"ตามที่ท่านลุงว่า ถ้าครอบครัวท่านมีเงินก็ต้องแบ่งกับชาวบ้านหรือ? ให้ชาวบ้านมีปีใหม่ที่ดี" หลิวจือโม่ที่รีบมาได้ยินแล้วสวนกลับอย่างไม่เกรงใจ เขาเดินไปข้างหน้าหลี่ชิงหลิงอย่างใจเย็น
ชายคนนั้นหน้าแดงด้วยความโกรธ และพูดตะกุกตะกัก "ครอบครัวข้าไม่มีเงิน ถ้ามีเงินละก็ ข้าก็คงไม่ต้องไปูเาซงหรอก" พูดถึงตอนท้าย เขาก็ได้ความมั่นใจกลับคืนมา "หลี่ชิงหลิงไม่แม้แต่จะฟังคำขอเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ ช่างไร้น้ำใจจริงๆ" หากไม่ใช่เพราะมีฝีมือธนู ใครจะมาอ้อนวอนนาง
การขอร้องนางคือให้หน้า นางควรจะขอบคุณในน้ำใจ ไม่ใช่ปฏิเสธด้วยใบหน้าเ็า ทำให้พวกเขาไปต่อไม่ได้
ถ้าหลี่ชิงหลิงรู้ว่าชายคนนั้นคิดอะไร คงจะพูดตรงๆ ว่า ไร้สมอง
หลิวจือโม่หัวเราะออกมาดังๆ ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ดวงตาของเขากวาดมองฝูงชนอย่างเ็า ก่อนจะกลับมาที่ใบหน้าของชายคนนั้นอีกครั้ง "น้ำใจ? มีหน้ากล้ามาพูดอีกนะ” เขาชี้ไปที่ฝูงชน น้ำเสียงยิ่งเ็าขึ้น “ผู้ใหญ่กลุ่มใหญ่มาบังคับเด็กผู้หญิงให้พาไปล่าสัตว์ทีู่เาซงแบบนี้น่ะ ถูกต้องหรือ? หืม?”
แม้ว่าหลิวจือโม่จะอายุยังน้อย แต่เขาก็มีกลิ่นอายของผู้มีความรู้ เมื่อเขาพูดจาแรงหน่อย ทุกคนก็รู้สึกกดดัน
"จือโม่ เรา... เราคิดว่าทักษะธนูของเสี่ยวหลิงดี แล้วก็คุ้นเคยกับูเาซงถึงอยากให้พาไป” ลุงที่พูดคนแรกถูชายเสื้อผ้าของเขาและอธิบายด้วยรอยยิ้ม " ถ้า... ถ้านางไม่อยากไป ก็... ช่างเถอะ"
เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ปกติแล้วหลิวจือโม่จะอ่อนโยนมาก ไม่คิดเลยว่าโมโหแล้วจะน่ากลัวขนาดนี้ ทำให้แม้แต่ชายร่างใหญ่อย่างเขาก็ยังรู้สึกกลัวเล็กน้อย
หลี่ชิงหลิงมองฝูงชนอย่างสงบ เอื้อมมือไปบีบมือของหลิวจือโม่เงียบๆ แล้วพูด ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากพาพวกท่านไป แต่ข้าไม่กล้าพาไปจริงๆ ถ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ใครจะรับผิดชอบ" นางพูดต่อโดยไม่รอให้ทุกคนตอบ "ทุกคนน่าจะจำเื่ป้าอู๋ได้ เื่นั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลยยังมาหาข้า มาให้ข้าชดใช้ถึงบ้าน แล้วถ้าข้าพาทุกคนไปแล้วเกิดเื่ขึ้น ครอบครัวทุกคนจะไม่ฉีกข้าเป็ชิ้นๆ หรือ?”
นางไม่อยากทำเื่ไม่เกิดประโยชน์แบบนี้เลยจริงๆ
“พูดไปพูดมา เ้าก็แค่หาข้ออ้างไม่ยอมพาเราไปที่นั่น” ผู้ชายน่ารำคาญคนนั้นอีกแล้ว
หลี่ชิงหลิงหรี่ตาจ้องตรงไป มุมปากยิ้มเยาะ “ถ้ากล้ารับผิดชอบก็นำไปเลยสิ!"
ชายคนนั้นส่งเสียงหึ บอกว่าถ้ามีฝีมือธนูขนาดนั้นยังต้องขอร้องนางอีกหรือ?
"ถ้าไม่มีความสามารถก็อย่าเปิดปาก" หลี่ชิงหลิงเหลือบมองเขาและพูดกับคนอื่นๆ "ข้าขอโทษจริงๆ ข้าคงตกลงไม่ได้ ถ้าอยากไปก็ไปเองเถอะ อย่ามาหาข้าอีก”
ทันทีที่พูดจบ ผู้นำหมู่บ้านที่รีบมาถึงได้ยินก็เอ่ยปาก "ไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างพวกเ้าจะกล้ามาบังคับเด็กผู้หญิง พวกเ้าไม่ละอายใจ แต่ข้าละอายใจ” เขาจะอกแตกตายกับชาวบ้านจริงๆ
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของผู้นำหมู่บ้านก็ถอยห่าง ผู้นำหมู่บ้านบ้านเดินไปหาหลี่ชิงหลิงและยิ้มให้นางอย่างขอโทษ
เขารู้สึกจริงๆ ว่าหน้าแก่ๆ ของเขาโดนพวกผู้ชายในหมู่บ้านขายทิ้งไปจนหมดสิ้น
“พวกเ้านี่นะ ทำไมหน้าหนาแบบนี้? หา?” ผู้นำหมู่บ้านชี้ฝูงชนด้วยความเ็ปใจ “ข้าจะบอกอีกครั้ง อยากไปก็ไปเอง อย่ามาบังคับเด็ก ได้ยินหรือยัง?”
ทุกคนไม่กล้ามองผู้นำหมู่บ้าน และตอบว่ารู้แล้วเสียงเบา
ผู้นำหมู่บ้านได้เข้ามาแทรกแซงในเื่นี้แล้วและเตือนพวกเขาซ้ำๆ พวกเขาย่อมไม่กล้าขัดต่อเจตนา ขอให้หลี่ชิงหลิงพาพวกเขาไปทีู่เาซงอีก
แต่แค่คิดว่าูเาซงมีของกินมากมาย จะไม่ไปก็รู้สึกไม่พอใจอีก
มีคนถามหลี่ชิงหลิงว่าจะไม่พาพวกเขาไปจริงๆ หรืออีกครั้งอย่างไม่ตายใจ
หลี่ชิงหลิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น และพูดว่าพาไปไม่ได้จริงๆ นางแบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหว
เมื่อเห็นเด็กสาวส่ายหน้าปฏิเสธอย่างแน่วแน่ ทุกคนก็ยอมแพ้และจากไป
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้านก็ถูกภรรยาดุอย่างรุนแรง และสั่งไม่ให้ไปล่าสัตว์ทีู่เาซงอีก ยอมยากจนดีกว่าไปตาย
หลี่ชิงหลิงไม่รู้เื่นี้ ตอนนี้ผู้นำหมู่บ้านกำลังขอโทษนาง บอกนางว่าอย่าเก็บเอามาใส่ใจ
หลี่ชิงหลิงส่ายหัวอย่างอารมณ์ดี "ข้ายังหวังว่าท่านปู่ผู้นำหมู่บ้านจะไม่ว่าข้าด้วยซ้ำ! ถึงแม้ข้าก็อยากให้คนในหมู่บ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ข้าไม่กล้าพาพวกเขาไปทีู่เาซงจริงๆ ความรับผิดชอบนี้ใหญ่เกินไป ข้าแบกไม่ไหวหรอก”
ผู้นำหมู่บ้านพยักหน้าอย่างเข้าใจ พูดกับหลี่ชิงหลิงอีกสองสามคำ แล้วเอามือไพล่หลังจากไป
ทันทีที่ผู้นำหมู่บ้านจากไป หลี่ชิงหลิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันกลับมาแล้วถามหลิวจือโม่ว่าพวกเขาไปูเาซงสักหน่อยไหม
เพราะ่นี้คงไม่มีคนในหมู่บ้านไปูเาซงแล้ว คาดว่าเหยื่ออาจเพิ่มขึ้น
หลิวจือโม่ส่ายหัว เขาไม่อยากให้นางไปจริงๆ แม้ว่าทักษะธนูนางจะดี แต่ถ้าเจอกับหมีหรืออะไรเข้าอีกก็คงไม่โชคดีขนาดนั้น
ที่บ้านยังมีเงินอยู่บ้าง มีเงินที่แบ่งจากฝูหมั่นโหลวอีก แค่นี้ก็เพียงพอให้ใช้ชีวิตดีๆ ได้แล้ว ไม่จำเป็ต้องไปเสี่ยง
หลี่ชิงหลิงรู้ว่าเขาจะคัดค้าน นางหัวเราะ “พี่อยากส่งอาหวงกลับูเาซงไม่ใช่หรือ นี่เป็โอกาสนะ!" อาหวงโตเร็วเกินไป คาดว่าอีกพักหนึ่งจะใหญ่ขึ้นอีก ใช้โอกาสที่ยังว่างอยู่นี้ส่งมันกลับไปจะดีกว่า
เมื่อพูดถึงอาหวง หลิวจือโม่ก็เงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นจึงก็พยักหน้า "งั้นหาเวลาว่างส่งมันกลับไป!" เมื่อนึกถึงเด็กๆ ที่บ้าน เขาก็เสริม "อย่าไปพูดกับเด็กๆ ล่ะ ถ้ารู้เข้าต้องช่วยกันห้ามแน่ ส่งมันกลับไปก่อนแล้วค่อยบอกพวกเขา!" เขาไม่อยากส่งอาหวงไปจริงๆ แต่ไม่มีทางอื่นนี่สิ
หลี่ชิงหลิงเองก็เศร้าเล็กน้อย นางตอบอืม
ไม่กี่วันต่อมา หลี่ชิงหลิงบอกหลิวจือโม่ แบกคันธนูและลูกธนู พาอาหวงจากไปกลางดึก
เมื่อมาถึงูเาซง หลี่ชิงหลิงก็พาอาหวงเข้าไปในป่า นางล่าไก่ป่าได้จำนวนหนึ่งก็ไล่อาหวง และปล่อยให้มันไปล่าสัตว์ด้วยตัวเอง
อาหวงเป็าาแห่งป่า ได้กลับูเาซงแล้วดีใจมาก วิ่งหายไปด้วยความสุข
หลี่ชิงหลิงมองเงาอาหวง เช็ดน้ำตาจากหางตา หันหลังใหู้เาซง
ถ้านางอยู่ในูเาซงนานกว่านี้จะไปอยากพาอาหวงกลับมาแน่
แต่จะทำแบบนั้นไม่ได้ อาหวงต้องกลับบ้าน นางไม่สามารถกักขังมันไว้ และปล่อยให้มันสูญเสียสัญชาตญาณสัตว์ป่าไป
คราวนี้นางวิ่งกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านหลิว เด็กๆ เห็นเข้าก็กรูเข้ามารุมล้อมนางอย่างมีความสุข และถามว่านางหายไปไหน ไปล่าสัตว์มาใช่หรือไม่?
หลี่ชิงหลิงวางคันธนูลูกธนู ตะกร้าและพยักหน้า
เด็กๆ วิ่งไปดูที่ตะกร้าและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีไก่ป่าเพียงไม่กี่ตัว ในขณะเดียวกันหลิวจือโหรวถามหลี่ชิงหลิงอาหวงอยู่ไหน อาหวงหายไปไหน?
หลี่ชิงหลิงซึ่งที่ยกน้ำกำลังจะดื่ม แววตามืดมนลง เด็กสาวพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาเสียงของตนให้คงที่ และพูดว่าอาหวงกลับบ้าน
“อาหวงกลับบ้านหรือ บ้านที่ไหน ที่นี่ไม่ใช่บ้านของมันหรือ?” หลิวจือโหรวคิดตามไม่ทัน ในใจของนาง บ้านของนางคือบ้านของอาหวง!
หลังจากได้ยินแบบนี้ หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนก็ลุกขึ้นยืน แล้วมองหลี่ชิงหลิงเงียบๆ พวกเขาอายุมากกว่า และสามารถเข้าใจคำพูดของหลี่ชิงหลิงได้
อาหวงกลับป่าแล้ว
“ไม่ บ้านของอาหวงอยู่ในูเาซง” หลี่ชิงหลิงดื่มน้ำในชามเสร็จ วางชามลง และอธิบายให้หลิวจือโหรวฟังเบาๆ
เมื่อหลิวจือโหรวได้ยินสิ่งก็อ้าปากกว้าง และถามว่าอาหวงไม่กลับมาแล้วหรือ?
หลี่ชิงหลิงเม้มปากและส่ายหน้าอย่างใจแข็ง
นางเหม่อมองหลี่ชิงหลิงอย่างว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงร้องไห้เรียกอาหวงไม่หยุด
อาหวงอยู่กับหลิวจือโหรวตลอดทั้งวัน หลิวจือโหรวจึงผูกพันกับมันมาก
เมื่อรู้ว่ามันไม่กลับบ้านแล้วจึงเสียใจมาก
นางร้องไห้จนหลี่ชิงหนิงตื่นขึ้นมาเริ่มร้องไห้เช่นกัน เสียงร้องไห้สองเสียงดังขึ้นในบ้าน หนวกหูอย่างมาก
หลี่ชิงหลิงชำเลืองมองหลิวจือโม่อย่างช่วยไม่ได้ ขอให้เขากล่อมหลิวจือโหรว ส่วนนางหันกลับเข้าไปในห้อง กอดหลี่ชิงหนิงและกล่อมนางเบาๆ
นางเป็คนส่งอาหวงกลับย่อมเศร้าอยู่แล้ว แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ!
หลี่ชิงเฟิงตามเข้ามา หดนิ้วเท้าและถามหลี่ชิงหลิงเสียงเบาว่าอาหวงจะไม่กลับมาแล้วจริงหรือ?
หลี่ชิงหลิงตอบรับ ลูบหัวของหลี่ชิงเฟิงและอธิบายให้เขาฟัง “เสี่ยวเฟิงต้องจำไว้ว่าอาหวงไม่ได้เป็ของเรา เขาเป็าาแห่งป่า เขาควรกลับไปยังที่ที่เขาควรอยู่"
"ข้ารู้..." หลี่ชิงเฟิงก้มหน้าลง ดวงตาของเขาแดงเล็กน้อย "แต่ข้าเศร้าใจ” อาหวงเป็เพื่อนตัวน้อยของพวกเขา ไม่มีมันแล้วน่าเศร้าจริงๆ
“พี่เองก็เหมือนกัน แต่ช่วยไม่ได้ พี่กลัวว่าถ้าอาหวงอยู่บ้านเราต่อจะอันตราย ที่ทำไปก็เพื่อเขาเอง เราทำได้แค่ปล่อยให้เขากลับบ้าน”
หลี่ชิงเฟิงตอบรับและเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็ว
ในมื้อค่ำในตอนเย็น เนื่องจากไม่มีอาหวง บรรยากาศที่บ้านจึงดูหม่นหมอง หลี่ชิงหลิงและหลิวจือโม่มองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ หวังว่าเด็กๆ ที่บ้านจะปรับสภาพจิตใจกลับมามีความสุขได้เร็วๆ
หลังจากกินข้าวเสร็จ หลี่ชิงหลิงก็พาน้องๆ กลับบ้านอาบน้ำเข้านอน หลังจากนอนได้ไม่นานฝนก็เริ่มตก
"พี่ ฝนตกหนักมาก อาหวงจะโดนฝนไหม" เมื่อได้ยินเสียงฝนโปรยปราย หลี่ชิงเฟิงก็ถามอย่างเป็ห่วง
หลี่ชิงหลิงถอนหายใจ ลูบหลังหลี่ชิงเฟิงบอกเขาว่าอย่าคิดมาก รีบนอนเถอะ
แต่ในใจนางก็ห่วงอาหวงมาก กลัวว่าอาหวงจะหาที่หลบฝนไม่ได้
ในจังหวะนั้นเอง เด็กสาวได้ยินเสียงเคาะประตูลานบ้าน หัวใจของนางเต้นไม่เป็จังหวะ นางบอกหลี่ชิงเฟิงว่าอย่าออกมา ให้เขาดูแลน้องสาว นางจะออกไปดูเอง
