วันนั้นพอกลับมาถึงบ้านเหนี่ยวเหนี่ยวก็แอบมองเนี่ยเซิงเสี่ยวอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็กดความอยากรู้เอาไว้ไม่ไหว “แม่ครับ ผมมีพ่อจริงๆหรือครับ?” ่นี้ได้ยินมาว่ามีลิงที่เก่งมากๆ ตัวหนึ่ง เป็ลิงที่เกิดจากการะโออกมาจากข้างในหิน เขาเองก็เกือบจะคิดว่าตัวเองก็ะโออกมาจากข้างในหินเหมือนกัน
“ผ่านปิดเทอมฤดูร้อนนี้ไป ลูกก็จะเข้าโรงเรียนประถมแล้ว ทำไมทำเสื้อผ้าเลอะเทอะขนาดนี้? กางเกงยีนส์ซักยากมากนะรู้ไหม ไปโรงเรียนจะต้องเป็เด็กดีหน่อยนะ ่นี้ที่โรงเรียนมีอะไรใหม่ๆ ไหม…”
ถึงแม้เนี่ยเซิงเสี่ยวจะเปลี่ยนเื่ ทว่าเหนี่ยวเหนี่ยวไม่ได้คล้อยตามไปได้ง่ายๆ แต่ในเมื่อแม่ไม่อยากพูด เขาเองก็ไม่ถามแล้ว มีแม่ที่ดีขนาดนี้ จะยังต้อการพ่อไปทำไม
และั้แ่วันนั้นภาพลักษณ์ของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวในสายตาของเพื่อนก็ดีขึ้นมาไม่น้อย เพราะว่าเขามีแม่ที่สวยและอ่อนโยน แถมแม่ของเขายังบอกว่ามีพ่อที่ดีมากๆ แม้แต่เหยียนเจียอวี๋ที่เพิ่งทะเลาะกันมา ในตอนนี้ก็ได้กลายมาเป็เพื่อนสนิทกัน
ความจริงแล้วเหยียนเจียอวี๋มีเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาเป็เพื่อนกับเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว นั่นก็เพราะว่าพวกเขามักจะถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนเื่ชื่อ
ชื่อเหมือนกับผู้หญิงอะไรพวกนี้ เกลียดที่สุดเลย ทั้งๆ ที่เป็ผู้ชายแท้ๆ!
เหมือนกับวันนี้ เขามาทานข้าวที่บ้านอาสอง พอทานเสร็จก็นั่งลูบท้องมองใบหน้าที่กำลังตั้งใจทำงานของอาสอง “อาสองว่าชื่อของผมเพราะไหม”
‘อาสอง’ มองไปที่หลานชายตัวเองอย่างเกียจคร้าน คิดไม่ถึงเลยว่าเหยียนจิ่งห้าวจะเอาลูกชายมาฝากไว้กับเขา บอกว่าให้ดูแลแค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาดูนาฬิกาข้อมือ ฟ้าก็มืดแล้วยังไม่มารับกลับไปเลย
“อาสองสนใจผมหน่อยสิ…” ความจริงแล้วเหยียนเจียอวี๋ชอบอาสองที่สุด ไม่เพียงแต่หน้าตาหล่อ แถมเวลาพูดก็ยังเท่ แถมยังชอบลูกอมรสสับปะรดแบบเขาอีก ถึงแม้ท่าทางจะเ็าไปนิด แต่ก็ยังเข้าไปเกาะติดโดยไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“อืม” เหยียนจิ่งจื้อส่งเสียงตอบรับเบาๆ เขาไม่รู้จะรับมือกับเด็กที่โตขนาดนี้อย่างไร แต่ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะเข้าใกล้
“อาสอง แม่ของเพื่อนผมคนนึงสวยมากเลย” เหยียนเจียอวี๋มุดเข้าไปในอ้อมกอดของอาสอง ด้วยท่าทางที่บอกว่าจะคุยกันอีกยาว เขาลูบเนื้อตัวของอาสอง สุดท้ายก็ไปลูบเคราด้วยรู้สึกว่าน่าสนุกพลางคิดไปด้วย “ผมว่าเธอยังสวยกว่าน้าเจินอีก”
“อ่อ” มือหนึ่งของเหยียนจิ่งจื้อประคองเหยียนเจียอวี๋ไว้ ปล่อยให้เขาเล่นตามใจชอบ แต่สายตากลับจ้องไปที่งานในโน้ตบุ๊กไม่ได้คิดจะตั้งใจฟังที่เขาพูดเลย
พี่เลี้ยงอย่างแม่หลิวที่อยู่ด้านข้างมองภาพนั้นแล้วแอบไปหลบหัวเราะอยู่ห่างๆ คุณชายเหยียนที่ปกติจะเป็คนเ็า แต่เมื่อมีเด็กเข้ามาอยู่ข้างกายบรรยากาศก็เปลี่ยนมาเป็อ่อนโยนขึ้นมาทันที ทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกสบายใจมาก
ในที่สุดเหยียนเจียอวี๋ก็พบว่าอาสองเอาแต่ขานรับเขาอย่างเดียว สองมือน้อยๆ จึงยกขึ้นไปปิดตาเหยียนจิ่งจื้อ “อาสอง สรุปอาได้ฟังที่ผมพูดไหมเนี่ย”
ในที่สุดเหยียนจิ่งจื้อก็วางโน้ตบุ๊กลงแล้วดึงมือเด็กน้อยออกก่อนจะจ้องใบหน้าเล็กๆ นั้นอย่างจริงจัง “เมื่อกี้นี้นายพูดอะไร?”
พอได้มองหน้าอาสองใกล้ๆ ขนาดนี้ เหยียนเจียอวี๋จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไป จากนั้นก็ตบเข้าไปที่ไหล่ของเหยียนจิ่งจื้อ “อั้ยหยาอาสอง ทำไมอากับเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวถึงได้หน้าตาเหมือนกันขนาดนี้”
เหยียนจิ่งจื้อรู้สึกแปลกใจ ทำไม่นี้ถึงได้มีแต่คนบอกว่าเขาหน้าตาเหมือนคนอื่น อย่างหานอวี้จือ แม้แต่เ้าเด็กดื้อนี่ก็พูด เขาก็อยากจะรู้ว่าเหมือนกันว่าหมายความว่าอะไร “เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวคือใคร?”
“เป็เพื่อนสนิทในชั้นอนุบาลของผม” ทันใดนั้นเหยียนเจียอวี๋ก็ภูมิใจขึ้นมา ก่อนจะพูดเสริมว่า “เมื่อกี้ผมพูดว่าแม่ของเขาสวยมาก”
เ้าเด็กเหยียนเจียอวี๋เป็เด็กดื้อมาก เขาย้ายโรงเรียนอนุบาลไปกี่ที่แล้วก็นับไม่ค่อยถูก คิดไม่ถึงว่าจะยังหาเพื่อนได้ แต่ว่าเหยียนจิ่งจื้อก็ไม่ได้สนใจฟังเขาพูดถึงแม่ของเพื่อนอะไรนั่น ทำเพียงแค่ลูบหัวของเขา “อืม แค่นี้ก่อนนะ อาจะทำงานต่อแล้ว นายก็ลงไปเล่นกับแม่หลิวทางนู้นไป”
เหยียนเจียอวี๋ถูกหิ้วเหมือนหิ้วลูกไก่ไปทางด้านข้าง แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด “อาไปรับผมที่โรงเรียนอนุบาลสิ ผมจะแนะนำคุณแม่แสนสวยให้” เหยียนเจียอวี๋แค่คิดขึ้นมาได้ว่ามีอาที่หน้าตาหล่อแบบนี้ไปรับเขากลับบ้านทุกวัน พวกเพื่อนๆ จะอิจฉาเขาขนาดไหน เื่แนะนำคุณแม่สวยๆ ให้นี่เขาก็เคยใช้กับคุณอาคนขับรถมาก่อน และมันก็ได้ผลมากด้วย
แต่ ใช้ไม่ได้กับเหยียนจิ่งจื้อ “ฉันไม่สนใจแม่ม่าย”
เหยียนเจียอวี๋ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ “แม่ม่ายคืออะไรครับ?”
“ก็คือ…” จู่ๆ ตรงหน้าของเหยียนจิ่งจื้อก็ปรากฏภาพของเนี่ยเซิงเสี่ยว นึกแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด เขาจึงพูดเสียงต่ำ “เหยียนเจียอวี๋ ถ้านายยังไม่เดินออกไปอาจะไปหยิบไม้เรียวแล้วนะ!”
--
่นี้บริษัทเฉินตงมีข่าวลือยอดฮิตอยู่เื่หนึ่ง ซึ่งเป็เื่ของท่านประธานกับเนี่ยเซิงเสี่ยวที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่กี่วันก็ลาออกไป วันนั้นทุกคนต่างก็ได้ยินคำพูดของเนี่ยเซิงเสี่ยวกันหมด
“ฉันแต่งงานแล้วต่ะ!” เพียงแค่ประโยคนี้ คนที่ชอบจินตนาการเื่รักๆ หลายคนก็คิดพล็อตเื่ต่อไปได้หลายเื่
อย่างเช่น ท่านประธานอยากจะให้เนี่ยเซิงเสี่ยวมาเป็เด็กของตัวเอง แต่ทำอย่างไรเนี่ยเซิงเสี่ยวก็ไม่ยอม สุดท้ายก็เลยถูกไล่ออกมาจากบริษัท เื่แบบนี้มีให้เห็นบ่อยจนไม่น่าตื่นเต้นแล้ว
แต่เพราะการมีอยู่ของเจินเนี้ยน ก็ยังมีข่าวลืออีกเื่หนึ่งว่า ่นี้ท่านประธานกับคุณหนูเจินนั้นไม่ค่อยลงรอยกัน ท่านประธานจึงต้องไปหาเนี่ยเซิงเสี่ยวมาเติมเต็มความรู้สึกที่แตกร้าวนั้น แต่เนี่ยเซิงเสี่ยวกลับไม่ยอมและขอลาออกจากบริษัทไป
เหยียนจิ่งจื้อก็ไม่ได้หูหนวก ข่าวลือพวกนี้พูดต่อกันไปในวงกว้างมาก บางครั้งก็ได้ยินกับตัวโดยตรง เขาแสดงออกมาว่าโกรธมาก แต่ว่ายิ่งโกรธก็ยิ่งปวดหัว ไหนหมอที่อเมริกาเฮงซวยนั่นบอกว่าสุขภาพของเขาหายดีแล้ว เขาจะไปคิดบัญชีกับหมอนั่น
แต่ว่ายังจะไม่ทันจะได้โทรไป เขาก็ได้รับสายโทรเข้าสายหนึ่งเสียก่อน ซึ่งเป็เหยียนจิ่งเสินที่โทรมาหาบอกว่าหลังจากเขาเลิกงานแล้วให้ไปรับเหยียนเจียอวี๋ด้วย
เขาไม่ได้อยากทำหน้าที่เป็พี่เลี้ยงเด็กนะ แล้วตอนนี้ก็ยังไม่ดีอารมณ์ด้วย “ให้คนขับรถไปรับสิ เขาไม่มีทางทิ้งลูกชายที่รักของนายด้วย”
เหยียนจิ่งเสินพูดปฏิเสธ “อย่างแรก ฉันจะใช้ความหวังดีที่อยากให้นายเป็ฝั่งเป็ฝาของเจียอวี๋มาตอกย้ำนาย สอง เจียอวี๋ชอบนาย อยากอยู่กับนาย สุดท้ายฉันเป็พี่ของนาย แค่นี้ช่วยกันไม่ได้?”
เหยียนจิ่งจื้อกดวางสายทันทีไม่เสียแรงที่เหยียนจิ่งเสินเป็ทนาย เขาเก็บของและเริ่มที่จะไม่คิดถึงผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้นอีก ทว่าตอนที่เปิดลิ้นชักเตรียมจะหยิบเอกสาร ภาพถ่ายรวมที่ไปปีนเขาในครั้งนั้นก็ร่วงลงมา สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือใบหน้าบริสุทธิ์นั่น
เขานวดหัวคิ้วแล้วไม่ได้ก้มไปเก็บรูปภาพ กลับกันเขายังโทรไปหาเจินเนี้ยน เขา้าเจินเนี้ยนอยู่ข้างกาย เพื่อมาหยุดความคิดจะมีคนอื่นของตัวเองให้ทันเวลา
เพียงครู่เดียวเจินเนี้ยนก็รับสายด้วยเสียงอ่อนหวาน เขาฟังแล้วรู้สึกสบายใจ น้ำเสียงฟังสบายแบบนี้เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนมีคนเคยพูดกับเขาแบบนี้ทุกวัน เหยียนจิ่งจื้อชะงักไป “เสี่ยวเนี้ยน ห้าโมงไปรับเจียอวี๋กับผมนะ”
เจินเนี้ยนชะงักไป ก่อนจะรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น ถึงแม้ต่อหน้าคนอื่นเหยียนจิ่งจื้อจะใส่ใจเธอมาก แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เธอกลัวมากก็คือเขาไม่เคยให้เธอเข้าใกล้คนในครอบครัว เหมือนกับเป็ข้อตกลงที่คุยกันไว้ ตอนนี้จู่ๆ ก็ให้ไปรับหลานด้วยกัน เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก
ในขณะเดียวกันเหยียนเจียอวี๋ที่อยู่ในโรงเรียนอนุบาลก็ดีใจมากเหมือนกัน เพราะว่าตอนเช้าเขาไปทำตัวอ้อนพ่อขอให้อาสองมารับเขา ซึ่งพ่อก็ตกลงกับเขาแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงรอให้คุณอาสุดหล่อของเขามาปรากฏตัว พวกเพื่อนๆ จะต้องใแน่ๆ
“เจียอวี๋ นายกำลังดูอะไรน่ะ?” เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวมองตามสายตาของเขาไปด้วยความรู้สึกแปลกใจ วันนี้เจียอวี๋มักจะมองออกไปนอกหน้าต่างบ่อยๆ
“จะบอกนายให้นะ อีกเดี๋ยวอาสองของฉันก็จะมาแล้ว คนที่บอกว่าเหมือนนายมากๆ ไง” เหยียนเจียอวี๋แอบกระซิบข้างหูเหนี่ยวเหนี่ยว
“อ่อ อ่อ” เหนี่ยวเหนี่ยวทำท่าทางว่าเขาจำได้ แถมยังรู้สึกตื่นเต้นมาก และพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกไปตรงๆ “เจียอวี๋ นายว่าอาสองของนายจะเป็พ่อที่หายตัวไปหลายปีของฉันหรือเปล่า?”