ไม่ได้พบเจอหลายวัน าแจากอากาศหนาวบนใบหน้าของหลินหร่านดีขึ้นมาก
อวี้ฉู่จาวมองต่ำลงไปที่ฝ่าเท้าของหลินหร่าน แม้จะมีร่องรอยหลงเหลืออยู่แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว
อวี้ฉู่จาวถอดเสื้อคลุมด้านนอกของตนออกก่อนเดินก้าวเข้าไปโอบกอดหลินหร่าน เขาเพิ่งมาถึง ใส่เสื้อคลุมเย็นเฉียบอาจไม่ดีหากจะเข้าไปใกล้อีกคนทั้งอย่างนั้น
“เ้าลงมาจากเตียงทำไม ร่างกายยังไม่แข็งแรง เดี๋ยวเ้าจะหนาวเอานะ”
หลินหร่านที่ถูกโอบกอดเอาไว้ใช้มือทั้งสองข้างกำเสื้อผ้าของอวี้ฉู่จาวแน่น ดวงตากลมมองใบหน้าของอวี้ฉู่จาว
ดีเหลือเกิน ข้าไม่ได้ฝันไป
หลายวันก่อนหลังจากอวี้ฉู่จาวออกไป หลินหร่านคิดว่าสิ่งที่ตนเองพบเจออยู่ราวกับไม่ใช่ความจริง
ขณะที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในหน้าหนาว จู่ๆ คนที่ตนเองใฝ่ฝันก็เข้ามามอบความอบอุ่น สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาเชื่อได้ยากนัก
ถึงแม้หลายวันมานี้จะมีซูชิงเฟิงอยู่เป็เพื่อน แม่ทัพหยางก็ปฏิบัติต่อเขาเป็อย่างดี แต่เขากลับยังคงรู้สึกว่างเปล่า
“เหตุใดถึงยังไม่นอนกัน” อวี้ฉู่จาวพาอีกคนไปที่เตียง จากนั้นถอดรองเท้าบูทของตนเองก่อนตามขึ้นไป
ต่างคนต่างมองกันไปมา
ในห้องมีเชิงเทียนวางไว้สองสามจุด หลินหร่านมองเห็นใบหน้าของอวี้ฉู่จาวรางๆ
“ข้า...ข้านอนไม่หลับ”
“เหตุใดเ้านอนไม่หลับ ไม่สบายหรือ?” อวี้ฉู่จาวยื่นมือไปแตะหน้าผากของหลินหร่านด้วยความเป็ห่วง
หลินหร่านส่ายหัว “ไม่ใช่อย่างนั้นพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”
อวี้ฉู่จาวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ข้าไม่คุ้นชิน อย่างกับไม่ใช่ความจริง...รู้สึกเหมือนกำลังฝัน หากตื่นมาทุกอย่างเปลี่ยนไป ข้ากลัวว่าจะรอท่านอ๋องกลับมาไม่ไหว”
อวี้ฉู่จาวอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้
หลินหร่านมองเห็นอวี้ฉู่จาวราวกับมีม่านหมอก
“ไม่ใช่เื่จริงอะไรกัน...” อวี้ฉู่จาวดึงอีกคนเข้ามาในอ้อมกอด กุมมือของหลินหร่านเอาไว้แน่น “ข้าจะพูดกับเ้าอีกครั้ง ข้าใส่ใจเ้า อยากใช้ชีวิตกับเ้า อยากให้เ้าเป็ชายาเพียงคนเดียวของข้า ข้าจะปกป้องเ้า รักเ้า ดูแลเ้าอย่างดี เข้าใจหรือไม่”
อวี้ฉู่จาวกล่าวความในใจแบบนี้เป็ครั้งแรก ที่พูดออกไปก็ไม่รู้ถูกต้องหรือไม่ จริงใจพอหรือไม่กันนะ
หลินหร่านพยายามเข้าใจคำพูดของอวี้ฉู่จาว แล้วพยักหน้ารับด้วยความงุนงง
“ดีแล้ว ไม่ต้องคิดมาก รีบนอนเถิด มา เดี๋ยวข้ากอดเ้า” อวี้ฉู่จาวโอบกอดหลินหร่านแล้วเอนตัวนอน
หลินหร่านหลับตาพลางขดตัว นอนหนุนไหล่ผายของอวี้ฉู่จาว
อวี้ฉู่จาวก้มมองใบหน้าของเขาที่เห็นเป็เงาเลือนราง
“ไม่กี่วันมานี้ เ้านอนไม่หลับทุกคืนเลยหรือ” อวี้ฉู่จาวคิดว่านิสัยอย่างหลินหร่านคงเป็เช่นนั้นแน่
ขนตาของหลินหร่านกระตุกเล็กน้อยราวกับถูกล่วงรู้ความลับ ไม่กล้าลืมตา ทำได้แค่หลับตาแล้วพูด “ไม่...บ้างครั้งข้าก็นอนหลับบ้างนะพ่ะย่ะค่ะ”
หลินหร่านรักอวี้ฉู่จาวหมดหัวใจ แต่เขาไม่รู้ว่าอวี้ฉู่จาวรักเขามากเพียงไหน ดังนั้น เขาจึงอยากทำตัวดีๆ ไม่ทำให้ท่านอ๋องต้องขุ่นเคืองใจ
หลินหร่านใจเต้นระรัว เขากลัวว่านิสัยของเขาจะทำให้ท่านอ๋องไม่ชอบใจ
ในใจของหลินหร่านเต็มไปด้วยความกังวล ก่อนจะรับรู้ได้ถึงริมฝีปากที่ััลงบนเปลือกตา
หลินหร่านลืมตาทันที เขาได้พบกับแววตาที่แสนอ่อนโยนของอวี้ฉู่จาว
“ต่อไปอย่าเป็เช่นนี้ ข้าทรมานใจนัก”
คำพูดของอวี้ฉู่จาวเปลี่ยนแปลงโรคนอนไม่หลับของหลินหร่านโดยพลัน
ไหล่กว้างของอวี้ฉู่จาวกับอ้อมกอดอันอบอุ่น เขาตบหลังหลินหร่านเบาๆ เหมือนกำลังกล่อมเด็ก
ตอนแรกหลินหร่านกลัวว่าการที่ตนเองนอนไม่หลับจะรบกวนเวลาพักผ่อนของอวี้ฉู่จาว แต่ด้วยความเหนื่อยล้า ไม่ทันไรจึงเข้าสู่ห้วงนิทรา
หลังจากที่กลับมาเกิดใหม่ ในอ้อมกอดของเขาคือคนสำคัญในชีวิตที่ทำให้นอนหลับได้อย่างสนิท
.........
อีกด้านหนึ่ง กระท่อมฟางของหลินหร่านถูกเผาจนสิ้นซาก
นางเว่ยกับหลินเสี่ยวฉีรู้แล้วว่าเมื่อคืนหลินหร่านไม่ได้อยู่ที่นั่น โมโหที่ผิดแผนได้ไม่นานก็ต้องมาคิดเื่การหายตัวไปของหลินหร่าน
ได้ยินจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กระท่อมบอกว่าไม่เห็นหลินหร่านมาหลายวันแล้ว ปกติแล้วหลินหร่านจะเก็บฟืนแล้วนำมาขายให้กับพวกเขา แต่น่าแปลกที่่นี้ไม่เห็นหลินหร่านนำฟืนมาขายให้เลย
เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย นั่นทำให้นางเว่ยไม่สบายใจยิ่งนัก
“เ้าเด็กนั่นจะไปไหนได้” นางเว่ยไม่อาจวางใจได้จึงเรียกบุตรสาวของตนเองมาปรึกษา
“ท่านแม่ไม่ต้องตื่นใ คนอย่างเด็กนั่นจะไปไหนได้ไกล หาตัวไม่พบเช่นนี้อาจเกิดเื่ไม่คาดคิดขึ้นก็เป็ได้” บุตรชายของนางเว่ยนามว่าหลินเหลียง ซึ่งเป็บุตรของแม่ทัพฮวาเวยเหมือนกันดื่มชาก่อนกล่าว
“ท่านพี่ก็พูดง่ายเกินไป หลินหร่านใช้ชีวิตอย่างลำบาก หากเขาไปตามหาท่านพ่อ…” หลินเสี่ยวฉีไม่ได้เอ่ยต่อ แต่พวกเขาก็เข้าใจความหมายได้เป็อย่างดี
หลินหร่านเป็คนที่มากับลางร้าย ตายแล้วฟื้นขึ้นมา พูดง่ายๆ สำหรับพวกเขา หลินหร่านเป็เหมือนตัวประหลาด ไม่ว่าเื่อะไรหากเป็หลินหร่านก็เป็ไปได้ทั้งนั้น
คนแบบนี้หากมีชีวิตอยู่ต้องอยู่ภายใต้พวกเขาเท่านั้น พวกเขาถึงจะรู้สึกสบายใจ
นางเว่ยมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก กังวลใจกับเื่นี้เป็อย่างสูง
“แล้วจะทำอะไรได้ ให้คนออกตามหาแล้วก็ไม่พบ ถ้าอย่างนั้นมาจัดการกันเองเถอะ ข้าหมดหนทางแล้ว”
หลินเหลียงเป็คนอยู่ไม่สุข พูดๆ แล้วสักพักก็หายไป เขาไม่ค่อยใส่ใจเื่ในตำหนักนัก เขาสนใจแต่พวกเ้าหน้าที่ระดับสูงในหอชุนเซียงที่รอให้เขาท่องบทกวีให้ฟังเสียมากกว่า
“ท่านพี่!”
หลินเสี่ยวฉีรั้งหลินเหลียงเอาไว้ไม่ได้ นางเว่ยก็ได้แต่ถอนหายใจ
จวนแม่ทัพฮวาเวยถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ แต่ที่พำนักส่วนตัวของเทพเ้าแห่งาในชานเมืองของเมืองหลวงกลับเป็ฤดูหนาวที่เหมือนฤดูใบไม้ผลิ
ั้แ่อวี้ฉู่จาวกลับมาจากเมืองหลวงก็ไม่ไปไหนอีกเลย อยู่กับหลินหร่านทุกวัน ป้อนยาและทายาให้ด้วยตนเอง
เมื่อได้รับการดูแลที่ดีจากคนผู้นี้ ร่างกายของหลินหร่านจึงดีวันดีคืน
.........
ถึงเวลาอาหารเช้า
หลายวันมานี้หลินหร่านมักนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร รออวี้ฉู่จาวกลับจากฝึกตอนเช้าเพื่อรับประทานอาหารพร้อมกัน
หลินหร่านใช้ชีวิตอยู่ในภพนี้มาแล้วเจ็ดปี ตัวเขาเองก็คอยระมัดระวังอยู่เสมอ จึงค่อยๆ ชินกับมารยาทของที่นี่
การเข้มงวดเกี่ยวกับระดับชั้นเป็สิ่งที่ขาดไม่ได้ ซึ่งเื่เหล่านี้หลินหร่านเคยชินแล้ว
สิ่งเดียวที่แตกต่างจากคนที่นี่คือความรู้และความคิด
แต่ในตอนนี้ สิ่งที่หลินหร่านกินและใช้ล้วนเป็ของที่เหมือนกับท่านอ๋อง หลินหร่านไม่กล้าอาจเอื้อม แต่ก็ถูกท่านอ๋องเอาใจใส่จนชิน นานเข้าตัวเขาถึงยอมรับแล้วว่าการที่ตนเองมีตัวตนอยู่ข้างๆ อวี้ฉู่จาวนั้นไม่ใช่เื่ธรรมดา
ความเคารพของหลินหร่านที่มีต่ออวี้ฉู่จาวนั้นติดเป็นิสัย ไม่ว่าอะไรก็ต้องให้เขาทำก่อนหรือเริ่มก่อน อวี้ฉู่จาวบอกอยู่เสมอว่าไม่จำเป็ต้องรอตนเองตอนกินข้าว แต่หลินหร่านก็ยังไม่ยอมที่จะแตะตะเกียบก่อน
“ท่านอ๋อง” เสียงนางกำนัลที่หน้าประตูดังเข้ามา หลินหร่านรีบลุกขึ้นมองไปทางประตู
อวี้ฉู่จาวเข้ามาก็พบหลินหร่านที่ยืนรอด้วยสีหน้าดีใจ ส่งยิ้มให้กับเขา
่เวลาครึ่งเดือนหลินหร่านได้รับการเลี้ยงดูที่ดีจากอวี้ฉู่จาว ผิวพรรณจึงเรียบเนียนขาวสะอาด ผิวหน้าแดงก่ำ ดูรูปงามและน่ารัก ผ้าไหมที่มีลวดลายสวยงามถูกสวมอยู่บนร่างกายของเขา
แบบนี้สิถึงจะดูเป็คุณชายของจวนแม่ทัพฮวาเวยขึ้นมาหน่อย
อวี้ฉู่จาวถอดสายคาดเอวกับสายรัดข้อมือให้กับนางกำนัลที่อยู่ด้านหลังแล้วเดินไปหาหลินหร่าน ยื่นมือออกไปลูบแก้มเนียนก่อนพาไปนั่ง
“ข้าบอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องรอข้า”
“แต่ข้าอยากรับประทานอาหารพร้อมท่านอ๋อง”
อวี้ฉู่จาวระบายยิ้มอย่างอดไม่ได้ เมื่อมองเ้างี่เง่าตัวน้อยนามว่าหลินหร่าน
---------------------------------