“เ้าคนสารเลว!! เ้ากำลังใส่ร้ายข้า ท่านพ่อข้ามิได้พูดเช่นนั้นเลยนะขอรับ ทั้งหมดเป็เ้าง่อยขาเป๋นี่สร้างเื่ขึ้นมาเอง ข้ามิได้ทำสิ่งใดผิด”
หยุนเจี้ยนเจี๋ยลุกขึ้นยืนชี้หน้ากู้จิ่งเหยียนอย่างไม่กลัวตาย ทุกคนต่างก็ใในการกระทำของเขา แม้แต่ตัวราชเลขาหยุนเองก็เช่นกัน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! เ้าทำสิ่งใดลงไปรู้หรือไม่”
ราชเลขาหยุนรีบดึงบุตรชายของตนให้คุกเข่าลง แต่หยุนเจี้ยนเจี๋ยไม่ยอม ยังดึงดันที่จะเอาชนะกู้จิ่งเหยียนเช่นเดิม
“ข้าไม่ยอมท่านพ่อ!! ข้าไม่ผิด!! ต่อให้เ้าง่อยนี่จะเป็องค์ชายแล้วอย่างไร แต่พี่สาวของข้าก็เป็ถึงพระชายารัชทายาท ในอนาคตนางก็จะกลายเป็ฮองเฮา ข้าจะทุบตีเขาใครจะทำไม”
สิ้นเสียงของหยุนเจี้ยนเจี๋ย เสียงเพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!ก็ดังสนั่นขึ้นสองครั้ง เป็เซี่ยฮองเฮานั่นเอง หลังจากที่พระนางได้สติกลับมาก็รู้สึกเป็ห่วงบุตรชายคนเล็ก จึงได้รีบกลับมายังโถงงานเลี้ยงอีกครั้ง และสิ่งที่หยุนเจี้ยนเจี๋ยพูดออกมาทั้งหมด นางก็ได้ยินเต็มสองรูหู
“ช่างบังอาจนัก!! ข้าที่เป็ถึงฮองเฮายังไม่กล้าเอ่ยยกย่องตนเองเช่นนั้น เห็นทีการที่แต่งบุตรสาวตระกูลหยุนเข้ามาในราชวงศ์คงจะเป็เื่ที่ผิดมหันต์ หากปล่อยเอาไว้เช่นนี้ในอนาคตข้างหน้าถ้านางได้ก้าวมาอยู่ในตำแหน่งของข้า พวกเ้าตระกูลหยุนมิเหยียบหัวพวกเราตระกูลเฮ่อเหวินขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์แทนอย่างนั้นหรือ ไม่จำเป็ต้องไต่สวนแล้ว เื่ภายในราชสำนักข้าจะไม่ขอยุ่ง แต่เื่วังหลังเป็หน้าที่แม่ของแผ่นดินเช่นข้า ใต้เท้าหยุนท่านรับบุตรสาวของท่านกลับคืนไปเถิด ประตูตระกูลเฮ่อเหวินคงไม่ใหญ่พอที่จะต้อนรับคนตระกูลหยุนเข้ามาร่วมเป็ครอบครัวเดียวกันได้”
เมื่อเซี่ยฮองเฮาเอ่ยจบหยุนหนิงหลงใจนเป็ลมล้มพับไป เหล่านางกำนัลขันทีต้องรีบไปตามหมอหลวงมาดูอาการของนาง แต่ดูเหมือนราชเลขาหยุนคงจะไม่ยอมให้เป็เช่นนั้นง่ายๆ แน่ เมื่อท่านหมอตรวจอาการของนางเสร็จ เขาก็รีบเข้ามารายงานทันที
“กราบทูลฝ่าาและฮองเฮา กระหม่อมขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ดูเหมือนว่าพระชายารัชทายาทจะตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าแล้ว”
ราวกับฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ ทั้งเฮ่อเหวินเจ๋อและฮองเฮาต่างก็ใจนทำสิ่งใดไม่ถูก มีเพียงกู้จิ่งเหยียนเท่านั้นที่ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ดูท่าหายนะคงจะมาเยือนตระกูลหยุนแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ วันนี้คนตระกูลหยุนช่างทำให้ข้าได้สำราญเสียจริง ตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าอย่างนั้นหรือ พวกเ้าตระกูลหยุนเห็นราชวงศ์เป็ตัวตลกหรืออย่างไร สองสามเดือนก่อนข้าและพี่ชายต่างก็หนีตายอยู่ที่แคว้นจ้าว นางเอาความสามารถใดมาตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ แหมๆ มิน่าเล่าหยุนเจี้ยนเจี๋ยถึงได้แสดงท่าทางโอหังขนาดนี้ เห็นทีการครองบัลลังก์ของพวกเ้าตระกูลหยุนคงจะใกล้เข้ามาอีกก้าวแล้วสินะ”
เื่นี้ราชเลขาหยุนไม่รู้ แม้แต่ตัวของหยุนหนิงหลงเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ เฮ่อเหวินเจ๋อมองไปยังร่างที่พิงอยู่บนตัวของนางกำนัล จากนั้นจึงเข้าไปเขย่าเพื่อให้นางฟื้น
“หมายความว่าอย่างไรที่หมอหลวงบอกว่าเ้าตั้งครรภ์ ตื่นขึ้นมาพูดกับข้าเดี๋ยวนี้หยุนหนิงหลง ข้ามิเคยแตะต้องเ้าแม้แต่ปลายเล็บ บอกข้ามาว่าเ้าตั้งครรภ์กับใคร”
เป็ครั้งที่สองที่ทำให้ผู้คนในงานเลี้ยงใจนแทบหาเสียงตนเองไม่เจอ นอกจากคนตระกูลหยุนจะหยิ่งยโสแล้วยังกล้าสวมเขาให้องค์รัชทายาทอีกด้วย พวกเขาคิดว่าตนเองมีกี่หัวให้ตัดกัน เฮ่อเหวินเจ๋อผลักร่างที่นอนหมดสติให้ออกห่างจากตนอย่างรังเกียจ ก่อนที่จะชี้หน้าหยุนเจี้ยนเจี๋ย
“เ้ารู้ใช่หรือไม่ ว่านางลอบคบชู้กับชายใด จงบอกมาก่อนที่ข้าจะบั่นคอของเ้า”
แม้เขาจะมิได้เต็มใจแต่งงานกับนาง แต่ก็มิเคยทำร้ายน้ำใจหรือเหยียดหยันนาง ยังคงให้เกียรตินางในฐานะพระชายารัชทายาท แต่สตรีสารเลวผู้นั้นกลับลอบคบชู้กับชายอื่นในระหว่างที่เขาไปทำภารกิจที่แคว้นจ้าว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในงานเลี้ยงเปิดตัวของกู้จิ่งเหยียน กลายเป็งานสาวไส้ของตระกูลหยุนไปเสียได้ แต่ตัวต้นเหตุกลับนั่งใบหน้าเรียบเฉยราวกับมิใช่เื่ของตน มีเพียงเฮ่อเหวินฮ่องเต้เท่านั้นที่หรี่ตามองบุตรชายคนเล็กของตนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
“รัชทายาท”
เสียงปรามจากคนที่นั่งสงบนิ่งบนตั่งทองที่ตั้งอยู่สูงสุดในงานเลี้ยง ทำให้ทุกคนต่างก็เงียบเสียงลงพร้อมกัน
“เื่นี้มิใช่เื่ดีงามที่จะสามารถเอาไปโพนทะนาที่อื่นได้ หากว่าเื่ที่นางคบชู้เป็เื่จริงก็กระทำตามกฎมณเทียรบาล ส่วนท่านใต้เท้าหยุนดูท่าทางท่านจะอายุมากจนเลอะเลือนไปแล้ว ในเมื่อท่านที่เป็บิดาสั่งสอนบุตรตนเองให้ดีไม่ได้ เช่นนั้นท่านก็พักงานในราชสำนักเอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีราชโองการจากเรา ส่วนเ้าบุตรชายราชเลขาหยุนเ้าได้ลงมือทำร้ายเชื้อพระวงศ์ทั้งยังไม่สำนึกผิด ให้ลงโทษโบยหนึ่งร้อยไม้จากนั้นเนรเทศออกจากเมืองหลวง ห้ามกลับมาเหยียบที่นี่อีกตลอดชีวิต เอาล่ะ งานเลี้ยงของวันนี้ก็ให้จบลงเพียงเท่านี้ทุกคนแยกย้ายกันไปเถิด”
เื่ราวที่เกิดขึ้นภายในวังหลวงถูกเล่าลือไปต่างๆ นานา เวลานี้ตระกูลหยุนปิดจวนเงียบ ส่วนหยุนเจี้ยนเจี๋ยก็ถูกส่งตัวออกจากเมืองหลวงไปแล้ว ทางด้านอดีตพระชายารัชทายาทก็ได้รับพระราชทานเหล้าพิษจากฮองเฮา ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ยังมีคนหนึ่งจะต้องถูกคิดบัญชีโดยเฮ่อเหวินฮ่องเต้
“เอาล่ะ บอกเรามาเื่ทุกอย่างเป็ฝีมือของเ้าใช่หรือไม่”
กู้จิ่งเหยียนที่เวลานี้เปลี่ยนชื่อเป็เฮ่อเหวินจิ่งเหยียนแล้ว นั่งหมุนถ้วยชาไปมาด้วยท่าทางสบายอารมณ์อยู่ภายในห้องทรงงานของเฮ่อเหวินฮ่องเต้
“พ่ะย่ะค่ะ เป็ฝีมือของกระหม่อมเอง ฝ่าาคิดจะลงโทษกระหม่อมเช่นไรอย่างนั้นหรือ”
เฮ่อเหวินฮ่องเต้ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ เ้าเด็กคนนี้แม้จะมีใบหน้าที่เหมือนมารดาของเขาแต่นิสัยกลับถอดแบบตนเองออกมาจนน่าหงุดหงิด ถ้าพี่ชายของเขาใจเย็นได้สักครึ่งหนึ่งของน้องชาย ตนเองคงจะวางใจลงจากบัลลังก์ไปนานแล้ว
“เ้าก็รู้ว่าเราทำเช่นนั้นมิได้ ไม่อย่างนั้นเสด็จแม่ของเ้าต้องไม่ยอมให้เราก้าวเข้าตำหนักของนางเป็แน่”
เฮ่อเหวินจิ่งเหยียนไม่คิดว่าชายที่ดูสุขมที่นั่งอยู่เบื้องหน้าของตนจะมีมุมที่หวาดกลัวภรรยาด้วย
“เช่นนั้นฝ่าาเรียกกระหม่อมเข้าพบเพื่ออะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”