ภายใต้เตียงไม้ที่เก่าและส่งกลิ่นอับของสุราร่างของเว่ยเจินหงนอนแน่นิ่งราวกับศพไร้ลมหายใจมิใช่เพราะความกล้าหาญ หรือจิติญญาของผู้รักบ้านเมืองหากแต่เป็เพราะ... เขาเมาหนักจนหลับคาไหสุราและดันกลิ้งเข้าไปใต้เตียงโดยบังเอิญเท่านั้นเองแต่ใครจะคิดว่า ชะตาฟ้าลิขิต ให้เขาได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยินเสียงคำรามของม่ออวิ๋นเฉินเต็มไปด้วยโทสะ ความหยิ่งผยอง และคำพูดที่ดูแคลนตระกูลเว่ยอย่างเปิดเผยดวงตาของเว่ยเจินหงลืมโพลงขึ้นในความมืดในแววตาคู่นั้นไม่มีความกล้าแม้แต่น้อย มีเพียงความตกตะลึง... และกลัวใช่ เขากลัว… กลัวจนไม่กล้ากระดิกนิ้วแม้แต่น้อย
ม่ออวิ๋นเฉินคือชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนดาวรุ่งแห่งยุทธภพอายุน้อยกว่าเขา แต่กลับได้รับการยอมรับไปทั่วแผ่นดินพร์ในวรยุทธ์สูงล้ำบารมีและอำนาจทางการเมืองก็มีมากล้นต่อให้เว่ยเจินหงจะแสร้งทำองอาจแค่ไหน...แต่ในตอนนี้ ร่างเขากลับนอนนิ่งราวกับก้อนหิน ใต้เตียงที่กลิ่นสุรายังอบอวล
เขาไม่ได้ตั้งใจจะ สืบข่าวใด ๆ ด้วยจิตใจกล้าหาญหากแต่เพียงเผลอเมาหลับใต้เตียงด้วยฤทธิ์สุราและเมื่อโชคชะตาเล่นตลก พาให้เขาตื่นมาใน่เวลา ที่ไม่ควรจะรู้…เขากลับเลือก นอนฟังต่อไปอย่างผู้ช่ำชองในศิลปะการอยู่รอด
“หึ! เ้าก็แค่เด็กหนุ่มหลงตัวเอง”เว่ยเจินหงพึมพำในใจขณะขบกรามแน่นดวงตาฉายแววริษยาแฝงไว้กับความอาฆาต“ดูสิว่าเ้าจะหลงตัวเองได้อีกนานแค่ไหน…”
เขาตัดสินใจแล้วเมื่อเื่คืนนี้จบลง เขาจะรีบไปกรอกหูท่านพ่อทันทีไม่เพียงแค่เล่า… แต่จะใส่สีตีไข่จนข้นคลั่กแต่จะเสริมแต่งทุกถ้อยคำของม่ออวิ๋นเฉินให้เป็ภัยต่อแผ่นหลังของตระกูลเว่ย
ในโลกนี้ ไม่มีอะไรอันตรายเท่ากับคนที่ไร้ความสามารถแต่มีความอิจฉาเต็มหัวใจ... และถ้อยคำเป็อาวุธและเว่ยเจินหงคือหนึ่งในนั้นโดยสมบูรณ์แบบ
“คุณชาย… หากท่านไม่พึงใจในตัวคุณหนูเว่ยจิ้งซินแล้ว เช่นนั้น... ท่านยังคิดจะเข้าพิธีแต่งงานกับนางจริงหรือ?”เสียงของข้ารับใช้คนสนิทดังขึ้นอย่างระมัดระวัง เขาเฝ้าดูเ้านายของตนมานานพอจะรู้ว่าอารมณ์ของม่ออวิ๋นเฉินในยามไม่สบอารมณ์นั้นร้ายกาจเพียงใด
ม่ออวิ๋นเฉินปรายตามองพลางเหยียดยิ้มบาง ใบหน้าหล่อเหลาแต่มุมปากกลับบิดเบี้ยวด้วยความหยิ่งผยอง“นางงามก็จริง… แต่ก็เป็แค่ความงามที่ไร้ชีวิตชีวา"เขาวางถ้วยสุราลงกับโต๊ะ เสียงกระทบเบา ๆ กลับยิ่งขับเน้นความรังเกียจในถ้อยคำ“ข้าไม่้าดอกไม้ในแจกัน ข้าชอบสตรีที่ร้อนแรง... ไม่ใช่คนที่เงียบงันเหมือนแม่ชี”
แววตาของเขาฉายแววเ้าเล่ห์ ก่อนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ยิ่งนางทำตัวสูงส่ง ข้าก็ยิ่งอยากเห็นนางทรุดลงต่ำสุดท้าย... นางก็ไม่ต่างจากสาวอุ่นเตียงคนหนึ่งเท่านั้น”
ใต้เตียงในเงามืด เว่ยเจินหงที่ซ่อนตัวอยู่สะดุ้งเฮือก ร่างของเขาเย็นวาบทั้งที่อารมณ์ภายในเดือดพล่าน"มันกล้า… มันกล้าพูดถึงน้องข้าเช่นนั้น..."
ดวงตาของเว่ยเจินหงเบิกโพลง มือของเขากำแน่นจนเส้นเืปูดนูนถึงเขาจะเป็คนเ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ ไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากบิดา แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขายึดมั่นเสมอน้องสาวของเขา เปรียบได้ดั่งชีวิตอีกครึ่งหนึ่ง
"ข้าไม่มีวันผูกชะตาเข้ากับตระกูลเว่ยเด็ดขาด" เสียงของม่ออวิ๋นเฉินแ่ต่ำแต่เฉียบคมดั่งมีดกรีดอากาศ เขาเหยียดยิ้ม พลางยกจอกสุราขึ้นจิบอย่างอ้อยอิ่ง
"แม่ทัพเว่ยซ่างเทียน... ฮึ เขามันก็แค่หมาแก่ที่ใกล้หมดแรง ไร้เขี้ยวเล็บ"เขาหัวเราะหยันเบา ๆ ก่อนปรายตามองข้ารับใช้คนสนิท"เ้าไม่เห็นหรือ... แววตาของมันตอนมองข้า มันเหมือนขอทานที่เฝ้าแต่หวังจะเกาะบารมีข้าเพื่อประคองเศษซากเกียรติที่ยังเหลือ" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและเ็า
"พรุ่งนี้... ในงานเลี้ยงรับท่ามกลางแขกบ้านแขกเมือง ข้าจะประกาศถอนหมั้นต่อหน้าทุกคน! ให้มันขายหน้ากลางงานให้สมกับความต่ำต้อยของมัน" แววตาแห่งความทะเยอทะยานของม่ออวิ๋นเฉินวาวโรจน์ขึ้นอย่างชัดเจน"ทั้งหมดเป็แผนของท่านพ่อแม่ทัพม่อเสียนอู่ท่านได้วางกลอุบายไว้เรียบร้อยแล้ว"
เสียงของเขาแ่ลงอีกครั้ง ราวกับงูที่เลื้อยกระซิบอยู่ข้างหู"และของขวัญที่เราจะมอบให้พวกมัน... คือความตายทั้งตระกูล" บ่าวคนสนิทรู้ทันทีว่าคำพูดนั้นไม่ใช่คำเปรียบเปรย"เราได้แรงหนุนจากคนในราชสำนักแล้ว" ม่ออวิ๋นเฉินกล่าวต่อด้วยความภาคภูมิ"ขอเพียงมีข้อกล่าวหาเื่ ขโมยสมบัติของราชสำนัก ต่อให้ไม่มีมูล พวกมันก็จะถูกลากไปสังหารทั้งตระกูลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย!"
ใต้เตียง เว่ยเจินหงนอนนิ่งจนแทบไม่กล้าหายใจ เสียงทุกคำของม่ออวิ๋นเฉินเหมือนคมมีดกรีดลงบนจิตใจของเขาทีละน้อย
นี่ไม่ใช่แค่เื่ของการหยามิ่ นี่คือการฆ่าล้างตระกูล! ความโกรธ ความหวาดกลัว และความเ็ปถาโถมเข้าหาเว่ยเจินหงอย่างมิอาจควบคุม เขาอยากจะพุ่งออกไปฉีกเนื้อคนผู้นั้นให้ขาดเป็ชิ้น ๆ แต่เขาทำไม่ได้
"เ้าเลว! เ้ามันเดรัจฉาน!" เขากำหมัดแน่นจนเืซึมจากฝ่ามือ ภายในใจสาบานไว้แน่วแน่ใต้แสงตะวันสุดท้ายของวัน สองนายบ่าวในห้องรับรองยังคงจมอยู่ในความยินดีจากแผนการที่ตนวางไว้ ม่ออวิ๋นเฉินเอนกายพิงพนักเก้าอี้ มือหนึ่งถือจอกสุรา อีกมือเคาะโต๊ะเบา ๆ เป็จังหวะ สายตาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
"อีกไม่นาน ตระกูลเว่ยจะกลายเป็เพียงเถ้าถ่านในหน้าประวัติศาสตร์ ส่วนข้า…จะยืนอยู่เหนือพวกมันทั้งหมด" น้ำเสียงของเขานั้นเ็าและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
ข้ารับใช้คนสนิทพยักหน้า เหิมเกริมไม่แพ้นายของตน "หากแผนของท่านพ่อท่านสำเร็จ แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องเอียงหูฟังคำของตระกูลม่อ! ตระกูลเว่ยก็แค่หมากตัวหนึ่ง ที่รอวันถูกเขี่ยทิ้ง"
ม่ออวิ๋นเฉินหัวเราะต่ำ ๆ พลางยกจอกขึ้นดื่มอีกครั้ง "ดื่มให้กับความพินาศของพวกมัน..."
ทั้งสองดื่มฉลองล่วงหน้าโดยไม่รู้เลยว่า ภายในเรือนแห่งนี้ ยังมีสายตาคู่หนึ่งเฝ้าฟังอยู่เงียบ ๆ ตลอดมา...
ใต้เตียงไม้เก่า ร่างของเว่ยเจินหงนอนแนบพื้น ใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกจากอก เขาได้ยินทุกถ้อยคำ ทุกประโยค ทุกแผนการชั่วร้ายที่พวกมันกล่าว แม้จะเป็คนใจร้อน ขี้โมโห แต่ยามนี้ เขานิ่งเสียจนน่าแปลกใจ แม้ในใจจะหวาดกลัว แต่ความรักและความห่วงใยน้องสาวได้เอาชนะทุกสิ่ง
เมื่อเสียงลมหายใจของสองคนบนเตียงเริ่มแ่เบา เว่ยเจินหงก็ค่อย ๆ เลื่อนตัวออกจากใต้เตียง ฝีเท้าเบาราวกับเงา เขาไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง แต่ทุกคำที่ได้ยิน ถูกสลักไว้ในหัวใจอย่างไม่มีวันลืม ประตูถูกแง้มออกอย่างระมัดระวัง ร่างของเขาเลือนหายไปในความมืดของราตรี ดั่งิญญาที่มุ่งหน้าสู่การแจ้งเตือนภัย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้