีบเอ่ยขึ้น การกระทำของมารดาทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองพี่รอง และทำให้หัวใจของเขาหนาวเหน็บ
ผู้เฒ่าอวิ๋นเอ่ยขึ้น “พวกเ้าสามพี่น้องนั่งลงก่อน ข้ามีเื่จะปรึกษา”
อวิ๋นโส่วจงยอมจ่ายค่ายาให้เขา ทำให้ตอนนี้ผู้เฒ่าอวิ๋นไม่กล้าทำตัวแข็งกร้าว น้ำเสียงจึงอ่อนลง
พี่น้องทั้งสามคนนั่งลงบนม้านั่งในห้อง ผู้เฒ่าอวิ๋นเหลือบมองฟางซื่อ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “สะใภ้รอง เ้าพาเด็กๆ ออกไปเดินเล่นข้างนอกก่อน พวกเรามีเื่ของผู้ชายจะคุยกัน”
อวิ๋นโส่วจงกล่าว “ท่านพ่อ มีอะไรก็พูดมาเถิด พวกเราเป็คนในครอบครัวทั้งนั้น ไม่มีสิ่งใดต้องปิดบังกัน”
จริงๆ แล้วผู้เฒ่าอวิ๋นแค่อยากไล่อวิ๋นเจียวออกไปเท่านั้น เด็กคนนี้ช่างน่ารำคาญ ดูเหมือนเด็กที่ยังไม่รู้ความ แต่คำพูดของนางกลับสามารถทำให้คนอื่นจนมุมได้
รวมไปถึงเื่ของเ้าสี่ การที่เ้าสี่แอบซ่อนของก็ไม่ถูก แต่เด็กคนนี้พบเห็นเข้าก็ไม่บอกกล่าว แต่กลับแอบเปลี่ยนของ เอาของเล่นเด็กไปฝังไว้แทน แม้จะพบของสิ่งนั้นในห้องของเ้าสี่ แต่เขาย่อมรู้จักลูกชายของตนเองดี ต่อให้เ้าสี่จะเลวร้ายเพียงใด ก็คงไม่โง่เขลาถึงเพียงนั้น
รู้อยู่เต็มอกว่าเป็ของที่ทางการ้า ยังจะเก็บไว้ในห้อง ไม่เท่ากับรอให้คนอื่นมาค้นเจอแล้วจับได้คาหนังคาเขาหรือ? เด็กคนนี้ช่างร้ายกาจนัก
ผู้เฒ่าอวิ๋นก็ไม่คิดเสียบ้าง หากอวิ๋นโส่วจู่ไม่คิดร้าย ไม่ไปทำร้ายครอบครัวของอวิ๋นโส่วจง เขาจะต้องถูกจับติดคุกและโดนเนรเทศเช่นนี้หรือ?
“ใช่เ้าค่ะ ท่านปู่ ข้ากับท่านแม่จะรอท่านพ่ออยู่ที่นี่ ไม่รบกวนพวกท่านคุยกันหรอกเ้าค่ะ” อวิ๋นเจียวรู้ดีว่าผู้เฒ่าอวิ๋นรังเกียจนาง แต่ยิ่งเขาเป็แบบนี้ นางก็ยิ่งไม่อยากให้เขาสมหวัง นางจะอยู่ที่นี่ ทำให้เขารู้สึกขวางหูขวางตาเล่น
ผู้เฒ่าอวิ๋นถลึงตามองอวิ๋นเจียว แต่ก็ไม่ได้ไล่นางอีก จึงได้แต่เบือนหน้าหนี แล้วเอ่ยขึ้น “พวกเ้าก็เห็นแล้วว่าเท้าของข้าแพลง ลงไปทำงานในไร่ไม่ไหว ตอนนี้ก็ใกล้จะหมดฤดูไถหว่านแล้ว แต่ที่นาในบ้านเรายังเพาะปลูกไม่เสร็จ ข้าร้อนใจเหลือเกิน”
“พวกเ้าสามพี่น้องลองปรึกษากันดูว่าจะแบ่งคนงานมาช่วยข้าไถนาเพาะปลูกได้หรือไม่ มิฉะนั้นฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้คงไม่มีข้าวให้กิน ผู้เฒ่าอย่างข้าจะอยู่ยังไง?”
“แล้วยังมีงานบ้านอีกมากมาย สะใภ้สี่ก็หนีไปแล้ว ภรรยาข้าเองก็ร่างกายอ่อนแอ ไม่มีใครทำงาน หมูในคอกก็ร้องหิวโหยทุกวัน... เ้ารอง เ้าดูสิ เ้าซื้อคนรับใช้ให้ช่างก่อสร้างที่เ้าจ้างมาตั้งหลายคน พอจะแบ่งมาให้พ่อสักคนได้หรือไม่? ให้มาช่วยทำงานบ้านให้พ่อสักหน่อย”
เชิงอรรถ
[1] หมู่ (亩) คือหน่วยวัดพื้นที่ของจีน 1 หมู่ เท่ากับ 0.165 เอเคอร์ หรือประมาณ 0.4 ไร่