“กินข้าวที่นี่เหรอ?” รถแท็กซี่ของฉินหลางกับเถารั่วเซียงเพิ่งมาจอดหน้าภัตตาคารห้องโถงชั้นหนึ่ง ฉินหลางมองเข้าไปในภัตตาคารแล้วพูดขึ้นว่า “วันหยุดสุดสัปดาห์โต๊ะที่ห้องโถงชั้นหนึ่งจองยากมากเลยนะครับ เพื่อนของคุณคนนี้ ทุ่มทุนมากเลยนะครับ”
“แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก ตอนนี้เขาเจริญก้าวหน้าแล้ว” เถารั่วเซียงพูดด้วยรอยยิ้ม “ที่สำคัญ เป็ห้องส่วนตัวแบบพิเศษด้วยนะ! ยังไงซะสาวสวยสองคนก็กินได้ไม่เยอะเท่าไหร่หรอก ครั้งนี้นับว่าเป็บุญปากนาย รีบเข้าไปกันเถอะ”
ฉินหลางพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องโถงชั้นหนึ่งพร้อมกับเถารั่วเซียง
วันนี้เป็วันหยุดสุดสัปดาห์ ห้องโถงชั้นหนึ่งมีลูกค้าแน่นร้าน แน่นอนว่าห้องพิเศษต้องจองยากด้วยเช่นกัน เพื่อนคนนี้ของเถารั่วเซียงสามารถจองห้องพิเศษที่นี่ได้ แสดงว่าต้องมีความสามารถอยู่บ้าง
สำหรับฉินหลางแล้ว เขาแค่ชอบกินข้าวกับเถารั่วเซียงเท่านั้น ส่วนจะกินที่ไหน หรือมีคนอื่นกินด้วยหรือไม่นั้น เขาไม่สนใจหรอก
“ห้องนี้แหละ เราเข้าไปเถอะ” เขารั่วเซียงเปิดประตู เดินเข้าไปในห้องพิเศษ ฉินหลางรีบตามเข้าไป
“เซียงเซียง ไม่เจอกันตั้งนาน!” เข้าไปในห้องแล้ว สาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่งเดินเข้ามากอดเถารั่วเซียงอย่างสนิทสนม ดูแล้วเธอน่าจะเป็เพื่อนสมัยเรียนของเถารั่วเซียง ผู้หญิงคนนี้ย้อมผมสีไวน์แดง ผมลอนยาว สวมชุดเดรสสั้นสีดำรัดรูป ถุงน่องตาข่ายสีดำกับรองเท้าส้นสูงสีแดง ทั้งหู คอ ข้อมือและนิ้วมือเต็มไปด้วยเครื่องประดับ ดูคล้ายนางปีศาจสุดยั่วยวน
พูดจากใจ เธอก็เป็คนสวยคนหนึ่ง เพียงแต่บนตัวเธอขาดความสง่างามบางอย่าง ทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ขึ้นแท่นสาวที่สวยที่สุด
นอกจากสาวสวยคนนี้แล้ว ยังมีผู้ชายอายุประมาณ 35-36 หกปี สวมชุดสูทแบรนด์เนม ชายวัยกลางคนมีพุงเล็กน้อย สวมนาฬิกาข้อมือทอง นับได้ว่าเป็คนที่ ‘ประสบความสำเร็จทางหน้าที่การงาน’
เวลานี้เถารั่วเซียงกอดเพื่อนสมัยเรียนของเธอเสร็จแล้ว หลังจากแนะนำตัวแล้ว ฉินหลางรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อฮานเซียน ชายวัยกลางคนชื่อโซ่งเหว่ย เป็ซีอีโอของบริษัทหนึ่งในเมืองเซี่ยหยาง ซึ่งนับได้ว่าเป็คนที่ประสบความสำเร็จคนนึง
“เซียงเซียง คนนี้คือ?” สายตาของฮานเซียนมองมาที่ฉินหลาง
“สวัสดีครับคนสวย ผมชื่อฉินหลาง เป็ลูกศิษย์ของอาจารย์เถา มาที่นี่เพื่อกินข้าวฟรีโดยเฉพาะครับ” ฉินหลางแนะนำตัวง่ายๆ และตรงไปตรงมามาก
เถารั่วเซียงรู้สึกอายเล็กน้อย เธอกับฮานเซียนเป็เพื่อนกัน ถ้าที่นี่มีพวกเธอเพียงสองคน ต่อให้พานักเรียนมากินข้าวฟรีด้วยคนก็ไม่เป็ไร กับฮานเซียนเป็เพื่อนกัน ถ้าที่นี่มีพวกเธอเพียงสองคน ต่อให้พานักเรียนมากินข้าวฟรีด้วยคนก็ไม่เป็ไร แต่ที่นี่ยังมีแฟนของฮานเซียนอยู่ด้วย พาฉินหลางมากินข้าวฟรีด้วยจึงดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนัก
“เซียงเซียง อย่าบอกนะ—ว่าเธอยังสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน?” ฮานเซียนพูดด้วยความใ “เธอเป็คนที่เรียนเก่งที่สุดในห้องเลยนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเป็ครูเล็กๆ คนหนึ่ง? ขนาดฉันเกรดแย่กว่าเธอตั้งเยอะ ตอนนี้ยังเป็ข้าราชการพลเรือนอยู่ที่ฝ่ายความมั่นคงสาธารณะของจังหวัดเลย ไม่แน่ปีหน้าอาจจะได้เลื่อนขั้นอีกด้วย—เซียงเซียง ฉันไม่ได้จะว่าเธอนะ แต่เธอเก่งขนาดนี้ ทำไมถึงมีชีวิตแบบนี้ล่ะ”
ดูเหมือนว่าเถารั่วเซียงจะไม่ถือสาอะไรกับคำพูดของฮานเซียน แต่จากคำพูดนี้ฉินหลางเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว—
โอ้อวด!
รู้สึกว่าฮานเซียนคนนี้เตรียมที่จะอวดตัวเองต่อหน้าเถารั่วเซียง นี่มันดินเนอร์ที่เจตนาไม่บริสุทธิ์ชัดๆ!
เพียงแต่ ดูเหมือนว่าเถารั่วเซียงจะยังไม่ทันสังเกต เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เซียนเซียน ฉันไม่ได้เก่งเหมือนเธอนี่นา นอกจากหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองแล้ว ยังมีแฟนเป็คนที่ประสบความสำเร็จอีก”
“อาจารย์เถาชื่นชมเกินไปแล้วครับ” โซ่งเหว่ยพูดอย่างมาดแมน แต่ฉินหลางกลับรู้สึกว่าสายตาของเ้าหมอนี่มองที่เถารั่วเซียง ไม่ได้ชื่นชมรูปลักษณ์ของเธอเท่านั้น
“นั่นสิ โซ่งเหว่ยก็แค่มีทรัพย์สินแค่สิบกว่าล้านเท่านั้นเอง ไม่ได้เป็มหาเศรษฐีอะไร” ฮานเซียนหัวเราะอย่างได้ใจ “เซียงเซียง มาตรฐานของเธอสูงมากอยู่แล้ว หนุ่มๆ ในมหาลัยไม่มีใครที่เธอจะสนใจสักคน ตอนนี้อาจจะมีแฟนมหาเศรษฐีไปแล้วก็ได้?”
“อาจารย์เถา…เธอยังไม่มีแฟนครับ” ฉินหลางชิงตอบก่อน มองข้ามสายตาโกรธเคืองของเถารั่วเซียง แล้วเปลี่ยนเื่คุย “รีบสั่งอาหารกันเถอะครับ ตอนนี้ผมหิวมากแล้ว”
“ในเมื่อทุกคนต่างก็หิวแล้ว งั้นเรามาสั่งอาหารกันเถอะ อาหารของห้องโถงชั้นหนึ่งยังถือว่าใช้ได้—อย่าเกรงใจ สั่งตามสบายเลยนะ” ฮานเซียนยื่นเมนูอาหารให้เถารั่วเซียงกับฉินหลาง จากนั้นก็เรียกพนักงานบริการเข้ามา
เถารั่วเซียงยังมีความเกรงใจอยู่ แต่ฉินหลางกลับไม่เกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว เน้นสั่งแต่ของแพงล้วนๆ “น้องครับ เอาพระะโกำแพงชั้นดี เอาหอยเป๋าฮื้อออสเตรเลียมาหลายๆ ตัวหน่อยนะ…แล้วก็หูฉลามนี่ก็ดูไม่เลว เอาอันนี้ด้วยก็ได้ จริงสิ เอาไก่ฟ้าสีดำด้วย เอาทั้งตัวนะครับ ผมสั่งแค่ไม่กี่อย่างนี่ก็พอ อ้อ อย่าลืมเอาไวน์แดงมาด้วยหนึ่งขวด เอาแค่นี้ก่อนก็ได้ครับ”
เถารั่วเซียงได้ฟัง ก็รู้สึกเสียใจจริงๆ ที่พาเ้าหมอนี่มาด้วย เ้าหมอนี่มันตัวทำลายชัดๆ ตั้งใจจะให้ฮานเซียน ‘กระอักเื’
“แค่กๆ~ ฉินหลาง!”
เถารั่วเซียงไอสองครั้ง เธอ้าจะเตือนฉินหลาง อย่าให้มันเกินไปมาก คิดไม่ถึงว่าเ้าหมอนี่กลับพูดขึ้นว่า “อาจารย์เถา คุณอย่าขี้เหนียวมากสิครับ พี่ฮานชวนเรามากินข้าวในที่หรูๆ แบบนี้ ก็เพื่อให้เรากินกันอย่างมีความสุขไม่ใช่เหรอครับ คนอย่างพี่ฮานกับพี่โซ่ง เขาจะเสียดายเงินแค่นี้เหรอครับ?”
“นั่นสิ ฉันบอกแล้วไง ถ้าพวกเธอชอบก็สั่งกันตามสบาย” ฮานเซียนแสดงออกราวกับตนเป็คนใจกว้างมาก เพราะอย่างไรซะเธอก็มีโซ่งเหว่ยอยู่ข้างๆ มื้อนี้เธอไม่ต้องเป็คนจ่ายเองอยู่แล้ว
แต่นั่นก็เป็เพราะว่าปกติแล้วฮานเซียนไม่ค่อยได้เป็คนจ่าย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าอาหารที่ฉินหลางสั่งนั้นราคาแพงหูฉี่ขนาดไหน นั่นทำให้โซ่งเหว่ยจวนจะกระอักเื และใบหน้าเริ่มซีดแล้ว ฉินหลาง เ้าเด็กเดรัจฉานสั่งอาหารมื้อละตั้งหลายหมื่น น่ารังเกียจมากจริงๆ! แต่โซ่งเหว่ยกลับไม่ได้แสดงออกมา ส่วนหนึ่งเป็เพราะฮานเซียน แต่อีกส่วนหนึ่งนั้นเป็เพราะเถารั่วเซียง
ในสายตาโซ่งเหว่ย ฮานเซียนเป็ผู้หญิงที่แรดมาก เขาดันชอบผู้หญิงแบบนี้พอดี ส่วนเถารั่วเซียงเป็สาวสวยอีกระดับหนึ่ง เธอทำให้โซ่งเหว่ยรู้สึกท้าทายและอยากจะเป็เ้าของ ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เขาจวนกระอักเื ดังนั้นโซ่งเหว่ยจะเสียหน้าต่อหน้าสาวสวยไม่ได้
“นั่นสิ แค่กินข้าวเท่านั้นเอง มีความสุขก็พอแล้ว” โซ่งเหว่ยตัดสินใจทุ่มสุดตัวแล้ว
เสียดายเหยื่อก็ตกปลาไม่ได้ เสียดายเงินก็จีบสาวไม่ได้
ในเมื่อฮานเซียนกับโซ่งเหว่ยพูดอย่างนี้แล้ว เถารั่วเซียงจึงไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่เธอก็ไม่ได้สั่งกับข้าวอะไรเพิ่มแล้ว ในขณะเดียวกันก็แอบใช้ส้นรองเท้าเหยียบเท้าฉินหลาง เพื่อเตือนให้เ้าหมอนี่อย่าทำอะไรเกินเลยอีก!
แต่ฉินหลางกลับไม่คิดจะเพลาๆ ลงบ้างเลย เมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว ฉินหลางลงมือกินอย่างไม่เกรงใจใคร เขากลายเป็คนที่มากินข้าวฟรีโดยเฉพาะไปแล้วจริงๆ
ส่วนเถารั่วเซียง ฮานเซียนและโซ่งเหว่ย ทั้งสามคนแทบจะไม่ได้กินอะไรเลย ั้แ่เริ่มกิน ฮานเซียนก็เม้าท์เื่กระเป๋า Hermes น้ำหอม Chanel เพชรคาร์เทียร์และของใช้ราคาแพงของเธอ นั่นทำให้เถารั่วเซียงต้องเป็ฝ่ายตั้งรับ ฉินหลางรู้สึกว่าตอนนี้เถารั่วเซียงกำลัง ‘ถูกเกทับ’ โดยสิ้นเชิง เพราะรอยยิ้มอย่างผู้ชนะบนใบหน้าของฮานเซียนดูชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนโซ่งเหว่ย ความสนใจของเขาไม่ได้อยู่บนโต๊ะอาหาร แต่อยู่บนตัวเถารั่วเซียงต่างหาก โซ่งเหว่ยทำงานหนักมาตลอดจนถึงตอนอายุสามสิบกว่า ในที่สุดเขาก็ได้เป็คนที่ประสบความสำเร็จอีกคน แน่นอนว่าเขาต้องไม่เต็มใจหยุดอยู่ที่ฮานเซียนคนเดียวอยู่แล้ว สาวสวยอีกระดับอย่างเถารั่วเซียง สามารถดึงดูดความสนใจเขาได้มากกว่า เพราะส่วนมากแล้วคนประเภทนี้ มักหลงตัวเองและคิดว่าตัวเองไม่ธรรมดา
“เอ่อ—”
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดฉินหลางก็กินอิ่มจนเรอเสียงดัง ขัดจังหวะฮานเซียนที่กำลังอวดรวย และในขณะเดียวกันก็ขัดความคิดลามกของโซ่งเหว่ยด้วยเช่นกัน ฉินหลางตีพุงเบาๆ อย่างพอใจ แล้วบอกกับฮานเซียนกับโซ่งเหว่ยว่า “ผมกินอิ่มแล้ว พวกคุณล่ะครับ?”
เวลานี้ฮานเซียนกับโซ่งเหว่ยเพิ่งจะได้สติ จากนั้นก็มองไปบนโต๊ะอาหาร ตกตะลึงตาค้างในทันที แอบด่าในใจว่า ‘ไอ้เด็กเดรัจฉาน!’
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้