“ตรงหน้าคือเส้นทางกระดูกน้ำแข็งที่ฉันเพิ่งบอกไป เตรียมตัวให้ดีล่ะ........ ความหนาวเย็นของที่นี่น่ากลัวมากแล้วยังลดพลังชีวิตไป 10% ทุกวินาทีด้วย ห้ามลังเลเด็ดขาด ถ้าทนไม่ไหวจริงๆก็อย่าฝืน” เย่เทียนเซี่ยเตือนขึ้นมาด้วยใบหน้าจริงจัง ระดับความหนาวเย็นด้านหน้านั้นน่ากลัวมาก เขาได้รับบทเรียนมาด้วยตัวเองแล้ว
“หึ ผมจั้วพั่วจวินเป็ลูกผู้ชายอกสามศอก จะกลับเพราะพื้นที่ที่มีความหนาวเย็นได้ยังไง? นานๆจะสามารถช่วยพี่รองได้สักครั้ง ถ้าวิ่งหนีไปเพราะความหนาว ต่อไปคงโดนไอ้ตุ๊ดสี่นั่นหัวเราะเยาะไปทั้งชีวิตแน่นอน” จั้วพั่วจวินลูบหน้าอกป้อยๆแล้วพูดออกมา
“เทียนเซี่ย ฉันไม่กลัวหนาวหรอก วางใจได้” ซูเฟยเฟยกระชับเสื้อคลุมหิมะบนตัวแน่น แม้ว่าใบหน้าของเธอจะขาวซีดเพราะความหนาวเย็นของที่แห่งนี้ แต่สีหน้าของเธอก็ยังคงเด็ดเดี่ยวไม่ต่างกับก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
“อืม........ อย่าฝืนก็แล้วกัน” เย่เทียนเซี่ยพูดยิ้มๆ จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อคลุมหิมะบนร่างของตัวเองแล้วยัดใส่มือจั้วพั่วจวิน “ใส่ซะ”
“เอ่อ........ พี่รอง ผม.........”จั้วพั่วจวินอยากจะคืนเสื้อคลุมกันหนาวให้เย่เทียนเซี่ยโดยไว เขาจะสวมเสื้อคลุมกันหนาวของเย่เทียนเซี่ยแล้วปล่อยให้เย่เทียนเซี่ยต้องทนความหนาวได้อย่างไร
“ใส่ซะ........ ข้างหน้าหนาวมากแค่ไหนฉันรู้ดีที่สุด ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนั้นความสามารถในการเคลื่อนที่ของพวกเราจะถูกจำกัดค่อนข้างมาก และนายจำเป็ต้องรักษาความคล่องตัวของร่างกายเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราลำบากแน่” เย่เทียนเซี่ยพูดอย่างจริงจัง
เมื่อเย่เทียนเซี่ยพูดออกมาอย่างนี้ จั้วพั่วจวินก็ทำได้เพียงสวมเสื้อคลุมหิมะตัวนั้นลงไปอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก ซูเฟยเฟยกัดริมฝีปากน้อยๆด้วยความเ็ปใจ แต่ในที่สุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา สิ่งที่เย่เทียนเซี่ยตัดสินใจไปแล้ว......... เธอคิดว่าตัวเองไม่เข้าไปแทรกแซงจะดีกว่า
“แล้วก็นี่อีก” เย่เทียนเซี่ยเรียกสัตว์ขี่ของตัวเองออกมาแล้วส่งม้าัขาวที่สามารถเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ได้อีก 50 หน่วยหนึ่งตัวให้จั้วพั่วจวิน จากนั้นเขาก็เรียกม้าัขาวที่เหมือนกันทุกอย่างอีกหนึ่งตัวออกมา ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นซูเฟยเฟยก็เรียกม้าัขาวของตัวเองออกมาแล้วขึ้นขี่บนหลังของมันเหมือนกัน แล้วจั้วพั่วจวินก็เข้าใจได้ในทันที ว่าพวกเขาต้องขี่สัตว์พวกนี้ก็เพื่อการเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น
เส้นทางที่เหมือนนรกขุมนี้ยิ่งผ่านไปไวเท่าไรยิ่งดี
เมื่อเตรียมพร้อมแล้วเย่เทียนเซี่ยก็เรียกเหยาๆออกมาแล้ววางมันไว้บนหัวของเ้าม้าตัวที่เขาขี่อยู่ จากนั้นม้าสามตัวและคนสามคนจึงมุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางกระดูกน้ำแข็ง
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางกระดูกน้ำแข็ง ความหนาวเย็นที่ทำให้พวกเขาเหมือนตกอยู่ในนรกก็พุ่งเข้าจู่โจมทันที ฟันของเย่เทียนเซี่ยกัดเข้าหากันแน่น และลมหายใจของจั้วพั่วจวินและซูเฟยเฟยก็หยุดชะงักไปทันที
เพียงแค่วินาทีแรกพวกเขาก็เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าความหนาวเย็นที่จำกัดการเคลื่อนไหวของเย่เทียนเซี่ยและทำให้เขาพ่ายแพ้กลับไปแท้จริงแล้วหนาวเย็นได้ถึงขนาดไหน..........
หนาวจนน่ากลัว........ หนาวจนน่ากลัวถึงขีดสุด ความหนาวเย็นถึงกระดูกนี้มันแทรกซึมเข้าไปในไขกระดูกและเืทุกหยดภายในเสี้ยววินาที! ทั้งชีวิตนี้นี่เป็ครั้งแรกที่พวกเขารู้ว่าความหนาวเย็นจากน้ำแข็งน่ากลัวถึงขนาดนี้
นักบวชระดับต่ำไม่สามารถใช้เวทย์รักษาขณะที่ยังอยู่บนตัวสัตว์ขี่ได้ ดังนั้นระหว่างที่เดินทางกันอยู่เธอจึงไม่สามารถใช้ทักษะรักษาได้อย่างอิสระ ทำให้การรักษาทั้งหมดล้วนมาจากเหยาเหยาที่ยืนอยู่บนหัวของม้าัขาวเพียงตัวเดียวเท่านั้น
เหยาเหยาสะบัดหางไปมา ร่างของมันมีแสงสว่างสีขาวบริสุทธิ์ส่องสว่างออกมาไม่หยุด ในหมู่พวกเขามีเพียงแค่เหยาเหยาเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความหนาวเย็น
“พ.....พี่รอง.......มัน.........คือจิ้งจอก.......ที่พี่เคยบอกงั้นเหรอ? ความสามารถในการรักษาของมัน.........มัน........ สุดยอดมากเลย!” แม้ว่าจะสวมเสื้อคลุมหิมะอยู่แต่ร่างของจั้วพั่วจวินก็ยังคงสั่นสะท้านอย่างรุนแรงไปทุกส่วน ฟันทุกซี่ของเขาสั่นกึกๆจนเหมือนจะหลุดออกมาจากปากได้ตลอดเวลา
เมื่อมองเห็นตัวเลขการรักษา “จำนวนมาก” ที่ลอยขึ้นมาไม่หยุดจั้วพั่วจวินและซูเฟยเฟยก็ประหลาดใจเป็อย่างมาก ความสามารถในการรักษาของซูเฟยเฟยห่างชั้นจากพวกนักบวชขั้นต้นมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกันความสามารถในการรักษาของจิ้งจอกตัวน้อย........ มันยังเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำ และตามที่เย่เทียนเซี่ยบอกไว้ว่านี่คือจิ้งจอกซึ่งเป็สัตว์เลี้ยงสายช่วยเหลือระดับ 3 ที่เย่เทียนเซี่ยได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ..........สัตว์เลี้ยงระดับสามมีความสามารถที่น่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ?
เย่เทียนเซี่ยพยักหน้าน้อยๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะเขายังคงต้องอดทนกับความหนาวเย็นในที่แห่งนี้อย่างยากลำบาก เมื่อร่างของเขาไม่มีเสื้อคลุมหิมะ สิ่งที่เขาได้รับก็คือความหนาวเย็นที่น่ากลัวยิ่งกว่าจั้วพั่วจวินและซูเฟยเฟย
“เฟยเฟย หนาวหรือเปล่า?” เย่เทียนเซี่ยเข้าไปใกล้ๆเธอแล้วถามออกมาเสียงเบา
ใบหน้าของซูเฟยเฟยซีดขาวไปหมดแล้วแต่เธอกลับยกยิ้มออกมาแข็งๆแล้วส่ายหัว “หนาว.........แต่ ฉันไม่กลัวเลยสักนิด ถึงจะหนาวขนาดนี้.......ฉัน.......ฉันก็ไม่กลัว”
เสียงของเธอสั่นไหวเพราะความหนาว เมื่อมองดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้นและความเด็ดเดี่ยวเย่เทียนเซี่ยก็ยิ้มให้เธอน้อยๆ
มีเพียงผู้ที่ผ่านประกบการณ์อันยากลำบากมาแล้วและมีเพียงคนที่ยินดีจะร่วมแบ่งปันความรู้สึกอันยากลำบากเท่านั้นถึงจะสามารถทนความลำบากได้อย่างแท้จริง การที่เย่เทียนเซี่ยพาซูเฟยเฟยเข้ามาในแผนที่ภารกิจที่อันตรายและโหดร้ายแห่งนี้ไม่ใช่การส่งเสริมความรู้สึกของพวกเขาหรอกเหรอ.......... อีกทั้งมันยังเป็การทดสอบเล็กๆน้อยๆต่อซูเฟยเฟยด้วย
เธอเป็คุณหนูจากตระกูลมั่งคั่งที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ หากเธอจริงใจต่อเขา เย่เทียนเซี่ยก็จะต้องมอบความจริงใจและความซื้อสัตย์ทั้งหมดให้เธอเช่นกัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว แต่ภายในโลกน้ำแข็งอันหนาวเย็นเช่นนี้มันเหมือนยาวนานเป็สิบปี จนในที่สุดเงาร่างหกร่างที่เรียงกันเป็แถวยาวก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า
หมาป่าหิมะหกตัว.......... พวกมันนั่นเองที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยต้องกลับไปมือเปล่าเมื่อวานนี้
“พั่วจวินทักษะยั่วยุแบบกลุ่มของนายยังใช้ได้อยู่ไหม? ไปเลย........ไปดึงดูดความเกลียดชังของพวกมันเอาไว้ จำไว้นะนายต้องดึงดูดพวกมันไว้ทั้งหมด......... จากนั้นก็วิ่งไปรอบๆเต็มแรงเลย!” เย่เทียนเซี่ยดึงซูเฟยเฟยเอาไว้แล้วหันไปกัดฟันะโใส่จั้วพั่วจวิน
“ข......เข้าใจแล้ว!” จั้วพัวจวินตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังที่สุดเท่าที่ตัวเองจะสามารถเปล่งออกมาได้ในตอนนี้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆยกโล่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าหินขึ้นมาด้วยสติรับรู้ที่แทบจะสูญหายไปจนสิ้น ม้าัขาวที่อยู่ด้านล่างตัวเขาพุ่งทะยานเข้าหาฝูงหมาป่าหิมะทันที แล้วหมาป่าหิมะทั้งหกตัวก็พุ่งเข้ามาพร้อมกันเหมือนเมื่อวาน
“เฟยเฟย รีบเก็บม้ากลับไปซะ......... จำไว้ว่าอย่าหยุดรักษาให้ฉันกับจั้วพั่วจวินเข้าใจไหม” เย่เทียนเซี่ยะโออกมา
ม้าัขาวที่ซูเฟยเฟยขี่อยู่ถูกเก็บกลับไป สองแขนสั่นๆของเธอยกไม้เท้าขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วปลดปล่อยทักษะรักษาออกไปพร้อมกับเหยาเหยา.......... ขณะที่เธอปลดปล่อยทักษะรักษาขั้นต้นสร้อยข้อมือเจ็ดสีที่อยู่บนมือขวาของเธอก็เปล่งแสงหลากสีออกมาอย่างสวยงาม
ทักษะยั่วยุแบบกลุ่มของจั้วพั่วจวินสามารถดึงดูดความเกลียดชังจากหมาป่าหิมะทั้งหกตัวมาไว้ที่ตัวเขาทั้งหมดได้สำเร็จ หมาป่าหิมะหกตัวรวมตัวกันพุ่งเข้ามาหาจั้วพั่วจวินทั้งหมด แม้ว่าจั้วพั่วจวินจะมีอาชีพเป็ผู้พิทักษ์ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของหมาป่าหิมะเลเวล 25 หกตัว เขาก็ไม่อาจผ่านมันไปได้ง่ายๆแม้แต่ตัวเดียว เมื่อเห็นความเกลียดชังของหมาป่าหิมะที่ถูกดึงดูดไปทั้งหมดเย่เทียนเซี่ยก็ถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วะโออกมาเสียงดัง “พั่วจวินวิ่งเร็วเข้า!! ล่อให้พวกมันวิ่งเป็วงกลม จำไว้ว่าอย่าออกไปนอกขอบเขตการรักษาของเฟยเฟยกับเหยาเหยานะ!”
พูดจบม้าัขาวที่อยู่ใต้ร่างของเขาก็พุ่งทะยานไปด้านหน้ามุ่งไปทางที่จั้วพั่วจวินอยู่
สัตว์ขี่จะได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์ขณะที่ถูกขี่อยู่ และมันก็จะไม่ถูกทำร้ายจากความหนาวเย็นด้วย ดังนั้นการเคลื่อนที่ทั้งหมดจึงไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย นี่ก็เป็หนึ่งในเหตุผลที่เย่เทียนเซี่ยเตรียมสัตว์ขี่มาก่อนที่จะมาที่นี่ จั้วพั่วจวินที่ได้ยินเสียงนั้นก็รีบออกคำสั่งให้สัตว์ขี่ของตัวเองหมุนตัวกลับทันทีเพื่อลากหมาป่าหิมะทั้งหกตัวให้วิ่งตามเขาไป...... เมื่อมีความเร็วของม้าัขาวที่เพิ่มขึ้นมา 50 หน่วยความเร็วในการเคลื่อนที่ของจั้วพั่วจวินในตอนนี้จึงเหนือกว่าเหล่าหมาป่าหิมะอย่างช่วยไม่ได้ หมาป่าหิมะหกตัวที่ถูกดึงดูดความเกลียดชังวิ่งตามเขาไปด้านหลัง แต่ระหว่างนั้นพวกมันก็ไม่อาจจับเขาได้เลย
“ดีมาก!” เย่เทียนเซี่ยพูดออกมาเสียงต่ำแล้วกัดฟันแน่น เขาใช้พลังสูงสุดของตัวเองกระชับห้วงเวลาแห่งโชคชะตาในมือแน่น หลังจากที่เขาตามมาถึงด้านหลังของหมาป่าหิมะทั้งหกตัวเขาก็ตวัดการโจมตีธรรมดาออกไปทำให้การโจมตีนั้นปะทะเข้ากับร่างของหมาป่าหิมะสามตัวพร้อมกัน
การโจมตีธรรมดาของเย่เทียนเซี่ยกวาดพลังชีวิตของหมาป่าหิมะทุกตัวที่โดนโจมตีไปถึงหนึ่งในสามแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเกลียดชังของพวกมันเปลี่ยนเป้าหมายไปไหน พวกมันยังคงวิ่งตามตูดของจั้วพั่วจวินไปเรื่อยๆ แม้ว่าจั้วพั่วจวินจะถูกความหนาวเย็นเปลี่ยนสีหน้าให้กลายเป็สีม่วง แต่สิ่งที่เขาต้องทำอย่างเร่งด่วนก็คือใช้ความคิดควบคุมม้าัขาวให้เคลื่อนที่ไปด้านหน้า เมื่อมองฝูงหมาป่าที่อยู่ด้านหลังหัวใจของเขาก็แฮปปี้สุดๆ ตอนนี้เขาเข้าใจแผนของเย่เทียนเซี่ยทั้งหมดแล้ว
เย่เทียนเซี่ยทำได้เพียงอาศัยพลังของจั้วพั่วจวินในการลากพวกหมาป่าไปเท่านั้น ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้การเคลื่อนที่คือสิ่งที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ไม่ใช่สำหรับสัตว์ขี่ ดังนั้นเขาจึงใช้การขี่สัตว์ขี่มาเป็ตัวลากแล้วให้คนอื่นๆที่อยู่ด้านข้างค่อยๆจัดการ เย่เทียนเซี่ยคิดอยู่นาน และนี่ก็คือวิธีการที่ดีที่สุดที่เขาคิดขึ้นมาได้
แข็งปะทะแข็ง การใช้ความสามารถในการโจมตีและพลังชีวิตของเขาเพียงสองอย่างก็ไม่ต่างกับการรนหาที่ตาย
หลังจากการโจมตีธรรมดาัสะบั้นครั้งแรกของเย่เทียนเซี่ยก็ถูกปลดปล่อยออกไป หมาป่าตัวหนึ่งที่เพิ่งถูกเขาโจมตีไปทรุดลงไปกับพื้นพร้อมกับหลอดเืที่ว่างเปล่าทันที เย่เทียนเซี่ยผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ร่างกายที่แข็งเกร็งของเขายกห้วงเวลาแห่งโชคชะตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วฟาดัสะบั้นออกไปใส่หมาป่าหิมะตัวที่สองอย่างหนักหน่วง
สิบวินาที ปกติเวลาเท่านี้ก็มากพอให้เย่เทียนเซี่ยปลดปล่อยการโจมตีออกไปสิบกว่าครั้งได้แล้ว ทว่าครั้งนี้เขาพลับใช้ัสะบั้นออกไปได้เพียงสามครั้งเท่านั้น แต่การโจมตีทุกครั้งล้วนโจมตีเข้าใส่ร่างของหมาป่าหิมะที่ถูกเขาโจมตีด้วยการโจมตีธรรมดาไปแล้วก่อนหน้านี้อย่างแม่นยำ การโจมตีสามครั้งของเขาสามารถฆ่าหมาป่าหิมะไปได้ถึงสามตัว
อีกสามตัวที่เหลือยังคงวิ่งตามตูดจั้วพั่วจวินต่อไปอย่างหน้ามืดตามัว แต่พวกมันก็ยังคงจับเขาไม่ได้ มีหลายครั้งที่คุณสมบัติด้านความเร็วในการเคลื่อนที่กลายเป็กุญแจสำคัญที่กำหนดการแพ้ชนะ ภายใต้ความแตกต่างของความเร็วในการเคลื่อนที่รวมกับไอคิวที่ไม่ได้สูงนักของหมาป่าหิมะสามตัวทำให้พวกมันคงไม่รู้จักว่าอะไรคือการล้อมโจมตี ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีทางจับจั้วพั่วจวินได้แน่นอนหากเขาไม่หยุดเคลื่อนที่
“เทียนเซี่ย สู้ๆนะ!” ซูเฟยเฟยกัดริมฝีปากไร้สีเือันเนื่องมาจากความหนาวเย็นแล้วพยายามปลดปล่อยทักษะรักษาขั้นต้นออกไปพร้อมกับฟื้นฟูพลังเวทย์ของตัวเองไปด้วย
หลังจากหมาป่าอีกสามตัวล้มลงไปเย่เทียนเซี่ยก็ปลดปล่อยการโจมตีธรรมดาใส่หมาป่าอีกสามตัวที่เหลือที่ยังคงวิ่งตามจั้วพั่วจวินต่อไป หลังจากผ่านไปสักพักหมาป่าหิมะสามตัวที่เหลือก็ถูกฆ่าตายจนเกลี้ยง
เย่เทียนเซี่ย จั้วพั่วจวินและซูเฟยเฟยล้วนหยุดการกระทำลงแล้วมองหน้ากันไปมา ใบหน้าของพวกเขามีรอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้น หมาป่าหิมะหกตัวที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยพ่ายแพ้กลับไปเมื่อวานถูกจัดการลงไปอย่างงดงามภายใต้การประสานงานของพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่ได้รับาเ็เลยแม้แต่น้อย เหยาเหยาที่ใช้ทักษะรักษาโดยไม่หยุดพักก็สะบัดหางไปมาด้วยความดีใจ จะว่าไปแล้วมันต่างหากคือคนที่ควรจะได้เครดิตอย่างแท้จริง ถ้าไม่ใช่ทักษะรักษาอันแข็งแกร่งของมัน ซูเฟยเฟยและจั้วพั่วจวินคงจะถูกปล้นพลังชีวิตไป 10% ทุกวินาทีไปแล้ว และเย่เทียนเซี่ยเองก็คงมาไม่ถึงตรงนี้เช่นกัน
“ดีมาก.........หึ ในที่สุดฉันก็ช่วยพี่รองได้แล้ว” จั้วพั่วจวินะโออกมาเสียงดังอย่างตื่นเต้น จากนั้นเขาก็ฉีกยิ้มโชว์ฟันท่ามกลางอากาศหนาวเย็นที่เสียดแทงเข้าไปในหน้าอกทันที ขั้วโลกใต้ที่ว่าหนาวเย็นที่สุดคงจะเป็แบบนี้สินะ
เมื่อจัดการเก็บรวมรวบไอเทมจากร่างของหมาป่าหิมะทั้งหกตัวเสร็จเรียบร้อยเย่เทียนเซี่ยก็รีบกรอกน้ำยาฟื้นฟูพลังเวทย์หนึ่งขวดเพื่อฟื้นฟูพลังเวทย์ให้เหยาเหยาทันที (หมายเหตุ : พลังชีวิตและพลังเวทย์ของสัตว์เลี้ยงและสัตว์ขี่จะฟื้นฟูขึ้นมาได้โดยการที่เ้านายใช้น้ำยาฟื้นฟู) ร่างทมิฬอันเป็ทักษะที่แข็งแกร่งของเหยาเหยาทำให้มันสามรถฟื้นฟูพลังเวทย์และพลังชีวิตของตัวเอง 5% ทุกวินาทีโดยอัตโนมัติ แต่ในเมื่อมันใช้ทักษะเยียวยาิญญาทมิฬและทักษะฟื้นฟูิญญาทมิฬต่อเนื่องไม่หยุดเย่เทียนเซี่ยจึงกังวลว่าพลังเวทย์ของมันอาจจะฟื้นฟูไม่ทัน
“อดทนไว้.........ข้างหน้าน่าจะยิ่งอันตรายมากขึ้น ระวังกันหน่อย” เย่เทียนเซี่ยขมวดคิ้วมุ่นแล้วหันหัวม้าให้เดินตรงไปด้านหน้าทันทีที่พูดจบ