ทันใดนั้นเหลียงเจิ้นเวยก็เริ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วบนพื้นที่กว้างขวาง
เขาไม่รีบพุ่งไปหาฉินเฟิงแต่เคลื่อนที่ไปรอบๆ อย่างรวดเร็วแทน
หลังจากที่ได้ฆ่าเฒ่าเฟิงฉินเฟิงก็เริ่มจะมั่นใจในความเร็วของตัวเองทว่าในตอนนี้เขากลับมองไม่เห็นรูปร่างของเหลียงเจิ้นเวยได้ชัดเจนนักเขาทำได้แค่เห็นภาพเบลอเคลื่อนที่ไปมารอบๆ
กำลังภายในหรือการกำหนดลมปราณในระหว่างต่อสู้นั้นจอมยุทธ์กำลังภายในจะสามารถกำหนดพลังลมปราณเพื่อเพิ่มความเร็วได้ทำให้พวกเขาเร็วจนเหนือจินตนาการ ฉินเฟิงเชื่อว่าแม้จะถอดเกราะับินออกไปแล้วเขาก็ยังไม่สามารถเข้าถึงความเร็วของเหลียงเจิ้นเวยได้
ภาพติดตาของเหลียงเจิ้นเวยวนรอบตัวฉินเฟิงขณะที่รู้สึกว่ากลิ่นอายแห่งความตายใกล้เข้ามาทุกทีนอกจากภาพเบลอของเหลียงเจิ้นเวย ฉินเฟิงก็ได้เห็นแส้ยาว
ภาพเบลอของแส้ที่ส่งออกมาทำเกิดเสียงหวีดในอากาศและดูเหมือนจะคลุมได้ทั้งฟ้าดิน ระยะของแส้นั้นไกลมาก ทำให้ฉินเฟิงไม่มีโอกาสหลบ
เพียะ!
แส้ได้ตวัดแล้วตวัดอีกบนร่างของฉินเฟิงทำให้เขารู้สึกปวดแสบปวดร้อน
เสียงที่มันกระทบกับเขาเหมือนกับเสียงของฟ้าผ่า
“ฮ่าๆๆ ฉินเฟิง วันนี้ในปีหน้าจะเป็วันครบรอบวันตายของแก”
จู่ๆภาพเบลอของเหลียงเจิ้นเวยก็ผสมเข้าด้วยกันและรูปร่างของเขาก็เห็นได้ชัดขึ้น
เขาะโขึ้นกลางอากาศและพุ่งตรงไปยังเหนือหัวของฉินเฟิง
ใบหน้าที่เหี้ยมโหดเต็มไปด้วยรอยยิ้มหยิ่งยโสขณะที่กำลังกวัดแกว่งแส้หนังสีดำ เขายกแส้ขึ้นสูงในอากาศและฟาดมันลงไปยังฉินเฟิง
นี่เป็ท่าไม้ตายของเหลียงเจิ้นเวยเขาตั้งชื่อให้มันว่า ‘แส้สังหารเหินเวหา’ จนถึงตอนนี้คนที่เป็พยานได้เห็นท่านี้ด้วยตาของตัวเองนั้นไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว
ฉินเฟิงรู้สึกว่าแส้นี้มีพลังมหาศาลและกลิ่นอายของความตายก็เพิ่มมากขึ้นเขารู้ว่าเขาไม่มีเวลาหลบและรู้สึกค่อนข้างเสียใจเขาประเมินพลังของเหลียงเจิ้นเวยต่ำไปและไม่เคยคิดว่ามันจะนำอาวุธมาด้วย
ฉินเฟิงไม่ได้พบกับจอมยุทธ์มากนักไม่งั้นเขาคงจะรู้ว่าจอมยุทธ์ที่แท้จริงมักจะมีอาวุธข้างกายไว้เสมอ ซึ่งจะสามารถเพิ่มพลังในการต่อสู้ได้มาก
ด้วยแส้ที่กำลังฟาดอยู่บนหัวของฉินเฟิงทำให้บรรยากาศตึงเครียดมาก
และทันใดนั้นได้มีรูปร่างของสาวสวยโผล่ขึ้นมาทันที
จ้าวหลิงเซียนที่ค่อนข้างกังวลเื่ของฉินเฟิงเธอตามพวกเขามาที่ทุ่งหญ้านี้ด้วยและเธอได้ยินทุกสิ่งที่ฉินเฟิงกับเหลียงเจิ้นเวยพูดกัน
เมื่อเธอได้ยินฉินเฟิงพูดว่าใครก็ตามที่สนใจความสวยของเธอแต่มีความคิดสกปรกมันต้องตายหัวใจของจ้าวหลิงเซียนก็ระส่ำระสาย เขาทำให้เธอตื้นตันใจ
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายเธอรีบวิ่งไปยังพวกเขาโดยไม่ลังเลและะโ “หยุดนะ!”
การที่จ้าวหลิงเซียนโผล่ขึ้นมากะทันหันทำให้ฉินเฟิงและเหลียงเจิ้นเวยหันไปมองด้วยความแปลกใจแต่พวกเขาก็รีบกลับมาสนใจเื่การต่อสู้ต่อ
แส้ของเหลียงเจิ้นเวยได้ฟาดออกไปแล้วและไม่สามารถที่จะหยุดได้
ฉินเฟิงอยากจะพยายามหลบการโจมตีถึงตายนี้แต่เมื่อเห็นจ้าวหลิงเซียนกำลังวิ่งเข้ามาในระยะของแส้ เขาล้มเลิกความคิดนั้นทันที
ระยะแส้ของเหลียงเจิ้นเวยกว้างมากและบรรจุพลังเกือบจะทั้งหมดของเขา ถ้ามันััโดนร่างของจ้าวหลิงเซียนแม้แต่นิดเดียวเธอคงจะไม่สามารถต้านทานได้แน่นอนฉินเฟิงไม่แม้แต่จะมีเวลาคิดขณะที่ะโไปหาจ้าวหลิงเซียนและใช้แขนโอบเธอไว้
ขณะที่เขาได้คว้าจ้าวหลิงเซียนที่หอมหวานและนุ่มนวลฉินเฟิงพลิกตัวเองโดยใช้ร่างของตัวเองเป็โล่ให้กับเธอ
หลังของเขาเหมือนกับูเาสูงตระหง่านป้องกันจ้าวหลิงเซียนได้อย่างหมดจดมันเหมือนกับว่าฉินเฟิงเป็เรือนกระจกและจ้าวหลิงเซียนเป็ดอกไม้บอบบางที่ปลูกอยู่ข้างใน
เพียะ!
เหลียงเจิ้นเวยไม่ได้ออมแรงและส่งพลังทั้งหมดไปที่การโจมตีนี้
แส้ได้ปะทะเข้าที่แผ่นหลังของฉินเฟิงอย่างเต็มที่ทิ้งแผลฉีกเป็ทางยาวไว้ ฉินเฟิงรู้สึกถึงคลื่นพลังที่กระแทกไปทั้งตัวแม้แต่อวัยวะภายในก็เคลื่อน ทำให้ต้องกระอักเืออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เืได้กระเซ็นใส่ใบหน้าของจ้าวหลิงเซียนที่มองดูฉินเฟิงด้วยความใกลัวราวกับกระต่ายน้อยขี้กลัว
“ฉินเฟิง เป็อะไรหรือเปล่า? อย่าทำให้ฉันกลัวสิฉันไม่อยากให้อะไรเกิดขึ้นกับนายนะ” จ้าวหลิงเซียนแตะหลังของฉินเฟิงเบาๆขณะที่ใช้มือเล็กๆ ของเธอเช็ดเืที่ปากของเขา
หลังจากที่โดนฟาดด้วยแส้ฉินเฟิงพบว่าเขาหายใจไม่ออก เขาเอนตัวกับร่างกายของจ้าวหลิงเซียนอย่างอ่อนแรงราวกับว่าจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
“ฮ่าๆๆ แกอยากจะสู้กับพ่องั้นเหรอ? มันยังห่างไกลนักพ่อจะขุดรากถอนโคนตระกูลฉินของเมืองเว่ยเฉิงนี้ภายในคืนเดียวเลยก็ได้ถ้าพ่อ้า”
เมื่อเห็นฉินเฟิงมีอาการาเ็สาหัสเหลียงเจิ้นเวยก็เริ่มหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง ฉินเฟิงในตอนนี้ไม่ได้ทำให้เขากลัวและแม้ว่าเขาจะเห็นฉินเฟิงกับจ้าวหลิงเซียนกอดอยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่แสดงความโกรธเลย
นี่เป็เพราะฉินเฟิงกำลังจะกลายเป็ศพแล้วจะโกรธทำไมในเมื่อศพกำลังกอดกับจ้าวหลิงเซียน?
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ : แลกจูบกับจ้าวหลิงเซียน 10 วินาที!”
“ระยะเวลาภารกิจ : 1 นาที”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 200 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลวชีวิตของโฮสต์จะตกอยู่ในอันตราย”
...
เสียงระบบประกาศดังออกมาในหัวของฉินเฟิงใน่เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ เ้าหมูน้อยที่ปกติมักจะี้เีในที่สุดก็ออกมาช่วยสักที
“นายท่าน ตามการคำนวณของระบบการที่นายท่านอยู่ที่กำลังภายนอกขั้นสองในตอนนี้ไม่สามารถเอาชนะเหลียงเจิ้นเวยได้แม้ว่าจะใช้หมัดพยัคฆ์คำรนและเกราะับินก็ตามข้าแนะนำให้นายท่านทำภารกิจของจ้าวหลิงเซียนให้เสร็จและนำแต้มสำราญ 200 แต้มที่ได้ บวกกับแต้มสำราญที่นายท่านมีตอนนี้เพื่อซื้อวิชากระบี่พื้นฐานนายท่านจะสามารถพลิกสถานการณ์และรับมือกับแส้ของเหลียงเจิ้นเวยได้”
คำพูดของเ้าหมูทำให้ฉินเฟิงปลาบปลื้มด้วยความดีใจ
เขารีบเปิดระบบราชันเ้าสำราญทันทีและพบว่าตอนนี้เขามีแต้มสำราญอยู่900แต้ม อีกแค่ภารกิจเดียวก็จะครบ 1,000 แต้ม
เมื่อนึกถึงวิชากระบี่พื้นฐานฉินเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นแบบสุดๆ ก่อนที่เขาจะเจอกับจอมยุทธ์กำลังภายในเขาไม่รู้ว่ากำลังภายในแข็งแกร่งขนาดไหนหลังจากที่ประสบโดยตรงกับความแข็งแกร่งที่เหลียงเจิ้นเวยมีความกระหายที่จะเรียนกำลังภายในของฉินเฟิงก็เพิ่มมากขึ้น
วิชากระบี่พื้นฐานนี้จะทำให้เขาก้าวข้ามกำแพงเพื่อเป็จอมยุทธ์กำลังภายในเปลี่ยนเขาให้กลายเป็อัจฉริยะที่สามารถฝึกได้ทั้งกำลังภายนอกและกำลังภายใน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้