ที่เมือง A มีเขตเมืองเก่าอยู่ที่หนึ่งโดยมีสายน้ำหลักเก่าแก่ของเมืองตัดผ่านตรงกลาง ราวกับใบมีดที่แยกพื้นที่ให้เป็สองส่วน
ฟากหนึ่งของแม่น้ำเป็สิ่งก่อสร้างอันทันสมัยของศตวรรษที่21 เรียงรายไปด้วยตึกอาคารสูงใหญ่และร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงการผสมผสานระหว่างความเป็ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและคาเฟ่ที่แสนผ่อนคลายเต็มไปด้วยคนเมืองที่ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ
ส่วนอีกฟากของแม่น้ำนั้นสิ่งปลูกสร้างเป็อาคารเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็อย่างดี ถนนที่ปูด้วยหินบ้านสไตล์จีนที่สร้างด้วยกำแพงอิฐให้บรรยากาศเก่าแก่ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อร้อยปีก่อนหน้าบ้านเก่าแก่ของที่นี่ราคาแพงยิ่งกว่าคฤหาสน์งามในหมู่บ้านสุดหรูเสียอีก
บ้านหลังหนึ่งที่ประตูใหญ่ปิดสนิทมากว่าสิบสี่ปีทว่าใน่หลายวันมานี้กลับมีคนเดินเข้าออกไม่ขาดสายชายหนุ่มทุกคนต่างสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงและรองเท้าแบบทหารไม่ว่าเจอหน้าใครพวกเขาก็ไม่ทักทาย แต่จะเดินก้มหน้าก้มตาผ่านไปพยายามทำตัวให้ไม่เป็ที่ผิดสังเกต
บรรดาเพื่อนบ้านต่างเดากันว่าคนพวกนี้คงเป็บอดี้การ์ดที่คอยปกป้องดูแลเ้าของตัวจริงของบ้านหลังนี้
เ้าของบ้านที่ว่าก็คือคังรุ่ยเฉิง
คังรุ่ยเฉิงนั่งอยู่ที่ลานบ้านพลางจิบน้ำชาเมื่อได้ยินคำรายงานของลูกน้องเขาก็ปาแก้วชาลงพื้น
“ไอ้พวกสวะ!”เขาด่าอย่างโกรธจัด “ให้ไปหาผู้หญิงแค่คนเดียวยังทำไม่ได้!”
“พี่ถังครับ แต่...ผู้หญิงที่ไปเที่ยว Happy World วันนั้นมีเยอะมากเลยนะครับ”ลูกน้องอธิบายอย่างลำบากใจ “พี่บอกพวกเราแค่ว่าเป็ผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งแล้วพวกผมจะเอาอะไรไปหาล่ะครับ กล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารก็จับภาพเธอไว้ไม่ได้”
เขาไม่รู้ว่าคังรุ่ยเฉิงเป็อะไรไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วันอยู่ดีๆ เขาก็สั่งให้ไปหาตัวผู้หญิงคนหนึ่งทำเอาลูกน้องอย่างพวกเขาอยู่กันไม่เป็สุข
ถ้าไม่ใช่เพราะวันนั้นสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีคังรุ่ยเฉิงคงสั่งให้คนไปตามหาตัวผู้หญิงคนที่ทำแผลให้เขาแล้วหลังจากกลับมาเขาก็ดันมีงานรัดตัวตลอดเวลาเลยต้องสั่งให้คนไปหาแทนแต่ก็ไม่ได้เื่ ตอนนี้อุตส่าห์พอจะหาเวลาว่างได้บ้างเขาเลยสั่งลูกน้องที่ไว้ใจที่สุดให้ไปทำงานนี้ แต่หาอย่างไรก็หาไม่พบ
“ไปหาตัวเธอมาให้ได้!”เขากุมแผลที่มือของตัวเองเบาๆ “ถ้าหาไม่เจอก็พยายามให้มากกว่านี้!ฉันไม่เชื่อว่าแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวฉันจะหาเธอไม่พบ!”
“พี่ถัง ก็แค่ผู้หญิงคนเดียวเองไม่ใช่เหรอ”ตงจื่อเอ่ยเตือนสติ “เมือง A ขึ้นชื่อเื่สาวสวยอยู่แล้ว ไหนๆ พวกเราก็กลับมาแล้วพี่ไปหาคนใหม่ก็ได้นี่”
“แกจะไปเข้าใจอะไร”คังรุ่ยเฉิงเตะตงจื่อเข้าให้ “เธอไม่เหมือนกับคนอื่น รีบไปหาตัวเธอมาให้ฉัน้าเงิน ้าคนเท่าไรก็บอก ขอแค่หาตัวเธอให้เจอ!”
“รับทราบครับ!”ตงจื่อพยักหน้า “พี่ให้เวลาพวกผมอีกนิด รับรองว่าผมหาตัวเธอเจอแน่”
“ยังไม่รีบไปทำงานอีก!”คังรุ่ยเฉิงตะคอกอย่างโกรธจัด
“ครับ!”ตงจื่อรีบวิ่งออกไปทันที
คนที่ยืนอยู่รอบข้างเห็นสถานการณ์ตรงหน้าแล้วแค่ขยับก็ยังไม่กล้าบรรยากาศรอบลานบ้านดูนิ่งเกร็งไปหมด คังรุ่ยเฉิงไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปเขาเตะโต๊ะจนพลิกคว่ำ ชุดเครื่องชาแตกละเอียด ถึงจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
เขายืนรับแสงแดดที่เริ่มร้อนแรงขึ้นทุกทีใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นผุดเข้ามาในสมองเขาอีกครั้ง
เธอบอกว่าแต่งงานแล้ว ฮึเขาไม่สนใจหรอกเพราะสิ่งที่เขาถนัดที่สุดก็คือการแย่งของที่ตน้ามาจากคนอื่นอยู่แล้ว
อีกด้านคนที่กำลังตกเป็เป้าหมายของใครบางคนอย่างูเี่อันขณะนี้กำลังจัดกระเป๋าอยู่ที่บ้านพักในตำบลซานชิง
ตำบลเล็กๆ ในภาคใต้แห่งนี้ผู้คนล้วนพูดกันด้วยภาษาถิ่น บรรยากาศการใช้ชีวิตที่ไม่คุ้นเคยปกคลุมอยู่โดยรอบูเี่อันหยิบของใช้สำหรับอาบน้ำออกมาจัดเรียง แขวนเสื้อผ้าและปูที่นอนให้เรียบร้อย
ตอนนั้นเองถึงได้รู้ว่าเตียงของที่นี่เป็เตียงไม้เธออดคิดอย่างกลุ้มใจไม่ได้ว่าคืนนี้เธอจะนอนหลับหรือเปล่า
จู่ๆ เธอก็รู้สึกคิดถึงเตียงของเธอที่บ้านขึ้นมาความนุ่มสบายที่ให้ความรู้สึกราวกับนอนอยู่บนปุยเมฆเหมือนกับที่นอนที่แม่เลือกให้เธอตอนเด็กๆ ไม่มีผิด
แต่...อีกไม่นานที่นั่นก็คงไม่ใช่บ้านของเธออีกแล้วเธอก็แค่อาศัยความเป็ ‘คุณนายลู่’ ถึงได้อยู่ที่นั่นมากกว่าครึ่งปี
“เสร็จหรือยังเจี่ยนอัน”มีคนมาเคาะประตูห้องเธอ “ได้เวลากินข้าวแล้ว”
“มาแล้ว”
ูเี่อันเดินออกจากห้องก่อนจะล็อกประตูให้เรียบร้อยเธอเดินตามพวกสารวัตรไปยังร้านอาหารใกล้ๆ
ตำบลเล็กๆ ที่ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเช่นเดียวกับการตกแต่งของร้านอาหาร รสชาติอาหารของที่นี่ไม่เลวเลยแต่เพราะูเี่อันไม่ค่อยเจริญอาหารสักเท่าไร เธอกินไปแค่ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลง
อาหารมื้อนี้สารวัตรสิงหัวหน้าทีมตำรวจท้องที่อาสาเป็คนเลี้ยงเพื่อขอบคุณสารวัตรเหยียนที่อุตส่าห์นำทีมมาช่วยคลี่คลายคดีถึงที่นี่เมื่อเขาเห็นูเี่อันวางตะเกียบลงจึงถามขึ้นมา
“อาหารไม่ถูกปากหรือเปล่าครับคุณซู”
“เปล่าค่ะ”ูเี่อันยิ้มพลางส่ายหน้า “ฉันกินอิ่มแล้วน่ะค่ะ”
“เพิ่งกินไปได้แค่นิดเดียวเองนี่ครับ”เขาจับหูตัวเองเบาๆ “ไม่งั้นคุณลองดูเมนูไหมครับสั่งอาหารที่คุณชอบมาอีกสักอย่างสองอย่าง”
ูเี่อันไม่รู้จะรับมือกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของเขาอย่างไรดีคนในทีมของเขาก็เริ่มประท้วง
“ผมก็กินไปได้แค่นิดเดียวเองทำไมสังเกตแต่คุณซูล่ะครับ?”
หัวหน้าทีมอาชญากรรมหน้าแดงขึ้นมาคนในทีมของเขาจึงรีบคว้าโอกาสนี้แซวเขากันใหญ่ ูเี่อันเห็นท่าจะไม่ดีจึงเตะเสียวอิ่งจากใต้โต๊ะไปหนึ่งที
เสียวอิ่งเคยช่วยูเี่อันจัดการกับเื่แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนเธอจึงยกนิ้วทำท่าบอกว่าโอเค ก่อนจะกระแอมเล็กน้อย
“ฉันจะบอกความจริงให้ก็ได้ค่ะว่าทำไมเจี่ยนอันถึงกินน้อย ก็เพราะเธอคิดถึงสามีที่บ้านไงล่ะคะ!”
ประโยคที่ได้ยินทำเอาคนในทีมอาชญากรรมเงียบกริบพวกเขาพากันมองหัวหน้าของตนก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเงียบๆ
ูเี่อันลุกขึ้น“ฉันขอตัวไปโทรศัพท์หน่อยนะคะ เชิญทุกคนตามสบายค่ะ”
เธอแค่หาข้ออ้างออกมาเท่านั้นที่จริงในเวลาแบบนี้เธอควรช่วยหัวหน้าทีมคนนั้นพูดอะไรสักหน่อย
แต่เพราะคำพูดของเสียวอิ่งมาสะกิดแผลของเธอเข้าโดยไม่รู้ตัว
เธอคิดถึงลู่เป๋าเหยียนจริงอย่างที่เสียวอิ่งพูดทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่เมือง A เธอกับเขาก็อยู่ห่างกันกว่าสามพันกิโลเมตรยังไม่ทันไรเธอก็เริ่มคิดถึงเขาแล้ว
แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อพวกเธอใกล้จะหย่ากันไปทุกที
ูเี่อันเดินบนถนนไปเรื่อยๆเพื่อคลายความรู้สึกอึดอัดในหัวใจ
ที่ข้างทางเธอเห็นยายคนหนึ่งกำลังขายสร้อยข้อมือถักรูปดอกคามิลเลียตัวดอกสีขาวสะอาด เถาวัลย์สีเขียวอ่อนสวยงามสามารถสวมเป็กำไลข้อมือได้น่าจะถูกอกถูกใจหญิงสาววัยรุ่นไม่น้อย
เธอหยิบมันขึ้นมายายคนนั้นยิ้มพลางช่วยใส่ให้เธอ เมื่อยกมือขึ้นมามองใกล้ๆก็พบว่ามันให้ความรู้สึกต่างจากการใส่เครื่องประดับอย่างสิ้นเชิง
“คุณยายคะ” เธอถาม“เส้นนี้เท่าไรคะ?”
คุณยายตอบกลับมาเป็ภาษาถิ่นูเี่อันส่ายหน้าเพื่อสื่อว่าเธอไม่เข้าใจ สุดท้ายคุณยายจึงชูนิ้วขึ้นมาบอกเธอว่าสองหยวน
ูเี่อันเปิดกระเป๋าสตางค์เพื่อหาแบงก์ย่อยก่อนจะส่งแบงก์ร้อยให้พลางทำมือบอกว่าไม่ต้องทอนเงิน
หญิงชราตอบกลับมาเป็ภาษาถิ่นดูคล้ายกับคำขอบคุณก่อนจะหยิบสร้อยขึ้นมาอีกสองเส้นใส่ในมือเธอ ูเี่อันรับมันไว้แค่เส้นเดียวก่อนจะเดินออกมา
ยังไม่ทันเดินถึงหน้าโรงแรมดีเสียงของเสียวอิ่งก็ดังขึ้น
“เจี่ยนอันมานี่เร็วฉันกำลังจะโทรหาเธอพอดีเลย ไปไหนมาเนี่ย?”
ูเี่อันยกมือขึ้นพลางตอบ“เห็นยายคนหนึ่งกำลังขายอยู่เลยซื้อมาสองเส้น”
ผมสีดำขลับยาวสลวย ผิวขาวเนียนละเอียดเปล่งประกายยามเธอยิ้มเหมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสวรอยยิ้มของเธอสวยกว่าดอกคามิลเลียในมือเสียอีก
เธอก็แค่เดินเข้ามาเฉยๆไม่ต้องพูดไม่ต้องแสดงท่าทางอะไร แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้คนมองใจสั่น
“ไม่เห็นเหมือนแพทย์นิติเวชเลย”ตำรวจในทีมอาชญากรรมของที่นี่ถึงกับกลืนน้ำลาย “นี่มันดาราชัดๆ!”
“อย่าพูดไปถ้าเจี่ยนอันไปเป็ดารารับรองว่าดังแน่ค่ะ” เสียวอิ่งพูดยิ้มๆ“แต่ตอนนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรกับดาราหรอกนะ”
“หมายความว่าไงครับ”มีคนถามขึ้นมา “เมื่อกี้คุณบอกว่าเธอแต่งงานแล้วแต่เธอดูไม่เหมือนคนแต่งงานแล้วเลย”
“ถึงจะไม่เหมือนแต่เธอก็เป็ถึงคุณนายลู่เลยนะคะ” เสียวอิ่งกะพริบตาปริบๆ“สามีของเธอชื่อลู่เป๋าเหยียนค่ะ”
“ลู่เป๋าเหยียน...”ผู้ฟังทั้งหลายพากันพึมพำชื่อนี่ “ทำไมชื่อคุ้นหูจัง”
“ผอ.ของเครือลู่”สีหน้าของนายตำรวจเริ่มหมอง “ก่อนหน้านี้ผมได้ยินว่าเขาแต่งงานแล้วไม่นึกเลยว่าคุณซูจะเป็ภรรยาของเขา”
ูเี่อันเดินเข้ามาทันได้ยินประโยคสุดท้ายของเขาพอดีเธอฝืนยิ้มออกไป พยายามเก็บความรู้สึกไว้ ก่อนจะยื่นสร้อยในมือให้เสียวอิ่ง
“พวกเราจะเริ่มทำงานกันหรือยังคะ”
“งั้นไปประชุมกันก่อนดีกว่า”นายตำรวจเอ่ย “พวกเราคงต้องปรึกษากันเื่รูปคดีก่อน”
สารวัตรเหยียนพยักหน้าคนในทีมจึงพากันเดินกลับไปที่สถานีตำรวจโดยมีูเี่อันกับเสียวอิ่งเดินตามอยู่ด้านหลัง
“ใช้ได้นี่เจี่ยนอัน”เสียวอิ่งจิ้มไหล่เธอเบาๆ “เธอดูนายตำรวจพวกนั้นสิ หลงเธอหัวปักหัวปำ”
“อย่าล้อเล่นน่า”ูเี่อันเก็บดอกคามิลเลียลงในกระเป๋า “พวกเรามาทำงานกันนะ จริงจังหน่อยสิ”
“ฮึๆๆ”เสี่ยวอิ่งหัวเราะอย่างชั่วร้ายก่อนจะคล้องแขนูเี่อัน “เอางั้นก็ได้”
ว่าแล้วเธอจึงไม่พูดเื่นี้อีกและเริ่มทุ่มเทให้กับงาน
หลังทำงานกันจนถึงสองทุ่มกว่าหัวหน้าทีมทั้งสองฝ่ายจึงบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาทำงานกันต่อ สิบกว่าชีวิตในที่นี้กำลังหิวโหยได้ที่สารวัตรเหยียนคิดไปถึงมื้ออาหาร่กลางวันขึ้นมาจึงเอ่ยขึ้นว่า
“มีอาหารอร่อยๆ ของที่นี่แนะนำบ้างไหมครับช่วยพาพวกผมไปที เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
“งั้นกินบาร์บีคิวกันไหม”หัวหน้าทีมท้องถิ่นกล่าว “ที่นี่ติดทะเล หอยนางรมเผากับอาหารทะเลอื่นๆ ขึ้นชื่อมากเลยนะครับ”
ทุกคนต่างเห็นด้วยูเี่อันเดินไปหาสารวัตรเหยียนก่อนพูดว่า
“พวกสารวัตรไปกันเถอะค่ะฉันขอตัวกลับที่พักก่อน”
“ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะ?” สารวัตรเหยียนถาม“กินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาสนุกดีออกไม่ใช่เหรอ”
ูเี่อันกลัวที่สุดก็ความสนุกแบบนี้เธอส่ายหน้าปฏิเสธ
“ฉันอยากกลับไปพักน่ะค่ะ”
“งั้นก็ตามใจ”สารวัตรเหยียนรู้ว่าเธอมีเื่ไม่สบายใจจึงไม่อยากรั้งไว้“แต่ถ้าหิวแล้วอย่าลืมไปหาอะไรกินนะ ไปที่ร้านอาหารของที่พักก็ได้”
“ทราบแล้วค่ะ”
ที่พักของเธออยู่ติดกับสถานีตำรวจูเี่อันเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงที่หมายเธอเห็นแผงผลไม้ที่วางขายอยู่ด้านหน้าจึงซื้อผลไม้ประจำฤดูกาลมาเป็มื้อเย็นเพราะเธอไม่มีความอยากอาหารเลยจริงๆ
เพราะในห้องไม่มีอ่างแช่ตัวูเี่อันจึงอาบน้ำด้วยฝักบัวก่อนจะออกมา เธอล้างผลไม้และกินเข้าไปพลางเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อท่องอินเทอร์เน็ตแต่อินเทอร์เน็ตของที่นี่ช้าอย่างกับเต่า เธอจึงถอดใจไม่เล่นต่อ และลงไปนอนบนเตียง
ไม่รู้ว่าเพราะเตียงแข็งไปหรือเปล่าเธอพลิกไปพลิกมาหลายตลบแต่ก็ไม่สามารถหาท่านอนอย่างสบายได้ นอนอย่างไรก็นอนไม่หลับ
ยามค่ำคืนของที่นี่เงียบสงบกว่าในตัวเมืองมากแค่เงยหน้าไปบนท้องฟ้าก็สามารถเห็นหมู่ดาวเรียงรายูเี่อันลุกออกจากเตียงและเดินไปข้างหน้าต่าง ภาพวิวในยามค่ำคืนของเมือง A ค่อยๆ ผุดขึ้นมาในสมอง
นี่ก็ดึกแล้วลู่เป๋าเหยียนคงกลับบ้านนอนแล้วสินะ
วันนี้เขาจะเป็อย่างไรบ้าง? เขาสั่งให้ทนายเริ่มร่างใบหย่าแล้วหรือยัง? เขากลับไปถึงบ้านที่ไม่มีเธออยู่แล้วจะรู้สึกไม่ชินบ้างหรือเปล่า?
“ลู่เป๋าเหยียน”ูเี่อันมองดาวบนท้องฟ้าก่อนน้ำตาจะไหลออกมา “ทำไมฉันถึงคิดถึงนายขนาดนี้”
เธอเช็ดน้ำตาและปิดผ้าม่านลงก่อนจะนอนลงบนเตียงแต่ก็ยังนอนไม่หลับ
เธออยากกลับบ้าน...
อยากกลับไปยังบ้านที่มีเขาอยู่เหลือเกิน...
