“กระไรนะ? ซูจิ่นซี เ้าจะให้ไท่จื่อทำความเคารพเ้า?หากเป็เช่นนั้นไท่จื่อผู้นี้จะไม่เลวร้ายไปกว่าเ้าที่อยู่ในฐานะคนโง่หรอกหรือ? ”
เยี่ยเซินโกรธจนแทบจะะเิแล้ว
ซูจิ่นซีเห็นว่าฮ่องเต้ไม่ยอมพูดอันใด “ไม่เคารพก็ได้เพียงแต่วันนี้หม่อมฉันร่างกายไม่ค่อยดียิ่งมาถูกไท่จื่ออารมณ์ไม่ดีโกรธใส่อีกเช่นนี้ จิตใจก็ยิ่งย่ำแย่เกรงว่าโรคของฮองเฮาจะไม่หายขาด กลับจะยิ่งสร้างปัญหาอีกด้วยอยากขอให้ฝ่าาประธานอภัย เลือกผู้อื่นมารักษาฮองเฮาเถิดเพคะ! ”
ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะลากเื่มาขนาดนี้ต่อหน้าฮ่องเต้และไท่จื่อซูจิ่นซีเป็คนแรก
นี่ก็คือศักยภาพในการปกป้องศักดิ์ศรีอย่างไรเล่า!
ทว่าพวกที่กล้ายืนบนหัวเสือที่มีอำนาจ ไม่เคยมีเสือตัวไหนที่เชื่อฟัง
พระพักตร์ของฮ่องเต้เป็สีเขียว ทว่าความเกลียดชังทั่วร่างกายถูกยับยั้งไว้เห็นได้ชัดว่าพระองค์พยายามจะไม่สั่งให้ทหารลากซูจิ่นซีออกไปปะา
“เซินเอ๋อร์ คุกเข่า ขอขมาให้กับอาสะใภ้ของเ้า! ”
“เสด็จพ่อ! ”
เยี่ยเซินมองไปที่ฮ่องเต้อย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุกเข่า! ”
ฮ่องเต้เอ่ยเสียงเข้มมองไปที่เยี่ยเซินด้วยความโกรธ
ถึงแม้จะโกรธราวกับเสือที่เกรี้ยวกราดทว่าหลายปีมานี้นี่เป็ครั้งแรกที่เยี่ยเซินรู้สึกว่าฮ่องเต้โกรธเขาอย่างรุนแรงร่างกายของเขาสั่นอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การจ้องมองของฮ่องเต้ เสียงคุกเข่าลงกับพื้นดัง “ฟุบ”
“อา... อาสะใภ้ ข้าผิดไปแล้ว! ขอท่านทรงมีเมตตาไม่เอามาใส่ใจ! ”
เสียงฝาดราวกับกินผลไม้ที่ยังไม่สุกอย่างไรอย่างนั้น
“หลานชายช่างเชื่อฟัง ลุกขึ้นเถิด! อาสะใภ้ถือว่านี่เป็ความผิดแรกของเ้าครั้งนี้ข้าจะไม่เอามาคิดเล็กคิดน้อยหรอก ทว่าอย่าให้มีครั้งต่อไปเล่า! ”
มุมปากของซูจิ่นซีเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ
เยี่ยเซินยืนขึ้นทันที สายตาจ้องมองไปที่ซูจิ่นซีราวกับใบมีดเห็นได้ชัดว่าไม่ยอมรับ
ซูจิ่นซี ความแค้นครั้งนี้ ไท่จื่อผู้นี้ได้จดจำเ้าเอาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ ตอนนี้ซูจิ่นซีก็อารมณ์ดีมาก ได้ชำระแค้นแล้วความโกรธของนางจึงบรรเทาลง
“พระชายาโยวอ๋อง ข้าได้ทำตามข้อต่อรองของเ้าครบหมดแล้วหากเ้ายังรักษาโรคของฮองเฮาไม่ได้ อย่าโทษข้าที่จวนโยวอ๋องดูิ่องค์จักรพรรดิเมื่อถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่พระชายาโยวอ๋องอย่างเ้าเท่านั้นแม้แต่จวนโยวอ๋องกับหนานย่วนก็จะถูกลงโทษไปพร้อมกับเ้าทั้งหมด! ”
การแสดงออกบนใบหน้าของซูจิ่นซีที่เบิกบานใจค่อยๆหายไปและเปลี่ยนเป็จริงจังขึ้น
ไม่นาน หมอหลวงอวิ๋นหรืออวิ๋นจิ่น ที่ถูกเรียกเข้าพบก็มาถึงยังตำหนักจ้งหวา
เหมือนกับที่หนานย่วน เมื่ออวิ๋นจิ่นเข้าประตูมา เขากลับไม่มองผู้ใด ทว่าเลือกมองมาที่ซูจิ่นซีเป็คนแรกพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่น
แม้ว่าซูจิ่นซียังคงสงสัยในใจทว่าการรักษาฮองเฮาในตอนนี้เป็สิ่งสำคัญกว่าสำหรับการทดสอบว่าอวิ๋นจิ่นมาจากโลกเดียวกันเหมือนนางหรือไม่นั้นยังมีโอกาสอีกมากในอนาคต
ยังคงไว้ซึ่งกฎเดิมตอนซูจิ่นซีรักษาโรคให้ผู้อื่นจะไม่ชอบให้มีผู้ใดอยู่ข้างๆ ดังนั้นฮ่องเต้และไท่จื่อจึงจะต้องถูกเชิญออกไปแน่นอนว่าฮ่องเต้และไท่จื่อไม่เต็มใจที่จะออกไปทว่าหลังจากการโต้เถียงกันเล็กน้อยพวกเขาก็ยอมประนีประนอมให้
เมื่อเหลือเพียงซูจิ่นซีและอวิ๋นจิ่นอยู่ในห้องซูจิ่นซีก็ตรงเข้าประเด็นทันที “หมอหลวงอวิ๋นข้าที่อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าาฝ่าาได้สั่งทหารให้ไปกดดันจวนโยวอ๋องกับหนานย่วนเอาไว้รับปากว่าจะต้องรักษาฮองเฮาให้หายดี ทว่าการรักษาช่วยชีวิตไม่ใช่จุดแข็งของข้าดังนั้นท่านจะต้องช่วยข้าแล้วละ! ”
“พระชายาอ๋อง ท่านมองออกหรือไม่ว่าโรคของฮองเฮานั้นคือโรคใดกันพ่ะย่ะค่ะ? ”
เมื่อถามสิ่งนี้ สีหน้าของหมออวิ๋นก็ดูกังวลเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่านางเองได้วินิจฉัยโรคของฮองเฮาไว้แล้ว ดูแล้วอาการคงหนักมาก เขาประหลาดใจและคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะวางเดิมพันครั้งใหญ่นี้
ซูจิ่นซีพยักหน้า
การแสดงออกของอวิ๋นจิ่นหนักแน่นมาก “ในเมื่อพระชายาตัดสินใจแล้วข้าน้อยจะต้องช่วยเหลือพระชายาอย่างสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ”
ซูจิ่นซีรู้อยู่แล้วว่าอวิ๋นจิ่นจะต้องไม่เลวอย่างแน่นอนมีบางคนที่สามารถรู้สึกไว้วางใจและคุ้นเคยแม้พึ่งพบกันครั้งแรกได้นี่เป็พรหมลิขิตอย่างหนึ่ง และไม่เกี่ยวข้องกับระยะเวลาที่พวกเขาจะสามารถเข้ากันได้ดีด้วย
“หมอหลวงอวิ๋นข้า้าให้ท่านช่วยตรวจสอบให้แน่ชัดว่าในท้องของฮองเฮานี้ใช่ตั้งครรภ์ปรสิต [1] หรือไม่”
ทันใดนั้นความประหลาดใจก็แวบผ่านในดวงตาของอวิ๋นจิ่น
แม้ว่าครรภ์ปรสิตจะไม่ผิดปกติในสมัยปัจจุบัน ทว่าในสมัยโบราณนั้นหายากยิ่งมีหมอหลายคนที่ไม่รู้กระทั่งสตรีที่ตั้งครรภ์แฝดนี้จะโดนมองว่าเป็สัตว์ประหลาดหรือเป็ลางร้ายและจะถูกเผาทั้งเป็
“พระชายา ข้าน้อยมั่นใจว่าในท้องของฮองเฮาไม่ใช่ครรภ์เด็กและยิ่งไม่ใช่ครรภ์แฝดปรสิตด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ในทำนองเดียวกัน ซูจิ่นซีก็แปลกใจกับทักษะการแพทย์ของอวิ๋นจิ่นในยุคที่ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีทางที่จะใช้อัลตร้าซาวด์สำหรับการวิเคราะห์ภาพได้ หมอธรรมดาไม่สามารถที่จะตัดสินได้อย่างแม่นยำเหมือนกับอวิ๋นจิ่นผู้นี้เลย
“ในเมื่อตัดสถานการณ์ที่ไม่ใช่ตั้งครรภ์กับครรภ์แฝดปรสิตไปแล้วเช่นนั้นก็เหลือเพียงอย่างเดียวที่เป็ไปได้”
“พิษตัวกู่! ”
“พิษตัวกู่! ”
ซูจิ่นซีกับอวิ๋นจิ่นพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน
แม้ว่าพิษตัวกู่จะอยู่ในหมู่ยาพิษที่ไม่ได้รับความนิยมและรักษายากทว่าก็เป็แนวถนัดของซูจิ่นซี สำหรับซูจิ่นซีแล้วเป็เื่ที่ไม่ยากสักเท่าไร
ซูจิ่นซีดูจริงจังมากทั้งยังกางผ้าคลุมบนข้อพระหัตถ์ของฮองเฮาดูเหมือนว่ากำลังจะตรวจชีพจรของฮองเฮา ทว่าแท้จริงแล้วนางได้เปิดใช้งานระบบถอนพิษ นางสแกนร่างของฮองเฮาอีกครั้งวิเคราะห์พิษในร่างกายของฮองเฮาอย่างละเอียดถี่ถ้วนไปอีกขั้น
หลังจากยืนยันเพื่อความปลอดภัยอีกครั้งว่าเป็พิษตัวกู่จริงซูจิ่นซีก็เก็บโลหิตของฮองเฮา ผสมผงยาและน้ำลงในจอกน้ำชาเพื่อระบุให้แน่ชัด
ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด ซูจิ่นซีไม่ได้ปิดบังอวิ๋นจิ่นเลยนอกเสียจากเื่ที่เปิดระบบถอนพิษเพื่อตรวจสอบดูเหมือนว่าอวิ๋นจิ่นจะแสดงออกตามปกติทว่าดวงตาของเขามักจะส่องประกายผ่านความซับซ้อนที่ไม่สามารถมองเห็นได้โดยง่าย
ในที่สุด ซูจิ่นซีก็ได้จัดการกับโลหิต “หมอหลวงอวิ๋นข้ามีความมั่นใจเกินครึ่งแล้วว่าจะสามารถรักษาพิษตัวกู่ของฮองเฮาได้ทว่าความเจ็บป่วยบน... ร่างกายของนางอื่นๆ จะต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างช้าๆค่อยเป็ค่อยไป”
นั่นคือพิษเหมยถึงแม้จะอยู่ในสมัยปัจจุบันก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เร็วนัก
“พระชายา ทุกอย่างจะต้องระวังให้มาก ดูจากส่วนท้องของฮองเฮาแล้วเป็พิษตัวกู่ที่มีชีวิตอยู่แน่นอน หาก้ากำจัดพิษตัวกู่ที่มีชีวิตนี้ไม่ใช่เื่ที่ง่ายเลย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงสูงอีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
แม้ว่าท่าทางของซูจิ่นซีจะมีความั่นใจในตนเองมากทว่าอวิ๋นจิ่นยังมีความกังวลเล็กน้อย
ซูจิ่นซีพยักหน้า
“ข้ารู้ งานเร่งด่วนที่สุดคือการหาวัตถุดิบยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเืให้ดีขึ้นหมอหลวงอวิ๋น ท่านรู้หรือไม่ว่ายาชนิดใดมีผลลัพธ์ที่ดีกว่า? ”
ในสมัยปัจจุบัน ยา การฉีดยา หรือการถ่ายเืก็สามารถทำได้ทว่าในสมัยโบราณนี้ไม่สามารถทำสองอย่างหลังได้ จึงเหลือเพียงแต่อย่างแรกเท่านั้น นั่นก็คือยาในมุมนี้ซูจิ่นซีไม่ค่อยเข้าใจเสียเท่าไร
การแสดงออกของอวิ๋นจิ่นค่อยๆ จริงจังขึ้น
“การจะนำเอาพิษตัวกู่ที่มีชีวิตออกมาจะต้องเสียเืจำนวนมากเกรงว่ายาธรรมดาจะไม่ได้ผล จะต้องใช้เพียงจื่อจูเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“จื่อจู? ”
“เป็ผลของต้นไม้สีม่วงเล่ากันว่าต้นไม้สีม่วงจะเติบโตบนหน้าผาของเขาคุนหลุนเท่านั้นมีเพียงต้นเดียวในโลก มันจะบานในทุกๆ สิบห้าปี ออกผลในยี่สิบห้าปีและสุกในสี่สิบเก้าปี โดยออกผลครั้งละหนึ่งผลเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
์! แท้จริงแล้วมีผลไม้วิเศษมากมายในโลกนี้หากทำสำเร็จจริง ซูจิ่นซีก็ถือว่ามีประสบการณ์ที่ยาวนานแล้ว
“สมุนไพรชนิดนี้เกรงว่าจะหายากแล้ว กว่าจะโตเต็มที่ใช้เวลานานมากในโลกใบนี้มีจริงหรือไม่ก็ไม่มีผู้ใดทราบ มียาอื่นที่จะใช้ทดแทนได้อีกหรือไม่? ”
อวิ๋นจิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว
“เครื่องปรุงยาจีนอื่นๆ ก็มีเพียงเออเจียว หญ้าเสินเสี่ยนยาช่วยการแข็งตัวของเืซึ่งมีประสิทธิภาพน้อยกว่าจื่อจูมากนักสถานการณ์ของฮองเฮาค่อนข้างพิเศษ หากเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นเพื่อให้เืแข็งตัวพระชายาจะมีความมั่นใจมากน้อยเท่าใดพ่ะย่ะค่ะ? ”
เออเจียว หญ้าเสินเสี่ยนยาช่วยการแข็งตัวของเืพวกนี้ซูจิ่นซีเคยได้ยินมาก่อนแล้วก็รู้คุณสมบัติของยาด้วยเช่นกัน หากใช้ของเหล่านี้นางไม่มีแม้แต่ความมั่นใจใดเลย
ดูแล้วจะต้องใช้จื่อจูที่อวิ๋นจิ่นพูดแล้วละ
ทว่าจื่อจูนี้แปลกมาก จะหามันได้จากที่ไหน?
คงจะดีหากเยี่ยโยวเหยาอยู่ที่นี่ตอนนี้ด้วย เขาช่างพิเศษมากเสียขนาดนั้นดูเหมือนว่าทุกครั้งที่นาง้าเครื่องปรุงยาใดก็ไม่ลำบากเขาเลยหากไปหาเขาล่ะก็จะต้องมีวิธีแน่
ซูจิ่นซีคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก นางกำลังคิดถึงเยี่ยโยวเหยาคาดไม่ถึงว่าเยี่ยโยวเหยาก็มาถึงแล้ว
“กระหม่อมถวายบังคมเสด็จพี่! ”
เสียงของเยี่ยโยวเหยาดังมาจากนอกประตู
ทว่าในเวลาเดียวกันก็มีอีกเสียงที่ทำให้ซูจิ่นซีปวดหัวมากเช่นกัน
“ซูจิ่นซีเล่า? ให้นางออกมานางคิดว่าตนเองเป็เทพเซียนต้าหลัวที่มีอำนาจสามารถทำสิ่งใดก็ได้อย่างนั้นหรือ?คาดไม่ถึงว่าจะกล้ากดดันจวนโยวอ๋องและหนานย่วนเพื่อรักษาโรคของฮองเฮานางช่างสร้างความลำบากเสียจริง ทูลฝ่าา สติของซูจิ่นซียังไม่ฟื้นดี นางพูดจาไร้สาระนางไม่รู้ทักษะทางการแพทย์เลย ไม่สามารถที่จะรักษาโรคของฮองเฮาได้หรอกเพคะท่านอย่าเชื่อนางเด็ดขาดนะเพคะ”
ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว จับขมับอย่างอดไม่ได้ ่สถานการณ์คับขันเช่นนี้เฉินไท่เฟยมาก่อกวนสร้างปัญหาอันใดกันอีก!
......
เชิงอรรถ
[1] แฝดปรสิต คือ เอ็มบริโอที่หยุดเจริญเติบโตในครรภ์มารดาแล้วเข้าฝังตัวอยู่ในร่างคู่แฝด