หลังจากคาบเช้าจบลงและเข้าสู่่พักเที่ยง เซี่ยโม่ก็ขี่จักรยานออกจากโรงเรียน
เธอไปสถานีตำรวจก่อนเป็ที่แรกเพื่อไปหาคุณป้าฝ่ายทะเบียนคนนั้น แต่น่าเสียดายที่คลาดกันเพราะอีกฝ่ายพักกลางวัน
เธอใช้มือตีศีรษะตัวเองไม่แรงนัก ลืมไปได้อย่างไรว่าตอนนี้คือ่เวลาพักเที่ยง เช่นนั้นไปซื้อเข็มเงินที่ร้านยาก่อนก็แล้วกัน
เธอขี่จักรยานไปร้านยาหุยชุนถัง น่าบังเอิญเหลือเกินที่ได้กลับมาเจอพนักงานที่เคยดูถูกเธอเมื่อคราวก่อน
เมื่อเซี่ยโม่เดินเข้าไปในร้าน พนักงานคนนั้นขมวดคิ้วในทันใด ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญ “เธอมาทำไมอีกเนี่ย”
ทำไมอีกฝ่ายถึงพูดแบบนี้กับเธอ
“ร้านของคุณทำงานยังไง ทำไมถึงมีท่าทีแบบนี้กับลูกค้าที่มาซื้อยา” เซี่ยโม่เอ่ยอย่างขุ่นเคือง ใบหน้าของเธอฉายชัดถึงความไม่พอใจ
พนักงานคนนั้นถึงค่อยรู้ตัวว่าพูดผิดไป รีบแก้คำใหม่ทันที “สาวน้อย อย่าะโสิ เธออยากจะซื้ออะไรล่ะ”
พอเห็นท่าทางของอีกฝ่ายดีขึ้นมาหน่อย เธอถึงค่อยคลายสีหน้าบึ้งตึงลง
แบบนี้ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย
“ฉัน้าซื้อเข็มเงิน”
พนักงานชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามอย่างสงสัย “เธอจะซื้อเข็มเงินไปทำอะไร ซื้อไปใช้เองอย่างนั้นเหรอ”
ในใจอดเคลือบแคลงไม่ได้ ครั้งแรกที่เด็กสาวคนนี้มาที่ร้าน เนื้อตัวทั้งผอมแห้งและดำคล้ำ คราวนั้นมาถึงก็มาขอความรู้เื่สมุนไพร แต่ถูกเขาหัวเราะเยาะจนโมโหกลับบ้านไป
ครั้งที่สองมาพร้อมกับเงินห้าสิบหยวนเพื่อขอซื้อสมุนไพร คราวนั้นหน้าตาเนื้อตัวดูดีกว่าเก่ามาก ดูจากท่าทางแล้วชะรอยว่าฐานะทางครอบครัวคงดีขึ้น
มาครั้งนี้เด็กสาวตรงหน้าเปลี่ยนแปลงไปมาก เสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นใหม่เอี่ยมและสะอาดสะอ้าน ทั้งยัง้ามาซื้อเข็มเงินอีก สงสัยว่าคงเรียนเื่สมุนไพรแตกฉานแล้วก็เลยมาหาซื้อเข็มเงินเพื่อเอาไปใช้ฝังเข็มกระมัง
ต้องขอบอกเลยว่าพนักงานคนนี้ตาแหลมมาก มองแค่ไม่กี่นาทีก็คาดเดาได้ถูกต้อง
เซี่ยโม่ไม่้าให้อีกฝ่ายรู้ เธอถลึงตามองพร้อมกล่าวประชดประชัน “แล้วคุณยุ่งอะไรด้วย”
พนักงานได้ยินเช่นนั้นก็ชักจะเืขึ้นหน้า
เวลาจากวันนั้นถึงวันนี้เพิ่งจะผ่านไปไม่เท่าไรเอง เหตุใดชีวิตความเป็อยู่ของเด็กสาวตรงหน้าถึงได้ดีขึ้นผิดหูผิดตาเช่นนี้ ขณะที่ตัวเองยังมีชีวิตย่ำอยู่กับที่
“ไม่มี!” เพราะความโกรธจากอารมณ์ส่วนตัวทำให้เขากระแทกคำตอบออกไปเช่นนั้น
เซี่ยโม่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะจงใจะโเสียงดัง “ร้านยาหุยชุนถังไม่คิดจะขายของแล้วใช่ไหม ทั้งๆ ที่มีเข็มเงินแต่กลับไม่ยอมขายให้ลูกค้า คิดว่าฉันโง่หรือยังไง หรือคิดว่าเด็กอย่างฉันหลอกง่ายกัน?”
พนักงานคนนี้ไม่คิดว่าเด็กสาวจะตาไวเห็นว่าที่ร้านมีเข็มเงินวางขาย
ด้วยความที่กลัวว่าจะส่งผลเสียต่อร้าน และกลัวเสียงของเด็กสาวจะดังจนเถ้าแก่ที่อยู่หลังร้านออกมา เขาจึงจำใจเอ่ยอย่างจนปัญญา “ก็ได้ เลิกะโได้แล้ว เดี๋ยวฉันขายให้ก็ได้”
“ราคาเท่าไรคะ”
“สามสิบหยวน”
เซี่ยโม่กลัวว่าจะโดนทางร้านโก่งราคา ก่อนมาเธอจึงถามอาจารย์จนรู้แน่ชัดแล้วว่า ราคากลางของเข็มเงินตามท้องตลาดอยู่ที่ประมาณเท่าไร
โดยทั่วไปเข็มเงินหนึ่งกล่องขายกันในราคาสิบหยวน เมื่อได้ยินพนักงานบอกราคาสามสิบหยวน ก็รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายเจตนาจะโกงเธอ
“ทุกคนดูสิ เข็มเงินหนึ่งกล่องราคาแค่สิบหยวน แต่ร้านนี้กลับโก่งราคาขายตั้งสามสิบหยวนแน่ะ ขนาดเข็มเงินยังโก่งราคา สมุนไพรอื่นในร้านจะเหลือเหรอ นี่มันร้านเถื่อนชัดๆ” เธอะโให้ทุกคนในร้านได้ยินโดยทั่วกัน
ลูกค้าในร้านส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ “ตายจริง เข็มเงินร้านอื่นขายแค่สิบหยวน แต่ที่นี่ขายสามสิบหยวนเลยเหรอ หน้าเืจริงๆ วันหลังไม่มาซื้อสมุนไพรร้านนี้แล้วดีกว่า ไม่มีคุณธรรมเอาซะเลย”
“ขายเกินกว่าราคาจริงตั้งสามเท่า แบบนี้มันเกินไปแล้ว!”
เมื่อกี้เป็แค่เรียกน้ำย่อย ต่อจากนี้ต่างหากถึงจะคือของจริง
เป้าหมายของเซี่ยโม่คือผลลัพธ์แบบนี้ เธอ้าเอาคืนแทนอาจารย์
อาจารย์ของเธอเปิดร้านยาฮุ่ยหมินอยู่ดีๆ กลับถูกร้านยาหุยชุนถังเล่นงานจนต้องปิดกิจการ ในเมื่อร้านให้ความสำคัญกับลูกค้า เช่นนั้นเธอก็จะใช้จุดอ่อนเื่นี้มาเล่นงานเพื่อแก้แค้นให้อาจารย์เสียเลย
ส่วนเื่ซื้อเข็มเงิน ไม่ได้ก็ช่างปะไร อย่างมากก็แค่เข้าไปซื้อที่ร้านยาในอำเภอ ไม่ใช่เื่เหลือบ่ากว่าแรงเลย
“ฉันขอร้องละ เหลือทางรอดให้พวกเราบ้าง” พนักงานรีบอ้อนวอนเซี่ยโม่อย่างหน้าตาตื่น
ทว่าเธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน “ทุกคนได้ยินใช่ไหม ถ้าฉันไม่รู้ราคามาก่อนจะต้องถูกร้านนี้โกงแน่ จะขายเข็มเงินในราคาสามสิบหยวน ร้านนี้้าโกงฉันชัดๆ พอถูกเปิดโปงกลับทำตัวเหมือนตัวเองไม่ได้รับความเป็ธรรม หากเป็คนที่ไม่รู้คงคิดว่าฉันตั้งใจมาหาเื่ บนโลกนี้มีเื่แบบนี้ได้ยังไง”
พนักงานคนนั้นรีบเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนรนคล้ายทำอะไรไม่ถูก “สาวน้อย ฉันจำผิดเอง เื่นี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับร้านเลย เธอไม่ะโแล้วได้ไหม”
“อะไรคือไม่ะโแล้วได้ไหม ฉันพูดกับลูกค้าในร้านต่างหาก อีกอย่างใครจะรู้ว่ายังมีสมุนไพรอีกกี่อย่างที่คุณจำราคาผิด ราคาท้องตลาดแค่สิบหยวน แต่คุณกลับบอกเพิ่มอีกสามเท่า แบบนี้ถ้าสมุนไพรราคาหนึ่งหยวนคุณไม่บอกเพิ่มเป็สามหยวนเลยเหรอ”
ทุกคนในร้านพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นน่ะสิ ต่อไปฉันจะไม่มาซื้อที่นี่แล้ว”
ขณะที่ทุกคนส่งเสียงพูดคุยกันอย่างเซ็งแซ่ ชายชราอายุประมาณห้าสิบกว่าปีในชุดจงซาน[1] แววตาแฝงไว้ด้วยความเ้าเล่ห์ก็เดินออกมา
“ฉันเป็เ้าของร้านนี้ เกิดเื่อะไรขึ้นงั้นหรือ” ชายผู้ออกตัวว่าเป็เ้าของร้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงพร้อมให้ความเป็ธรรมอย่างเต็มที่
พนักงานที่เคยมีเื่กับเซี่ยโม่รีบเอ่ยแทรกทันที “เถ้าแก่ ไม่มีอะไรครับ ก็แค่เด็กไม่รู้ประสีประสาคนหนึ่งมาหาเื่ที่ร้าน”
เดิมทีเซี่ยโม่กำลังคิดจะกลับเพราะเห็นว่าเอาคืนพอประมาณแล้ว แต่พอได้ยินพนักงานใส่ร้ายกันต่อหน้าต่อตา เธอเลยถือโอกาสนี้เอาคืนอีกฝ่าย
นึกไม่ถึงเลยว่าพนักงานคนนี้จะเป็พวกพูดจาสับปลับ หาว่าเธอเป็เด็กไม่รู้ความและมาหาเื่อาละวาดที่ร้าน
เช่นนั้นเธอก็จะเล่าเื่ทั้งหมด ดูสิเ้าของร้านจะว่าอย่างไร
“คุณคือเถ้าแก่ของร้านยาอย่างนั้นหรือคะ ฉันคือเด็กไม่รู้ประสีประสาที่พนักงานของคุณพูดถึงเองค่ะ ฉันอยากจะถามคุณเื่หนึ่ง ของในร้านคุณที่วางขาย พนักงานของคุณคนนี้บอกว่าราคาเท่าไรก็คือราคาเท่านั้นหรือคะ”
ทุกคนในร้านต่างเงียบเพื่อรอฟังว่าเถ้าแก่ผู้เป็เ้าของร้านจะตอบอย่างไร
ชายชรากลอกตาคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงค่อยเอ่ยออกมา “สาวน้อย เธอเข้าใจผิดแล้ว ของทุกอย่างในร้านเรามีราคากำหนดไว้อย่างชัดเจน”
เซี่ยโม่ทำทีแกล้งโง่แล้วถามชายเ้าของร้านต่อ “งั้นหรือคะ งั้นทำไมเมื่อกี้ตอนฉันถามพนักงานของคุณว่าเข็มเงินกล่องหนึ่งราคาเท่าไร เขาบอกว่าสามสิบหยวน แต่ต่อมากลับบอกว่าจำผิด ที่จริงขายราคาสิบหยวนต่างหาก ราคาของในร้านคุณเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้บ่อยเหรอคะ”
เถ้าแก่หันไปมองหน้าพนักงานของตัวเองด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม เขาอยากจะเข้าไปเล่นงานลูกจ้างเสียตอนนี้เลย
นี่มันอะไรกัน
แต่พอมาคิดดูอีกที หรือที่พนักงานของตนเองบอกราคาเกินจริง เพราะคิดจะเก็บส่วนต่างเอาไว้เอง?
ยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจว่าต้องเป็เหตุนี้แน่ เถ้าแก่หันไปพูดกับลูกค้าทุกคนอย่างมีมารยาท “ฉันไม่รู้จริงๆ ว่ามีเื่แบบนี้เกิดขึ้น พนักงานคนนี้ทำลายชื่อเสียงร้านยาของฉัน ฉันไม่มีทางให้เขาทำงานที่นี่ต่อไปอีกแน่นอน”
จากนั้นจึงหันไปพูดกับพนักงานด้วยน้ำเสียงดุดัน “เก็บข้าวของแล้วออกไปจากที่นี่ซะ”
เซี่ยโม่รู้ทันทีว่าเถ้าแก่คนนี้กำลังเชือดไก่ให้ลิงดู ทั้งหมดก็เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของร้านยากลับคืนมา
พนักงานคนนี้อาศัยบารมีและชื่อเสียงของร้านมาข่มเหงคนอื่น เถ้าแก่จึงแก้ไขปัญหาด้วยการไล่ออกในทันที ทั้งสองคนไม่ใช่คนน่ายกย่องทั้งคู่
แต่การที่พนักงานคนนี้ต้องถูกไล่ออกนั่นเป็เพราะทำตัวเองล้วนๆ
“สาวน้อยคนนี้ ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ เป็เพราะฉันดูคนไม่เป็เองถึงได้ทำให้เกิดเื่แบบนี้ขึ้น ดังนั้นฉันขอมอบเข็มเงินกล่องนี้เพื่อขอโทษเธอ” เถ้าแก่หันมาพูดกับเธออย่างเกรงอกเกรงใจ จบประโยคก็ยื่นเข็มเงินหนึ่งกล่องให้เธอ
สมกับเป็เ้าของร้าน ยอมเสียเปรียบเล็กน้อยเพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนที่ใหญ่กว่า ทั้งยังทำให้คนอื่นรู้สึกนับถือตัวเองอีกด้วย
ไล่พนักงานออก มอบของกำนัลแก่เธอแทนคำขอโทษ เพียงเท่านี้ก็สามารถรักษาชื่อเสียงของร้านยาเอาไว้ได้แล้ว
ในเมื่ออีกฝ่ายให้ เธอมีหรือจะไม่รับเอาไว้ เซี่ยโม่เก็บกล่องเข็มเงินใส่ในกระเป๋า ซึ่งความจริงแล้วคือใส่ไปในโกดังสินค้า
“เถ้าแก่ คำขอโทษของคุณฉันยินดีรับเอาไว้ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ”
เถ้าแก่ยิ้มพร้อมกับพูดทีเล่นทีจริง “สาวน้อย มาบ่อยๆ นะ ฉันจะลดราคาให้เป็พิเศษเลย”
“ได้ค่ะ ไว้ฉันจะมาบ่อยๆ นะคะ”
รับคำเสร็จเธอก็เดินออกจากร้าน ก่อนจะขึ้นคร่อมจักรยานแล้วปั่นออกไป
--------------------------------------
[1] ชุดจงซานหรือชุดประธานเหมา มีลักษณะเป็เสื้อกระดุมห้าเม็ด แขนยาว คอตั้งมีปกพับลง และมีกระเป๋าสี่ใบ
