"ข-ขอโทษ!"
"ท่านบรรพชน ข้าขอโทษจริงๆ!"
"ข้าผิดไปแล้ว! ข้าไม่ควรปลีกวิเวกมาฝึกตนที่นี่ และยิ่งไม่ควรทะลวงผ่านที่นี่เลย!"
"ข้ามันก็แค่เศษสวะ ท่านบรรพชนช่างยิ่งใหญ่ยิ่งนัก!"
"ไอ้ขยะเวร! เ้ากล้าดียังไงเกือบทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินและคุณหนูเยียนหรานได้รับาเ็!!"
กลางถิ่นทุรกันดารอันว่างเปล่า ศิษย์ตระกูลหลินผู้โชคร้ายถูกซ้อมจนใบหน้าบวมปูด ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัวขณะร้องโอดครวญไม่หยุด
เขาถูกหลินเป่าจับตัวไว้และตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด อีกทั้งยังตบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อร้องขอการให้อภัย
ให้ตายเถอะ! เขาดันมาฝึกตนในสถานที่แบบนี้ แถมยังเกือบทำให้สองอัจฉริยะได้รับาเ็อีก!
โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าพลังที่แผ่ออกมาตอนที่เขาทะลวงผ่านนั้น อยู่ห่างจากสองอัจฉริยะในระยะประชิด สีหน้าของศิษย์ตระกูลหลินผู้นี้ก็ซีดเผือดราวกับคนตาย หัวใจแทบหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัว!
ให้ตายสิ! ซวนเยียนหรานเป็บุตรีที่เป็ที่รักยิ่งของผู้นำตระกูลซวน ชื่อเสียงของนางในฐานะอัจฉริยะผู้หยิ่งทะนงได้เลื่องลือไปทั่วอาณาจักรฉีซานแล้ว!
ทุกคนรู้เื่ราวของนางดี ภายในเวลาเพียงสิบปี นางก็ทำให้เหล่าผู้าุโต้องตะลึงกับพร์อันโดดเด่นของนาง!
ยังไม่นับว่า บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลิน หลินเสวียน เกือบได้รับาเ็เพราะเขา!
ถ้าเขาทำให้หลินเสวียนได้รับาเ็แม้แต่น้อย ต่อให้ตระกูลหลินไม่ลงมือ เขาก็คงต้องชดใช้ด้วยชีวิต!
ต้องรู้ไว้ว่า เหตุผลที่เขาทะลวงผ่านระดับได้ ก็เป็เพราะได้รับโชควาสนาจากบุตรศักดิ์สิทธิ์เมื่อไม่กี่วันก่อน!
ศิษย์ตระกูลหลินตัวสั่นเทิ้มและแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
จิตััของหลินเสวียนที่ถูกห่อหุ้มอยู่ในผ้าห่อตัว มองศิษย์ตระกูลหลินผู้นี้อย่างไร้คำพูด
เ้านี่มันบ้าจริงๆ! คนอื่นยังไม่ได้ลงมือสังหารเขา แต่เขากลับเกือบตายเพราะคนในตระกูลตัวเอง?
ยังไม่ทันจะพูดได้ เขาก็เกือบจบชีวิตแล้ว? แบบนี้ต่อไปไม่ได้! ต้องรีบฝึกตนให้เร็วที่สุด…
หลินเสวียนที่รู้สึกถึงอันตรายจากความผิดพลาดนี้ เหลือบมองไปทางซวนเยียนหราน
จากนั้น เขาก็รวบรวมสมาธิทั้งหมดไปที่การฝึกตน และตัดสินใจเพิกเฉยต่อทุกสิ่งรอบตัว
ทางด้านซวนเยียนหราน นางไม่สนใจศิษย์ตระกูลหลินผู้นั้นแม้แต่น้อย เพียงกล่าวอย่างเฉยเมยว่าตนเข้าใจสถานการณ์ แล้วอุ้มหลินเสวียนเดินไปยังที่ที่เงียบสงบกว่าเดิม
เด็กสาวไม่ได้ใส่ใจว่าศิษย์ตระกูลหลินจะพบกับชะตากรรมเช่นไร นางเพียงถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะแตะใบหน้าที่สะอาดหมดจดของหลินเสวียนเบาๆ พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
ดีแล้วที่น้องเสวียนไม่เป็อะไร…
ความจริงแล้ว ั้แ่ครั้งแรกที่นางเห็นหลินเสวียนในร่างผู้ใหญ่ ซวนเยียนหรานก็รู้สึกดึงดูดเข้าหาเขา
ในตอนนี้ หลินเสวียนที่ถูกปกคลุมด้วยไอสีม่วงจางๆ ดูราวกับตุ๊กตาเคลือบดินเผา เขามีอารมณ์สงบนิ่ง อบอุ่น และน่ารักอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แต่หากว่าความรู้สึกแรกของซวนเยียนหรานคือ 'เขาช่างน่ารัก'
เมื่อเด็กสาวได้เห็นความพิเศษและอนาคตของเขา นางก็ถึงกับตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นแผ่นหลังของเขาที่หันให้ทุกสรรพสิ่งและปกป้องคนที่อยู่ด้านหลังเขา
ร่างนั้นก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด พลังของเขากลืนกินทุกสิ่ง มองลงมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานในฐานะผู้เป็สูงสุด!
ต่อหน้าเขา ไม่มีผู้ใดเป็คู่ต่อสู้ได้ ทุกสิ่งถูกกวาดล้างราบคาบอย่างไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะเป็วิกฤตแบบใด ก็ราวกับเพียงปลายนิ้วสามารถบดขยี้ให้แหลกสลายได้!
เพียงยกมือขึ้น ก็สามารถปราบปรามเผ่าพันธุ์ทั้งปวงและครองโลกได้!
เขาเป็ผู้ไร้เทียมทานทั้ง์และโลก เป็ที่หวาดเกรงไปตลอดกาล ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในสายน้ำแห่งกาลเวลาอันเจิดจรัส!
โดยเฉพาะเมื่อบุรุษผู้นั้นหันกลับมา แสงในดวงตาของเขาสาดประกายเจิดจ้า...
หญิงสาวคนใดในโลกนี้จะต้านทานเสน่ห์นั้นได้?
หญิงสาวคนใดบ้างที่ไม่ใฝ่ฝันถึงความรัก?
หญิงสาวคนใดบ้างที่ไม่เคยมีความฝันว่าจะได้แต่งงานกับวีรบุรุษ?
ผู้ที่ก้าวลงมาจากเมฆา ผู้ที่มาจากสรวง์…
หัวใจของซวนเยียนหรานได้ถูกดึงดูดเข้าหาหลินเสวียนในอนาคตโดยสมบูรณ์ั้แ่แรกเห็น!
มันไม่เกี่ยวกับชาติกำเนิด พลังบำเพ็ญ หรือพร์ใดๆ
เมื่อหัวใจตกหลุมรักแล้ว ก็ยากจะถอนตัวออกมาได้อีก
แทบจะในทันทีที่หลุดออกจากสภาวะลึกลับ เด็กสาวก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่!
ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเมื่อครู่ เด็กสาวจึงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
นางเลือกใช้ร่างกายของตนเองเป็โล่ ปกป้องหลินเสวียนเอาไว้!
ท้องฟ้าแจ่มใสสุดลูกหูลูกตา เมฆลอยละล่องอยู่ไกลออกไป
หัวใจของเด็กสาวเต็มไปด้วยความคิด นางโอบกอดหลินเสวียนที่ถูกห่อในผ้าห่อตัวไว้แน่น และในที่สุดก็รู้ตัวว่าไม่อาจกดข่มความคิดในใจอีกต่อไป
"เยียนหราน เ้ากำลังคิดอะไรอยู่?"
ซวนซู่เดินเข้ามาถามเบาๆ นางคิดว่าเด็กสาวยังคงตกอยู่ในความหวาดกลัวจากอันตรายเมื่อครู่
ทว่าเด็กสาวกลับขดตัวและกอดผ้าห่อตัวไว้แน่น นางพูดออกมาเบาๆ
"ท่านย่า ข้าอยากถอนหมั้น"
ซวนซู่ชะงักไป นางคิดว่าตนเองฟังผิด "อะไรนะ? ถอนหมั้นหรือ?"
"ใช่ พวกเราจะถอนหมั้นกับตระกูลเซียว!"
ซวนซู่ตกตะลึง นางแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน "เยียนหราน เ้าเพิ่งพูดว่าอยากถอนหมั้นกับตระกูลเซียวอย่างนั้นหรือ?!"
สายลมอ่อนๆ พัดผ่าน เด็กสาวค่อยๆ ลุกขึ้น
นางพยักหน้าแน่วแน่ "ใช่ ข้าจะถอนหมั้น! ข้าจะถอนหมั้นกับตระกูลเซียว!"
ชุดสีฟ้าอ่อนพลิ้วไหวตามแรงลม เส้นผมสีดำเงางามของนางปลิวสะบัดราวกับแสงอรุณรุ่ง
นางเงยหน้าขึ้นรับแสงสีทองจากดวงอาทิตย์ มุมปากของเด็กสาวผู้เลอโฉมยกขึ้นเล็กน้อย
นางเปี่ยมไปด้วยจิติญญาอันมุ่งมั่น!
"ข้าไม่เคยเห็นด้วยกับการแต่งงานนี้เลย! สุดท้ายแล้ว มันเป็เพียงการจัดการของเหล่าบรรพชน!"
"โชคชะตาของข้า ข้าจะเป็ผู้กำหนดเอง! เช่นเดียวกับร่างนั้น ที่หันหลังให้กับสรรพชีวิตทั้งปวง!"
ซวนซู่มองเด็กสาวตรงหน้า นางเผลอเหม่อลอยไปชั่วขณะ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงจัง
"เยียนหราน เ้าไตร่ตรองดีแล้วหรือ?"
"นี่เป็การแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้แล้ว"
"แน่นอน มันเป็เพียงข้อตกลงที่บรรพชนยัดเยียดให้พวกเ้า แต่คนนอกไม่รู้เื่นี้ หากเ้าขอถอนหมั้นตอนนี้ เ้าจะต้องเผชิญกับแรงกดดันมากมาย ผู้คนจะก่นด่าและดูถูกเ้า"
เด็กสาวเงยหน้าขึ้น โอบกอดหลินเสวียนไว้แน่น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแน่วแน่
"ข้าไม่สนใจ"
"ท่านย่า ตระกูลเซียวมีอำนาจในอาณาจักรฉีซานไม่ด้อยไปกว่าตระกูลซวน หากข้าถอนหมั้น มันจะสร้างแรงกดดันให้ตระกูลซวนหรือไม่?"
ได้ยินดังนั้น ซวนซู่ยิ้ม นางมองเด็กสาวที่โอบกอดหลินเสวียนไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะมีใครแย่งไป
นางจะไม่เข้าใจความคิดของเด็กสาวได้อย่างไร?
คลื่นพลังบางเบากระจายออกจากร่างของซวนซู่ นางพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
"แรงกดดัน? แรงกดดันอะไร? หากเ้ามั่นใจ เช่นนั้นข้าสามารถพาเ้าไปได้ทุกเมื่อ!"
ซวนเยียนหรานพยักหน้าอย่างหนักแน่น นางกอดหลินเสวียนไว้แน่นขึ้น
"ดี! ท่านย่า เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางเดี๋ยวนี้เลย!"
ซวนซู่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า "บรรพชนหลินเป่า?"
"ข้าไม่สนหรอก แต่เด็กคนนั้นจากตระกูลเซียว แน่นอนว่าเขาไม่คู่ควรกับเด็กสาวผู้นี้"
หลินเป่าหัวเราะ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย "ตกลง เช่นนั้นข้าจะไปด้วยแล้วกัน หลังจากทั้งหมด บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินของพวกเรายังอยู่ในอ้อมแขนของเด็กสาวผู้นี้"
"ขอบพระคุณ ท่านบรรพชนหลินเป่า!"
ซวนเยียนหรานโค้งคำนับด้วยความเคารพ
"พวกเราเป็ครอบครัวเดียวกัน"
หลินเป่าโบกมือเบาๆ พร้อมทั้งแจ้งข่าวแก่เหล่าผู้าุโของตระกูลหลิน
จากนั้น เขาสะบัดมือ ดึงเอาสมบัติระดับสูงกว่าสิบชิ้นออกมาจากความว่างเปล่า แล้วเก็บพวกมันลงในแขนเสื้ออย่างสบายๆ
หลินเป่าตบแขนเสื้อของตนเองเบาๆ ก่อนจะอ้าปากหัวเราะ "ไปเถอะ เด็กน้อย! ไปถอนหมั้นซะ! ข้ายังไม่เคยเห็นใครไปถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนมาก่อนเลย! เ้าเด็กตระกูลเซียวคนนั้นชื่ออะไรนะ?"
"เซียวสุ่ย!"
ทั้งสามพูดคุยกันครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกจากเมืองต้าเหยียนไปด้วยกัน
ในผ้าห่อตัว หลินเสวียนแม้จะบอกว่ากำลังบ่มเพาะพลังอยู่ แต่เขาก็ยังใช้พลังิญญาติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว
ขณะนี้ ภายในจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกพูดไม่ออก
ตระกูลเซียว? เซียวสุ่ย? ถอนหมั้น?
ทำไมเนื้อเื่นี้… ถึงดูคุ้นๆ อย่างประหลาด?
