หรือว่าข้าจะคิดไปเอง?
ิอวี่เริ่มรู้สึกเกิดความสงสัย เขารีบเปิดััแห่งิญญาขึ้นมาอีกครั้งเพราะลมปราณนั้นมันใกล้เข้ามาแล้ว เขาััมันได้อย่างรุนแรง และเขาก็ยิ่งมั่นใจมากว่ากลุ่มคนที่กำลังมุ่งหน้ามานั้นเขารู้จักทั้งหมด!
ที่สุดสายตาของเขา มีเงากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว ลมปราณของพวกเขาแก่กล้ามาก เมื่อรวมกลุ่มอยู่ด้วยกันยิ่งทำให้พลังอำนาจของพวกเขานั้นกล้าแกร่ง ราวกับกลุ่มก้อนเมฆที่เกาะกลุ่มกันอย่างหนาแน่น!
เงาพวกนั้นกำลังเข้าใกล้มาขึ้นเรื่อยๆ แล้วรูปร่างหน้าตาของพวกเขาก็เริ่มเด่นชัดมากขึ้น
มีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็ผู้นำ รวบผมเรียบร้อยกลัดด้วยปิ่นสีทอง สวมชุดลายัสีน้ำเงิน ผิวพรรณขาวผ่อง หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางสง่างาม แต่ว่า ลมปราณของเขาดูบ้าอำนาจ สะบัดเสื้อทีเดียวลมปราณก็แผ่ซ่านออกไปทั่วทุกทิศแล้ว!
ส่วนคนด้านหลังเป็ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ชายดูองอาจ ผู้หญิงดูงดงาม แต่พวกเขาไม่ได้มีพลังอำนาจที่น่ากลัวขนาดนั้น มีแค่ประมาณสามส่วนของชายหนุ่มด้านหน้า แต่มีอานุภาพน่าเกรงขามแผ่ออกมา
ด้านข้างของพวกเขาสองคนก็มีแม่ทัพรูปร่างสูงใหญ่สวมชุดเกราะ พลังลมปราณของพวกเขาแก่กล้าอย่างมาก ดวงตาของเขาลึกซึ้งยากที่จะคาดเดา
ดังคำกล่าวที่ว่า แม่ทัพผู้ประสบความสำเร็จต้องยืนอยู่บนกองกระดูก เื้ัของพวกเขาล้วนแต่เป็กองกระดูกที่สูงเทียมูเา พวกเขาผ่านความเป็ความตายมามากมาย บนตัวของพวกเขาล้วนแต่มีพลังจิตสังหารที่รุนแรงทำให้คนไม่กล้าสบตาและไม่มั่นใจ
ถูกต้อง ผู้ที่นำกลุ่มมานั่นก็คือิเสวียน ส่วนด้านหลังของเขานั้นก็คือิอู่กับิเยวี่ย ส่วนแม่ทัพด้านข้างอีกสองคน ก็คือเซิ่นเจิ่นโหวกับเสวียปู้หุ่ย!
ิอวี่พบว่าคนที่อยู่ด้านหลังพวกนี้ ยังมีหญิงงามท่าทางสง่างามอีกห้าคน แต่ละคนล้วนแต่มีพลังฝีมือขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่งทั้งนั้น
แล้วเยี่ยซีก็อยู่หนึ่งในห้านั้นด้วย
จะว่าไปแล้ว หญิงงามทั้งห้าคนเมื่อยืนอยู่ด้วยกันแล้ว ต่างมีความสง่างามที่แตกต่างกันออกไป ดูไม่ออกเลยว่าใครสวยกว่ากัน พูดได้แค่ว่าดูไปแล้วเหมือนคนละรสชาติเลย
เพราะพวกนางล้วนแต่เป็ผู้หญิงของิเสวียน ผู้หญิงที่หาได้ยากมีพร์สูงเท่านั้น ถึงจะคู่ควรกับเขา!
แต่ิอวี่ไม่ได้อิจฉาอะไรเลย กลับกัน เขารู้สึกว่าเฮยจีสวยและสง่างามมากกว่าห้าคนนี้อีก
ิอวี่มองผ่านห้าคนนี้ไป เขามองไปที่ด้านหลังของพวกนางและกวาดสายตามองไปยังทหารแต่ละคนที่อยู่ด้านหลัง ไม่นานเขาก็พบว่า เมื่อเทียบกับวันที่ออกเดินทางจากวังหลวงมาแล้วทหารเหมือนจะน้อยลงไปเยอะมาก
จากที่ิอวี่ประเมิน คนพวกนี้น่าจะสู้กับอสูรระดับสิบมากันก่อนหน้านี้
“รอดแล้ว!”
ประมุขตำหนักโยวิเห็นพวกิเสวียนกำลังมุ่งหน้ามาก็รู้สึกดีใจมาก สายตาของเจิ้งหยวนจงกับหลินเสวียเอ๋อร์เองก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน
ในฐานะที่พวกเขาเป็ผู้กล้าติดอันดับของราชวงศ์ต้าิ ถือว่าเป็ผู้มีความรู้กว้างขวางมาก อ่านตำรามาก็เยอะ แน่นอนว่าพวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าพวกิเสวียนนั้นเป็ใคร
กระบวนทัพที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เป้าหมายการมุ่งหน้ามาที่นี่ของพวกเขานั้นชัดเจนมาก พวกของิเสวียนมาเพราะหัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียน!
พวกของประมุขตำหนักโยวิสู้สิงโตเพลิงจินเหยียนไม่ได้ แต่ิเสวียนกลับสามารถเอาหัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียนไปได้ พวกเขาก็จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต
แต่ในใจของพวกเขาสามคนรู้สึกเหมือนไม่เป็ธรรม การต่อสู้กับสิงโตเพลิงจินเหยียนนั้นเหนือความคาดหมายของพวกเขามาก มันหมายความว่าพลังอันบ้าคลั่งในที่อยู่ในหัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียนยิ่งทำให้เขาจ้องตาเป็มัน!
เมื่อครู่พวกเขาเพิ่งจะสู้อย่างเอาเป็เอาตายมา เล่นงานจนสิงโตเพลิงจินเหยียนาเ็ได้ก็เพื่อชิงเอาหัวใจของมัน ตอนนี้พอพวกเขารอด แต่กลับไม่สามารถแตะต้องหัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียนได้แล้ว
พวกเขาเคยพยายามและสู้สุดชีวิตมาก่อน!
พอคิดว่าหัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียนจะต้องตกไปอยู่ในมือของพวกิเสวียน พวกเขาก็เหมือนต้องทนฝืนมอบของรักของหวงออกไปให้ ทำให้พวกเขาอารมณุขุ่นมัวสุดๆ
“พวกเ้าสามคน รีบไปซะ”
พวกิเสวียนเข้ามาใกล้ก็จ้องไปที่พวกเขาสามคนก่อนเลย เขาลอยตัวลงมาอย่างไม่ธรรมดา ใช้พลังอันน่าเกรงขามของเขากดดันจนสามคนนั้นไม่กล้าที่จะสบตาด้วยเลย
“ ... ขอรับ!”
ถึงแม้จะรู้สึกไม่ค่อยเป็ธรรม แต่พวกของประมุขตำหนักโยวิก็ยังคำนับให้กับิเสวียนแล้วก็หลีกทางให้ พร้อมมอบการต่อสู้ที่เหลือให้กับิเสวียน
พวกเขารู้ตัวดี ถ้าไม่พูดถึงว่าพวกเขาสู้กับสิงโตเพลิงจินเหยียนมาอย่างยาวนานจนหมดแรงไปนานแล้ว ต่อให้อยู่ในสถานะเต็มกำลังพวกเขาก็สู้ิเสวียนไม่ได้ เพราะิเสวียนนั้นมีขั้วพลังสูงสุด มีพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันแปดร้อยห้าสิบตัว!
พลังแบบนี้มันเหนือกว่าพวกเขามากนัก!
ิเสวียนเอามือไขว้หลังแล้วจ้องไปที่สิงโตเพลิงจินเหยียนดวงตาสีแดงเืที่อยู่ห่างออกไป แล้วเขาก็ยิ้มมุมปากขึ้นมา
เมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อน พวกเขาค้นหาอสูรระดับสิบอย่างยากลำบากจนเจอหนึ่งตัว ใช้วิธีการมากมายถึงจะฆ่ามันลงได้ จากนั้นพวกเขาก็ค้นหาพวกมันอย่างต่อเนื่อง ค้นหาร่องรอยของอสูรระดับสิบอยู่ตลอด
เพียงแต่ในดินแดนอสูรว่านโซ่วมันกว้างใหญ่มาก พวกเขาไม่รู้เลยว่าอสูรระดับสิบนั้นอาศัยอยู่ที่ไหนบ้าง ดังนั้นเขาหาอย่างไรก็ไม่เจอสักที
และในเวลานี้เองที่พวกของประมุขตำหนักโยวินั้นสู้กับสิงโตเพลิงจินเหยียน แล้วสิงโตเพลิงจินเหยียนโกรธจนส่งเสียงคำรามสนั่นหวั่นไหว จึงทำให้พวกิเสวียนตรวจพบ
จากนั้น พวกของิเสวียนก็รีบเดินทางมาที่นี่ทันที และก็บังเอิญมาพบสิงโตเพลิงจินเหยียนที่กำลังคลั่งอยู่พอดี
“ท่านแม่ทัพเสวีย ท่านร่วมมือกับข้า แม่ทัพเซิน ท่านรออยู่ตรงนี้นะ คอยช่วยอยู่ข้างๆ ” ิเสวียนพูดจบก็หันไปสั่งการคนที่อยู่ด้านหลังว่า “พวกเ้ารออยู่ตรงนี้ รอคำสั่งจากข้า”
“พะยะค่ะ!”
ทุกคนล้วนแต่ตอบกันอย่างหนักแน่น ิเสวียนออกคำสั่งดั่งราชโองการ พวกเขายอมทำตามอย่างแน่นอน
เมื่อฆ่าสิงโตเพลิงจินเหยียนที่อยู่ตรงหน้าได้ ถ้าอย่างนั้น ผลึกโลหิตเก้าโคจรก็นับวันรอได้เลย!
เมื่อสั่งการเสร็จ ิเสวียนก็จ้องไปที่สิงโตเพลิงจินเหยียนอีกครั้ง ดวงตาของเขามีสายฟ้าระยิบระยับอยู่
เมื่อััถึงดวงตาอันเฉียบคมของิเสวียน สิงโตเพลิงจินเหยียนก็หันหัวมา ดวงตาอันกลมโตของมันจ้องไปที่ิเสวียน ดวงตาของมันไร้ความรู้สึก ดูไม่ออกว่ามันคิดอะไรอยู่ แต่ยิ่งเป็แบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกได้ว่ามันกำลังกระหายเื ซึ่งน่าขนลุกมาก!
สิงโตเพลิงจินเหยียนคำรามเสียงออกมาแล้วยิงะุะเิเพลิงออกไปใส่ิเสวียน ตอนนี้มันกำลังเกรี้ยวกราดอย่างมาก เืในร่างกายของมันเดือดดาลมาก มีความมุ่งมั่นอย่างสูง และแทบจะใช้กำลังทั้งหมดที่มีอยู่ในร่างกายออกมา
ิเสวียนปล่อยพลังสายฟ้าในร่างกายออกมา เขาไม่ได้ถอยเลยเมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีของเ้าอสูร เขาซัดหมัดออกไปจนเกิดสายฟ้าฟาดขึ้นมากลางอากาศ แล้วสายฟ้าที่มีขนาดเท่าลำแขนก็พุ่งออกไปที่สิงโตเพลิงจินเหยียน
แต่สิงโตเพลิงจินเหยียนมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก มันใช้กรงเล็บที่น่ากลัวและมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ตรงนั้นซัดเข้าปะทะกับสายฟ้าของิเสวียน
“ตายซะเถอะ เ้าเดรฉาน!”
ในเวลานี้เอง เสวียปู้หุ่ยฉวยโอกาสที่สิงโตเพลิงจินเหยียนกำลังลงมือพุ่งมาทางด้านข้างของมัน เขายกดาบเสี้ยวพระจันทร์ชิงหลงขึ้นแล้วฟันลงไปด้านข้างลำตัวของสิงโตเพลิงจินเหยียน
สิงโตเพลิงจินเหยียนพลิกตัวมา มันใช้หางที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าฟาดมาที่อากาศเพื่อรับดาบของเสวียปู้หุ่ย
ดาบเสี้ยวพระจันทร์ชิงหลงปะทะเข้ากับหางเปลวเพลงของสิงโตเพลิงจินเหยียน ง่ามมือของเสวียปู้หุ่ยที่จับดาบของเขาก็เกิดอาการชา ร่างกายของเขาปลิวกระเด็นไปไกลแล้วก็ตกลงกระแทกพื้น
ดาบของเสวียปู้หุ่ยทำให้หางของสิงโตเพลิงจินเหยียนมีรอยแผลที่เกิดจากดาบ!
เสวียปู้หุ่ยเดิมก็มีพลังเทียบเท่าราชสีห์แปดพันสามร้อยตัวอยู่แล้ว จะดูถูกดาบที่เขาฟันลงไปนั้นได้อย่างไรกัน?
ต่อให้เป็ประมุขตำหนักโยวิเจอเสวียปู้หุ่ยก็ยังต้องหลบ พลาดไปนิดเดียวก็จะผิดไปหมดได้ เสวียปู้หุ่ยเป็แม่ทัพผ่านศึกมามาก เขาไม่มีสู้ได้เลย
สิงโตเพลิงจินเหยียนพุ่งเข้าใส่เสวียปู้หุ่ยอีกครั้ง ทันใดนั้นก็มีลูกศรดอกหนึ่งพุ่งทะลุอากาศมาแล้วพุ่งแทงที่ด้านข้างของสิงโตเพลิงจินเหยียน คนที่ยิงนั้นก็คือเซิ่นเจิ่นโหวที่หาจังหวะแล้วยิงลูกศรออกมา!
ดวงตาสีเืของสิงโตเพลิงจินเหยียนจ้องไปที่เซิ่นเจิ่นโหว จากนั้นมันก็อ้าปากกว้าง แล้วรวบรวมะุะเิเพลิงออกมา!
สิงโตเพลิงจินเหยียนอยู่ในสถานะที่เกรี้ยวกราดอย่างมาก เืในตัวของมันพลุ่งพล่าน ความเ็ปเหลือศูนย์แล้ว ในสายตาของมันมีแค่ความอาฆาต้าล่าอย่างบ้าคลั่งจึงกวาดสายตาไปทั่ว มันต้องะเิความอัดอั้นนี้ออกมาถึงจะได้รับการปลดปล่อย!
แล้วในตอนนี้ มันก็รวบรวมพลังทั้งหมดที่มีเล็งไปที่เซิ่นเจิ่นโหว
แค่พริบตาเดียวเท่านั้น มันก็ยิงะุะเิเพลิงพุ่งใส่เซิ่นเจิ่นโหว!
สีหน้าท่าทางของเซิ่นเจิ่นโหวหวาดกลัวมากเมื่อเห็นลูกไฟขนาดใหญ่ เขาง้างคันศรออก เพื่อรวบรวมพลังลมปราณไปที่ลูกศรจากนั้นก็ยิงออกไป
“ศรโลหิตสะพรึง!”
ศรที่อาบไปด้วยเืะเิพุ่งเข้าใส่ลูกไฟขนาดใหญ่
ลูกะุไฟขนาดใหญ่ะเิตัวออกกลางอากาศ ระลอกคลื่นจำนวนมากะเิแตกตัวออก พื้นเกิดรอยแยก โขดหินด้านข้างแตกละเอียดหมด พลังงานที่น่ากลัวแผ่ออกไปโดยรอบ!
เซิ่นเจิ่นโหวต้องถอยหลังไปถึงสิบก้าวกว่าจะยืนให้นิ่งได้ หน้าอกของเขารู้สึกแน่นเล็กน้อย เืลมในร่างกายปั่นป่วน แต่ก็ยังสามารถใช้ศรดอกเดียวในการขวางลูกไฟนั้นได้!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็เสวียปู้หุ่ยหรือเซิ่นเจิ่นโหวล้วนไม่มีกำลังพอ แต่ปฏิกิริยาในการพลิกแพลงและประสบการณ์ในการต่อสู้ก็แข็งแกร่งอย่างมาก
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังปะทะฝีมือกัน ิเสวียนก็พุ่งเข้าใส่สิงโตเพลิงจินเหยียน เขาออกคำสั่งว่า “เ้าทั้งห้า ตั้งค่ายกล”
องครักษ์หน้าพระที่นั่งห้าคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็แยกตัวออก แล้วล้อมสิงโตเพลิงจินเหยียนเอาไว้ การกระทำของพวกเขาเหมือนกันทุกอย่าง รวบรวมพลังลมปราณไว้ที่ฝ่ามือขวาอย่างต่อเนื่อง แล้วปล่อยพลังลมปราณห้าสีที่แตกต่างออกไป!
ลมปราณทั้งห้านั้น แบ่งออกเป็พลังงานธาตุทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน พลังงานทั้งหมดพุ่งชนเข้าไปในตัวของสิงโตเพลิงจินเหยียน มันผสานรวมกันกลายเป็พลังที่มีอานุภาพสูงจนเนื้อหนังของสิงโตเพลิงจินเหยียนนั้นแตกออก!
ในเวลานี้เอง ิเสวียนก็พุ่งเข้าหาสิงโตเพลิงจินเหยียน แล้วซัดหมัดสายฟ้าของเขา เพื่อต่อสู้กับมัน!
แต่สิงโตเพลิงจินเหยียนกลับไม่ได้ล่าถอยไปอย่างที่คิด กลับกัน การาเ็หนัก ความเ็ป กลับกระตุ้นสติของมันทำให้มันมีพลังที่น่ากลัวมากขึ้น และปล่อยพลังงานแฝงในร่างกายออกมาเข้าตะปบิเสวียนอย่างบ้าคลั่ง!
เมื่อเจอการโจมตีที่บ้าคลั่งิเสวียนก็ได้รับอาการาเ็ประมาณหนึ่ง แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงนิ่งอยู่ไม่ได้ล้มลง
ิเสวียนมีร่างกายแห่งสายฟ้า ไม่เพียงสามารถใช้พลังแห่งสายฟ้าเท่านั้น ร่างกายของเขาเองก็เป็สายฟ้าด้วย นั่นทำให้เขาแข็งแกร่ง ดังนั้น เขาจึงยังสามารถเดินอยู่สบายๆ ท่ามกลางการโจมตีที่บ้าคลั่งของสิงโตเพลิงจินเหยียนได้!
เสวียปู้หุ่ยกับเซิ่นเจิ่นโหวยังคิดจะฉวยโอกาสโจมตี แต่ว่าถูกิเสวียนขวางเอาไว้ทั้งหมด
“อย่าเข้ามา! ข้าจะฆ่าเดรฉานนี่ด้วยมือของข้าเอง!”
ในสายตาของิเสวียนเกิดประกายสายฟ้าขึ้นมา การโจมตีของสิงโตเพลิงจินเหยียนทำให้เขาโกรธ เขาเป็คนเหนือคน สิงโตเพลิงจินเหยียนต้องยอมสยบใต้แทบเท้าเขาเท่านั้น แต่สิงโตเพลิงจินเหยียนกลับโจมตีใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง มันล้ำเส้นของิเสวียนแล้ว!
“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!”
ิเสวียนซัดหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง ลมปราณแผ่กระจายไปทั่ว ดูแล้วก็เนื้อเต้นไปหมด
ส่วนประมุขตำหนักโยวิที่อยู่ข้างๆ กับเจิ้งหยวนจงและหลินเสวียเอ๋อร์ก็ต่างตกตะลึง ิเสวียนสมแล้วที่เป็นักรบอันดับหนึ่งในราชวงศ์ต้าิ เป็ราชนิกูลผู้สูงศักดิ์ กำลังต่อสู้ของเขาน่ากลัวมากจริงๆ !
หัวใจสิงโตเพลิงจินเหยียนสมควรเป็ของเขา!
ประมือกันอยู่อย่างนี้หลายต่อหลายครั้ง ิเสวียนซัดหมัดขวาออกไป สายฟ้าก็ะเิพุ่งออกไปด้วย
“ะเิสายฟ้า”
สายฟ้าะเิออก สิงโตเพลิงจินเหยียนคำรามเสียง ร่างกายขนาดใหญ่ถูกสายฟ้าฟาดจนดำเป็ตอตะโก สิงโตเพลิงจินเหยียนได้รับาเ็สาหัสแต่ยังคงเกรี้ยวกราด พลังในร่างกายของมันใกล้จะหมดแล้ว
แล้วะเิสายฟ้าของิเสวียน ก็ทำให้พลังของสิงโตเพลิงจินเหยียนหมดลง!
ิเสวียนในเวลานี้ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดรุ่ย แต่ยังคงยืนยืดอกอยู่ เขาเดินตรงไปหาสิงโตเพลิงจินเหยียน ดวงตาของเขาเ็า แต่ในความเ็าแล้วลึกๆ นั้นคือความไม่พอใจ
ต่อให้เ้าแข็งแกร่งแค่ไหน สุดท้ายเ้าก็ต้องสยบให้กับข้าอยู่ดี!
สิงโตเพลิงจินเหยียนส่งเสียงคำราม มันเป็ถึงาาของหมู่อสูรแล้วจะยอมสยบแต่โดยดีได้อย่างไร พลังในร่างกายของมันเริ่มปั่นป่วน เส้นเืในกายเริ่มบิดเบี้ยวและเคลื่อนไหวไปมา!
ต่อให้สิงโตเพลิงจินเหยียนต้องตาย ก็ไม่มีทางยอมให้ิเสวียนสมหวัง มันคิดจะ ... ะเิตัวเองทิ้ง!
“ฝันไปเถอะ!”
ิเสวียนโมโหมากแล้ว เขารีบพุ่งไปยังสิงโตเพลิงจินเหยียนอย่างรวดเร็ว หากสิงโตเพลิงจินเหยียนะเิตัวเองออก หัวใจของมันก็จะกลายเป็ผุยผงด้วย
ลำบากตรากตำมาตั้งนาน อีกนิดเดียวก็จะได้หัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียนแล้ว ิเสวียนจะยอมให้อสูรร้ายทำลายตัวเองได้อย่างไร!
เขายอมาเ็จากการที่สิงโตเพลิงจินเหยียนะเิตัวเอง แต่ก็ต้องควักหัวใจของมันออกมาก่อน!
พวกของประมุขตำหนักโยวิมองดูแล้วรู้สึกใอย่างมาก คิดอยากจะได้หัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียนมันยากมากเกินไป ไม่เพียงต้องเอาชนะมันได้ ยังต้องควักหัวใจมันออกมาก่อนที่มันจะะเิตัวเองออก แล้วยังต้องรองรับระลอกคลื่นที่จากแรงะเิอีกด้วย ...
พวกของประมุขตำหนักโยวิอดส่ายหน้าและถอนหายใจ
เดิมที เมื่อก่อนพวกเขาคิดแบบไร้เดียงสาเกินไป หัวใจของสิงโตเพลิงจินเหยียนมีแค่คนอย่างิเสวียนเท่านั้นที่มีสิทธิจะได้รับมัน การต่อสู้ของพวกเขาเมื่อครู่มันเหมือนการเล่นสนุกเท่านั้น