นอกจากความใแล้ว ความเป็ห่วงของเธอก็เผยออกมาให้เห็นอยู่บนใบหน้า
หัวใจของเซี่ยต้าจวินที่เพิ่งถูกทำร้ายมาอย่างบอบช้ำ ได้รับการเยียวยาจากสีหน้าที่แสดงออกถึงความห่วงใยของเซี่ยจื่ออวี้ ทำให้เขาััได้ถึงความรักของคนในครอบครัวอีกครั้ง
ในขณะที่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ยอมรับเขา แถมยังส่งคนมาข่มขู่ แต่หลานสาวแท้ๆ อย่างจื่ออวี้กลับเป็ห่วงเป็ใยเขา!
“อาไม่เป็ไร ก่อนหน้านี้าเ็เล็กน้อย ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วล่ะ จื่ออวี้ ทำไมหลานถึงมาเผิงเฉิงตามลำพังล่ะ”
เซี่ยต้าจวินทั้งอยากรู้และรู้สึกแปลกใจ
เซี่ยจื่ออวี้ทำหน้าเป็กังวล “อาการของอารองไม่เป็ไรจริงๆ ใช่ไหม ั้แ่อาออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อคราวนั้น พวกเราต่างก็คอยสืบข่าวของอามาโดยตลอด เจี้ยนหัวเขาโทษตัวเองมากเลยนะคะ พอได้ยินข่าวจากคนที่บ้านเกิดว่าเจออาที่เผิงเฉิง ฉันก็เลยรีบมาดูให้แน่ใจทันที!”
เซี่ยต้าจวินเป็คนไร้ตัวตน
เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านเกิด เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน ทว่าไม่เคยมีใครรู้สึกซึ้งใจกับสิ่งที่เขาทำประโยชน์ให้ นานๆ ทีแม่เฒ่าเซี่ยถึงจะเอ่ยปากชมเขาสักคำ คำว่า ‘เหนื่อยหน่อยนะคะอารอง’ ของเซี่ยจื่ออวี้ทำให้เซี่ยต้าจวินรู้สึกราวกับตัวลอยจนยอมทำตามคำสั่งเธอทุกอย่าง และเวลานี้คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของเซี่ยจื่ออวี้ก็สามารถปลอบประโลมหัวใจของเซี่ยต้าจวินได้เป็อย่างดี
ยังมีคนที่ห่วงใยเขาอยู่!
ตอนที่อยู่โรงพยาบาลในซางตู เซี่ยต้าจวินได้ยินคำพูดของหวังเจี้ยนหัวถึงได้รู้ว่า ความจริงแล้วเซี่ยจื่ออวี้เป็คนแย่งคู่ครองของเซี่ยเสี่ยวหลาน แน่นอนว่าเขายังรู้สึกโมโหอยู่บ้าง แต่ความโกรธเล็กน้อยเ่าั้ก็หายไปทันทีหลังรู้ว่าตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานมีคู่ครองที่มีพื้นเพครอบครัวดีกว่า
ตอนนี้เซี่ยจื่ออวี้เป็ห่วงเขา อีกทั้งเซี่ยต้าจวินเป็พวกจำแต่เื่ดี เขาไม่คิดถึงความโกรธในตอนนั้นเลยสักนิด มีคนบอกว่าเขาลำเอียงเข้าข้างหลานสาวมากกว่าลูกสาวของตน แต่จื่ออวี้เป็เด็กดีเช่นนี้จะให้เขาไม่ลำเอียงได้อย่างไรกัน
ผิดกับเซี่ยเสี่ยวหลาน เขานั่งรถเข็นไปหาเธอ ทว่าเด็กอกตัญญูคนนั้นกลับทำเหมือนมองไม่เห็น
ในขณะที่จื่ออวี้แค่ได้ยินข่าวของเขาก็รีบนั่งรถไฟมาหาทันที
“อาไม่เป็อะไร หมอที่ฮ่องกงบอกแล้วว่าอาจะหายดี แค่ต้องทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่ากลับมาเป็ปกติแน่นอน! จื่ออวี้ หลานนั่งรถไฟมาเหนื่อยหรือไม่ มาได้จังหวะยิ่งนัก อาเพิ่งกลับมาจากฮ่องกงพอดี”
เซี่ยจื่ออวี้หูผึ่งขึ้นมาทันที เธอจับคำสำคัญอย่างคำว่า ‘ฮ่องกง’ และ ‘กายภาพบำบัด’ ได้อย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้อารองคงาเ็หนัก มิเช่นนั้นคงไม่ไปรักษาตัวถึงที่ฮ่องกง แถมยังต้องทำกายภาพบำบัดด้วย หากคิดอีกมุมหนึ่ง เซี่ยต้าจวินสามารถไปรักษาตัวที่ฮ่องกงและจ้างนักภายภาพบำบัดได้ ก็แสดงว่าเขามีรายได้ที่สูงมากพอ หรือไม่เ้านายก็ให้ความสำคัญกับเขามากนั่นเอง
เซี่ยต้าจวินไม่เคยระแวงเซี่ยจื่ออวี้สักครั้ง ดังนั้นพอเซี่ยจื่ออวี้คุยกับเขาอยู่สักพักก็สามารถถามข้อมูลที่้ามาได้อย่างน่าพอใจ
ข่าวที่จางชุ่ยส่งมาหาเธอทางโทรเลขนั้นยังไม่อาจอธิบาย ‘ความโชคดี’ ของเซี่ยต้าจวินได้หมด เครือเชิงหรงของฮ่องกงเป็บริษัทที่ใหญ่มาก อีกทั้งตระกูลตู้ก็เป็หนึ่งในตระกูลร่ำรวยติดอันดับในฮ่องกง เ้านายของเซี่ยต้าจวินคือคุณชายใหญ่ตู้ ชื่อเขาค่อนข้างคุ้นหูยิ่งนัก... ใช่คนที่ไปบริจาคเงินให้มหาวิทยาลัยในปักกิ่งหรือเปล่า?
คุณชายใหญ่ตู้บริจาคเงินหลายล้านให้มหาวิทยาลัยหลายแห่งในกรุงปักกิ่งอย่างตาไม่กะพริบ
เงินบริจาคนี้มาไม่ถึงวิทยาฝึกหัดครูปักกิ่ง ทว่าเซี่ยจื่ออวี้อยู่ระหว่างรับบทลงโทษ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของเธอยากลำบากขึ้นทุกวัน เธอไม่เคยรู้สึกว่าวิทยาลัยเป็บ้าน ดังนั้นการที่ตู้เ้าฮุยไม่บริจาคเงินให้สถาบันของตน เซี่ยจื่ออวี้จึงไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
เธอรู้แค่ว่าตู้เ้าฮุยรวยมาก! และเื้ัของตู้เ้าฮุยอย่างเครือเชิงหรงก็เป็บริษัทใหญ่ในปี 1985 นั่นเอง
ให้เปิดแผงขายของค่อยๆ เก็บหอมรอมริบไปเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ เซี่ยจื่ออวี้ไม่มีความอดทนมากมายขนาดนั้น! ถ้าสามารถใช้เซี่ยต้าจวินเป็สะพานจนได้ทำความรู้จักกับคุณชายใหญ่ตู้ เธอคงประหยัดเวลาหาเงินไปได้มาก
เซี่ยจื่ออวี้ลูบแผลเป็บนใบหน้าแล้วรู้สึกโกรธแค้นยิ่งนัก
ถ้าเธอมีหน้าตาอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานจำเป็ด้วยหรือที่เธอจะต้องวางแผนมากมายเช่นนี้ ต่อให้ตระกูลหวังหมดอำนาจ เธอก็คงสามารถหาที่พึ่งใหม่ที่ดีกว่าได้ แต่ตอนนี้เธอต้องวางแผนอนาคตของตนเองให้ดี จะเดินทางไหนก็ลำบากไปเสียหมด
โชคดีที่เธอมีไพ่ใบสุดท้าย
“อารอง ฉัน ฉันอยากเจอเถ้าแก่ตู้ค่ะ!”
เซี่ยจื่ออวี้ทำเสียงอ่อน เซี่ยต้าจวินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ “หลานอยากเจอคุณชายใหญ่ไปทำไมหรือ”
เซี่ยต้าจวินเพิ่งตระหนักได้ว่า เซี่ยจื่ออวี้มาเผิงเฉิงตามลำพัง พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ของเขาปล่อยลูกสาวให้เดินทางไกลถึงเพียงนี้คนเดียวได้อย่างไรกัน แล้วคู่ครองของเซี่ยจื่ออวี้เล่า?
“จริงสิ ทำไมเจี้ยนหัวไม่มากับหลานด้วยเล่า หลานกับเจี้ยนหัวยังมีความสุขดีหรือเปล่า”
เซี่ยจื่ออวี้ทำเสียงเศร้า “อารองคงยังไม่รู้ เดิมทีพ่อของเจี้ยนหัวเป็ข้าราชการระดับสูงค่ะ ทว่าก่อนหน้านี้ถูกส่งตัวไปปรับปรุงไร่นาที่ทางเหนือ เพิ่งกลับมารับตำแหน่งที่ปักกิ่งเมื่อฤดูร้อนของปีนี้ แน่นอนว่าเจี้ยนหัวนั้นดีกับฉันมาก แต่ครอบครัวเขารังเกียจครอบครัวเราที่มาจากชนบท... ครั้งนี้เจี้ยนหัวก็อยากตามมาด้วยเช่นกัน ทว่าพ่อแม่เขาไม่อนุญาตให้เขาเดินทางไกลใน่ตรุษจีน ฉันถึงได้มาคนเดียวแบบนี้”
เซี่ยจื่ออวี้เก็บเื่นี้เอาไว้เป็ไม้ตายสุดท้าย และเธอคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะได้ผลดีเยี่ยม เพราะมันทิ่มแทงใจเซี่ยต้าจวินเข้าอย่างจัง
พวกข้าราชการชอบดูถูกคนอื่นกันหมดทุกคนเลยหรือ?
ผู้หญิงที่โรงพยาบาลคนนั้นอาศัยที่ตนเป็ข้าราชการถึงได้ข่มขู่เขา ตอนนี้แม้แต่บ้านคู่ครองของเซี่ยจื่ออวี้ก็ยังรังเกียจที่ตระกูลเซี่ยเป็คนบ้านนอก เวลานี้เซี่ยต้าจวินรู้สึกเหมือนตนกำลังยืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับหลานสาว
“พวกเขาช่างรังแกกันเหลือเกิน จื่ออวี้ หลานเป็ถึงนักศึกษา จะไม่คู่ควรกับหวังเจี้ยนหัวได้อย่างไร ตอนลูกชายเขามาเป็จือชิงที่ชนบท หลานยังไม่รังเกียจเขาเลย นี่มันช่าง...”
เซี่ยต้าจวินโกรธจนหน้าแดงก่ำ ทว่าเซี่ยจื่ออวี้กลับยิ้มเจื่อน
“นักศึกษาไม่ได้ดีเด่อะไรหรอกค่ะ ในมหาวิทยาลัยยังมีนักศึกษาคนอื่นให้ตระกูลหวังได้เลือกอีกมากมาย อารองคะ อย่าพูดถึงเื่พวกนี้ให้รำคาญใจอีกเลย ฉันอยากพบเถ้าแก่ตู้ อยากขอบคุณที่เขาช่วยดูแลอา ถ้าเถ้าแก่ตู้ไม่รับอาเข้าทำงาน ฉันคงไม่ได้พบกับอารองอีกแน่ๆ ”
เซี่ยต้าจวินเห็นด้วยกับคำพูดนี้ยิ่งนัก
หากไม่ใช่เพราะคุณชายใหญ่ยอมให้เขาเข้าทำงานด้วย เขาก็คงยังเป็เพียงกรรมกรค้าแรงงานอยู่ที่ท่าเรือ
แม้อยู่ข้างกายตู้เ้าฮุยจะเสี่ยงอันตราย แต่การเป็กรรมกรก็เสี่ยงมากเช่นกัน ถึงอย่างไรตู้เ้าฮุยก็ให้เงินเดือนสูงถึงเพียงนี้ งานจะอันตรายหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็อะไร!
เซี่ยต้าจวินเองก็ซึ้งในบุญคุณของตู้เ้าฮุยเช่นกัน คุณชายใหญ่เป็คนพูดคำไหนคำนั้น สามารถทำให้เขามีที่ยืนในสังคมได้จริง
“อาต้องถามคุณชายใหญ่ก่อน”
ตู้เ้าฮุยจะยอมเจอเซี่ยจื่ออวี้หรือไม่ เซี่ยต้าจวินไม่มั่นใจสักนิด แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธเซี่ยจื้ออวี้ได้ในทันที เพราะมันอาจจะทำให้หลานสาวของเขาผิดหวัง และทำให้เขาดูเสียศักดิ์ศรี ได้เห็นเซี่ยจื่ออวี้เป็ห่วงเป็ใยเขาเช่นนี้ เซี่ยต้าจวินย่อมรู้สึกดื่มด่ำกับความอบอุ่นของครอบครัวเป็อย่างยิ่ง ใกล้จะตรุษจีน แต่เซี่ยจื่ออวี้กลับใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย ตอนนี้เซี่ยต้าจวินมีเงินถุงเงินถังแล้ว เขาจึงบอกว่าจะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เซี่ยจื่ออวี้หลายๆ ชุด
“เป็สาวเป็นาง ควรแต่งตัวให้สวยเข้าไว้ ว่าแต่แผลเป็ที่หน้าของหลานไปได้มาอย่างไรกันเล่า”
เซี่ยต้าจวินอยากถามั้แ่เมื่อครู่ แต่ก็ไม่มีโอกาส
เซี่ยจื่ออวี้ลูบแก้มตัวเองเบาๆ “เป็อุบัติเหตุน่ะ... อารอง กว่าอาจะหาเงินมาได้ก็ไม่ง่ายเลย อะไรที่ประหยัดก็ประหยัดเถิด อาไม่จำเป็ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ฉันหรอก”
แม้จะปฏิเสธเงินของเซี่ยต้าจวินเหมือนกัน แต่เหตุผลของเซี่ยจื่ออวี้กลับทำให้เซี่ยต้าจวินตื้นตันจนพูดไม่ออก
“อามีเงิน หาเงินมาได้จะไม่ให้หลานใช้ได้อย่างไร จะเอาไปให้คนอื่นเขาก็ไม่อยากได้!”
รอยยิ้มบนใบหน้าเซี่ยจื่ออวี้ชะงักค้าง “อารอง คนอื่นที่ว่าอาหมายถึงใครกัน”
สีหน้าของเซี่ยต้าจวินเปลี่ยนไปราวกับบอกบุญไม่รับ “ก็เสี่ยวหลานน่ะสิ เธอไม่ยอมรับเงินของอา ทั้งยังไม่ยอมรับว่าอาเป็พ่อด้วย วันนี้อาเพิ่งไปเจอเธอมาพอดี”
เซี่ยเสี่ยวหลานก็อยู่ที่นี่ แถมยังเจอเซี่ยต้าจวินก่อนเธออีกหรือ?
สภาพจิตใจของเซี่ยจื่ออวี้ในตอนนี้มีทั้งความรู้สึกรังเกียจและดีใจปะปนกัน รู้สึกรังเกียจที่เซี่ยเสี่ยวหลานตามหลอกหลอนเธอไปทุกที และรู้สึกดีใจที่เซี่ยเสี่ยวหลานกับเซี่ยต้าจวินไม่มีความผูกพันดั่งพ่อลูกอีกต่อไป เซี่ยเสี่ยวหลานคงคิดว่าตัวเองเก่งมากสินะ ทุกอย่างถึงได้ดั่งใจเธอไปเสียหมด ทั้งความรักและการเรียน ถึงได้ดูแคลนคนคุ้มกันของเถ้าแก่ฮ่องกงอย่างเซี่ยต้าจวินแบบนี้
เป็คนคุ้มกันออกจะน่าอายไปหน่อย แน่นอนว่าเซี่ยจื่ออวี้ก็ดูแคลนอาชีพนี้เช่นกัน
แต่เซี่ยต้าจวินที่ทำงานเป็คนคุ้มกันมีประโยชน์กับเธออย่างยิ่งน่ะสิ!