บนโลกใบนี้ มีทวีปใหญ่แบ่งออกเป็สามทวีป ซึ่งได้แก่ ทวีปัคราม ทวีปหงสาเพลิง และทวีปพยัคฆ์ขาว
ในหนึ่งทวีป จะประกอบไปด้วย อาณาจักรต่างๆมากมาย แต่ละอาณาจักรก็จะมีเมืองหลายเมืองรวมกัน…..
ณ ทวีปัคราม…..
ณ อาณาจักรัหลับ… เมืองแห่งขุนเขา…. ต้องขอบอกก่อน เมืืองแห่งขุนเขานั้น ถือว่าเป็เมือง ชนบทบ้านนอกคอกนา อยู่ในพื้นที่อันห่างไกล ด้อยความเจริญ ชาวบ้านในเมืองแห่งขุนเขา ต่างใช้ชีวิตธรรมดา และเรียบง่าย เมืองขุนเขานั้น รายล้อมไปด้วยหุบเขาสูงใหญ่มากมาย เรียงรายไปทั่วทุกทิศของเมือง บรรยากาศราวกับเป็ที่สถิตของเหล่า จอมปราชญ์ เทพเซียน ผู้ซึ่งละเื่ราวทางโลกหล้า อยู่ห่างไกลจากนครหลวงเป็อย่างยิ่ง
ในห้องนอนอันหรูหราแห่งหนึ่ง…. มีเด็กน้อยนาม จื่อต้าหลง กำลังนอนน้ำลายไหลย้อย อยู่บนเตียงนอน ในขณะที่กำลังนอนหลับอย่างสุขสบายอยู่นั้น กลับโดนปลุกด้วยเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างถี่ยิบ!
“ก๊อกๆๆๆ!!”
เสียงเคาะประตู มาพร้อมกับเสียงเรียกที่ฟังดูรีบร้อนอย่างเห็นได้ชัด ของสาวใช้วัยเยาว์ “นายน้อยเ้าคะ ท่านประมุขให้ข้าน้อยมาตามเ้าค่ะ!”
จื่อต้าหลงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ อีกทั้งยังลืมตา ได้เพียงแค่ครึ่งเดียว! เด็กน้อยลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะตอบว่า “รู้แล้วๆ เดี๋ยวข้าจะไปหาท่านพ่อเอง” เสียงของเด็กน้อยนั้น ฟังดูหย่อนหยานไร้ซึ่งชีวิตชีวา….
เด็กน้อยมีท่าทางเกียจคร้าน เขาค่อยๆ ก้าว ลงมาจากเตียงนอนสุดหรูอย่างช้าๆ เขาอ้าปากหาวแก้ง่วง บิดตัวไปมาเล็กน้อย หลังจากที่ล้างหน้า แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ เขาก็ไปที่ห้องประชุมของประมุขประจำตระกูล ซึ่งมี‘จื่อเทียนหลาง’รออยู่ก่อนแล้ว
“ท่านพ่อ มีเื่อะไรรึ…. ถึงได้ให้เสี่ยวไป๋ ไปเรียกข้าั้แ่เช้าขนาดนี้” เสียงของเด็กน้อย ฟังดูหย่อนยาน ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง หรือ ความมีชีวิตชีวา ที่เด็กวัยนี้ควรมี
ผู้เป็บิดา เห็นดังนั้น คิ้วซ้ายก็ถึงกับกระตุกขึ้นมาอย่างไม่อาจหักห้าม “เช้าบ้านเ้าสิ!! นี่มันเกือบจะเที่ยงวันแล้ว!!” จื่อเทียนหลางคำรามเสียงเล็ดลอดไรฟัน อย่างเหลืออด แววตาดุดัน เป็อย่างยิ่ง ลูกชายเขาคนนี้ เกียจคร้านมากเกินไป! หากผู้ใดมาเห็นเข้าย่อมต้องหวาดกลัวจนตัวสั่นอย่างแน่นอน
“เ้าเอง ก็อายุสิบสามปีแล้ว… มันถึงเวลาที่เ้าควรจะเข้าไปร่ำเรียนฝึกฝนในสำนักยุทธได้แล้ว! อีกอย่าง... ด้วยระดับพลังลมปราณของเ้า…. คิดว่าข้ามองไม่ออกอย่างนั้นหรือ? รับคำสั่งข้า! แล้วไปเข้าร่วมสำนักยุทธซะ!! มิเช่นนั้น… ข้าจะหักค่าขนมเ้าครึ่งหนึ่ง!!” จื่อเทียนหลาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มงวด!
จื่อต้าหลง ได้ยินดังนั้น ก็ถึงกับตาถลน “อะไรกันท่านพ่อ! ทีพี่ใหญ่กับคนอื่นๆ ท่านยังให้เข้าร่วมสำนัก ตอนอายุสิบหกปีเลย! แล้วทำไมข้า ที่อายุเพียงสิบสามปี! ท่านก็จะส่ง ข้าไปฝึกแล้วล่ะ ไม่ยุติธรรม!! ข้าไม่ยอม!!” เด็กน้อยเถียงขึ้น พร้อมกับทำหน้าตาไม่พอใจ ท่าทางดูร้อนรน เป็อย่างยิ่ง ภายในใจคิดว่า งานเข้าข้าแล้ว….
“ถึงแม้ เ้าจะมีพร์…. แต่กลับี้เี! วันๆ ไม่ทำอะไร นั่ง กิน นอน เที่ยวเล่น ไปวันๆ วิชาก็ฝึกบ้างไม่ฝึกบ้าง ข้าเห็นว่าเ้า ควรเติบโตได้แล้ว!” จื่อเทียนหลางกล่าวดุอย่างจริงจัง!
“แต่ว่าท่านพ่อ ข้ายังอ่านหนังสือนิยายไม่จบเลยนะ…” เด็กน้อย พูดยังไม่ทันจบประโยค จื่อเทียนหลาง ก็พูดขัดขึ้นมาว่า “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น! เอาแต่อ่านนิยายอยู่ได้ไร้สาระจริงๆ! ถึงแม้เ้า จะเข้าสู่ระดับล
มปราณก่อเกิดได้ก่อนคนอื่น ก็ไม่ควรทะนงตน จำไว้ว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยง่ายดาย! บุรุษ หากไม่ผ่านอุปสรรค จะแข็งแกร่งได้อย่างไร?! ผู้เป็บิดา ย่อมหวังดีกับลูกจงรับคำสั่งข้าซะ!” จื่อเทียนหลาง เห็นลูกตัวเอง เกียจคร้านไม่ขยันเช่นนี้… หากเขา ปล่อยปะละเลย วันข้างหน้า เด็กน้อยย่อมต้องลำบาก กลายเป็คน เสเพล เหลวไหลแน่! จึงจำใจ ต้องส่ง เข้าเรียนก่อนกำหนด…
สำนักปลาทอง… ตั้งอยู่ในเมืองขุนเขาแห่งนี้ ถ้าจะให้พูดถึงคงเป็สำนักที่โดดเด่นที่สุดในเมืองแล้ว มาตรฐานการคัดเลือกศิษย์ก็เข้มงวด ผู้ที่้าเข้าร่วมนั้น ต้องเข้าสู่ขอบเขต ลมปราณก่อเกิดขั้นที่หนึ่ง ให้ได้ ก่อนอายุยี่สิบปี เป็อย่างน้อย ถึงจะมีสิทธิ์ เข้าสำนักได้! นี่นับว่า เป็มาตรฐานขั้น ต่ำสุด!
จื่อต้าหลงนั้น… สามารถเข้าสู่ระดับ ลมปราณก่อเกิดขั้นที่ห้า ได้แล้วั้แ่ อายุแปดปี! นี่นับว่า เป็ อัจฉริยะ ที่หาได้ยากยิ่ง! แต่หลายปีมานี้ เด็กน้อย กลับี้เีฝึกฝนพลัง เอาแต่นั่งกินนอนกิน เดินเล่นในเมืองกับสหาย อ่านหนังสือนิยายไปวันๆ ระดับพลังลมปราณจึงยังไม่ขยับไปไหน… ทว่า แม้ตอนนี้ ถึงเขาจะอยู่เพียงระดับลมปราณก่อเกิดขั้นที่ห้า! แต่ในเมืองนี้ ก็นับว่าเป็ดั่งราชันัแล้ว! โดยปกติ เด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมักจะเข้าสู่ ชั้นลมปราณก่อเกิดขั้นที่หนึ่งได้ตอนอายุราวๆสิบห้าปีกันทั้งนั้น หากเปรียบเทียบกันแล้ว… จื่อต้าหลง ที่สามารถบรรลุ ลมปราณก่อเกิดขั้นที่ห้าได้ ั้แ่ อายุแปดขวบนั้น น่ากลัว ถึงเพียงไหน? พร์ ระดับนี้… แม้แต่ ในทวีปใหญ่ทั้งสาม ก็ยังนับว่าอยู่ในขั้นสูงส่ง!
ตระกูลจื่อ นับว่าเป็หนึ่งในตระกูล ที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุด ในเมืองขุนเขาแห่งนี้… คนในตระกูล ต่างก็จบมาจากสำนักปลาทองกันแทบทุกคน… นอกจากตระกูลจื่อแล้ว ยังมีอีกสามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเซ่อ ตระกูลลวี่ และตระกูลหลิว ที่ทรงพลังทัดเทียมกัน! ทั้ง สี่ตระกูลใหญ่ คอยคานอำนาจกันมาตลอด ทุกตระกูลต่างส่ง ลูกหลาน เข้าไปฝึกฝน ในสำนักปลาทองกันทั้งสิ้น!
“เอาล่ะ… อีกห้าวัน สำนักปลาทองจะรับสมัครศิษย์ใหม่ประจำปี… เ้าจงไปเข้าร่วมซะ อย่าทำให้พ่อ ต้องผิดหวังในตัวเ้า” จื่อเทียนหลาง กล่าวด้วยน้ำเสียง เข้มงวด…
ได้ยิน ผู้เป็บิดา กล่าว อย่าง หนักแน่น เช่นนั้น เด็กน้อย จึงทำได้เพียงค่อยๆ ประสานมือขึ้นมาคารวะอย่างช้าๆก่อนจะกล่าวว่า “ขอรัับ ลูกทราบแล้ว ถ้างั้น ขอลาท่านพ่อก่อน” เด็กน้อยคิดในใจว่า ‘จบแล้วสินะ วันสบายๆ ของข้า… ฮึ่มมม!! เข้าก็เข้าสิวะ! แค่เข้าเรียนสำนักปลาทอง ข้าคงไม่ต้องทำอะไรมากมายนักหรอกกระมัง? ท่านพ่อนะ ท่านพ่อ…. คอยดูเถอะ! รับรองว่า เื่นี้…. ถึงหู ท่านย่า แน่!’ เด็กน้อย หาได้รู้ไม่ว่าเร็วๆนี้ เขาอาจซวย จนต้องปวดขมับเลยก็เป็ได้…..
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้